Categories
ข่าวกีฬา

“ดาวทองหวิดคาบ้าน”

ปาร์ค ฮัง ซอ ช่วย เวียดนาม เจ๊า ไทย 2-2

ศึกฟุตบอล AFF Mitsubishi Electric Cup 2022 รอบชิงชะเลิศ นัดแรก ณ สนามมีดิ่งห์ สเตเดี้ยม ทีมชาติเวียดนาม ในฐานะแชมป์เก่า 2 สมัย จะต้องโคจรมาพบกับคู่แค้นตัวฉกาจอย่าง ทีมชาติไทย ที่เป็นแชมป์มาแล้ว 6 สมัย โดยไฮไลท์สำคัญของวันนี้ คือ การคุมทีมในบ้านนัดสุดท้ายของ ปาร์คฮังซอ ในฐานะเฮดโค้ช ขณะที่ผังการเล่นถือว่าผิดคาด เพราะทัพช้างศึกเลือกเล่นระบบ 3-5-2 เหมือนเจ้าบ้าน   

      ทีมชาติเวียดนาม เริ่มต้นด้วยความคึกคักผ่านการเพรสซิ่งสูงถึงหน้าไลน์แนวรับทีมเยือน อีกทั้งเมื่อได้บอลก็จะจัดการเปิดจากด้านข้าง หรือแทงบอลให้ 2 กองหน้าในเขตโทษ แต่เมื่อเวลาผ่านไปราว 10 นาที ทีมชาติไทย เริ่มครองบอลได้เหนียวแน่น

อีกทั้งสามารถแกะการเพรสซิ่งและเปลี่ยนเป็นเกมรุกได้รวดเร็ว อย่างไรก็ดี ทัพดาวทองมาได้ประตูนำ 1-0 ในนาทีที่ 24 จากการเติมขึ้นมาเปิดที่ด้านขวาของ ก๊อก ไห่ ให้ เตี๋ยน ลิญ ได้พุ่งโหม่งแบบเต็มศีรษะ ซึ่งในจังหวะนี้ ศศลักษณ์ ยืนห่าง และ กฤษดา ถูกวิ่งแซงจากด้านหลังแล้วตามไม่ทัน 

       เวียดนาม ไม่ตั้งรับและต่อบอลเพื่อโจมตีจากด้านข้างแบบต่อเนื่อง กลับกัน ไทยมีอาการตื้อให้เห็นราว 10 นาที ก่อนที่ทัพช้างศึกจะค่อยๆฟื้น แต่โอกาสจบสกอร์ไม่เยอะ แม้จะพาบอลมาถึงแดนสุดท้ายได้อยู่เรื่อยๆ โดยจังหวะที่ใกล้เคียงที่สุด คือ การยิงฟรีคลิกหน้ากรอบของ ธีราทร แล้วบอลพุ่งชนเสาอย่างจัง

ครึ่งหลังเริ่มมาได้เพียง 3 นาที ทีมชาติไทย ได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการวางบอลข้ามไลน์กองหลังของ ธีราทร ให้ ปรเมศ ได้ลากเข้าไปแล้วล็อคหลบ ก่อนยิงเข้าเสาแรกแบบใจเย็น จากนั้นยังคงเป็นไทย ที่พยายามเจาะเข้าไป แต่มักถึงแค่แดน 3 เท่านั้น กระทั่งนาทีที่ 63 การเสียบอลกลางทางของเจ้าบ้าน ทำให้ ธีราทร

เลือกจะแทงเร็วให้ สารัช ที่วิ่งสวนไลน์ล้ำหน้าขึ้นมาพอดี ได้หลุดเข้าไปยิงให้ทัพช้างศึกขึ้นนำ 1-2 ทำให้ ทีมชาติเวียดนาม ที่ครึ่งหลังดูตื้ออยู่แล้ว ยิ่งตื้อกว่าเดิม อย่างไรก็ดีช่วงท้ายเกม ทัพดาวทองมาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากลูกยิงแบบจับยัดของ วาน ธัน ช่วยให้รอดพ้นจากความพ่ายแพ้

      บทสรุปจากเกม ทีมชาติไทย เล่นได้ดีเป็นช่วงๆในครึ่งแรก แต่พอเข้าสู่ครึ่งหลัง การจ่ายบอลของ ธีราทร ถือเป็นตัวแปรสำคัญให้ทีมได้ 2 ประตู กระนั้นการป้องกันลูกกลางอากาศจากทางด้านข้าง ยังมีปัญหาและโดนเล่นงานตลอด ซึ่งหากคู่แข่งโหม่งได้คมกว่านี้ อาจเสียประตูมากกว่า 2 ประตู รวมถึงความผิดพลาดส่วนบุคคล ที่หากเฉียบคมกว่านี้

ทัพช้างศึกสามารถชนะที่สกอร์ 4-2 ได้ ส่วนทางฝั่งทีมชาติเวียดนาม ไม่ได้มีช่วงเวลาที่เล่นได้ดีกว่าแบบชัดเจน แต่มีความเฉียบคมเลยได้ประตูนำก่อน จนเข้าสู่ครึ่งหลัง ความผิดพลาด ปาร์คฮังซอ ที่จัดการวางแนวรับมีผลให้เสียประตู แล้วรูปเกมตื้อตันไป กระนั้นยังดีที่คู่แข่งยิงทิ้งห่างไม่ได้ แล้วกองหน้าสำรองลงมายิงช่วยชีวิตไว้ได้พอดี

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ช้างศึกไปตามนัด”

