สรุปผลงานชลบุรี เอฟซี ที่ท้ายสุดผลงานก็กลับมาอยู่ในร่องในรอยอีกครั้ง

สรุปผลงานชลบุรี เอฟซี ไม่ใช่ทีมใหญ่ ไม่ใช่อู้ฟู้เงินทอง และไม่ใช่ทีมที่ขึ้นไปท้าทายความสำเร็จมาเป็นระยะเวลานานแล้ว แต่การเข้ามาทำทีมของโค้ชเตี้ย ได้สร้างความหวังว่าจะพาทีมไปสู่สำเร็จสักถ้วย แม้ทีมนี่จะมีแต่เด็กที่รอวันแจ้งเกิด อย่างไรก็ดีการไม่จับกับ อิชิอิ เฮดโค้ชของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จู่ๆก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ฉลามชลไม่ชนะใครยาวนานถึง 8 นัด กระทั่งท้ายที่สุดได้แสดงสปิริตลาออก แล้วผลงานก็กลับมาอยู่ในร่องในรอยอีกครั้ง

ชลบุรี เปิดตลาดซื้อขายได้อย่างน่าสนใจ เพราะได้ดึง เมโล่ ดาวยิงตัวเก่งของสุพรรณบุรี พ่วง 2 ดาวดังจากโคราช อย่าง มูริลโล่ และ อ็อดตาร่า ซึ่งทั้ง 3 คนเล่นในลีกไทยมานาน กระทั่งฝากฟอร์มการเล่นที่น่าติดตา จนต้องไปสอยมาร่วมทีม ขณะที่ตัวผู้เล่นไทย เน้นตัวเก๋าเพื่อเข้ามาประคองน้องๆ นั่นคือ สุมัญญา และ เฉลิมพงษ์ ทำให้การเสริมทัพของฉลามชลถือว่าสนใจ และไม่แปลกนักที่จะถูกคาดหวังถึงผลงานที่ดี

ชลบุรี เริ่มต้นฤดูกาลได้น่าประทับ โดยเฉพาะการเฉือน บีจี ปทุม ในบ้านตัวเอง จากนั้นพวกเขาเดินหน้าเก็บ 3 แต้ม กระทั่งขึ้นไปรั้งจ่าฝูงนานหลายสัปดาห์ จนช่วงโค้งสุดท้ายของเลกแรก ความกดดัน ความคาดหวัง เริ่มถาโถมเข้าใส่ ทำให้การเล่นแบบเกร็งๆส่งผลต่อการเก็บชัยชนะ ก่อนจะถูก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ปาดหน้าแซงเป็นจ่าฝูง ซึ่งปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ทีมระส่ำ อาจมีผลมาจากเรื่องนอกสนามของผู้รักษาประตูตัวเยาวชนอย่าง วรุฒ สุขกุลนา ที่เมาแล้วขับรถไปชนคนที่กำลังออกกำลังจนเสียชีวิต โดยในช่วงดังกล่าวถือเป็นกระแสสังคมและผู้ที่เกี่ยวของกับทีม ต่างออกมาแสดงความรับผิดชอบ   

ชลบุรี ในเลกที่ 2 ไม่เสริมตัวผู้เล่นระดับบิ๊ก แล้วเมื่อออกสตาร์ทก็พบปัญหาเดิมๆเหมือนปีก่อน คือตัวผู้เล่นทยอยกันเจ็บ แต่ที่ดูจะร้อนแรงกว่า คือการที่โค้ชเตี้ย ปฏิเสธการจับมือกับ อิชิอิ จนกลายเป็นกระแสวิจารณ์ว่าไม่มีสปิริต กระทั่งหลังจากนั้น 8 เกม เหมือนเป็นอาถรรพ์ เพราะฉลามชลไม่ชนะใครอีกเลย สุดท้ายโค้ชเตี้ยต้องแสดงสปิริตลาออกและไปดึงโค้ชดุลย์ มาขัดตามทัพ ซึ่งพาทีมกลับมาคว้าชัยชนะได้อีกครั้งและจบฤดูกาลในอันดับ 6  

การจบอันดับที่ 6 ของ ชลบุรี เอฟซี ถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายอย่างที่ควรจะเป็น เพราะตัวต่างชาติถือว่าจัดเต็ม แต่เมื่อเล่นไปเรื่อยๆ กลับไม่สามารถยืนระยะได้ อีกทั้งมีเรื่องนอกสนามให้ว้าวุ่นใจ ขณะที่ในเลก 2 การปฏิเสธที่จะจับมือของโค้ชเตี้ย ถือขาดความไตร่ตรอง กระทั่งผลงานออกนอกลู่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งหากเลกแรกไม่มีคะแนนตุนไว้ ฉลามชลอาจจะต้องลงไปหนีตายแล้วก็เป็นได้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

สรุปผลงานทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด สุดท้ายเป็นพระรองอีกตามเคย

การจะกล่าวว่า ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด คือทีมใหญ่ ทีมชั้นนำของไทยลีก อาจจะพูดได้ไม่เต็มปากนัก เพราะไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี พวกเขาก็เป็นเพียงพระรองและไม่เคยคว้าแชมป์ใดๆ เช่นเดียวกับฤดูกาลที่พึ่งจบลงไปเมื่อพวกเขาออกสตาร์ทได้อย่างสวยหรู แต่พอเข้าสู่ช่วงกลางฤดูกาลก็สะดุดรัวๆตามสูตร สุดท้ายเป็นพระรองอีกตามเคย มา สรุปผลงานทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กัน

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด จัดการดึง ออเรลิโอ วิดมาร์ เข้ามารับตำแหน่งเฮดโค้ช พร้อมกับดัน ธชตวัน ศรีปาน ขึ้นไปเป็นฝ่ายเทคนิค ส่วนในเรื่องของตัวผู้เล่นไทย ไม่มีการขยับในรายสำคัญและยังเป็นกลุ่มผู้เล่นชุดเดิม เช่นเดียวกับโควตาต่างชาติที่ยังมี เอฟเวอร์ตัน ยืนคุมกองหลัง วานเดอร์ หลุยส์ และ เฮแบร์ตี้ ยืนถางเป็นกองหน้าตัวซ้าย-ขวา กระนั้นก็ได้เสริมแกร่งด้วยการดึง วิลเลียน โมต้า มาจาก พีที ประจวบ เอฟซี และ มาห์มู๊ด ในโควต้าเอเชีย

ในช่วง 10 นัดแรก บียู โชว์ฟอร์มได้อย่างไฉไล ด้วยการคว้า 3 แต้ม แบบรัวๆ ทำให้อันดับเกาะกลุ่มหัวตารางและเคยขึ้นไปยึดตำแหน่งจ่าฝูง แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของเลกแรก อาการเดิมๆก็กำเริบอีกครั้งด้วยการสะดุดขาตัวเองไปกับการเก็บ 1 แต้ม และแพ้ทีมที่เล็กกว่า กระทั่งก่อนจบเลกแรก บอร์ดบริหารตัดสินใจปลด วิดมาร์ และดันโค้ชแบน ธชตวัน เข้ามารับตำแหน่งอีกครั้ง

การแข่งขันในเลกที่ 2 แบงค็อก มีแต้มตาม บุรีรัมย์ ไม่มาก แต่ด้วยความที่ตัวเองยังสะดุดไม่เลิก มันก็มีผลให้แต้มทิ้งห่างถึง 10 คะแนน และต้องยกธงขาวตั้งแต่เกมไทยลีก นัดที่ 20 อย่างไรก็ดีเกมแห่งฤดูกาลของพวกเขา คงหนีไม่พ้นเกมลีกนัดที่ 26 ที่เปิดบ้านพบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และถูกออกนำไปก่อน แต่สุดท้ายมายิงแซง 4-3 ในนาทีบาปช่วงทดเวลา ทำให้เป็นฝ่ายดับฝันแชมป์พ่ายของปราสาทสายฟ้า กระนั้นในเกมถัดมา บียู ออกไปแพ้ ลำพูน ทีมหนีตกชั้น 2-1 แบบหน้าตาเฉย

เกมบอลถ้วยทั้ง 2 รายการ บียู เน้นและต้องการไม่ต่างจากถ้วยไทยลีก แต่ในถ้วยรีโว่ลีกคัพ พวกเขาพ่ายต่อ บุรีรัมย์ 0-3 ขณะที่ช้างเอฟเอคัพ เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ และสนามกลางคือสนามเหย้าของพวกเขา กระนั้นความได้เปรียบก็มิอาจช่วยพวกเขาได้ เพราะสุดท้ายจบด้วยความพ่ายแพ้และเป็นพระรองไปอีกหน

ผลงานของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด มีหลายนัดที่ฟอร์มดีสมราคา แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงสำคัญมักไม่ได้ผลการแข่งขันที่ดี ซึ่งกว่าที่พวกเขาจะกลับสู่ลู่ทางได้ ทีมอื่นๆก็ทำแต้มทิ้งห่างไป สุดท้ายสิ่งที่ บียู ต้องปรับให้ได้ คือการหลอมรวมจิตใจและฟอร์มทีมให้มีความสม่ำเสมอสำหรับการคว้าชัยชนะ เพราะหากยังเป็นแบบนี้ต่อไป แข้งเทพก็จะเป็นพระรองแบบนี้อยู่เรื่อยไป

