Categories
ข่าวกีฬา

“เก่งเล็ก แต่กระดูกยังไม่ถึง”

สรุปผลงาน สมุทรปราการ ซิตี้ ในเลกที่ 2 ฤดูกาล 2021/22

สมุทรปราการ ซิตี้ ในเลกแรก มีช่วงที่เซอร์ไพรส์กับการขึ้นไปรั้งตำแหน่งจ่าฝูง ทั้งๆที่ก่อนเริ่มฤดูกาล พวกเขาปล่อยตัวผู้เล่นหลักออกไปเยอะ ก่อนที่สถานการณ์ต่างๆจะเลวร้ายลง เริ่มจากการบาดเจ็บยาวของ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ แล้วตามด้วยการอำลาทีมแบบสุดช็อคของ อิชิอิ ที่เลือกย้ายไปคุม บุรีรัมย์ ซึ่งมีศักดิ์ ศรี และชาติตระกูลที่สูงกว่า นั่นจึงทำให้สถานการณ์ของเขี้ยวสมุทรค่อนข้างระส่ำ เพราะผลงานก็ดรอป แถมกุนซือที่คิดว่าจะเป็นของตาย ก็เลือกตัดสินใจด่วนแบบนี้  

      สมุทรปราการ ยังคงยึดแนวทางเจแปนนิสสไตล์ด้วยการดึง โยชิดะ กุนซือผู้มากประสบการณ์จากญี่ปุ่น ซึ่งเคยฝากผลงานชิ้นเอกเมื่อครั้งยังทำงานที่ อุราวะ เร้ดไดม่อน พร้อมกันนั้นยังได้เสริมตัวต่างชาติอย่าง ซามูเอล โรซ่า จากบุรีรัมย์ เข้ามาแทน เอลิอันโด ในตำแหน่งแนวรุก ซึ่งตรงนี้น่าจะเพียงพอต่อการประคองตัวให้อยู่รอดของเขี้ยวสมุทร

การคุมทีมของโยชิดะ สมุทรปราการเล่นดีมีทรงและมีทีมเวิรค์พอสมควร แต่ปัญหาคือเกมรุกไม่มีไอเดีย หรือรูปแบบการเข้าทำที่เป็นชิ้นเป็นอัน ทำให้ผลงานมักลงเอยด้วย 0 และ 1 แต้ม ซึ่งเป็นอย่างนี้อยู่ 7 นัดติดต่อกัน จนอันดับร่วงลงมาในโซนแดง กระทั่งชัยชนะนัดแรกของเลก 2 มาเกิดขึ้นในเกมที่ไม่น่าเป็นไปได้ นั่นคือการบุกชนะ การท่าเรือ แบบคาบ้าน 0-2 กระนั้นโมเมนตัมก็ไม่ได้เหวี่ยงพวกเขา เพราะผลงานก็กลับไปอยู่ในวังวนเดิม คือ 1 ไม่ก็ 0 แต้ม สุดท้ายการตกชั้นแทบถามหา แต่พวกเขาไม่ยอมจำนนเมื่อบุกชนะ สุพรรณบุรี และเปิดบ้านชนะ ขอนแก่น ซึ่ง 6 แต้มในโค้งสุดท้าย มันเป็นการปลุกเขี้ยวสมุทรให้ลุกขึ้นสู้ฮึดสุดท้าย แต่แล้วในนัดปิดฤดูกาลกับ ลีโอ เชียงราย สมุทรปราการ สร้างปาฏิหาริย์ไม่สำเร็จ เพราะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป 1-2

      การตกชั้นลงไปสู่ไทยลีก 2 ของ สมุทรปราการ มองมุมหนึ่งเหมือนน่าใจหาย หากดูจากอันดับที่เคยขึ้นไปถึงจ่าฝูง แต่หากมองจากสภาพทีมในเลกที่ 2 เพียงอย่างเดียว มันก็ต้องยอมรับว่านักเตะหลายคนมีความสามารถ แต่เมื่อต้องทำเกมรุกเพื่อทะลายตาข่ายของคู่แข่ง ขุนพลเขี้ยวสมุทรไม่สามารถทะลวงเข้าไปได้ นอกจากนี้การขาดผู้นำอย่าง เจริญศักดิ์ ก็ถือเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ทีมไร้แรงขับเคลื่อน ดังจะเห็นได้จากช่วงท้ายซีซั่นที่เจ้าตัวกลับมาลงสนาม แล้วสามารถเก็บแต้มได้เป็นกอบกำ ฉะนั้นหากเจ้าตัวไม่เจ็บยาวหรือกลับมาไวกว่านี้ ทีมอาจจะไม่ตกชั้นก็เป็นได้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“3 แต้มปลุกผีปราการ”

สมุทรปราการ ซิตี้ ยังไม่ตาย บุกเฉือน สุพรรณบุรี 1-2 ลุ้นหนีตายเฮือกสุดท้าย

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 28 คู่วันอาทิตย์ ณ สนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรี สุพรรณบุรี เอฟซี ที่สถานการณ์ยังอยู่ในขั้นวิกฤต จะต้องพบกับ สมุทรปราการ ซิตี้ ที่ก็วิกฤตไม่ต่างกัน ทำให้ 3 แต้มในเกมนี้ สามารถชี้เป็นชี้ตายต่อการอยู่รอดได้เลยทีเดียว ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-4-3 ขณะที่ทีมเยือนวาง 4-4-2 ตามสูตร  

      การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น สมุทรปราการ ดูมีความมุ่งมั่นมากกว่า อีกทั้งการกลับมาของ เจริญศักดิ์ ก็ช่วยให้เกมทางฝั่งขวาดูวูบวาบมากขึ้นเป็นกอง จนในนาทีที่ 27 ก็มาได้ประตูนำ 0-1 จากการเซตบอลและไหลย้อนมาหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะวางไปเสาไกลให้ ชญาวัต หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิง ส่วนทางฝั่ง สุพรรณบุรี ดูเฉื่อยชากว่า โดยในเกมรับยืนป้องกันไม่แนบแน่นและเช็คกับดักล้ำหน้าพลาด ขณะที่เกมรุกไม่ค่อยเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ทำให้แนวรุกต่างชาติต้องแต่งบอลและยิงไกล หรือลุ้นจากลูกเปิดซึ่งเป็นโอกาสที่ใกล้เคียงที่สุด แต่ดันโหม่งหลุดกรอบ

ครึ่งหลังเริ่มไปได้ไม่กี่นาที สมุทรปราการ มายิงทิ้งห่าง 0-2 จากการเลี้ยงบอลทางริมเส้น จนเมื่อ เจริญศักดิ์ วิ่งเข้ากรอบและขอบอล ก็ได้เปิดให้โหม่งแบบได้ทั้งน้ำหนักและทิศทาง จากนั้นก็มีโอกาสสวนกลับเรื่อยๆ แต่ยิงเพิ่มไม่ได้ ส่วนทางฝั่ง สุพรรณบุรี พอโดนยิงลูก 2 ก็ต้องแก้เกมเพื่อทวงประตูคืน แต่ปัญหามันติดตรงที่การโจมตีทางอากาศมันไม่เข้าเป้า หรือพอเข้าเป้าก็ติดพวกเดียวกัน ทำให้กว่าจะได้ประตูตีไข่แตก 1-2 ก็ปาเข้าไปนาทีที่ 82 แล้ว กระนั้นการตามเพียงลูกเดียวก็ยังพอมีเวลา ซึ่งขุนพลช้างศึกยุทธหัตถีได้โหมบุกในช่วงท้ายเกม แล้วมีโอกาสจ่อๆแต่ดันยิงหลุดออกไป   

บทสรุปจากเกม สุพรรณบุรี เอฟซี เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน โดยเกมรับมักยืนจดๆจ้องๆเหมือนมีอาการเกร็งเพราะไม่อยากผิดพลาด สุดท้ายปัญหาตรงนี้ทำให้พวกเขาเสียถึง 2 ประตู ส่วนเกมรุก มุกเดิมๆที่เคยใช้ได้ผล ดันโชว์ของไม่ออกในเกมสำคัญ จนในช่วงท้ายเกม การโหมบุกได้สร้างโอกาสทองให้พวกเขา แต่ดันทิ้งขว้างโอกาสไปเอง

ทำให้ความพ่ายแพ้ในเกมนี้ถือว่าเสียหายเป็นอย่างมาก ขณะที่ สมุทรปราการ ซิตี้ การได้ เจริญศักดิ์ กลับมา ทำให้ทีมดูมีชีวิตชีวามากขึ้น โดยเฉพาะประตูที่ 2 ที่ช่วยให้ทีมเล่นง่ายขึ้น ส่วนเกมรับต้องทำงานหนักช่วงท้ายเกม อีกทั้งเกือบโดนยิงตีเสมอหลายหนเหมือนกัน ฉะนั้นการคว้า 3 แต้มสำคัญของเขี้ยวสมุทร ถือว่าเป็นไปอย่างทุลักทุเลพอสมควร

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“แค้นนี้ต้องย้ำต้องสางให้เกลี้ยง”

บียู สางแค้น รัว เทโร ยับเยิน 1-4

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามบุญยะจินดา โปลิศ เทโร เอฟซี ที่ยังมีแต้มล่อแหลมต่อการหนีตายอยู่ จะต้องพบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ของ วิดมาร์ โดยจากสถิติที่ทั้งคู่พบกันในฤดูกาลนี้ แข้งเทพจัดการถล่มในลีก 5-0 แต่มังกรโล่เงินมาทำแสบด้วยการเขี่ยตกรอบบอลถ้วย ฉะนั้นเกมนัดนี้มีการล้างแค้นแน่นอน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-4-3 ส่วนทีมเยือนยึด 4-3-3

      ในช่วงต้นเกมเป็นการช่วงชิงบอลกลางสนาม จากนั้นพอเกมเริ่มเข้าที่ ทรู แบงค็อก เริ่มเจาะทางฝั่งขวาแล้วจ่ายบอลมาหน้าประตูหรือเสาไกล จนแค่นาทีที่ 8 ก็ขึ้นนำ 0-1 จากลักษณะการเล่นที่กล่าวไป ก่อนจบด้วยการตบมาให้ ฐิติพันธ์ ที่เติมขึ้นมาและได้ยิงแบบไม่มีใครขวาง จากนั้นกลายเป็น เทโร ที่ตั้งเกมไม่ติด ครองบอลไม่ได้ แถมยังโดนตัดกลางสนามอยู่เรื่อยๆ กระทั่งมาเสียประตู 0-2 ซึ่งในจังหวะนี้ตัดได้และต่อบอล 3 จังหวะ ขณะที่อีก 20 นาทีกว่าๆ เทโร เริ่มจะเร่งเกมบุกและมีโอกาสจบสกอร์ แต่มันยังอยู่วิสัยป้องกัน อีกทั้งแนวรับแข้งเทพก็มีความผิดพลาดเล็กน้อยๆ อย่างไรเสียพวกเขายังไม่ถูกลงโทษก็เท่านั้น

ครึ่งหลัง แนวรับบียูยังมีจังหวะเคลียร์บอลที่ผิดพลาดอยู่ แล้วเพียงแค่ 3 นาที โปลิศ เทโร มาตีตื้น 1-2 จากจังหวะบอลชุลมุนแล้ว อาทิตย์ จัดการยิงตีลังกาสวนเข้าไป กระนั้นแทนที่โมเมนตัมจะเหวี่ยงมาหาเจ้าบ้าน มันกลายเป็นว่า บียู มายิงทิ้งห่างจากการยิงแบบเต็มแรงของ เฮแบร์ตี้ พร้อมทั้งเป็นตำนานบทใหม่ที่ 145 ประตู จากนั้นสถานการณ์ของเจ้าถิ่นเริ่มเลวร้ายลง กับการโดนใบแดงเหลือ 10 คน นั่นจึงทำให้ทีมเยือนเริ่มผ่อนคันเร่ง แล้วมาได้ประตูปิดท้ายจากจุดโทษ ซึ่งการให้ คาร์เตอร์ ถือเป็นการเรียกความมั่นใจหลังจากที่ไม่มีชื่อทำประตูมาหลายเกม

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม โปลิศ เทโร เอฟซี เริ่มต้นเกมด้วยฟอร์มที่ไม่ดี แล้วยิ่งมาเสีย 2 ประตู จึงทำให้การเล่นหลังจากนั้นค่อนข้างยาก ซึ่งการตีตื้นเร็วตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง เหมือนจะเป็นโมเมนตัมที่ดี แต่การมาเสียประตูจากลูกยิงแบบจับยัด มันก็ส่งผลให้ความคึกคะนองหายไปและสุดท้ายกลายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ส่วนทางฝั่ง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เกมรุกทำงานตั้งแต่ต้นและได้ประตูเร็ว ทำให้เกมนี้เล่นง่าย กระนั้นเกมรับต้องชัวร์กว่านี้ เพราะหากเป็นทีมระดับใกล้เคียงกัน มีสิทธิ์โดนลงโทษมากกว่าที่เห็นในเกมนี้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืดในศึกไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22

ฟุตบอลไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22 จะเปิดฉากฟาดแข้งในสัปดาห์หน้าแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าการเปิดฤดูกาลในทุกซีซั่น ทุกคนล้วนแต่จับจ้องไปที่ทีมเต็งก่อน ในขณะที่ทีมม้ามืดจะเป็นที่ฮือฮาก็ต่อเมื่อผลงานพุ่งแรงขึ้นมา โดยจากการสอดส่องและเฝ้าสังเกต ก็มี 4 ทีม ที่เข้าข่ายต่อการเป็นม้ามืดประจำซีซั่นนี้      

สมุทรปราการ ซิตี้

          เขี้ยวสมุทรต้องเสียผู้เล่นตัวหลักไปหลายคนในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา ทำให้หลายคนอดห่วงไม่ได้ว่าจะไหวไหม แต่กระนั้นด้วยความเป็นญี่ปุ่นและสไตล์การทำทีมที่เน้นระบบ โดยไม่พึงซุปตาร์ จึงเชื่อว่า อิชิอิ จะทำทีมให้อยู่ในทรงเดิมและอยู่บริเวณกลางตาราง แต่หากเครื่องร้อนถึงขีดสุดเมื่อไร พวกเขาอาจเป็น 1 ในทีมที่มีลุ้นตั๋วถ้วยเอเชียก็ได้

ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืด ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22
ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืด ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22

ชลบุรี เอฟซี

          ฉลามชลยืนกล้าขาแข็งกับการใช้ตัวเยาวชนของทีมเป็นกกลุ่มผู้เล่นตัวหลัก อีกทั้งการได้โค้ชเตี้ย เข้ามา ก็ช่วยให้ระบบและทีมเวิร์คทำได้อย่างลงตัว แต่กระนั้นเมื่อช่วงครึ่งฤดูกาลหลังที่ผ่านมา การเสริมตัวต่างชาติจัดว่าล้มเหลวสุดๆ ทำให้ผลงานดรอปตามลงไปด้วย อย่างไรเสียในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา พวกเขาได้ตัวต่างชาติจากโคราชถึง 2 ราย นั่นคือ คานยุบ กับ มูริลโล่ ซึ่งการเสริมน้อยแต่เปี่ยมคุณภาพแบบนี้ จึงเชื่อว่าฉลามชลตัวนี้มีสิทธิ์สูงอย่างยิ่งที่จะเป็นม้ามืดของศึกไทยลีก 1

ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืด ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22
ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืด ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

          สภาพทีมที่อุดมไปดูตัวเยาวชน อีกทั้งในช่วงปิดฤดูกาลก็ไม่ได้เสริมตัวดังเข้ามา ทำให้สายตาที่เพ่งไปอาจจะน้อย แต่กระนั้นอยากให้ติดตามดูฝีมือของ มาริโอ้ ยูรอฟสกี้ ที่เป็นกุนซือใหญ่ ซึ่งเมื่อฤดูกาลก่อนแสดงให้เห็นแล้วว่าการใช้เด็กได้ผลลัพธ์ที่ดีเกินคาด หากเน้นการเล่นที่เป็นทีม อีกทั้งน่าติดตามว่าตัวต่างชาติที่มีจะช่วยยกระดับทีมได้ขนาดไหน แต่ที่แน่ๆเชื่อว่ากิเลนผยอง ปีนี้ มีลุ้นทำอันดับดีๆ ไม่ร่วงไปตารางอีกเป็นแน่

ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืด ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22
ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืด ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

          แข้งเทพจัดเป็นราชาที่ไร้ซึ่งถ้วยรางวัลประดับบารมี เพราะในยุคของมาโน่ เคยมีแต่เกือบในฐานะรองแชมป์ ส่วนการเข้ามาของโค้ชแบน ก็ค่อยๆพา บียู ที่อยู่กลางตาราง ขึ้นมาจบอันดับที่ 5 แบบมีลุ้นตั๋วถ้วยเอเชีย ฉะนั้นในฤดูกาลใหม่นี้ โค้ชแบน ได้ทำทีมแบบเต็มสูบ แถมยังมีตัวมาเสริมอีก ทำให้สามารถมองได้ว่าแข้งเทพในปีนี้ มีสิทธิ์จะเป็นม้ามืดอีกราย ที่ก้าวขึ้นมาท้าทายทีมอื่นในกลุ่มหัวตาราง

ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืดในศึกไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22
ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืดในศึกไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22

ติดตามข่าวสารใหม่ได้ที่ livethaileague.com