ข่มมิดเหมือนเคย ก่อนไล่ถล่ม มาเลเซีย ขาด 3-0

ศึกฟุตบอล AFF Mitsubishi Electric cup 2022 รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ณ สนามธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ช้างศึก ที่บุกไปพ่ายมาในเกมแรก ทำให้เกมนี้ต้องชนะด้วยผลต่าง 2 ประตูเป็นอย่างน้อย จะต้องพบกับ ทีมชาติมาเลเซีย ที่ชนะมาในเกมแรกและมีทางเลือกต่อการเข้ารอบ ซึ่งอย่างแย่สุดสามารถแพ้ได้ 1 ประตู ก็ยังเข้ารอบ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-3-3 ส่วนทีมเยือนยึดแผน 4-2-3-1

      ทีมชาติมาเลเซียพยายามจะบีบเร็วตั้งแต่แดน 2 และเปิดพื้นที่ด้านข้างไว้ จนเวลาผ่านไป 10 นาที การบีบเร็วเริ่มไม่มีผลและมีช่องว่าง ทำให้ทีมชาติไทย สามารถพาบอลไปถึงแดนสุดท้ายได้เร็วและอาศัยการเจาะจากริมเส้น

กระทั่งนาทีที่ 18 ธีราทร เปิดบอลให้ ธีรศิลป์ โหม่ง ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับทีมเยือนเปิดพื้นที่ด้านข้างและ โดมินิก ตัน ไม่ตามประกบให้สุดทาง จากนั้น ทัพช้างศึก ไม่สามารถบุกได้อย่างดุดันเหมือนก่อนได้ประตูนำ แต่ในขณะเดียวกัน ทัพเสือเหลืองไม่สามารถต่อบอลให้นิ่งได้ ดังจะเห็นเมื่อต่อบอลได้ไม่กี่จังหวะก็จะเสีย หรือเมื่อครองบอลแล้วใกล้เสียก็จะสาดทิ้งไปเลย

ครึ่งหลัง ทีมชาติมาเลเซีย พยายามจะเพรสเร็วเพื่อให้ได้บอล แต่เมื่อได้บอลมาเหมือนไม่รู้จะเข้าทำยัง ทำให้โอกาสจบสกอร์แทบไม่มี อีกทั้งโอกาสที่ดูจะเสียวหน่อยก็มักมาจากการฉกฉวยโอกาสที่เจ้าบ้านผิดพลาด แล้วด้วยการครองบอลที่ไม่แน่นอนนี้ มันจึงเป็นผลให้ ทีมชาติไทย ไม่กดดันและได้ประตู 2-0 และ 3-0 กระทั่งท้ายเกมมีการผ่อนและเปลี่ยนตัวผู้เล่นเพื่อประคองให้จบเกม  

      บทสรุปจากเกม ช้างศึก ได้ประตูแรกในช่วงเวลาที่เหมาะสม ทำให้สถานการณ์ผ่อนคลายไปได้มาก แต่หลังจากได้ประตูกลับเล่นไม่ดุดันเสียอย่างนั้น จนในครึ่งหลังกลับมาบุกใหม่แล้วได้ประตูเพิ่ม อีกทั้งจังหวะที่เป็นใจยังมาช่วยให้สกอร์ขาด กระนั้นยังมีบางจังหวะที่จ่ายพลาดในแดนตัวเอง ซึ่งต้องปรับปรุงและไม่ควรจะเกิดขึ้น ขณะที่ทีมชาติมาเลเซีย พยายามจะบีบ พยายามเข้าหาบอลเร็ว

แต่ไม่สามารถทำให้ดีอย่างต่อเนื่องได้ สุดท้ายกลายเป็นเปิดพื้นที่จนถูกโจมตีเสียประตู ส่วนเกมรุกเก็บบอลได้ไม่นานและมักมีอาการไม่นิ่ง อีกทั้งการวางบอลจากกลางสนามที่เคยทำได้ก็หายไป ซ้ำร้ายโอกาสที่ดูหวาดเสียวดันมาจากการฉวยโอกาสที่เจ้าถิ่นผิดพลาด สุดท้ายเมื่อเสียประตูมากกว่าและยิงคืนไม่ได้ จึงต้องเป็นฝ่ายตกรอบไป

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ในเกมตามเจ๊า ไทย 2-2

ตัดเกรดผู้เล่นทีมชาติเวียดนาม

นัดชิงชนะเลิศ AFF Mitsubishi electric cup 2022 ยกแรก ขุนพลดาวทอง ที่ได้เล่นในบ้านก่อน กลายเป็นฝ่ายไล่ตามตีเสมอไทย 2-2 ซึ่งจากสกอร์นี้ถือว่าเสียเปรียบมหาศาล เพราะการบุกไปเยือนต้องชนะเท่านั้น

กระนั้นฟอร์มการเล่นของ ทีมชาติเวียดนาม ในเกมนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง นับจากนี้เราจะไปให้คะแนนกัน

ดัง วาน ลัม (6) : มีจังหวะเซฟช่วยทีม 2-3 จังหวะ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าลูกถูกตีเสมอ 1-1 นั้นพลาดเต็มๆ เพราะโดนยิงเสาแรกทั้งที่ยืนอยูใกล้ๆ  

 โด ดุย มานห์ (5) : เป็นแนวรับที่ประกบแนวรุกไทยไม่ค่อยอยู่ แล้วเพียง 58 นาที ก็ถูกเปลี่ยนตัวออก     

เกว ง็อก ไฮ (5) : เปิดบอลแอสซิสต์ให้เพื่อนแบบงามหยด แต่ทั้ง 2 ประตูที่เสีย  มีความผิดพลาดเต็มๆ คือ ลูกหนึ่งถูกหลอกหลังหัก อีกลูกหนึ่งขยับไลน์ขึ้นมาไม่ทัน ทำให้โดนหักคะแนนเยอะ    

บุย เทียน ดุง (6) : ไม่ได้มีความผิดพลาดแบบน่าเกลียด แต่ที่เปลี่ยนน่าจะเป็นเพราะพลังเริ่มหมด