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

สรุปผลงานของเมืองทอง ยูไนเต็ด

สรุปผลงานของเมืองทอง ยูไนเต็ด ในยุคที่ไม่อู้ฟู้เหมือนเมื่อแต่ก่อน พวกเขาใช้ตัวเยาวชนของตัวเองเป็นแกนหลัก พร้อมกับประกบข้างด้วยนักเตะต่างชาติ ขณะที่เฮดโค้ชก็ใช้คนคุ้นเคยอย่าง มาริโอ้ ยูรอฟสกี้ แต่ระหว่างทางของฤดูกาลที่พึ่งจบลงไป การประกาศกร้าวว่าจะลาออกของเฮดโค้ชชาวมาซิโดเนีย มันได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ฉุดทีมจากความซบเซา กลายเป็นกิเลนผยองที่คว้าชัยชนะติดต่อกันนานที่สุด นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรเลยทีเดียว

ตลาดการซื้อขายของ เมืองทอง ตัวผู้เล่นไทยแทบจะยกชุดเดิมจากฤดูกาลก่อน ขณะที่ตัวต่างชาติมีออกไป 1 ราย คือ วิลเลี่ยน พ็อพพ์ ซึ่งต่อมาได้สร้างผลกระทบต่อทีม โดยเฉพาะเรื่องการเข้าทำที่ขาดการกระชากลากเลื้อย นั่นจึงทำให้การออกสตาร์ทฤดูกาล 2022/23 ดูเหมือนจะไม่ราบรื่น สะดุดค่อนบ่อย และพ่ายแพ้ต่อ ชลบุรี คาบ้านถึง 1-5  อีกทั้งฟอร์มของผู้เล่นไทยที่ถูกฝากความหวังไว้อย่าง วีระเทพ ก็ฟอร์มดรอปลงไปชัดเจน สุดท้ายเมื่อผลงานย่ำแย่จนเข้าใกล้โซนหนีตกชั้น มาริโอ้ ได้ร้องขอให้ มิโลวาน ราเยวัช เข้ามาช่วยติวเกมรับ แล้วผลงานของทีมดีขึ้น กระทั่งจบอันดับกลางตาราง

ในเลกที่ 2 เมืองทอง ดึง วิลเลี่ยน พ็อพพ์ กลับมาสู่ทีมเป็นคำรบที่ 2 เพราะการทำเกมรุกแทบขาดใจเมื่อไม่มีเจ้าตัว แต่ในรายของโค้ชเทคนิคอย่าง ราเยวัช ไม่ได้อยู่ช่วยทีมต่อ ซึ่งนั่นทำให้ทีมกลับมามีผลงานที่ดำดิ่ง และน่าเจ็บใจที่สุดคงหนีไม่พ้นเกมเสมอ บุรีรัมย์ เพราะอุตส่าห์นำไปก่อน 4-1 แล้วจบเกมเสมอ 4-4- กระทั่ง มาริโอ้ กล่าวว่าจะลาออกหากเกมนี้ยังพ่ายแพ้อีก แต่ในเกมนั้นเปิดบ้านชนะ พีที ประจวบ ถึง 5-0 ก่อนที่หลังจากนั้นจะกลายเป็นจุดเปลี่ยน เมื่อทีมดึงผู้เชี่ยวชาญเกมรับอย่าง โจซิส เข้ามช่วย และคว้าชัยชนะถึง 8 เกมรวด จนกลายเป็นสถิติใหม่ของสโมสรนับตั้งแต่ก่อตั้งมาเลยทีเดียว นอกจากนี้อันดับในตารางคะแนน ก็กระโดดขึ้นมาลุ้นจบอันดับ 3 แต่การพ่าย เชียงราย และ บียู ในช่วงโค้งสุดท้าย มีผลให้กิเลนผยอง จบอันดับ 4 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

จากผลงานที่ลุ่มดอนๆ ดูเหมือนว่า เมืองทอง ยูไนเต็ด จะเจอกับฤดูกาลที่ยากลำบาก แต่การเก็บ 3 คะแนน 8 เกมรวด มันกลายเป็นจุดเปลี่ยนให้พวกเขามีลุ้นโควตา ACL แม้ในท้ายที่สุดจะพลาดไป อย่างไรเสียก็เชื่อว่าแฟนบอลกิเลนผยองต้องมีอาการเสียดายไม่มากก็น้อย เพราะมีหลายนัดที่พวกเขามีโอกาสแบบนับครั้งไม่ถ้วน แต่ดันยิงทิ้งขว้าง กระทั่งไม่ได้ 3 แต้ม ซึ่งหากเกมเหล่านั้นถูกเปลี่ยนเป็น 3 แต้ม ยอดทีมแห่งธันเดอร์โดมอาจยืนสง่าในอันดับที่ 3 ไปแล้วก็เป็นได้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

