Categories
ข่าวกีฬา

ปัญหาวุ่นๆ

อุดรธานี เอฟซี ตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว ?

เมื่อกล่าวถึงสโมสรสีส้มที่มีปัญหาด้านการเงินมาตลอด 2-3 ปีหลัง คงหนีไม่พ้น อุดรธานี เอฟซี ที่จนถึงบัดนี้ยังยืนหยัดมาได้แบบน่าประหลาดใจ แต่นี่ก็คงเป็นฤดูกาลสุดท้ายที่พวกเขาจะได้เล่นไทยลีก 2 เพราะจากคะแนนในตารางที่อยู่อันดับสุดท้ายในเวลานี้ ซึ่งในรายการคิดไซด์โค้งก็ได้มีการพูดถึงปัญหา ณ ตอนนี้ พร้อมกับมีการต่อสายตรงถึง อุ๊บ วิริยะ พงษ์อาจหาญ อดีตประธานฝ่ายการตลาดของสโมสร ที่ขอถอนตัวออกไปก่อนหน้านี้อีกด้วย

มีปัญหาค้างเงินเดือนนักเตะมาตลอด 2-3 ปีหลัง

      เมื่อครั้งที่ ประกิต ดีพร้อม เคยออกมาไลฟ์สดเพื่อชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันยังคงมีอยู่ โดยจะเป็นในลักษณะของการค้าง 1-2 งวด แล้วจ่ายย้อนหลังทีละงวดแบบไม่เต็มจำนวน นั่นจึงทำให้นักฟุตบอลหลายคนไม่สามารถอยู่ได้ ซึ่งในบางรายถึงขั้นขอเพียงใบโอนย้ายทีมและยินดีที่จะไม่รับเงินเดือนที่สโมสรค้างอยู่  

สโมสรเคลียร์หนี้ 5 ล้าน ถือผ่านไลเซนซิ่ง

      อุดรธานีเอฟซี ค้างเงินเดือนนักฟุตบอลทั้งของปัจจุบันและอดีตที่ย้ายทีมออกไปแล้ว รวมๆเป็นเงินกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งก่อนที่ฤดูกาลนี้จะเปิด พวกเขาจะต้องเคลียร์หนี้ 5 ล้านบาทให้หมด มิเช่นนั้นจะไม่ได้ไลเซนซิ่งและลงแข่งขัน ซึ่งในรายของ เมืองกาญ ยูไนเต็ด เคลียร์ไม่ทันจึงไม่ได้ลงแข่งขัน ฉะนั้นตรงจุดนี้บอร์ดบริหารยักษ์แสดสามารถเคลียร์ได้ทันเวลา

ดึง อุ๊บ เข้ามาช่วย หาสปอนเซอร์

      บอร์ดบริหาร อุดรธานี เอฟซี ได้มีการดึง อุ๊บ วิริยะ พงษ์อาจหาญ เข้ามาเพื่อช่วยงานในฝ่ายประธานการตลาด ซึ่งสปอนเซอร์ที่หามาได้มักเป็นสิ่งของ ขณะที่การหาเงินสนับสนุนจะมีส่วนแบ่งให้กับ อุ๊บ 10% ของเงินที่หามาได้ แล้วทางฝั่งบริษัทเมืองไทยประกันภัยของมาดามแป้ง ได้มีการมอบเงิน 1 ล้านบาท ฉะนั้นทางฝั่งอุ๊บต้องได้ 1 แสนบาท แต่เกิดการจ่ายไม่ตรงตามเวลาที่ตกลงกัน กล่าวคือ อุ๊บ ได้เงินไปเพียง 5 หมื่นบาท แล้วตรงจุดนี้กลายเป็นการแตกหักให้นักปั้นดาราถอนตัวออกไป

ฟ้องร้องกับขั้วเก่า ชนะแล้ว แต่รอจบซีซั่นนี้

      สิทธิ์การทำทีม อุดรธานี เอฟ ซี ของ อริสรา ชะมูล กับกลุ่มบริหารชุดเก่า มีการฟ้องร้องเพื่อดึงสิทธิ์การทำทีมกลับมา เพราะบอร์ดบริหารชุดเก่ามองว่าปัญหาที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน อริสรา ไม่สามารถจัดการกับปัญหานั้นได้ ซึ่งตามข่าวได้แจ้งว่าสิทธิ์การทำทีมกลับไปอยู่กับบอร์ดชุดเก่าแล้ว แต่รอเวลาที่จะเรียกร้องสิทธิ์เท่านั้น โดยคาดกันว่าน่าจะเป็นหลังจบซีซั่นนี้ ที่ต้องการสร้างทีมขึ้นมาใหม่จากไทยลีก 3

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

การทำทีมแบบไทยๆ แบบที่ไม่มีใครเหมือน

อุปนิสัยที่โดดเด่นของคนไทย คือ ความโอบอ้อมอารี ความเคารพต่อผู้อาวุโส  และการช่วยเหลือพวกพ้อง หรือจะเรียกในภาษาทางการว่าระบบอุปถัมภ์ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ล้วนก่อให้เกิดคติหรือแนวทางบ้างอย่าง ต่อการทำทีมฟุตบอลในไทยเหมือนกัน โดยมันจะมีอะไรบ้างและเป็นในลักษณะไหน วันนี้เราจะไปดูกัน

การเป็นพันธมิตรของสโมสรใหญ่ กับสโมสรเล็กในเครือข่าย            หากเป็นสโมสรในต่างประเทศ การจะสร้างพันธมิตรในเชิงฟุตบอลจะต้องเป็นการสร้างพันธมิตรของสโมสรฟุตบอลระหว่างประเทศ เพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้ประโยชน์ หรือหากอยู่ในประเทศเดียวกัน ก็จะเป็นในลักษณะการส่งเยาวชนที่อายุยังน้อยจากศูนย์ฝึก มาขัดเกลาฝีเท้ากับสโมสรอาชีพ

แต่สำหรับฟุตบอลไทย การเป็นพันธมิตรระหว่างกันจะเกิดขึ้นระหว่างสโมสรใหญ่ในลีกสูงสุด กับสโมสรเล็กในลีกรอง โดยการสร้างพันธมิตรในลักษณะนี้ของทีมใหญ่ เป็นไปเพื่อให้นักเตะสำรองที่ไม่มีโอกาสสนาม หรือนักเตะเยาวชน ได้มีโอกาสลงสนามผ่านการปล่อยให้ยืมตัว

แต่กระนั้นในบ้างกรณีก็จัดการยกทีมเยาวชนและโค้ชไปเล่นกับทีมเล็ก เสมือนกับการเอาคนเข้าไปอยู่ในบ้านเปล่าๆหลังหนึ่งที่ไม่มีคนเลย ซึ่งหลายครั้งแฟนบอลอยากเรียกกันแบบติดตลกว่าทีมสาขา 2 เช่น เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ยกนักเตะไปเล่นกับ นครนายก เอฟซี, พัทยา ยูไนเต็ด และอุดรธานี เอฟซี หรือในกรณีของบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่มีพันธมิตรอย่าง ราชประชา เอฟซี, ขอนแก่น เอฟซี และเชียงใหม่ เอฟซี

การทำทีมแบบไทยๆ แบบที่ไม่มีใครเหมือน
การทำทีมแบบไทยๆ แบบที่ไม่มีใครเหมือน

เปลี่ยนสีเสื้อและตราสโมสร

          หากเป็นสโมสรฟุตบอลในต่างประเทศ สีเสื้อเริ่มต้นมาอย่างไร ก็จะใช้สีนั้นไปตลอด แต่ก็อาจมีบ้างที่เปลี่ยน เช่นกับตราสโมสรที่มีสัตว์ สิ่งของใดเป็นสัญลักษณ์ ก็จะใช้ไปตลอด เว้นเสียการปรับปรุงให้ดูทันสมัย แต่สำหรับฟุตบอลไทยแล้ว ทุกอย่างเกิดการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ

โดยเฉพาะทีมในลีกรองและรากหญ้า ที่บางทีมเปลี่ยนเฉดสี หรือเปลี่ยนไปเลยตามความชอบ จนไม่สามารถทราบได้แล้วว่าทีมนั้นๆมีสีอะไรเป็นสีหลัก เช่นเดียวกันกับตราสโมสร ที่การเปลี่ยนแปลงมักต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง อาทิ การท่าเรือ เอฟซี ที่เป็นรูปสมอ โลมา สิงโต และม้า

ซึ่งนี่ยังไม่นับสโมสรในลีกรองและลีกรากหญ้า ที่บ้างครั้งเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จนเกิดความสับสนว่านี่คือทีมน้องใหม่หรือเปล่า

          จากที่นำมาเล่าในวันนี้ มันสามารถสะท้อนให้เห็นถึงอุปนิสัยที่เป็นราเหง้าของคนไทย ซึ่งมันก็มีข้อดีอยู่ แต่มันก็ตามมาพร้อมกับข้อเสียอีกมากมาย เช่น การทำระบบพันธมิตรแบบทีมใหญ่สนับสนุนทีมเล็ก มันจะทำให้รากของฟุตบอลไทยไม่พัฒนา

ขณะที่ในแง่ของการเปลี่ยนแปลงสัญลักษณ์สำคัญของทีมบ่อยๆ มันก็จะเป็นการบั่นทอนแฟนบอลจนไม่รู้สึกอินไปกับทีม เหมือนเช่นที่ฟุตบอลต่างประเทศเป็น    

การทำทีมแบบไทยๆ แบบที่ไม่มีใครเหมือน
การทำทีมแบบไทยๆ แบบที่ไม่มีใครเหมือน

ติดตามข่าวสารใหม่ได้ที่ livethaileague.com