ดวน วาน เฮา (6) : ไม่ค่อยซ่าเหมือนเกมก่อน และไม่ค่อยมีลูกเปิดสวยๆให้เพื่อน  

 โด ฮุง ดุง (5) : ความโดดเด่นถูกกลืนหายเพราะศักยภาพสสู้กองกลางของไทยไม่ได้    

โฮ ทัน ไท (6) : ไม่ได้มีความผิดพลาด แต่ในช่วงท้ายเริ่มหายไปจากเกม ทำให้ถูกเปลี่ยนตัวออก

 เหงียน ฮวง ดึ๊ก (6) : พยายามจ่ายแทงให้เพื่อนอย่างสุดกำลัง แต่มักถูกดักจากแนวรับของไทย  

พาม ตวน ไฮ (5) : เป็นสากดีๆที่ไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไรนัก ทำให้ถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่นาทีที่ 58

เหงียน ควง ไฮ (5) : ถ้าบอกว่าไม่ได้ลงก็คงจะเชื่อ เพราะบทบาทน้อย แถมจังหวะจ่ายมักติดกับดักตลอด  

เหงียน วาน เควี๊ยต (5) : สนามในนาทีที่ 78 แทน ควง ไฮ แต่ก็มีสภาพไม่ต่างกัน  

 เหงียน เทียน ลินห์ (7) : เป็นกองหน้าที่คมกริบ เพราะโอกาสครั้งแรกของเกมก็ทำประตูได้ทันที แถมมีความอันตรายเมื่อบอลถูกสาดมาที่ศีรษะ แต่ก็น่าเสียดายเพราะมีจังหวะที่เกือบโหม่งเบิ้ลลูก 2  

บุย ฮอง เวียตอันห์ (6) : ลงมาแล้วช่วยยืนคุมแนวรับได้ดี แต่ก็มีจังหวะที่ตามไม่ทันและต้องวิ่งหน้าตั้งให้เห็น

พาน วาน ดึ๊ก (5) : ลงมาแล้ว ก็ไม่ได้ช่วยทีมให้ดีขึ้น 

วู วาน ธันห์ แทน (7) : ลงสนามนาทีที่ 85 สัมผัสโดนบอลไม่กี่ครั้ง แต่การยิงไกลเป็นประตูตีเสมอ 2-2 ถือเป็นประตูสำคัญที่ทำให้ทีมไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ไปมากกว่านี้

เหงียน ตันห์ บิน (ไม่มีคะแนน) : ส่งสนามนาทีที่ 85 แต่ไม่ค่อยโดนบอลนัก

และนี้ก็คือรายชื่อพร้อมคะแนนที่ ขุนพลดาวทอง ได้กลับไป จากการแข่งขันแมตนี้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“เหมือนจะพัฒนา แต่ก็ย่ำอยู่ที่เดิม”

ผลงานทีมชาติลาว ใน AFF cup

ทีมชาติลาว จัดเป็นสมันน้อยแห่งอาเซียนอีกชาติหนึ่ง เพราะเมื่อไรที่มีการแข่งขัน พวกเขาก็แทบจะนอนมาสำหรับการตกรอบ แต่เมื่อเวลาผ่านไปวงการฟุตบอลลาวเติบโตขึ้น ดังจะเห็นได้จากการมีสโมสรชั้นนำ

มีสโมสรที่เน้นปั้นเยาวชน และมีนักเตะลาวออกไปค้าแข้งต่างแดน โดยมีจุดหมายอยู่ที่ไทย นั่นจึงทำให้ขุนพลล้านช้าง เริ่มจะมีความหวังว่าผลงานจะดีขึ้น ไปจนถึงการผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศสักครั้ง

      ผลงานของทีมชาติลาว ในยุคที่ยังมีการเพลย์ออฟเพื่อเข้ามาแข่งขันในรอบสุดท้าย พวกเขาถือเป็นขาจรที่นานๆจะมาสักหน ส่วนการคว้าชัยชนะในรอบแบ่งกลุ่ม เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายในปี 2004 ซึ่งในหนนั้นชนะ กัมพูชา 2-1 และหลังจากนั้นก็ทำได้เพียงผลเสมอ 2 นัด ในปี 2010 ซึ่งเกือบจะชนะไทย แต่ดันโดนตีเสมอ 2-2 และล่าสุดคือในหนนี้ ที่บุกเสมอพม่า 2-2

      จากผลงานในครั้งก่อนที่ยังคงแพ้รวด ทำให้สมาพันธ์บานเตะแห่งชาติลาวได้เปลี่ยนจากโค้ชชาวสิงคโปร์ มาใช้ของนอกอย่าง ไมเคิล ไวสส์ ที่ผ่านการทำงานกับทีมชาติมองโกเลียและฟิลิปปินส์ มาก่อน ส่วนการเลือกนักเตะ ล้วนมาจากที่เล่นอยู่ในประเทศเทศเกือบทั้งหมด

จะมีเพียง 3 ราย คือ มิสะดา สายใต้ฟ้า, สุขอาพอน วงเชียงคำ และ พิทัก กองธรรมาธิราช ที่อยู่ในลีกล่างของไทย นอกจากนี้ยังมี บิลลี่ เกตุแก้วพิมพอน กองหน้าลูกครึ่งที่เป็นตัวความหวังของทีม ซึ่งจากขุมกำลังที่กล่าวมานี้ มันก็น่าจะเพียงพอหากหวังจะเก็บ 3 แต้ม จากพม่า ที่เป็นทีมในระดับใกล้เคียงกัน

การแข่งขันนัดเปิดสนาม ทีมชาติลาวต้องเจอกับของแข็งที่สุดอย่างเวียดนาม แล้วในช่วงต้นเหมือนจะพอสู้ได้ แต่พอมาโดนยิงแบบง่ายๆ อาการถอดใจเริ่มปรากฏ จนสุดท้ายพ่ายไป 0-6 จากนั้นในเกมที่ 2 บุกไปเยือนมาเลเซีย แล้วก็เหมือนเดิม คือ โดนถล่ม 5-0 ถัดมาเกมที่ 3 เจอสิงคโปร์ แล้วถูกนำไปก่อน