สรุปผลงานพีที ประจวบ เอฟซี

สรุปผลงานพีที ประจวบ เอฟซี การหนีตกชั้นแบบทุลักทุเลเมื่อปีก่อน ทำให้การพรีซีซั่นฤดูกาล 2022/23 บอร์ดบริหารมีการวางแผนล่วงหน้า ไล่ตั้งแต่การดึงโค้ชโจ ธีรศักดิ์ เข้ามารับงาน การดีลตัวต่างชาติฝีเท้าดีจากที่ทีมที่ตกชั้น นั่นจึงทำให้ต่อพิฆาต ได้ อลิส เฟโตวิช แนวรับคุณภาพคับแก้วจาก สมุทรปราการ คาราบูเอ้ กองหน้าจอม กระชากจาก สุพรรณบุรี โดยเมื่อผนวกกับตัวผู้เล่นไทยที่ยังเป็นชุดเดิม ทีมดังจากเมืองสามอ่าวน่าจะหวังถึงอันดับกลางตารางได้

ผลงานในช่วงออกสตาร์ทของ พีที ประจวบ ไม่ได้ย่ำแย่ แต่ผลออกเสมอเยอะและชนะน้อย ทำให้โค้ชโจ แสดงสปิริตลาออก นั่นจึงเป็นผลให้บอร์ดบริหารต้องไล่หากุนซือใหม่ สุดท้ายมาจบกับโค้ชโอ่ง ดุสิต ที่พึ่งแยกทางกับ ลำพูน นอกจากนี้ยังได้โค้ชวัง ธวัชชัย ที่พึ่งโดนปลดจาก หนองบัว มารับบทบาทผู้ช่วย จากนั้นในช่วงตลาดซื้อขายเลกที่ 2 นายกเกียร์จัดหนัดจัดเต็มด้วยการยืมตัว ซึ่งรายที่เด่นๆคงหนีไม่พ้น ธนาสิทธิ์ จากการท่าเรือ และ ฉัตรชัย ที่ต้องการเคาะสนิท หลังบาดเจ็บไปนาน

พีที ประจวบ ออกสตาร์ทเลก 2 ได้อย่างร้อนแรง ทำให้อันดับที่คาบเกี่ยวโซนแดง กระโดดขึ้นไปอยู่กลางตาราง แต่เมื่อเข้าสู่เกมที่ 20 ของฤดูกาล อยู่ๆก็มีอาการช็อต เมื่อต่อพิฆาตตามหาชัยชนะไม่เจอ จนอันดับลงไปจมโซนแดง นั่นจึงทำให้ช่วงท้ายฤดูกาล พวกเขาต้องทิ้งเกมรอบรองรีโว่ลีกคัพ แล้วเน้นหนักๆกับเกมลีกที่เหลืออีก 3 นัด กระทั่งเกมที่ 29 การเปิดบ้านชนะ บียู 2-1 ถือเป็นแต้มใหญ่และเป็นการันตีว่าพวกเขารอดตกชั้น หลังจากเชิญต่อสถานการณ์ที่เคร่งเครียดนานนับแรมเดือน

การจบในอันดับที่ 11 ของ พีที ประจวบ เอฟซี อาจไม่เป็นไปตามเป้าที่ผู้บริหารตั้งไว้ ซึ่งการลาออกของโค้ชโจ้ อาจจะเป็นการตัดสินในที่เร็วไปหน่อย นั่นจึงทำให้ทีมต้องหาโค้ชและจูนระบบใหม่ อีกทั้งการไม่มีหน้าเป้าเหมือน โมต้า ที่ย้ายออกไป มันก็มีผลให้การยิงประตูไม่เปรี้ยงปร้างอย่างที่คาดหวัง กระทั่งตลาดเลก 2 การหยิบตัวยืมจากทีมอื่น ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ดีพอสมควร เพราะ ฉัตรชัย ช่วยเซฟให้ทีมเสียประตูยากขึ้น ขณะที่ ธนาสิทธิ์ เหมือนได้ฉายฟอร์มเก่งอีกครั้ง หลังจากที่ซบเซากับการท่าเรือ กระนั้นด้วยฟอร์มที่ไม่สม่ำเสมอจนออกทะเลไปยาว ถือเป็นช่วงที่ตึงเครียดแบบสุดๆ ซึ่งยังดีที่หันหัวกลับฝั่งได้ทัน มิเช่นนั้นต่อพิฆาตได้ร่วงตกชั้นไปแล้ว

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover