Categories
ข่าวกีฬา

“สุพรรณอเดสู่ขิต”

สุพรรณบุรี สู่ขิต แพ้ถล่ม บียู 5-2 ร่วงลีกรองหนแรกในรอบ 9 ปี  

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 29 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ในตอนนี้น่าจะการันตีอันดับ 3 ต้องพบกับ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่การแพ้ในนัดล่าสุดถือเป็นเรื่องเสียหายอย่างใหญ่หลวง แล้วมันก็ส่งให้วันนี้ต้องชนะสถานเดียว มิเช่นนั้นจะต้องเป็นทีมที่ 2 ที่ต้องตกชั้นตามเชียงใหม่ไป สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-3-3 ส่วนทีมเยือนเป็น 3-5-2

      ทรู แบงค็อก ขึงและวางบอลเข้าใส่แนวรับทีมเยือน ซึ่งมีที่ได้ประตูและถูกริบ ก่อนจะมาได้จริงๆในนาทีที่ 17 จากจุดโทษ จากนั้นก็ยังเป็นแข้งเทพที่บุกและครองบอลแทบจะฝ่ายเดียว ส่วนทางฝั่งสุพรรณบุรี ได้แต่ตั้งรับและเกมรุกไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ซึ่งการขาด ดานีโล่ ทำให้พ่อเลี้ยงอย่าง เอนริเก้ ต้องโชว์ฉายเดี่ยว กระนั้นในนาทีที่ 40 ช้างศึกยุทธหัตถีมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 โดยในจังหวะนี้ไม่มีอะไรเลย เพราะมันเป็นการเปิดแบบธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาคือแนวรับบียู ยืนนิ่งและปล่อยให้ตัวประกบที่ใกล้ที่สุดเป็นแนวรุกอย่าง ชนานันท์

ครึ่งหลังรูปเกมยังทรงๆ กระทั่งนาทีที่ 64 แนวรับทีมเยือนไปดึงแขน เฮแบร์ตี้ ก่อนจะลุกขึ้นมายิงจุดโทษเป็น 2-1 จากนั้นเหมือนสกอร์ไหลและแนวรับทีมเยือนเริ่มสมาธิแกว่ง ไล่ตั้งแต่ประตู 3-1 ที่ไปรุม วานเดอร์ หลยุส์ พอเขี่ยให้ เฮแบร์ตี้ ก็ไม่เหลือ ส่วนประตู 4-1 เป็นการโหม่งตัดหน้า กระนั้นในแผงเกมรับของแข้งเทพ ก็น่าตำหนิที่เสียประตู 4-2 จากการเปิดมาหน้าปากประตู แล้วมีผู้เล่นบียูยืนอยู่เต็มไปหมด แต่ดันปล่อยให้ จอง ฮัน ซอล ที่อยู่ไกลลิบ ได้วิ่งมาโหม่งเสียอย่างนั้น ขณะที่ประตูปิดท้าย 5-2 คาร์เตอร์ ลากขึ้นมา แล้วเปิดอัดเท้า รุ่งรัฐ เข้าไป

  บทสรุปจากเกม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เกมรุกไม่ค่อยน่าห่วง เพราะเมื่อมีโอกาสก็สามารถทำได้เรื่อยๆ เว้นเสียแต่เกมรับที่เสียง่ายๆแบบนี้หลายนัด ซึ่งหากปล่อยไว้ไปยังฤดูกาลหน้า มันจะมีผลต่อการลุ้นแชมป์แน่นอน ส่วนทางฝั่ง สุพรรณบุรี เอฟซี พอไม่มี ดานีโล่ จากที่เป็นรองก็ยิ่งเป็นรองมากขึ้น ทำให้ในเกมนี้ต้องรับให้หนาแน่น แล้วรอเล่นฉาบฉวย แต่พอลงไปเล่นจริงๆเกมรับไม่แน่นหนา แถมมีความผิดพลาดส่วนบุคคล ทำให้ความพ่ายต้องเกิด สุดท้ายการตกชั้นมันก็สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของทีมที่มีจำกัดเพียงเท่านี้จริงๆ

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“วันบอลแฉลบแห่งชาติ”

เมืองทอง ทั้งเก่งทั้งเฮง ทุบ บียู 3-1 ลุ้นจบท็อปโฟร์ 2 นัดสุดท้าย

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 28 คู่ส่งท้ายของวันอาทิตย์ ณ สนามธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ในตอนนี้มีลุ้นถึงท็อปโฟร์ จะต้องพบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ต้องรักษาอันดับที่ 3 ไว้ให้ได้เพื่อรอลุ้นส้มหล่นสำหรับโควตา ACL ทำให้ 3 แต้มในเกมนี้มีความหมายขึ้นมาทันที ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ต่างใช้ระบบเก่งของตัวเอง โดยแบ่งเป็นเจ้าบ้านในระบบ 4-1-4-1 และทีมเยือนระบบ 4-3-3

      ในครึ่งแรกทั้ง 2 ทีม มีโอกาสพอๆกัน โดยทางฝั่ง ทรู แบงค็อก เริ่มต้นทางริมเส้น แล้วค่อยเลือกว่าจะจ่ายเข้ากลาง เลี้ยงตัด แทง หรือวางไปเสาไกล ส่วน เมืองทอง ใช้การต่อบอลตามช่อง ซึ่งอาจจะดูไม่วูบวาบเท่าทีมเยือน แต่ก็มาได้ประตูนำ 1-0 จากความผิดพลาดของ ฐิติพันธ์ ที่ไปจ่ายบอลพลาด จน อานีเยอร์ ได้ยิงติดบ็อคของ เอฟเวอร์ตัน แต่เหลี่ยมบอลดันเป็นใจและพุ่งเสียบเสาเข้าไป

ครึ่งหลัง บียู น่าได้ประตูตีเสมอสุดๆ จากการต่อบอลหน้าบ้านสู่แดนสุดท้ายของคู่แข่ง แต่ ชนานันท์ ดันยิงออกไปเสียได้ ซึ่งพอไม่ได้ประตูในจังหวะนี้ จังหวะถัดมาเป็นคิวของ เมืองทอง บ้าง ก็ได้โชว์การประสานงานของ 3 แนวรุกต่างชาติ ก่อนจบด้วย พ็อพพ์ ยิงติดแฉลบเข้าเสาแรกเป็น 2-0 ไม่เพียงเท่านั้น การเซตชอลขึ้นมาจากแดนตัวเอง ก็ได้มีการประสานของ 3 แนวรุกต่างชาติ จนสกอร์ไหลเป็น 3-0 จากนั้นทีมเยือนพยายามจะบุกเพื่อทวงประตูคืน แต่มักไปไม่ถึงแดนสุดท้ายเพราะเสียบอล ทำให้ต้องรอเจ้าบ้านเผลอในช่วงทดเวลา ถึงมาได้ประตูตีตื้น 3-1

      บทสรุปจากเกม เมืองทอง ยูไนเต็ด ออกสตาร์ทด้วยฟอร์มที่ไม่ได้เหนือกว่า แต่พอคู่แข่งมีความผิดพลาดและตัวเองคว้าขึ้นนำได้ก่อนจบครึ่งแรก มันก็ช่วยให้ตัวเองเล่นง่าย ส่วนในครึ่งหลัง การรอดพ้นการเสียประตูจากจังหวะยิงของ ชนานันท์ ถือเป็นโมเมนตัมสำคัญที่ทำให้รูปเกมยังได้เปรียบ ก่อนที่ในจังหวะถัดมาจะสบโอกาสยิงทิ้งห่าง 2-0 และ 3-0 กระทั่งคว้า 3 แต้มในที่สุด

ขณะที่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด รูปเกมดูวูบวาบกว่าในช่วงต้น แต่พอมาพลาดเสียประตู ความลำบากก็เข้าหาทันที ซึ่งในช่วงต้นครึ่งหลังถ้าได้ประตูตีเสมอจาก ชนานันท์ รูปเกมจะไม่ลงเอยแบบนี้ แต่พอไม่ได้และเสียประตูเพิ่ม สถานการณ์ก็ยิ่งแย่ไปกันใหญ่ ฉะนั้นความพ่ายแพ้ในวันนี้ มาจากความผิดพลาดส่วนบุคคล ทีเด็ดทีขาดที่ไม่เต็มเปี่ยม และจังหวะฟุตบอลไม่เป็นใจให้เหล่าแข้งเทพเลย

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ขึ้นชื่อว่าแมวนั้นตายยาก”

โคราช ฆ่าไม่ตาย ไล่เจ๊า บียู 2-2 ฉุดแข้งเทพยกธงขาวแชมป์ลีก

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 22 ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่พึ่งพลิกล็อคพ่ายทีมในโซนแดง จะต้องพบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่วนเวียนอยู่กับผลแพ้-เสมอ จนอันดับเข้าใกล้โซนแดง สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-3-3 ขณะที่ทีมเยือนเป็น 3-5-2

      การแข่งขันเริ่มต้นแค่ 2 นาที ทรู แบงค็อก ยิงนำ 1-0 ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับทีมเยือนถอยกันหมด จน ปกเกล้า เลือกยิงไกล แล้วดันยิงดีเสียด้วย จากนั้น นครราชสีมา กลายเป็นฝ่ายที่ต้องเปลี่ยนแผนและเดินเกมบุก แต่กลางเสียบอลกลางทางแบบรัวๆ มีผลให้การทำเกมบุกไม่เป็นชิ้นเป็นอันและต่อเนื่อง แล้วมิวายมาเสียประตู 2-0 จากการที่ เฉลิมพงษ์ ถอยเยอะเกินไป จน รุ่งรัฐ ได้ลากตัดเข้าในและยิงตะบันไปเสาไกลในนาทีที่ 19 ทำให้การขึ้นนำถึง 2 ลูก ตั้งแต่เกมยังไม่ผ่าน 20 เจ้าบ้านเล่นสบาย กระนั้นในความสบายก็มีความผิดพลาดในเรื่องการสกัดบอล จนเกือบยื่นโอกาสทองให้ทีมเยือนลงโทษ

ครึ่งหลัง โคราช ปรับแท็กติกจนเล่นเกมรุกได้ดีขึ้น ซึ่งพวกเขาพยายามเล่นจังหวะเดียว เพื่อให้แนวรุกได้โหม่งชงตั้งบอลแล้วมีตัวเข้ามาโจมตี กระทั่งมาได้ประตูตีตื้น 2-1 จากการยิงไกล อย่างไรก็ตามเกมรุกของทีมเยือนไม่ค่อยต่อเนื่อง แต่สุดท้ายด้วยการสกัดบอลของแนวรับเจ้าบ้านที่เริ่มจะผิดพลาดบ่อยขึ้น ก็ได้กลายเป็นลูกจุดโทษให้ทีมเยือนยิงตีเสมอ 2-2 ขณะที่เวลาที่เหลืออีกราว 15 นาที รวมทดเวลา แข้งเทพพยายามจะกลับมาบุกใหม่ แต่ก็สติแตกไปแล้ว ส่วนสวาทแคทเหมือนจะพอใจกับผลเสมอ   

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ออกสตาร์ทเกมนี้ได้อย่างสวยหรู หลังจากแนวรุกปืนฝืดมาหลายนัด กระนั้นแนวรับดันกลายเป็นจุดอ่อน เพราะเริ่มเห็นถึงการสกัดบอลที่ผิดพลาด จนสุดท้ายเป็นผลให้ทีมเสียประตูและเสียแต้ม แบบไม่ควรจะเสีย ขณะที่ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี แนวรับมีความผิดพลาดเล็กน้อยๆในช่วงต้น แล้วมันร้ายแรงถึงการเสียประตู ยังดีที่ครึ่งหลังปรับแก้แล้วดีขึ้น อย่างไรเสียมันก็ต้องกล่าวว่าเพราะจังหวะและความผิดพลาดของคู่แข่งที่หยิบยื่นให้ตั้งหาก ที่ช่วยส่งให้ได้ 2 ประตู แล้วตัวเองคว้าไว้ได้อยู่มือ ซึ่งการได้ 1 แต้ม ถึงว่าน่าพอใจ แต่ตอนนี้ตัวเองอยู่ใกล้โซนแดง ทำให้การผ่อนในช่วงท้ายเกมไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเท่าไร

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด (แข้งเทพ)

“บอดโทษทำเจ๊า” บียู พลาดโทษท้ายเกม จึงได้แค่เจ๊า การท่าเรือ

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 2 ของฤดูกาล ในคู่ของวันอาทิตย์ อีกหนึ่งในเกมบิ๊กแมตช์อยู่ที่สนามธรรมศาสตร์รังสิต ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เปิดรังพบกับ การท่าเรือ เอฟซี สำหรับผังการเล่น เจ้าบ้านมาในระบบเดิม คือ  4-3-3 ขณะที่ทีมเยือนปรับมาเป็น 4-4-2

          ทั้ง 2 ทีม ต่างเล่นด้วยความรัดกุม โดยทางฝั่ง บียู มีสปีดการต่อบอลที่ช้า แล้ววันนี้มาเจอกับแนวรับที่ยืนได้แน่นและไม่เปิดช่องว่างเลย ทำให้เกมบุกดูตันๆไป ส่วนการท่าเรือ ได้ทำเกมบุกในลักษณะโต้กลับ แต่ก็ไม่สามารถสร้างจังหวะเข้าทำได้ในทันที เพราะแนวรับของเจ้าบ้านยืนประกบชิดจนพลิกบอลยาก ทำให้แนวรุกของสิงห์เจ้าท่า ต้องจ่ายย้อนแล้วต่อบอลกับถ่ายเปลี่ยนแกนเร็วเข้าสู้

          ประตูขึ้นนำ 0-1 ของการท่าเรือ มาจากความผิดพลาดของ ทอมเบียรห์ ที่เสียเหลี่ยมแบบหมดรูป แล้วซัวเรส จ่ายไซร์กก้อยให้ โบนีญ่า จบสกอร์ ซึ่งนี้เป็นโอกาสเหน่งๆครั้งแรกของทีมเยือนแล้วได้ประตูเลย จากนั้น บียู ก็เอาคืน ด้วยการเลี้ยงหลบจนคู่แข่งจนหลังหัก แล้วยิงเสียบเสาไกลเป็น 1-1 โดยการตัดสินใจที่จะเลี้ยงฝ่าในจังหวะนั้นอาจเป็นสิ่งที่ควรลองบ้าง เพราะการต่อบอลตลอด 45 นาทีแรก มันไม่สามารถนำไปสู่การจบสกอร์ได้

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

          ครึ่งหลัง การท่าเรือ ยังเล่นเกมรับได้ดีเหมือนเดิม ส่วนเกมรุกจะพยายามทำเร็วด้วยการวางบอลไปยังพื้นที่ริมเส้น จากนั้นจะเล่นไม่กี่จังหวะแล้วจบสกอร์ กระนั้นมันก็ยังไม่ค่อยใกล้เคียงกับการได้ประตู ขณะที่บียู ปรับแผนการเคลื่อนที่ การวิ่งนำทาง จ่าบอลไปข้างหน้า ไม่ออกข้างหรือคืนหลังถ้าไม่จำเป็น ซึ่งในลักษณะที่ว่ามานี้มันช่วยให้เกมบุกของแข้งเทพไหลลื่นขึ้น แต่ก็ไม่ได้มากนัก เพราะแนวรับของทีมเยือนไม่เปิดแผลให้ อย่างไรเสียในช่วงท้ายเกม ความผิดพลาดแบบเจตนาก็ช่วยหนุนนำให้ บียู มีโอกาสขึ้นนำจากจุดโทษ แต่ เฮแบร์ตี้ ดันยิงไม่มุมพอ ทำให้จบเกมด้วยการเสมอกันไป 1-1   

          ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม วันนี้เป็นเกมระดับคุณภาพ เพราะความผิดพลาดเล็กนิดเดียว มีผลถึงการเสียประตู หรือการฉวยโอกาสเพียงเสี้ยววินาที ก็สามารถช่วยให้ทีมได้ประตูเช่นกัน แต่หากเจาะลึกเฉพาะทีม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เล่นเกมรับได้รัดกุมดี แต่ความผิดพลาดครั้งเดียว ส่งผลร้ายถึงขั้นเสียประตู ขณะที่เกมรุก มีสปีดบอลที่ช้าเกิน ทำให้การเจาะแนวรับคู่แข่งดูตันๆในครึ่งแรก แต่พอครึ่งหลังมีการปรับสปีดและแท็กติกการเคลื่อนที่ มันก็ช่วยให้เกมไหลลื่นขึ้น ขณะที่การท่าเรือ เอฟซี เกมรับทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม ผิดกับนัดแรกที่พลาดบรรลัย ซึ่งการยืนป้องกันอย่างดีแบบนี้ ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญให้ทีมมีแต้ม ส่วนเกมรุก การสร้างโอกาสมีน้อยไปสักหน่อย แต่กระนั้นเมื่อมีโอกาสทอง ก็สามารถลงโทษได้ดี

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

ติดตามข่าวสารใหม่ได้ที่ livethaileague.com

Categories
ข่าวกีฬา

ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืดในศึกไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22

ฟุตบอลไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22 จะเปิดฉากฟาดแข้งในสัปดาห์หน้าแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าการเปิดฤดูกาลในทุกซีซั่น ทุกคนล้วนแต่จับจ้องไปที่ทีมเต็งก่อน ในขณะที่ทีมม้ามืดจะเป็นที่ฮือฮาก็ต่อเมื่อผลงานพุ่งแรงขึ้นมา โดยจากการสอดส่องและเฝ้าสังเกต ก็มี 4 ทีม ที่เข้าข่ายต่อการเป็นม้ามืดประจำซีซั่นนี้      

สมุทรปราการ ซิตี้

          เขี้ยวสมุทรต้องเสียผู้เล่นตัวหลักไปหลายคนในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา ทำให้หลายคนอดห่วงไม่ได้ว่าจะไหวไหม แต่กระนั้นด้วยความเป็นญี่ปุ่นและสไตล์การทำทีมที่เน้นระบบ โดยไม่พึงซุปตาร์ จึงเชื่อว่า อิชิอิ จะทำทีมให้อยู่ในทรงเดิมและอยู่บริเวณกลางตาราง แต่หากเครื่องร้อนถึงขีดสุดเมื่อไร พวกเขาอาจเป็น 1 ในทีมที่มีลุ้นตั๋วถ้วยเอเชียก็ได้

ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืด ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22
ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืด ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22

ชลบุรี เอฟซี

          ฉลามชลยืนกล้าขาแข็งกับการใช้ตัวเยาวชนของทีมเป็นกกลุ่มผู้เล่นตัวหลัก อีกทั้งการได้โค้ชเตี้ย เข้ามา ก็ช่วยให้ระบบและทีมเวิร์คทำได้อย่างลงตัว แต่กระนั้นเมื่อช่วงครึ่งฤดูกาลหลังที่ผ่านมา การเสริมตัวต่างชาติจัดว่าล้มเหลวสุดๆ ทำให้ผลงานดรอปตามลงไปด้วย อย่างไรเสียในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา พวกเขาได้ตัวต่างชาติจากโคราชถึง 2 ราย นั่นคือ คานยุบ กับ มูริลโล่ ซึ่งการเสริมน้อยแต่เปี่ยมคุณภาพแบบนี้ จึงเชื่อว่าฉลามชลตัวนี้มีสิทธิ์สูงอย่างยิ่งที่จะเป็นม้ามืดของศึกไทยลีก 1

ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืด ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22
ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืด ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

          สภาพทีมที่อุดมไปดูตัวเยาวชน อีกทั้งในช่วงปิดฤดูกาลก็ไม่ได้เสริมตัวดังเข้ามา ทำให้สายตาที่เพ่งไปอาจจะน้อย แต่กระนั้นอยากให้ติดตามดูฝีมือของ มาริโอ้ ยูรอฟสกี้ ที่เป็นกุนซือใหญ่ ซึ่งเมื่อฤดูกาลก่อนแสดงให้เห็นแล้วว่าการใช้เด็กได้ผลลัพธ์ที่ดีเกินคาด หากเน้นการเล่นที่เป็นทีม อีกทั้งน่าติดตามว่าตัวต่างชาติที่มีจะช่วยยกระดับทีมได้ขนาดไหน แต่ที่แน่ๆเชื่อว่ากิเลนผยอง ปีนี้ มีลุ้นทำอันดับดีๆ ไม่ร่วงไปตารางอีกเป็นแน่

ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืด ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22
ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืด ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

          แข้งเทพจัดเป็นราชาที่ไร้ซึ่งถ้วยรางวัลประดับบารมี เพราะในยุคของมาโน่ เคยมีแต่เกือบในฐานะรองแชมป์ ส่วนการเข้ามาของโค้ชแบน ก็ค่อยๆพา บียู ที่อยู่กลางตาราง ขึ้นมาจบอันดับที่ 5 แบบมีลุ้นตั๋วถ้วยเอเชีย ฉะนั้นในฤดูกาลใหม่นี้ โค้ชแบน ได้ทำทีมแบบเต็มสูบ แถมยังมีตัวมาเสริมอีก ทำให้สามารถมองได้ว่าแข้งเทพในปีนี้ มีสิทธิ์จะเป็นม้ามืดอีกราย ที่ก้าวขึ้นมาท้าทายทีมอื่นในกลุ่มหัวตาราง

ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืดในศึกไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22
ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืดในศึกไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22

ติดตามข่าวสารใหม่ได้ที่ livethaileague.com