ทำให้ตลอดครึ่งหลัง ทัพล้านช้างพยายามจะเอาประตูคืน แต่ก็เอาคืนไม่ได้ มิหนำซ้ำผู้รักษาประตูยังผิดพลาดง่ายๆในจังหวะสุดท้ายของเกม ทำให้แพ้ไป 0-2 ขณะที่เกมสุดท้ายบุกเยือน พม่า แล้วทำได้ดีกับการนำ 2 ครั้ง 2 คราว แต่มาโดนลูกยิงฟรีคลิกแบบสุดโหด ทำให้ได้แค่ผลเสมอ 2-2

      การมีนักเตะที่ออกไปเล่นต่างแดน ผสมกับตัวลูกครึ่ง ดูแล้วยังไม่สามารถที่จะยกระดับของทีมได้ รวมถึงโค้ชที่ไม่ได้มีวิสันทัศน์ที่กว้างไกล นั่นจึงทำให้ผลงานที่ออกมายังไม่ต่างไปจากเดิม

เพราะอย่างน้อยการเจอทีมใหญ่ ก็ควรแพ้ด้วยสกอร์ที่ไม่ขาด มิใช่ถูกถล่มเละแบบนี้ อีกการเจอทีมระดับใกล้เคียงกัน ก็จำเป็นต้องคว้าชัยชนะให้ได้ สุดท้ายจึงกล่าวได้ว่า ทีมชาติลาว มีภาพภายนอกดูดี แต่ผลลัพธ์ที่ออกมายังเหมือนเดิม

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ดาวทองลิ่วชิงสมัย 3”

ทีเด็ดลูกโยน ก่อนตบ อินโดนีเซีย นิ่มๆ 2-0

ศึกฟุตบอล AFF mitsubishi electric cup 2022 รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 คู่แรก ณ สนามมีดินห์ สเตเดี้ยม เวียดนาม ที่ตั้งแต่เริ่มทัวร์นาเมนต์นี้ ยังไม่แพ้และเสียประตูให้ใคร จะต้องพบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ที่นัดแรกเล่นดีกว่าแต่ยิงประตูไม่ได้ ทำให้เกมนี้ต้องชนะ หรือเสมอแบบมีประตู ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 3-5-2 ขณะที่ทีมเยือนเล่นระบบ 4-2-3-1  

      ทั้ง 2 ทีม ยังตั้งเกมไม่ติด แต่ ทีมชาติเวียดนามมาได้ประตูนำ 1-0 จากการวางบอลกลางสนามไปยันกรอบเขตโทษของทีมเยือน จากนั้น เตี๋ยน ลิญ เอาบอลลงได้นิ่มนวลและยิงสวนเข้าไป ซึ่งในทางกลับกันแนวรับทีมเยือนมีความผิดพลาดที่ปล่อยให้เล่นง่ายและไม่เข้าเบียดทำลายจังหวะ โดยการประตูนำเร็วแบบนี้มันก็เป็นผลให้ทัพดาวทองได้เปรียบและมีรูปเกมที่ดูดีกว่า เพราะแม้จะเสียบอล พวกเขาก็บีบและแย่งมาได้เร็ว กระทั่งทีมชาติอินโดนีเซีย ไม่ครองเกมและบุกใส่ได้

      ทีมชาติอินโดนีเซีย เสียประตูเร็ว แต่ก็ไม่สามารถตั้งเกมได้ เพราะแค่จะออกบอลให้พ้นจากแดนตัวเองก็ยังทำไม่ได้ ซึ่งกว่าจะเริ่มครองบอลได้ก็ต้องรอเกือบครึ่งชั่วโมง กระนั้นการขึ้นเกมบุกต้องขึ้นทางฝั่งขวาจากอัสนาวี่ข้างเดียว แต่บอลไปไม่ถึงแดนสุดท้าย

ครึ่งหลังเหมือนหนังฉายซ้ำ เพราะลูกเตะมุมได้กลายเป็นประตูนำ 2-0 ของ เวียดนาม แบบสุดปัญญาจะป้องกัน ทำให้การพลิกสถานการณ์กลับมาของทีมชาติอินโดนีเซียยากขึ้นทันที เพราะต้องยิง 2 ลูก เพื่อตามตีเสมอ กระนั้นการแก้เกมก็ได้เห็นถึงการขึ้นบอลที่มาบ่อยขึ้น แต่ปัญหาใหญ่ที่แก้ไม่ตก คือ ในแดนสุดท้ายไม่มีจังหวะจบสกอร์ กระทั่งเป็นแบบนี้จนจบเกม

      บทสรุปจากเกม ทีมชาติเวียดนาม ไม่ได้เน้นการเคาะบอลขึ้นไป แต่ใช้การวางบอลยาวเข้าไลน์กองหลัง ซึ่งต้องชมว่าวางได้แม่นยำและกองหน้าใช้โอกาสไม่เปลื้อง อีกทั้งการได้ประตูนำเร็วทำให้สถานการณ์ไม่กดดัน กระทั่งถอยไปรับมากขึ้นและรอสวนกลับ แล้วเกือบได้ประตูทิ้งห่างอีกด้วย ฉะนั้นเกมนี้ถือเป็นฟอร์มที่ดีของทัพดาวทอง

ขณะที่ทีมชาติอินโดนีเซีย เกมรับเสียสมาธิในช่วงต้นครึ่งแรกและครึ่งหลัง อีกทั้งปัญหาใหญ่ที่เห็น คือ การขึ้นเกมที่ไปไม่ถึงแดนสุดท้าย ซึ่งในครึ่งหลังมีการแก้มา แต่ก็ติดปัญหาว่าไม่สามารถสร้างโอกาสจบสกอร์ได้ สุดท้ายเมื่อยิงไม่ได้ก็ต้องตกรอบไป

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“บุกตลอด แค่ยิงไม่เข้า”

บุกข่ม แต่พ่ายมาเลเซีย ที่คมกว่า 1-0

ศึกฟุตบอล AFF mitsubishi electric cup 2022 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก คู่ที่สอง ณ สนามบูกิตจาริล ทีมชาติมาเลเซีย ที่เข้ารอบมาด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม B จะต้องพบกับ ทีมไทย ที่เข้ารอบมาด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม A สำหรับสถิติที่น่าสนใจก่อนเกม คือ ทัพช้างศึกไม่เคยบุกมาชนะทัพเสือเหลืองมาเป็นเวลากว่า 44 ปีแล้ว ส่วนผังการเล่นในวันนี้ ทั้ง 2 ทีมต่างมาในระบบเดียวกัน คือ 4-2-3-1

ในช่วงต้นเกม ทีมชาติไทยบุกใส่ด้วยการเปิดบอลจากด้านข้าง ขาดเพียงการจบสกอร์ในกรอบเขตโทษเท่านั้น กลับกัน ทีมชาติมาเลเซียที่แทบจะไม่บุก พวกเขามาได้ประตูนำ 1-0 จากการเปิดบอลตรงกลางสนามไปยังตัวที่ยืนอยู่ทางซ้ายของกรอบเขตโทษ

แล้วจัดการโหม่งต่อให้ ฮาคิม ที่วิ่งมาเดี่ยวๆได้ซัดแบบไม่เต็ม แต่ได้น้ำหนักและทิศทาง ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับทีมเยือนยืนป้องกันกันผิดพลาด รวมถึงผู้รักษาประตูที่ออกมาพลาดเช่นกัน

นับตั้งแต่เสียประตูในนาทีที่ 11 ทีมชาติไทยเป็นฝ่ายครองเกมไว้ข้างเดียว โดยการบิ้วเกมจากกลางสนามขึ้นมาถึงแดน 3 ได้เร็ว จากนั้นมีการเปิดบอลทางด้านข้าง การแทงบอลจากตรงกลาง และการวางบอลข้ามเข้าไป แต่จังหวะทั้งหมดเหล่านี้ไม่สามารถสร้างความอันตรายได้ เพราะการจบสกอร์มักออกนอกกรอบไปไกล ทั้งๆที่แนวรับเจ้าถิ่นไม่ได้ปิดพื้นที่มิดชิดแต่อย่างใด

ครึ่งหลัง ทีมชาติไทยยังเล่นในลักษณะเดิม คือ การบิ้วเกมจากแดนตัวเองขึ้นไปยังแดน 3 ซึ่งใช้เวลาไม่นานเพราะนักเตะเจ้าถิ่นไม่ได้ไล่บีบ กระนั้นทัพช้างศึกก็ยังติดปัญหาเดิมๆ คือ การเข้าทำและจบสกอร์ที่ไม่เฉียบคม อีกทั้งยิ่งเล่นก็ยิ่งดูเหมือนว่าตัวรุกในกรอบเขตโทษจะน้อยเกินไป ซึ่งกว่าจะมีการแก้เกม เวลาก็เข้าสู่ช่วงท้ายเกมแล้ว

ส่วนทางฝั่งทีมชาติมาเลเซีย การเล่นเกมรับไม่แน่นหนา เกมโต้กลับเก็บบอลแทบไม่ได้ แต่มีข้อดีที่เมื่อมีโอกาสจบสกอร์มักใช้โอกาสไม่เปลื้อง อาทิ จังหวะที่โหม่งบอลเข้าประตูไป แต่ถูกกรรมการริบคืน ทั้งๆที่เมื่อดูภาพช้าแล้วพวกเขาสมควรได้ประตู

      บทสรุปจากเกม การทำหน้าที่ของผู้ตัดสินมีความผิดพลาดและส่งผลเสียต่อทั้ง 2 ฝ่าย คือ ไม่ให้จุดโทษกับไทย และไม่ให้ประตูที่ 2 กับมาเลเซีย ส่วนภาพรวมของ ทีมไทย มี 2 จุดใหญ่ที่ต้องวิจารณ์ คือ การจบสกอร์ในแดนสุดท้ายที่ไม่เฉียบคมและมีตัวยืนในกรอบเขตโทษน้อยเกินไป กับแนวรับที่หละหลวม

รวมถึงผู้รักษาประตูที่การตัดสินใจออกมาตัดบอลผิดพลาดเกือบทุกจังหวะ ขณะที่ทีมชาติมาเลเซีย เกมรับไม่แน่นหนาและพร้อมโดนโจมตีตลอดเวลา แต่ที่รอดพ้นการเสียประตูก็เพราะคู่แข่งไม่คม ไม่ต่างจากเกมโต้กลับที่เก็บบอลได้น้อย แต่สิ่งที่ต่างออกไปและมีผลให้กลายเป็นผู้ชนะ คือ ฮารีเมามลายาเฉียบคมกว่า

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“อิเหนาเผด็จศึกไม่ลง”

มีโอกาสแต่ทำไม่ได้ สุดท้ายเจ๊า เวียดนาม 0-0 รอบรองนัดแรก

ศึกฟุตบอล AFF mitsubishi electric cup 2022 รอบรองชนะเลิศคู่แรก นัดที่ 1 ณ สนามเกลอรา บังการ์โน ทีมชาติอินโดนีเซีย ที่ผ่านเข้ารอบมาในฐานะรองแชมป์กลุ่ม A จะต้องเปิดบ้านพบ ทีมชาติเวียดนาม ที่เข้ารอบมาด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม B สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านวางระบบ 4-5-1 ขณะที่ทีมเยือนใช้ระบบ 3-5-2

  ช่วงต้นเกม ทีมชาติเวียดนามเคาะบอลในแดนตัวเอง เพื่อบิ้วเกมขึ้นไปในแดน 1-2 แต่เมื่อเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ผู้เล่นทีมชาติอินโดนีเซียจะเข้าถึงบอลเร็วและปิดพื้นที่กลางสนามไว้อย่างแน่นหนา นั่นจึงทำให้นักเตะเวียดนามต้องเร่งจ่ายบอล ออกบอลลำบาก ทำให้การพาบอลไปถึงแดนสุดท้ายเพื่อจบสกอร์แทบจะไม่มี แล้วเมื่อเกมผ่านไปราว 30 นาที ทัพดาวทองเริ่มมีภาพของการจ่ายบอลเสียมากขึ้น

พร้อมกันนั้นทางฝั่งเดอะการ์รูด้า ก็เริ่มจะโต้กลับและมีโอกาสที่หวาดเสียว ซึ่งในช่วง 10 นาทีสุดท้ายถือเป็นนาทีทองของเจ้าบ้าน เพราะการทำชิ่ง 1-2 หรือการวางบอลจากแดนกลาง มันทะลุถึงแดนสุดท้ายและมีโอกาสจบสกอร์เหน่งๆ แต่ลูกทีมของ ชิน แต ยัง ไม่สามารถฉวยโอกาสนี้ยิงประตูขึ้นนำได้

ครึ่งหลัง ปาร์ค ฮัง ซอ พยายามกำชับลูกทีมไม่ให้เสียบอลง่าย หรือหากเสียก็ต้องสกัดฟาวล์เพื่อไม่ให้เจ้าบ้านพาบอลเข้าไปในแดนอันตราย ซึ่งทำได้ดี แต่ในส่วนของเกมรุกยังไม่สามารถเจาะแนวรับเจ้าบ้านที่ยืนป้องกันอย่างหนาแน่นได้

ขณะที่ทีมชาติอินโดนีเซีย เกมรับยังเล่นตามแผนเดิมและทำได้ดีต่อเนื่อง แต่ในแผงเกมรุกเมื่อถูกตัดฟาวล์หนักๆ รวมถึงการถูกปิดพื้นที่ไม่ให้เจาะง่ายๆ พวกเขาก็แทบจะไม่มีโอกาสเหน่งๆเหมือนช่วงท้ายครึ่งแรกอีกเลย

บทสรุปจากเกม ทีมชาติอินโดนีเซีย มีเกมรับเป็นจุดเด่นเมื่อต้องเจอกับทีมในระดับใกล้เคียงหรือสูงกว่า แล้วตรงจุดนี้สามารถช่วยให้พวกเขาไม่เสียประตูก็จริง แต่ในแผงเกมรุกกลับไม่เฉียบคมเอาเสียเลย โดยเฉพาะในช่วงนาทีทองท้ายครึ่งแรก ซึ่งหากมีสัก 1 ประตู

ก็เชื่อว่ารูปเกมจะเปลี่ยนไปอย่างมหาศาล ขณะที่ทีมชาติเวียดนาม ทีแรกจะมาต่อบอลและเจาะเข้าไป แต่พอเจอแนวรับที่รักษาพื้นที่ได้เหนียวแน่นและเข้าหาบอลเร็วทุกจังหวะ พวกเขาก็เริ่มเสียบอลง่าย กระทั่งไม่สามารถต่อบอลเข้าไปในแดน 3-4 ของเจ้าถิ่นได้เลย นอกจากนี้ยังมีช่วงที่แนวรับสมาธิหลุดไป กระนั้นยังโชคดีที่คู่แข่งไม่เฉียบคมเอง

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

รีวิว รอบรองชนะเลิศนัก

AFF mitsubishi electric cup 2022 มาเลเซีย พบ ไทย

ศึกฟุตบอล AFF mitsubishi electric cup 2022 รอบรองชนะเลิศนัดแรก คู่ที่ 2 ณ สนามบูกิตจาริล จะลงเตะกันในวันเสาร์ที่ 7 มกราคม เวลา 19.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) โดย ทีมชาติมาเลเซีย ที่เข้ารอบมาในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่ม B จะต้องพบกับคู่หูคนคุ้นเคยอย่าง ทีมชาติไทย

ที่เข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่ม A ซึ่งผลงานในรอบแรกจะเป็นอย่างไร ความพร้อมของคู่จะมีมากน้อยขนาดไหน และใครมีโอกาสเป็นผู้ชนะ นับจากนี้เราจะไปรีวิวกัน

ทีมชาติมาเลเซีย

      ก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่มขึ้น นักเตะ 11 ราย จากยะโฮร์ ดารูทักซิม ถอนตัวทั้งหมด นั่นจึงทำให้ คิม ปัง กอน ต้องไปเลือกนักเตะในลำดับรองลงมา ฉะนั้นทีมชุดนี้จึงเสมือนทีมชุด B กลายๆ แล้วเมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น ฮารีเมามลายาต้องบุกไปเยือน พม่า แล้วเฉือนชนะ 0-1 แบบมีเสียว จากนั้นกลับมาเล่นในบ้านกับ ลาว พร้อมกับถล่มไป 5-0 ส่วนเกมที่ 3 ที่บุกเยือนเวียดนาม

เชื่อว่าพวกเขาจะจดจำไปอีกนาน เพราะได้เปรียบตัวผู้เล่น แต่ไม่สามารถตีเสมอได้ มิหนำซ้ำยังเสียตัวผู้เล่นและจุดโทษ กระทั่งพ่ายไป 3-0 นั่นจึงทำให้เกมในบ้านนัดสุดท้ายกับสิงคโปร์ ต้องชนะสถานเดียว แล้วสุดท้ายพวกเขาถล่มไปราบคาบ 4-1  

ทีมชาติไทย

      มาโน่ สามารถใช้ตัวผู้เล่นที่อยู่ในไทยลีกเกือบครบ จะขาดเพียงบางรายที่สโมสรส่งไปฝึกซ้อมต่างประเทศ รวมถึงตัวที่เล่นอยู่ลีกต่างประเทศที่ไม่ได้เรียกมา อย่างไรเสียนั่นไม่ใช่ปัญหา

เพราะนัดแรกบุกตบบรูไน 0-5 นัดที่ 2 เปิดบ้านถล่มฟิลิปปินส์ 4-0 แต่ในนัดที่ 3 เกือบไม่รอดและต้องตามตีเสมออินโดนีเซีย 1-1 ขณะที่นัดสุดท้ายปิด   จ็อบด้วยชัยชนะเหนือกัมพูชา 3-1  

สถิติและรีวิวก่อนเกม

      ทีมชาติไทย ไม่สามารถเอาชนะ ทีมชาติมาเลเซีย ใน 6 เกมหลังสุด โดยชัยชนะครั้งล่าสุดเหนือขุนพลฮารีเมามลายา ต้องย้อนไปในศึก AFF ปี 2014 รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเอาชนะที่ราชมังคลากีฬาสถานด้วยสกอร์ 2-0 ส่วนการบุกไปเยือนที่บ้านของมาเลเซีย ทัพช้างศึกไม่สามารถเอาชนะได้เลยในระยะเวลา 44 ปีที่ผ่านมา ฉะนั้นนี้จึงเปรียบเป็นของแสลงของแชมป์เก่า 6 สมัยอย่างแท้จริง

      เกมที่จะเกิดขึ้นที่บูกิตจาริล ทีมชาติมาเลเซีย จะจัดเต็มแบบใส่ไข่พิเศษอย่างแน่นอน แม้ตัวผู้เล่นจะไม่ฟูลทีมอย่างที่กล่าวไปข้างต้น ส่วนทีมชาติไทยที่มีอาการล้าสะสม อาจจะต้องดูหน้างานอีกทีว่าสภาพร่างกายพร้อมขนาดไหน โดยหากมีอาการล้าแล้วเจ้าถิ่นเล่นแบบลืมตาย ก็เชื่อว่าขุนพลฮารีเมามลายาจะไม่แพ้ เหลือแค่จะเสมอ หรือคว้าชัยเท่านั้น

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ช้างศึกเข้าป้ายแชมป์กลุ่ม”

” ทีมชาติไทย ออกแรงเหนื่อย ก่อนบด กัมพูชา ของฮอนดะ 3-1

ศึกฟุตบอล AFF mitsubishi electric cup 2022 นัดที่ 4 สาย A ณ สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ทีมชาติไทยในฐานะจ่าฝูง เปิดบ้านพบ ทีมชาติกัมพูชาที่รั้งอันดับ 3 โดยก่อนเกมนี้ ทัพช้างศึก มีเงื่อนไข คือ ห้ามแพ้ มิเช่นนั้นจะตกรอบ ต่างจากทัพอังกอร์วอริเออร์ที่ต้องชนะถึงจะแซงเข้ารอบ ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-4-2 ขณะที่ทีมเยือนกางระบบ 3-4-3 มารับมือ

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทีมชาติไทยเคาะบอลเพื่อบุกใส่และพยายามเจาะบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ อย่างไรเสียบอลที่จ่ายเข้าพื้นที่ดังกล่าว แนวรับทีมชาติกัมพูชาสามารถดักได้เกือบทั้งหมด แต่เมื่อจะเปลี่ยนจากรับให้กลายเป็นรุก พวกเขามักจะเสียบอลเมื่อถึงกลางสนาม นั่นจึงทำให้พวกเขาต้องถอยกลับมาเล่นเกมรับอยู่ตลอด

เมื่อเกมผ่าน 30 นาที การบุกของทีมชาติไทย เริ่มจะตื้อตันและจ่ายเสียในแดน 3-4 ง่ายขึ้น อีกทั้งยังถูกทีมชาติกัมพูชา โต้กลับแบบสุดทางและน่าได้ประตูนำก่อน แต่เพราะไม่มีความเฉียบคมจึงไม่สามารถฉวยโอกาสทองได้ กระทั่งนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก แนวรับทีมเยือนสกัดพรวดเล็กน้อยจนเสียจุดโทษ ก่อนที่ ธีรศิลป์ จะยิงให้ทัพช้างศึกขึ้นนำ 1-0

ครึ่งหลัง ทีมชาติไทยแก้เกมด้วยการเปลี่ยนกองกลางเพื่อเพิ่มตัวรุกในแดน 3-4 แล้วเพียง 5 นาที ก็ได้ผลและมาได้ประตูทิ้งห่าง 2-0 จากการวางบอลไปหน้าไลน์แล้ว สุมัญญา เบียดได้เหลี่ยมก่อนยิงเร็วเข้าไป หลังจากนั้นยังคงเป็นฝ่ายไทยที่ครองเกมและบอลได้แน่นอนขึ้น

ทำให้ทีมชาติกัมพูชาโต้กลับไม่ได้เลย อย่างไรเสียการเร่งจังหวะในพื้นที่สุดท้ายของเจ้าถิ่น มันกลายเป็นการทิ้งขว้างโอกาส กลับกันพอเป็นทีมเยือนได้บุกขึ้นมา พวกเขามาได้ประตูตีตื้น 2-1 ในนาทีที่ 68 อย่างไรก็ดี ทัพช้างศึก ไม่เสียสมาธิและมาได้ประตู 3-1 ในช่วงท้ายเกมจากการฉกบอลหน้าบ้านของทัพอังกอร์วอริเออร์ แล้ว ธีรศิลป์ตะบัดไปเสียบที่มุมเสาไกลจาก

