Categories
ข่าวกีฬา

ดุดันไม่เกรงใจใคร

พีที ประจวบ เอฟซี ฟอร์มดุ ไล่ถล่ม หนองบัว

ศึกรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามสามอ่าว สเตเดี้ยม พีที ประจวบ เอฟซี ที่พึ่งกลับมาเก็บ 3 แต้มได้ จะต้องพบกับ หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่ผลงานดำดิ่งและรอวันตกชั้นอย่างเป็นทางการเท่านั้น  สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 3-4-3 ส่วนทีมเยือนก็ใช้ผัง 3-5-2  

      ในช่วง 5 นาทีแรก จังหวะบอลค่อนข้างเร็ว เพราะเมื่อใครครองบอล อีกฝ่ายจะบีบให้เล่นลำบาก ทำให้บอลจะอยู่บริเวณกลางสนามเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ พีที ประจวบ เริ่มจะเล่นได้ดีกว่า แล้วเพียงแค่ 9 นาที ประจวบ ได้ประตูนำ 1-0 จากเตะมุมที่เปิดไปให้ จักรกฤษณ์ กระโดดแปรบอลเข้าไป

โดยจังหวะนี้แนวรับทีมเยือนพยายามจะประกบ แต่บอลมันทะลุผ่านผู้เล่นทุกคน จากนั้น 3 นาทีถัดมา ต่อพิฆาตมาได้ประตูทิ้งห่าง 2-0 จากการต่อบอลหน้าบ้านของตัวเอง โดยจังหวะเข้าทำเหมือนจะช้าไปแล้ว แต่ ประสิทธิ์ ยังปั่นโค้งเข้าไปอย่างสวยงาม ซึ่งการได้ประตูนำเร็วเช่นนี้ มันมีผลให้เจ้าบ้านผ่อนเกมจนจบครึ่งแรก

ครึ่งหลัง หนองบัว ปรับแก้แท็กติกเพื่อเล่นเกมบุกให้มากขึ้น แต่การเสียบอลง่ายๆกลางทาง มันก็กลายเป็น ประจวบ ได้โต้กลับอย่างรวดเร็ว กระทั่งนาทีที่ 59 ได้ประตูนำ 3-0 จากการไหลบอลมาให้ นุกูลกิจ ยิงนอกกรอบ จากนั้นกลายเป็น หนองบัว ที่เริ่มถอดใจและไม่ค่อยวิ่งไล่ ทำให้โดนยิงเพิ่มอีก 2 ประตู อย่างไรเสีย พญาไก่ชนก็ได้ประตูไล่มา 1 ลูก ทำให้จบเกมด้วยสกอร์ 5-1

บทสรุปจากเกม พีที ประจวบ เอฟซี ในวันนี้ จังหวะฟุตบอลค่อนข้างเป็นใจ ไล่ตั้งแต่การได้ 2 ประตู ตั้งแต่ต้นเกม เช่นเดียวกับครึ่งหลังที่เมื่อประตูทิ้งห่าง 3-0 จากจังหวะบอลแฉลบ ต่อพิฆาตก็ยิ่งเล่นง่าย จนสุดท้ายสามารถถล่มผู้มาเยือนแบบไม่ไว้หน้า อย่างไรเสีย เกมรับก็ยังมีรูรั่วที่ต้องปรับปรุงกับการเสียประตูง่าย

ส่วนทางฝั่ง หนองบัว พิชญ เอฟซี วันนี้พร้อมเต็มร้อยที่จะมาสู้กับเจ้าถิ่น แต่การเสียประตู 2 ลูก ในช่วง 15 นาทีแรก มันมีต่อแท็กติกที่ต้องปรับเปลี่ยน ซึ่งในครึ่งแรกไม่สามารถบุกใส่เจ้าถิ่นได้ กระทั่งในครึ่งหลัง รูปเกมกำลังดีขึ้น แต่เมื่อมาเสียประตูที่ 3 เพิ่ม ทีนี่กลายเป็นสมาธิแตกและไม่ช่วยกันวิ่งไล่อีกแล้ว ทำให้สกอร์ขาดลอยอย่างที่เห็น

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

จ่อร่วงเต็มกลืน

หนองบัว พิชญ เอฟซี ยิงนาทีท้าย ก่อนพ่าย

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 25 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามพิชญ สเดตี้ยม หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่ตอนนี้อาการโคม่าและไม่น่าจะมีปาฏิหาริย์สำหรับการอยู่รอด จะต้องพบกับ โปลิศ เทโร เอฟซี ที่คะแนนและอันดับอยู่กลางตาราง ทำให้การบุกมาเยือนในวันนี้ ไม่ค่อยกดดันเท่าไร ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-2-3-1 ขณะที่ทีมเยือนยึดระบบ 4-4-2  

      การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทั้ง 2 ทีม ต่างเปิดเกมบุกใส่กัน โดยทางฝั่ง โปลิศ เทโร จะเล่นบอลเร็วและน้อยจังหวะในพื้นที่ 3-4 ซึ่งมันเห็นถึงทีมเวิรค์และการสอดประสาน แต่มันน่าเสียดายที่ไม่ได้ประตูนำ เพราะแนวรับของเจ้าบ้านช่วยกันสกัดและป้องกันไว้ได้

ส่วนทางฝั่ง หนองบัว พิชญ เน้นการขึ้นบอลทางฝั่งซ้าย ก่อนจะจ่ายเลาะไปข้างหน้า กระทั่งถึงแดนสุดท้ายก็จะตบบอลมาหน้าประตู โดยโอกาสเหน่งๆนั้นมี แต่ก็ทำไม่ได้เช่นเดียวกัน

ครึ่งหลัง รูปเกมยังเปิดแลกใส่กันอยู่ แต่การตัดฟาวล์ของ ปิยะพล มันส่งผลให้เจ้าตัวโดนใบแดง ซึ่งหลังจาก หนองบัว เหลือ 10 คน ก็เริ่มจะพลาดง่ายๆ จนในนาทีที่ 67 จ่ายบอลพลาดหน้ากรอบเขตโทษ ทำให้โดน สรวิชญ์ ฉกบอลไปกระดกข้าม กิตติคุณ ให้ เทโร นำ 0-1 อย่างไรเสียเมื่อ หนองบัว

ดึงสมาธิกลับมาได้ พวกเขาก็สร้างโอกาสจากการโจมตีทางฝั่งซ้าย แต่บอลเจ้ากรรมดันไปชนเสา กระทั่งนาทีที่ 90+4 จังหวะชิงบอลในกรอบเขตโทษของเจ้าบ้าน พีรพัฒน์ ชิงบอลมาได้ แล้วจัดการยิงเช็คเสาให้มังกรโล่เงินนำ 0-2 จากนั้นเมื่อเอาบอลมาเขี่ย พญาไก่ชนยิงไล่มา 1-2 แล้วเวลาก็หมดลงทันที

      บทสรุปจากเกม หนองบัว พิชญ เอซี เกมนี้พยายามสู้อย่างสุดความสามารถ ดังจะเห็นได้จากบิ้วอัพบอลขึ้นไป กระนั้นก็ต้องยอมรับว่าหลังจากโดนแดงและต้องเหลือ 10 คน พวกเขาเสียสมาธิจนมีความผิดพลาด สุดท้ายโดนยิงนำ มิหนำซ้ำยังมาโดนลูกยิงเช็คเสาในช่วงทดเวลา ทำให้หมดหวังที่จะมีแต้ม ทั้งๆที่สู้ได้ดี

ส่วนทางฝั่ง โปลิศ เทโร เอฟซี ต้องชื่นชมที่มาเปิดเกมบุกสู้ แม้สถานการณ์จะลอยตัวและไม่จำเป็นต้องโหมบุกก็ได้ ซึ่งผลตอบแทนของความทุ่มเท คือการได้ 2 ประตู และ 3 แต้มกลับบ้าน อย่างไรเสียการเปิดเกมบุกแลกแบบนี้ มันเห็นถึงรูรั่วในเกมรับที่พวกเขาต้องปรับ เพราะหากเป็นทีมใหญ่ พวกเขาจะโดนลงโทษด้วยการเสียประตูอย่างแน่นอน

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“พลาดทีเดียวถึงขั้นแพ้”

ขอทีเดียว เฉือน หนองบัว 1-0 ประเดิมนัดแรกในลีกสูงสุด

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดเปิดซีซั่น 2022/23 ณ สนามห้วยกระทิง ลำปาง เอฟซี ที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเป็นทีมสุดท้าย จะต้องพบกับ หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่เลื่อนชั้นขึ้นมาเมื่อปีที่แล้ว แถมทำผลงานขั้นเซอร์ไพรส์ ด้วยการจบอันดับ 5 สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-4-2 ขณะที่ทีมเยือนปรับเป็น 4-3-3 

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นทั้ง 2 ทีมต่างมีความไม่สมบูรณ์ในตัวเอง เริ่มจาก ลำปาง ที่ใช้ตัวเก่าจากลีกรองเป็นตัวหลัก ซึ่งมันช่วยให้การวิ่งไล่บอลในแดนตัวเองเกิดความแน่หนาในเกมรับ แต่เมื่อตัวเองได้บอลและจะทำเกมรุก รูปแบบการเข้าทำไม่มีทีมเวิรค์และเน้นความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะต่างชาติ ทำให้การจบสกอร์แบบหวาดเสียวแทบไม่มีให้เห็น ส่วนทางฝั่งหนองบัว รูปเกมดูดีกว่า กระนั้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ประสิทธิภาพในเกมรุกค่อนข้างทดถอยเพราะการให้บอลและโยนไปให้กองหน้าขาดความแม่นยำ รวมถึงการต่อบอลที่ยังดูติดๆขัดๆ อย่างไรเสียพวกเขาก็มีโอกาสเหน่งๆ แล้วดันทำไม่ได้เอง

ครึ่งหลังเริ่มมาได้แค่ 27 วินาที ลำปาง ขึ้นนำ 1-0 จากการเปิดบอลแล้วโหม่งไม่ดี แต่ผู้รักษาประตูกับกองหลังของทีมเยือนดันสื่อสารกันไม่ดี ทำให้บอลลั่นจนไปเข้าทางผู้เล่นลำปาง ได้โหม่งระยะเผาขน จากนั้นหนองบัว ยังคงเดินหน้าบุกต่อ โดยพยายามเล่นแบบเดิม คือ การต่อบอลและโยนจากด้านข้าง รวมถึงการวางบอลแทงเพื่อเล่นกับไลน์กองหลัง ซึ่งก็มีโอกาสและน่าได้ประตูตีเสมอ แต่ก็ยังไม่ได้ ขณะที่รถม้ามรกต หลังจากขึ้นนำไปแล้ว ก็ได้สวนกลับแบบนานๆครั้ง อีกทั้งการสวนขึ้นมาก็ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ ทำให้จบเกมด้วยชัยชนะ 1-0 ของเจ้าถิ่น

บทสรุปจากเกม ลำปาง เอฟซี ถือว่าออกสตาร์ทได้สวยกับชัยชนะนัดแรกตั้งแต่วันเปิดหัวซีซั่น กระนั้นหากเจาะลึกลงไปที่ฟอร์มการเล่น ศักยภาพของนักเตะค่อนข้างเป็นรองจากทีมอื่นๆในลีกสูงสุด โดยจากที่เห็นในนัดนี้ พวกเขาพยายามจะเล่นเกมรับให้เหนียวแน่น แต่ก็โดนเจาะเข้ามาอยู่ตลอด อย่างไรก็ดีด้วยความที่คู่แข่งไม่คม มันก็เป็นผลให้พวกเขาไม่เสียประตู ส่วนประตูที่ได้มาก็เป็นส้มหล่นลูกใหญ่ แล้วหากเกมนี้ไม่มีจังหวะนี้ รถม้ามรกตทำได้เต็มที่คือเสมอ ขณะที่ หนองบัว พิชญ เอฟซี พยายามเล่นแบบเดิมๆเหมือนฤดูกาลที่แล้ว แต่พอตัวผู้เล่นมีการเปลี่ยนแปลง ประสิทธิภาพที่เคยทำได้มันดูลดลง ทำให้นับจากนี้ต้องรีบปรับจูนทีมให้เร็วที่สุด มิเช่นนั้นพญาไก่ชนจะลำบากแน่นอน

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“แฮร์มิลตันมา อะไรก็ง่าย”

หนองบัว ปิดท้ายสวยหรู บุกถล่ม โคราช คาบ้าน 0-4 คว้าอันดับ 6

  ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 30 หรือนัดสุดท้ายของฤดูกาล ณ สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ในวันนี้ได้กลับมาเล่นปิดท้ายในรังเหย้าแบบไร้ความกังวล จะต้องพบกับ หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่อยากได้ 3 แต้ม เพื่อเก็บสถิติและทำอันดับให้สูงที่สุด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-3-3 ส่วนทีมเยือนเป็น 4-4-2 พร้อมกับหวนคืนสู่สนามของ แฮร์มิลตัน

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น หนองบัว ออกสตาร์ทได้ดีกว่า อีกทั้งวันนี้เมื่อพาบอลมาถึงแดน 3 จะเน้นปาดออกไปทางซ้ายให้ จิรพันธ์ ได้ลากคัดเข้ามาเพื่อโจมตี กระนั้นประตูนำ 0-1 มาจากการปาดบอลของ แฮร์มิลตัน ออกไปทางขวา แล้วเจ้าตัววิ่งเข้ากรอบเขตโทษเพื่อรอโหม่งบอล ซึ่งมันสุดยอดตรงที่มีคนยืนล้อม 3 คน แต่เอาไม่อยู่เลย ส่วนทางฝั่ง นครราชสีมา เกมทางด้านริมเส้นแทบจะแผงฤทธิ์ไม่ออก จะมีเพียงแค่ 1-2 ครั้ง ที่ได้เปิดแล้วเกือบได้ประตู

ครึ่งหลังกลายเป็น หนองบัว ได้โชว์แบบจัดเต็ม เริ่มจากประตู 0-2 ที่แฮร์มิลตัน ได้รับและไหลย้อนให้ เลอสันต์ วิ่งมาซัด และสกอร์ไหลเป็น 0-3 เมื่อไปเตะ ทาร์เดลี่ จากข้างหลังจนได้จุดโทษ จากนั้นพญาไก่ชนก็ยังบุกอยู่เรื่อยๆ แต่โอกาสเฉี่ยวไปมา กระทั่งท้ายเกม ช่องกว้างมหาศาลที่ถูกเปิดไว้ เหล่าลูกทีมของโค้ชวังจึงจัดการกระซวกตาข่ายแบบไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือ ส่วนทางฝั่งโคราช 45 นาที เสียบอลง่ายจนต้องได้แต่ตั้งรับ ซึ่งการไม่ได้บอลก็เท่ากับไม่ได้บุกไปโดยปริยาย

บทสรุปจากเกม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ถือว่าโชว์ฟอร์มได้ย่ำแย่เป็นอย่างยิ่ง เพราะได้เล่นในบ้านและคู่แข่งไม่ใช่ทีมใหญ่ แต่ตัวเองไม่เคยมีช่วงเวลาที่เล่นได้ดีกับการครองบอลเพื่อทำเกมบุก ซึ่งมีให้เห็นแบบเหน่งๆแค่ 1-2 ครั้งเท่า ส่วนเกมรับในครึ่งแรกไปลูกเดียว แต่พอเข้าสู้ครึ่งหลังเหมือนเขื่อนแตก เพราะเปิดพื้นที่จนโดนยิงแบบขาดลอย ส่วนทางฝั่ง หนองบัว พิชญ เอฟซี การกลับมาของ แฮร์มิลตัน ช่วยให้ทีมมีศักยภาพที่น่ากลัวขึ้น แล้วเพื่อนร่วมทีมก็มีฮึดตามด้วย ทำให้ในครึ่งแรกได้สกอร์นำตามต้องการ ขณะที่ครึ่งหลัง พอพวกเขาได้ประตูทิ้งห่าง 0-2 ก็ยังเลือกที่จะบุกต่อ ซึ่งตรงนี้ถือเป็นสปิริตขั้นสูง เพราะแม้ว่าอันดับจะการันตีแล้ว แต่ก็ยังเล่นแบบเต็มที่อยู่

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ไม่มีแฮร์มิลตัน หนองบัวก็แค่ไก่บ้าน”

หนองบัว ขาดแฮร์มิลตัน ก่อนบุกพ่าย ท่าเรือ ขาดลอย 3-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 29 คู่สุดท้ายของวันอาทิตย์ ณ สนามแพท สเตเดี้ยม การท่าเรือ เอฟซี ที่เหลือเพียงทำผลงานให้ดีที่สุดในยุคของจเด็จ มีลาภ จะต้องพบกับ หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่ในตอนนี้มีลุ้นทำอันดับให้สูงที่สุดสำหรับประวัติศสตร์ของสโมสร ส่วนในเรื่องผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-4-2 ขณะที่ทีมเยือนเป็น 5-4-1      

ก่อนเกมจะเริ่มและในระหว่างแข่งช่วงต้นเกม ฝนตกสนามลื่นทำให้การต่อบอลยากลำบาก นั่นจึงทำให้ทั้ง 2 ทีมยังตั้งเกมไม่ติด กระนั้นเพียง 17 นาที หนองบัว พิชญ ต้องมาเลือก 10 เพราะ แรมซี่ย์ น็อตหลุดไปตบหู ธนบูรณ์ ทำให้สถานการณ์ก่อนเกมที่ไม่มี แฮร์มิลตัน ก็ว่าแย่แล้ว ตอนนี้ยิ่งแย่และเป็นรองกว่าเดิม ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ มีความได้เปรียบแต่ขึงบุกไม่ได้ อย่างไรเสียก็ยังมีจังหวะจบที่น่าได้สุดๆ แต่เหลี่ยมบอลไม่เป็นใจ  

ครึ่งหลัง การท่าเรือ ออกมาเล่นเกมบุก แล้วเพียงนาทีที่ 47 ก็ได้ประตูนำ 1-0 จากการเปิดเลียดของ ปกรณ์ แล้ว ยุทธพงษ์ สกัดพลาด ก่อนที่ กิตติคุณ จะพลาดต่อด้วยการรับหลุดมือ จากนั้นนาทีที่ 64 การท่าเรือมาได้ประตูทิ้งห่าง 2-0 จากการเปิดเลียดคล้ายๆกัน แต่คราวนี้ ซัวเรส ได้ยิงจ่อๆ ขณะที่ลูกปิดกล่อง 3-0 เป็นการโต้กลับ ซึ่งต้องชม ธีรศักดิ์ ที่ลากขึ้นมาและจ่ายให้ นูรูณ ยิง ส่วนทางฝั่ง หนองบัว เกมรับค่อนข้างรั่ว ยืนตำแหน่งหลุดและเปิดพื้นที่ให้เจ้าบ้านได้เปิดง่ายๆ ไม่ต่างจากเกมรุกที่พอไม่มีแฮร์มิลตัน ก็บุกไม่ขึ้นและไม่มีจังหวะจบแบบหวาดเสียวให้เห็น

      บทสรุปจากเกม การท่าเรือ เอฟซี ในครึ่งแรกเหมือนเสียเวลาไปแบบเปล่าประโยชน์ เพราะไม่สามารถทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอัน แม้คู่แข่งจะเหลือ 10 คน ตั้งแต่นาทีที่ 17 กระนั้นยังดีที่ครึ่งหลังได้ประตูเร็ว ทำให้ความมั่นใจเริ่มมาและยิงทิ้งห่างได้ ขณะที่ หนองบัว พิชญ เอฟซี พอออกไปเล่นทีมเยือนก็มักมีลักษณะแบบนี้ คือ เกมรับรั่วไหล แล้ววันนี้ดันมีความผิดพลาดส่วนบุคคลเข้ามาประกอบ

สุดท้ายจึงเสียประตูง่ายและเยอะ ไม่ต่างจากเกมรุกที่พอขาด แฮร์มิลตัน ไป พิษสงก็หมดไปด้วย ดังจะเห็นได้จากวันนี้ไม่ปรากฏให้เห็นถึงการโยนหรือลากเลี้ยงบอลขึ้นไปจาก ทาร์เดลี่ ซึ่งตรงจุดนี้ถือว่าน่าเป็นห่วงหากดาวยิงชาวบราซิลไม่อยู่ต่อ เพราะขนาดไม่อยู่บางแมตช์ ยังสร้างความแตกต่างได้ขนาดนี้ ฉะนั้นหากไม่มีถาวร พญาไก่ชนอาจเป็นทีมหนีตายก็เป็นได้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ตาม 2 ที ไม่หวั่น นำทีเดียวชนะเลย”

หนองบัว ตาม 2 หน ก่อนรัวแซง ประจวบ ท้ายเกม 2-3

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 27 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามสามอ่าว สเตเดี้ยม พีที ประจวบ เอฟซี ที่ผลงายช่วงหลังย่ำแย่จนต้องกลับมาหนีตาย จะต้องพบกับ พญาไก่ชน หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่สถานการณ์ลอยลำและไร้ความกดดันใดๆ ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-5-2 ขณะที่ทีมเยือนวาง 5-3-2 เพื่อรับลึกแบบเต็มสูบ

ในช่วง 20 นาทีแรกของเกม ต่างฝ่ายต่างระวังและต่างฝ่ายต่างเล่นเกมรุกได้ไม่ดีทั้งคู่ ทำให้รูปเกมที่ออกมาค่อนข้างน่าเบื่อ กระนั้นในนาทีที่ 23 พีที ประจวบ ชิงนำ 1-0 จากการต่อบอลขึ้นมาและไหลมากรอบเขตโทษให้ วันเฉลิม ยิงเสียบเสา ซึ่งการป้องกันของทีมเยือนทำได้ดีแล้ว ยกเว้น กิตติคุณ ที่ควรจะเซฟได้ มิใช่ยืนขาตาจเสมือนสุดปัญญาแบบนั้น จากนั้นในอีก 20 นาทีกว่าๆ ทั้งประจวบและหนองบัว ต่างมีความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆจนไม่สามารถครองบอลให้ปะติดปะต่อได้

ครึ่งหลัง หนองบัว มาตีเสมอ 1-1 จากฟรีคลิกที่ไม่ควรได้ เพราะมันไม่มีการผลักและปะทะแม้แต่น้อย ทำให้ผลพวงจากฟรีคลิกลูกนี้ คือ การเปิดไปให้ แฮร์มิลตัน ได้โฉบโหม่งเข้าไป กระนั้นไล่หลังเพียงนาทีกว่าๆ แนวรับทีมเยือนไหจ่ายบอลติด โมต้า ทำให้ได้บอลและลากเข้าไปยิงให้ ประจวบ ขึ้นนำ 2-1 อย่างไรก็ดี หนองบัว ไม่แกว่งและพยายามหาช่องโจมตี กระทั่งมาได้ประตีเสมอ 2-2 จากการเปิดของ เลอสันต์ ที่ไม่แม่นนัก แต่ แฮร์มิลตัน โชว์ความเหนือชั้นด้วยการโหนโหม่งให้เสียบเสาไกล ซึ่งจากสกอร์ที่ออกมาเช่นนี้ ประจวบ ไม่ต้องการ 1 แต้ม เพราะมันจะส่งผลต่อการหนีตาย ฉะนั้นจึงต้องบุก แต่การโดนสวนกลับในนาที 83 มันได้พราก 3 แต้ม ไปจากต่อพิฆาต จากการสวนกลับของ ทัพ พญาไก่ชน โดย ทาร์เดลี่ สุดท้ายเมื่อจบเกม ทีมเยือนได้ปาดหน้าชนะไป 2-3  

      บทสรุปจากเกม พีที ประจวบ เอฟซี ได้ขึ้นนำถึง 2 ครั้งในเกมนี้ แต่ดันปิดเกมไม่ได้ ซึ่งหากมองที่แผงเกมรับ มันไม่ถึงขั้นผิดพลาด แต่มันไม่ดีมากพอที่จะสยบแนวรุกคู่แข่งที่มีความอันตราย ส่วนทางฝั่ง หนองบัว พิชญ เอฟซี ต้องเล่นเกมรับเป็นหลัก แถมมีความผิดพลาดส่วนบุคคลเกิดขึ้นทั้ง 2 ลูก ขณะที่เกมโต้กลับและเกมรุกแทบจะไม่ได้ทำงาน แต่ที่วันนี้ได้ 3 แต้ม ต้องชม 2 แนวรุกที่ใช้โอกาสไม่สิ้นเปลื้อง เพราะขอแค่ป้อนบอลถึง โอกาสเป็นประตูก็สูงตาม ฉะนั้นจึงต้องกล่าวว่าพวกเขาเล่นไม่ดี แต่ที่ชนะเพราะยิงได้มากกว่าเท่านั้น

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“แชมป์สักที จากที่เกร็งมานาน” 

บุรีรัมย์  ฝ่าความเกร็ง ถล่ม หนองบัว 0-3 ปิดจ็อบแชมป์ลีก 

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามพิชญ สเตเดี้ยม หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่มีผลงานโดดเด่นยามเล่นในบ้าน จะต้องทำดาร์บี้แมตช์อีสานกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ชะตาการคว้าแชมป์อยู่ในตัวเอง โดยหากชนะจะเป็นแชมป์ทันที แต่ถ้าเผด็จศึกไม่ลงก็ต้องไปลุ้นนัดสุดท้าย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านเปลี่ยนมาใช้ 4-4-2 ส่วนทีมเยือนก็เปลี่ยนเช่นกันเป็น 4-3-3      

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น บุรีรัมย์ เป็นฝ่ายบุกใส่ตามคาด แต่การบุกที่ปรากฏยังเกร็งๆเหมือนหลายนัดที่ผ่านมา ทำให้เมื่อเจอแนวรับที่เหนียวแน่นของเจ้าถิ่น จึงเจาะเข้าไปไม่ได้ กระนั้นผู้เล่นของฝั่งปราสาทสายฟ้า ก็ได้แสดงให้เห็นการเล่นให้ชัวร์ให้นิ่งที่สุด แล้วค่อยจ่ายหรือยิง อย่างไรก็ดีโชคและจังหวะได้เข้ามาช่วยปลดล็อคให้ บุรีรัมย์ ในนาทีที่ 39 ด้วยประตู 0-1 จากการไปฉกบอลของ ศุภโชค แล้วลากไปถึงสุดเส้นหลัง ก่อนจะจ่ายกลับมาหน้าประตู ซึ่งกองหลังเจ้าถิ่นสกัดไม่ถึง และผู้น้องอย่าง ศุภณัฏฐ์ ได้วิ่งเข้าชาร์ตพอดี ส่วนทางฝั่ง หนองบัว พิชญ วันนี้ได้แต่เล่นเกมรับ เพราะการสวิตช์บอลจากรับเป็นรุกมักเสียกลางทาง ทำให้กองหน้าทั้ง 2 คน แทบหายไปจากเกม จนต้องอาศัยการยิงไกลเพียงอย่างเดียว  

ครึ่งหลัง หนองบัว พยายามจะครองบอลเพื่อทำเกมบุก แต่การครองบอลในทุกครั้งมักเสียคืนไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องเสียแรงกลับไปตั้งรับ กระทั่งโดนยิงทิ้งห่าง 0-2 จากการเล่นที่ไม่ละเอียด อีกทั้งการปั๊มบอลที่ไม่ได้เปรียบ ดันไม่ตามต่อให้สุดทาง และแนวรับด้านในก็ไม่มองตัวที่วิ่งขึ้น ทำให้ ธีราทร ได้ขึ้นมายิงโล่งๆ ส่วนในช่วงท้ายเกม บุรีรัมย์ มาได้ประตู 0-3 ปิดกล่อง จากการทำชิ่งและหลุดข้าไปยิง

      บทสรุปจากเกม หนองบัว พิชญ เอฟซี ในวันนี้ ถือว่าเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ไล่ตั้งแต่เกมรับที่เหนียวแน่นในช่วง 0-0 แต่พอเสียประตูอาการรั่วมาทันที ส่วนเกมรุกไม่สามารถลำเลียงบอลไปขึ้นหน้าเป้าได้ ทำให้เกมนี้เป็นต้องหมดพลังงานไปกับการตั้งรับ ขณะที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อาการเกร็งแบบที่ผ่านยังมีอยู่ แต่พอได้ประตูเหมือนทุกอย่างถูกปลดล็อค จากนั้นขอแค่เล่นไปตามเกม ซึ่งเมื่อมีโอกาสก็ยิงทิ้งห่างได้ ทำให้เกมนี้เล่นง่ายในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายและปิดจ็อบแชมป์ไทยลีกได้สำเร็จเสียที

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“โดนก่อน แล้วรัวคืนยับ”

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 3 ในค่ำคืนวันเสาร์ ชลบุรี เอฟซี กลับมาเปิดรังเหย้าของตัวเอง

ด้วยการรับน้องใหม่อย่าง หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่หวังจะมาเก็บแต้มออกไป สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-4-2 ส่วนทางด้านทีมเยือนใช้ 4-2-3-1

ในช่วงต้นเกม ยังไม่ทันได้ออกรสออกชาติเท่าไร หนองบัว ก็ชิงจังหวะได้ประตูนำ 0-1 จากการยิงเต็มข้อที่รุนแรงและทิศทางพอได้ แต่ผู้รักษาประตูมือรองอย่าง ทัตพิชา อักษรศรี ดันปัดไม่ออกเสียอย่างนั้น อย่างไรก็ดี ชลบุรี ไม่มีอาการแกว่งและยังคงเล่นตามแท็กติกที่วางมา นั่นคือ การขึ้นเกมจากแดนหลัง จะเน้นการแทงและพาไปข้างหน้า ไม่มีการจ่ายขวางหรือเปลี่ยนแกน ซึ่งการเล่นลักษณะนี้ช่วยให้ฉลามชลได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการโหม่งของ มูริลโล่ กระนั้นแนวรับของหนองบัว ก็ยืนตำแหน่งกันไม่ดี เพราะยืนอยู่ตรงนั้นหลายคน แต่ปล่อยให้ตัวรุกที่มีแค่คนเดียวได้เกร็งคอรอโหม่งแบบไร้การรบกวน

หลังจากได้ประตูตีเสมอ ชลบุรี สามารถครองเกมไว้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ เพระสามารถตัดการขึ้นเกมรุกของคู่แข่งได้ตั้งแต่กลางสนาม ทำให้ที่เหลือ คือ ขึ้นบอลจากหลังสู่หน้าและทำสกอร์ จนมีโอกาสเหน่งๆหลายหน แต่ทำไม่ได้เอง อีกทั้งหลายหนที่ขึ้นมานี้ ก็เริ่มเห็นได้ว่าแนวรับหนองบัว มีปัญหา เพราะไม่สามารถจัดระเบียบเกมรับให้ทันต่อการรุกเข้ามาอย่างรวดเร็ว อย่างไรเสียในช่วงทดเวลา ชลบุรี มาได้จุดโทษจาก VAR และเป็นประตูขึ้นนำ 2-1  

การเสียประตูของหนองบัว มีผลให้แท็กติกในครึ่งหลังเปลี่ยนไป เพราะโค้ชวังสั่งให้ลูกทีมเปิดเกมบุก แล้วก็ทำได้ดีจริงๆ เพราะสามารถขึงบุกใส่เจ้าบ้านได้อย่างอยู่หมัด ผ่านการขึ้นทางริมเส้นและโจมตี ซึ่งการเปิดบอลไปมาก็เกือบที่จะได้ประตูตีเสมอ แต่จังหวะไม่ลงล็อค หรือเมื่อมีโอกาสเหน่งๆ ก็ดันทำหมูหกไป กระทั่งเกมครึ่งหลังผ่านไปครึ่งทาง ดีกรีความโหดเหี้ยมก็ลดลง เพราะแนวรับฉลามชล เริ่มจะจับทางได้มากขึ้น พร้อมกับมีเกมโต้กลับแบบเสียวๆเล่นงาน แต่กว่าจะลงโทษได้สำเร็จก็ต้องรอถึงช่วงท้ายเกม จาก เสฏวุฒิ วงค์สาย ที่ยิงได้อย่างยอดเยี่ยม

        ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ชลบุรี เอฟซี เล่นได้ดีตามมาตรฐาน แม้จะเสียประตูขึ้นนำไปก่อน แต่กระนั้นก็มีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ต้องไปปรับ ได้แก่ เกมรับที่ไม่ควรเปิดพื้นที่ให้คู่แข่งเข้าฮอตบอลในเขตโทษ เกมรุกที่ไม่ควรใช้จังหวะสิ้นเปลือง ส่วนทางฝั่ง หนองบัว พิชญ เอฟซี แนวรับทำหน้าที่ได้ดี แต่พอเจอการเล่นบอลเร็ว ดันออกอาการรวน อีกทั้งยังมาผิดพลาดเสียฟาวล์และเสียจุดโทษ จึงยิ่งไปกันใหญ่ ขณะที่เกมรุกมีไอเดียไม่มาก ทำให้ไม่สามารถกดหัวคู่แข่งได้ตลอดรอดฝั่ง      

ติดตามข่าวสารกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ใครคือเต็งที่จะตกชั้นไปจากไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22

ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 ฤดูกาลใหม่ ใกล้เปิดฉากแล้วในสัปดาห์หน้า ซึ่งก่อนจะเริ่มการแข่งขัน สิ่งที่ทุกคนล้วนคาดเดาและทำนาย คือ ทีมที่มีโอกาสเป็นแชมป์และตกชั้น โดยจาก 16 ทีม จะมีทีมไหนที่ดูสุ่มเสี่ยงบ้าง วันนี้เราจะไปดูกัน

หนองบัว พิชญ เอฟซี

          หลังจากอกหักมาหลายครั้งกับการเลื่อนชั้น ในที่สุดทัพพญาไก่ชนก็ได้ก้าวขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จ ในฐานะแชมป์ไทยลีก 2 แต่อย่างเสียกุนซือผู้พาทีมได้แชมป์อย่าง น้าฉ่วย ดันแยกทางกับทีมไป ทำให้ต้องไปดึงโค้ชวัง เข้ามาแทน โดยจากคุณภาพของนักเตะและโค้ชมันจัดว่าธรรมดา จนอดห่วงไม่ได้จริงๆว่า หนองบัว ภายใต้การคุมของโค้ชวัง อาจจะไม่ต่างกับตอนที่ทำประจวบเมื่อซีซั่นที่แล้ว ที่ต้องดิ้นรนหนีตายอยู่นานสองนานถึงรอด แถมเลือดตาแทบกระเด็น    

ใครคือเต็งที่จะตกชั้นไปจากไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22
ใครคือเต็งที่จะตกชั้นไปจากไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22

ขอนแก่น ยูไนเต็ด

          หลังจากพ้นโทษแบน จงอางผยองต้องไปเริ่มใหม่ในไทยลีก 4 แต่ก็ได้เลื่อนชั้นทุกปี จนระทั่งปีนี้ได้อยู่ลีกสูงสุดอย่างไทยลีก 1 อย่างไรเสียการก้าวขึ้นมาตรงนี้ กว่าจะทำได้สำเร็จก็ต้องดวลเป้ากับ นครปรม ยูไนเต็ด มาแบบสุดระทึก ขณะที่การเตรียมทีมช่วงปรีซั่นไม่ปรากฏให้เห็นถึงนักเตะดาวดัง ส่วนโค้ชก็ใช้บริการ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ซึ่งมันก็ดูเป็นงานหนักของโค้ชโต่ย อยู่เหมือนกัน สำหรับการพาทีมน้องใหม่เผชิญหน้ากับเสือสิงห์กระทิงแรดในลีกสูงสุด ฉะนั้นเมื่อเป็นเช่นนี้ จึงจำเป็นต้องจัดจงอางผยองไว้ในกลุ่มหนีตาย   

ใครคือเต็งที่จะตกชั้นไปจากไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22
ใครคือเต็งที่จะตกชั้นไปจากไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22

โปลิศ เทโร เอฟซี

          การเสียตัวผู้เล่นหลักไป ในขณะที่ตัวเข้ามาทดแทนก็ไม่ได้อยู่ในเกรดเอ อีกทั้งนักเตะเกือบค่อนทีมอยู่ในวัยชราภาพ ทำให้ปีที่ผ่านมาเป็นงานหนักของโค้ชอ้น ในการพาทีมหนีตายแล้วทำได้สำเร็จ แต่สำหรับฤดูกาลใหม่ที่จะเริ่มขึ้น เราก็ยังไม่เห็นมังกรโล่เงินจะอัพเกรดทีม ทำให้หลีกหนีไม่พ้นจริงๆที่จะต้องกลุ่มพวกเขาไว้ในจำพวกทีมหนีตาย   

ใครคือเต็งที่จะตกชั้นไปจากไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22
ใครคือเต็งที่จะตกชั้นไปจากไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22

สุพรรณบุรี เอฟซี

          แม้ว่าสภาพทีมจะย่ำแย่เพียงใด แต่ช้างศึกยุทธหัตถีตัวนี้ก็รอดตายมาทุกครั้ง เพราะขนาดตัวเองตกชั้นไปแล้ว ก็ยังอุตสาห์มีทีมถอนตัว จนทำให้พวกเขาได้เล่นในลีกสูงสุดต่อ แต่กระนั้นมันก็ใช่ว่าพวกเขาจะโชคดีไปเสียทุกครั้ง เพราะในปีนี้อาจถึงคราวของพวกเขาจริงๆแล้วก็ได้ เพราะสภาพทีมมีแต่ลดระดับตัวเองลง แต่อย่างไรเสียหาก อเดบาโย่ พาทีมรอดตายอีกปี ฟุตบอลไทยอาจต้องไปขอวิชาจากกุนซือผู้นี้อย่างจริงจัง เพราะมันไม่เคยมีปรากฏมาก่อน กับสโมสรหนึ่งที่จะรอดตกชั้นแบบฉิวเฉียดหลายปีติดต่อกัน  

ใครคือเต็งที่จะตกชั้นไปจากไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22
ใครคือเต็งที่จะตกชั้นไปจากไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22

ติดตามข่าวสารใหม่ได้ที่ livethaileague.com

Categories
ข่าวกีฬา

“น้องใหม่ ประเดิมสวย” หนองบัว ฝ่าสายฝนตบโคราช นิ่มๆ

2-0 ประเดิมไทยลีก

ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 เปิดสนามอย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้ โดยคู่ประเดิมสนามเป็นดาร์บี้อีสาน ระหว่าง หนองบัว พิชญ เอฟซี น้องใหม่ที่ขึ้นมาในฐานะแชมป์ไทยลีก 2 กับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่เมื่อฤดูกาลก่อนโชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงสุดๆ สำหรับผังการเล่นที่ขึ้นมา เจ้าบ้านมาในระบบ 4-2-3-1 ส่วนทีมเยือน ปรับมาเป็น 4-2-1-3 หรือ 4-2-3-1 

          ในช่วง 10 นาทีแรก เป็น นครราชสีมา ที่ดูเหนือกว่านิดๆกับการเพรสซิ่งสูงแล้วดักบอลได้ แต่ก็เข้าทำไม่ได้ เพราะแนวรับคู่แข่งยืนปักหลักอยู่เยอะ หรือการขึ้นเกมจากริมเส้น ก็ทำอะไรไม่ค่อยถนัด เพราะถูกตัดฟาวล์อยู่ตลอด แต่ต่อให้ได้เปิดก็ไม่แม่นเสียเอง

ส่วนทางฝั่งหนองบัว ดูจะเป็นรองในช่วงต้น เพราะได้แต่สาดบอลยาวริมเส้น แต่เมื่อเกมผ่านไปเรื่อยๆ พวกเขาสามารถเซตบอลขึ้นมาเปิดได้อย่างสม่ำเสมอ จนเริ่มเห็นช่องในแนวรับของคู่แข่งที่มักเปิดพื้นที่ไว้ กระทั่งเป็นที่มาของทั้ง 2 ประตู ในครึ่งแรก

น้องใหม่ ประเดิมสวย หนองบัว ฝ่าสายฝนตบโคราช นิ่มๆ 2-0 ประเดิมไทยลีก
น้องใหม่ ประเดิมสวย หนองบัว ฝ่าสายฝนตบโคราช นิ่มๆ 2-0 ประเดิมไทยลีก

ครึ่งหลัง โคราช พยายามจะเปิดเกมบุก ด้วยการขึ้นบอลทางริมเส้นทั้ง 2 ฝั่ง แล้วอาศัยการเปิดโด่งเข้าไป แต่ก็มักถูกสกัดและไม่สามารถรองบอลจังหวะ 2 ได้ดีเท่าที่ควร ทำให้คู่แข่งสามารถทำเกมสวนกลับได้ตลอด อีกทั้งการโดนโต้แต่ละครั้งก็เสียเวลาหลายนาที ซึ่งตรงจุดนี้จะส่งผลให้ไม่สามารถกดดันคู่แข่งอย่างต่อเนื่องได้ ส่วนทางฝั่งหนองบัว เกมรับสามารถยืนตำแหน่งได้ดีแบบไม่มีข้อผิดพลาด ขณะที่เกมบุกก็ได้โต้ แต่ความเฉียบคม คือ สิ่งที่หายไป

          ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม หนองบัว พิชญ เอฟซี มาเล่นด้วยแท็กติกยืนรับต่ำและไม่ดันสูง ทำให้เกมโต้กลับที่เป็นของถนัดของคู่แข่งไม่สามารถแผงฤทธิ์ได้ ขณะที่ลูกกลางอากาศก็ไม่อันตรายใดๆ ทำให้ภาพที่ปรากฏ คือ การโขกสกัดไปเรื่อยๆ กระทั่งหมดเวลา ส่วนเกมบุกมีช่องมีโอกาสก็ทำได้ดี แต่น่าตำหนิเล็กน้อย

เพราะในครึ่งหลังมีโอกาสแต่ดันพลาดไป ส่วนทางฝั่งนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี การขาดคานยุบ ไป ทำให้เกมบุกเหลือแค่ด้านข้าง แล้วยิ่งมาเจอกับคู่แข่งที่ยืนรับต่ำ จึงยิ่งเป็นงานยากไปกันใหญ่ พลางจะโยนบอลโด่ง ก็ไร้ประสิทธิภาพ แถมเสียเวลาและโอกาสไปมากมาย โดยเฉพาะในครึ่งหลัง ขณะที่ในแผงเกมรับก็ยืนกันได้รั่วสุดๆ ดังจะเห็นได้จากการเปิดโดนเปิดริมเส้นและการแทงทะลุช่อง ที่มักจะมีเสียวเสมอ แล้วก็มาโดนจริงๆ ซึ่งยังดีที่โดนแค่ 2 ลูก เพราะหากคู่แข่งคมกว่านี้ สกอร์อาจมีไหล   

“น้องใหม่ ประเดิมสวย” หนองบัว ฝ่าสายฝนตบโคราช นิ่มๆ 2-0 ประเดิมไทยลีก
“น้องใหม่ ประเดิมสวย” หนองบัว ฝ่าสายฝนตบโคราช นิ่มๆ 2-0 ประเดิมไทยลีก

ติดตามข่าวสารใหม่ได้ที่ livethaileague.com