บทสรุปจากเกม ทีมชาติไทยจ่ายบอลเสียและเล่นผิดพลาดเยอะในครึ่งแรก ทำให้เกมรุกไม่มีโอกาสยิงและต้องวิ่งหน้าตั้งเพื่อถอยมาเล่นเกมรับ ซึ่งมันเสียพลังงานไปค่อนข้างเยอะ กระนั้นยังดีที่ได้ประตูนำก่อนจบครึ่งแรกและการแก้เกมด้วยการเปลี่ยนเอากองกลางรุกลงมา

เพื่อเพิ่มตัวรุกในแดน 3-4 ถือเป็นการแก้เกมที่ถูกต้อง กระนั้นในรายละเอียดของเกมก็ยังคงต้องปรับปรุง เพราะมันมีความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆให้เห็นอยู่ ส่วนทีมชาติกัมพูชา เกมรับค่อนข้างมีระเบียบวินัยและต้านทานไว้ได้ดี

แต่น่าเสียดายที่การเข้าพรวดนิดเดียวมันเปลี่ยนโฉมรูปเกม ขณะเดียวกันเกมรุกมีโอกาสจบสกอร์ แต่มันน่าเสียดายที่ไม่คมเอง มิเช่นนั้นอาจมีเหตุการณ์พลิกล็อคไปแล้ว

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ครองบอลข่ม แต่ไร้ความเสียว”

ทัพดาวทอง ครองบอลวันเวย์ แต่ได้แค่บุกเสมอ สิงคโปร์ 0-0

ศึกฟุตบอล AFF mitsubishi electric cup 2022 นัดที่ 3  ณ สนามจาลันเบซาร์ ซึ่งเป็นเกมการแข่งขันของกลุ่ม B ระหว่าง ทีมชาติสิงคโปร์ ที่มี 6 แต้ม กับ ทีมชาติเวียดนาม ที่ก็มี 6 แต้ม เช่นเดียวกัน ฉะนั้นหากใครคว้าชัยในเกมนี้ ก็แทบจะการันตีการเข้ารอบต่อไปทันที สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 5-4-1 ส่วนทีมเยือนวางระบบ 4-4-2  

เกมการแข่งขันในครึ่งแรก ทีมชาติเวียดนาม ดูจะเหนือกว่าในแง่การครองบอล โดยการครองบอลจะเป็นในลักษณะค่อยๆเคาะขึ้นไป แต่เมื่อถึงแดน 3 มักจะถ่ายบอลไปมาซ้าย-ขวา แล้วใช้การโยนเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่ไม่ค่อยมีความแม่นยำ

นอกจากนี้ยังมีการยิงไกล ซึ่งก็ไม่เข้าเป้าเท่าไรนัก ส่วนทางฝั่งทีมชาติสิงคโปร์ เปอร์เซ็นต์การครองบอลและผ่านบอลน้อย เพราะเมื่อจับบอลได้ก็จะถูกเพรสซิ่งสูงจนต้องสาดทิ้งและเสียบอลคืนไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่เกมรุกก็เน้นการโยนบอลไปให้กองหน้าเป็นหลัก แต่ไม่มีความแม่นยำจนโอกาสจบสกอร์แทบเป็นศูนย์

ครึ่งหลัง ทีมชาติเวียดนามเปลี่ยนตัวผู้เล่นถึง 4 คน แต่รูปเกมไม่ต่างจากเดิม คือ ครองบอลมาถึงแดน 3 แล้วมักใช้การโยนเข้ากรอบเขตโทษและยิงไกล นอกจากนี้มีช่วงที่เล่นได้ผิดพลาดง่ายๆ โดยเฉพาะการจ่ายบอลเสียของกองกลาง ทำให้จังหวะที่ใกล้เคียงที่สุดใน 45 นาทีหลัง คือ การยิงไกลที่ไปชนเสาแบบเต็มๆเพียงครั้งเดียว

ส่วนทางฝั่งทีมชาติสิงคโปร์ การแก้เกมที่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง คือ เกมรับพยายามประกบและเข้าบังทางคู่แข่งให้มิดชิด นั่นจึงทำให้การเปิดบอลของคู่แข่งทำได้ยากและมีความแม่นยำน้อย กระนั้นก็มีบางจังหวะที่ยืนป้องกันหละหลวมจนเกือบเสียประตูจากลูกยิงไกล ขณะที่เกมรุกมีโอกาสไม่กี่ครั้งและการให้บอลไม่มีความแม่นยำ

บทสรุปจากเกม ทีมชาติสิงคโปร์ยืนป้องกันได้ดี โดยเฉพาะในครึ่งหลังที่สร้างความลำบากให้คู่แข่งได้พอสมควร กระนั้นมันก็มีบางจังหวะที่ผิดพลาดจนเกือบเสียประตู ส่วนเกมรุกถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะแทบจะไม่มีอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันและดูเหมือนจะเน้นการสาดยาวอย่างเดียว แถมไม่มีความแม่นยำเลย

ส่วนทางด้านทีมชาติเวียดนาม พวกเขาครองบอลได้เยอะมาก แต่มันเป็นการครองบอลที่ไม่เกิดประโยชน์ เพราะเมื่อพาบอลมาถึงแดน 3 ของคู่แข่ง พวกเขาไม่จี้จุดอ่อนคู่แข่ง หรือสร้างจังหวะเข้าทำในสไตล์ที่ตัวเองถนัด แต่จากภาพที่เห็นจะเน้นการเปิดบอลยาวที่ไม่ค่อยแม่นยำ พร้อมกับการยิงไกลที่ไม่ค่อยเข้ากรอบ ซึ่งการทำเกมบุกได้เพียงแค่นี้ แน่นอนว่าจะลำบากต่อทัพดาวทองเมื่อต้องเจอทีมที่ระดับใกล้เคียงกัน  

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover