Categories
ข่าวกีฬา

“สิงห์จเด็จโดนน็อค”

เทโร ปิดท้ายซีซั่น น็อค การท่าเรือ 2-1   

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 30 หรือนัดปิดฤดูกาล ที่สนามบุญยะจินดา โปลิศ เทโร เอฟซี ที่จะได้ลงเล่นในบ้านนัดสุดท้าย วันนี้จัดชุดเต็มในระบบ 3-4-3 พบกับ การท่าเรือ เอฟซี ของโค้ชจเด็จ ที่โชว์ผลงานอย่างสวยหรูในนัดก่อน ส่วนวันนี้จัดตัวจริงผสมสำรองบางรายในระบบ 4-1-4-1

      การแข่งขันในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก ถือเป็นเกมที่สนุกสุดมันส์ โดยทางฝั่งการท่าเรือ พยายามยืนแพ็คในแดน 1 และ 2 เพื่อไม่ให้คู่แข่งเคาะบอลเข้ามาโดยง่าย แต่ทางฝั่งเจ้าบ้านใช้การวางบอลยาวข้ามไปแดน 3 สุดท้ายนักเตะการท่าเรือต้องวิ่งหน้าตื่นลงไปตั้งรับ ส่วนเกมรุก สิงห์เจ้าท่าพยายามเคาะบอลให้เกิดช่องทางริมเส้น แล้วเปิดไปหน้าประตู ซึ่งก็เข้าเป้าแต่ยังไม่ได้ประตู ขณะเดียวกันก็มีการจ่ายแทงถึงหน้าประตูแบบนานๆครั้ง

      โปลิศ เทโร วางเกมรับแน่หนาและยังไม่มีข้อผิดพลาด ส่วนเกมรุกต้องใช้การวางบอลยาวเป็นหลัก กระทั่งมาได้ประตูนำ 1-0 จากการโต้กลับ โดย เปาลิสต้า ลากบอลตัดเข้าในและยิง แต่ชนเสา แล้วจังหวะนั้น ธีรเทพ ตามมาเก็บบอลและลากไปทางมุมแคบ ก่อนจะซัดแสกหน้าเข้าไป จากนั้นรูปเกมก็เบาลงเพราะ เทโร รับแน่นและรอสวนกลับ ส่วน การท่าเรือ ถ้าไม่เบาเกมอาจโดนเพิ่ม เพราะที่ผ่านมาใช้กำลังวิ่งกวดไปเยอะ

ครึ่งหลังรูปเกมยังดูทรงๆ จน การท่าเรือ เริ่มเปลี่ยนตัวและแก้เกม จนนาทีที่ 76 ก็มาได้ลูกตีเสมอ 1-1 จากการลากบอลรอของ นูรูณ จนเมื่อ ซัวเรช เข้าช่องก็จัดการเปิดบอลแล้วใช้อกพักเข้าไป จากนั้นกลายเป็นสิงห์เจ้าท่าโหมบุกเพื่อหวังเอา 3 แต้ม แต่ดันมีจังหวะที่ไปเลี้ยงวนจนโดนฉกและสวนกลับ ก่อนที่ เปาลิสต้า จะลงโทษด้วยการยิงนำ 2-1

บทสรุปจากเกม โปลิศ เทโร เอฟซี วางเกมรับมาได้ดี อีกทั้งยังดักบอลและโต้กลับได้มีประสิทธิภาพ กระทั่งยิงได้ 2 ประตู ส่วนประตูที่เสียต้องยอมรับว่าการชิงไหวชิงพริบช้ากว่าคู่แข่ง ขณะที่ การท่าเรือ เอฟซี การยืนเพรสในแดน 1 และ 2 สุดท้ายทำให้นักเตะเหนื่อยกว่าเดิม กับการต้องวิ่งหน้าตื่นลงไปตั้งรับ อีกทั้งการเสียบอลกลางทางก็ทำให้นักเตะเสียพลังงานเพิ่มขึ้นไปอีก ทำให้ช่วงท้ายครึ่งต้องผ่อน มิเช่นนั้นจะโดนเพิ่ม กระทั่งครึ่งหลัง รูปเกมเริ่มดีขึ้นและได้ประตูตีเสมอ แต่สุดท้ายดันมีความผิดพลาดส่วนบุคคล จนต้องแพ้แบบโดนน็อค

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ไม่มีแฮร์มิลตัน หนองบัวก็แค่ไก่บ้าน”

หนองบัว ขาดแฮร์มิลตัน ก่อนบุกพ่าย ท่าเรือ ขาดลอย 3-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 29 คู่สุดท้ายของวันอาทิตย์ ณ สนามแพท สเตเดี้ยม การท่าเรือ เอฟซี ที่เหลือเพียงทำผลงานให้ดีที่สุดในยุคของจเด็จ มีลาภ จะต้องพบกับ หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่ในตอนนี้มีลุ้นทำอันดับให้สูงที่สุดสำหรับประวัติศสตร์ของสโมสร ส่วนในเรื่องผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-4-2 ขณะที่ทีมเยือนเป็น 5-4-1      

ก่อนเกมจะเริ่มและในระหว่างแข่งช่วงต้นเกม ฝนตกสนามลื่นทำให้การต่อบอลยากลำบาก นั่นจึงทำให้ทั้ง 2 ทีมยังตั้งเกมไม่ติด กระนั้นเพียง 17 นาที หนองบัว พิชญ ต้องมาเลือก 10 เพราะ แรมซี่ย์ น็อตหลุดไปตบหู ธนบูรณ์ ทำให้สถานการณ์ก่อนเกมที่ไม่มี แฮร์มิลตัน ก็ว่าแย่แล้ว ตอนนี้ยิ่งแย่และเป็นรองกว่าเดิม ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ มีความได้เปรียบแต่ขึงบุกไม่ได้ อย่างไรเสียก็ยังมีจังหวะจบที่น่าได้สุดๆ แต่เหลี่ยมบอลไม่เป็นใจ  

ครึ่งหลัง การท่าเรือ ออกมาเล่นเกมบุก แล้วเพียงนาทีที่ 47 ก็ได้ประตูนำ 1-0 จากการเปิดเลียดของ ปกรณ์ แล้ว ยุทธพงษ์ สกัดพลาด ก่อนที่ กิตติคุณ จะพลาดต่อด้วยการรับหลุดมือ จากนั้นนาทีที่ 64 การท่าเรือมาได้ประตูทิ้งห่าง 2-0 จากการเปิดเลียดคล้ายๆกัน แต่คราวนี้ ซัวเรส ได้ยิงจ่อๆ ขณะที่ลูกปิดกล่อง 3-0 เป็นการโต้กลับ ซึ่งต้องชม ธีรศักดิ์ ที่ลากขึ้นมาและจ่ายให้ นูรูณ ยิง ส่วนทางฝั่ง หนองบัว เกมรับค่อนข้างรั่ว ยืนตำแหน่งหลุดและเปิดพื้นที่ให้เจ้าบ้านได้เปิดง่ายๆ ไม่ต่างจากเกมรุกที่พอไม่มีแฮร์มิลตัน ก็บุกไม่ขึ้นและไม่มีจังหวะจบแบบหวาดเสียวให้เห็น

      บทสรุปจากเกม การท่าเรือ เอฟซี ในครึ่งแรกเหมือนเสียเวลาไปแบบเปล่าประโยชน์ เพราะไม่สามารถทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอัน แม้คู่แข่งจะเหลือ 10 คน ตั้งแต่นาทีที่ 17 กระนั้นยังดีที่ครึ่งหลังได้ประตูเร็ว ทำให้ความมั่นใจเริ่มมาและยิงทิ้งห่างได้ ขณะที่ หนองบัว พิชญ เอฟซี พอออกไปเล่นทีมเยือนก็มักมีลักษณะแบบนี้ คือ เกมรับรั่วไหล แล้ววันนี้ดันมีความผิดพลาดส่วนบุคคลเข้ามาประกอบ

สุดท้ายจึงเสียประตูง่ายและเยอะ ไม่ต่างจากเกมรุกที่พอขาด แฮร์มิลตัน ไป พิษสงก็หมดไปด้วย ดังจะเห็นได้จากวันนี้ไม่ปรากฏให้เห็นถึงการโยนหรือลากเลี้ยงบอลขึ้นไปจาก ทาร์เดลี่ ซึ่งตรงจุดนี้ถือว่าน่าเป็นห่วงหากดาวยิงชาวบราซิลไม่อยู่ต่อ เพราะขนาดไม่อยู่บางแมตช์ ยังสร้างความแตกต่างได้ขนาดนี้ ฉะนั้นหากไม่มีถาวร พญาไก่ชนอาจเป็นทีมหนีตายก็เป็นได้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ตองพลาด วิลเลี่ยมพาล”

ท่าเรือ เจอมรสุม พ่าย ราชบุรี แบบสุดต้าน 3-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 ในโปรแกรมคือวันเสาร์ ณ สนามมิตรผล สเตเดี้ยม ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่แต้มยังไม่ขาดจากโซนแดง จะต้องพบกับ การท่าเรือ เอฟซี ของโค้ชจเด็จ ที่ขอแค่ทำผลงานให้ดีที่สุดเพื่อประธานสโมสรได้ภาคภูมิใจ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-3-3 ส่วนทีมเยือนก็ 4-3-3 เช่นเดียวกัน

      ในช่วงต้นเกมต่างฝ่ายต่างช่วงชิงจังหวะกันกลางสนาม จากนั้นเมื่อ 5 นาทีผ่าน การท่าเรือ มีการต่อบอลและเชื่อมตัวไกลได้ดี อีกทั้งยังมีการทำชิ่งริมเส้นจนได้เปิดอยู่เรื่อยๆ ส่วนทางฝั่ง ราชบุรี มิตรผล การทำเกมบุกไม่มีปรากฏ การลุ้นประตูมักมาจากการเล่นเร็วแบบฉาบฉวย กระนั้นความผิดพลาดของผู้รักษาประตูฝั่งทีมเยือนอย่าง กวินทร์ ก็ได้เปลี่ยนเกมครั้งใหญ่ด้วยการเตะบอลผิดเหลี่ยมเข้าประตูเป็น 1-0 ของเจ้าถิ่นเสียอย่างนั้น

      สถานการณ์ของ การท่าเรือ เลวร้ายขึ้นเมื่อ สตูเบิ้ล ไปสกัดไม่โดนและเสียจุดโทษเป็น 2-0 กระนั้นสิงห์เจ้าท่า เหมือนจะมีช่องทางกลับมาสู่เกมกับการได้จุดโทษ แต่ วิลเลี่ยม ดันหัวร้อนและเอาศีรษะไปดันหน้า ซาโตะ ทำให้ประตูตีตื้น 2-1 ไม่ค่อยมีความได้เปรียบ เพราะลูกทีมของน้าเด็จเหลือ 10 คน แล้วสกอร์ตามหลังและต้องเล่นแบบนี้ไปอีก 45 นาที เป็นอย่างน้อย

ครึ่งหลัง การท่าเรือ พยายามจะเปิดเกมบุกสู้ แต่การจ่ายบอลที่ไม่แม่นพอ ทำให้โดนตัดและถูกล่อเป้าเป็น 3-1 ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับทีมเยือนยืนหลวมและผู้รักษาประตูควรป้องกันได้ดีกว่านี้ จากนั้นในอีก 20 นาทีที่เหลือ เจ้าถิ่นถอนคันเร่งและมีความประมาท กระทั่งมาโดนยิงตีตื้น 3-2 ในนาทีที่ 88 แต่สุดท้ายก็เท่านั้นเพราะ สิงห์เจ้าท่าไม่สามารถทำอะไรได้กับช่วงเวลาอันน้อยนิด

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ฟอร์มการเล่นในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก เป็นรองคู่แข่งแบบเห็นได้ชัด แต่พอได้ประตูแบบส้มหล่นทั้งสวน พวกเขาเล่นดีขึ้นและไม่ทิ้งโอกาสที่จะได้ประตูทิ้งห่าง มิหนำซ้ำการดักบอลและโต้กลับ ยังมาได้ประตูทิ้งห่างอีก กระนั้นเกมรับต้องปรับปรุง โดยเฉพาะในช่วงที่สกอร์นำขาด ซึ่งไม่ควรประมาทง่ายๆแบบนั้น ขณะที่ การท่าเรือ เอฟซี รูปเกมกำลังได้โชว์ของ แต่พอเสียประตู เสียจุดโทษ และเหลือ 10 ตัว สถานการณ์ก็กลับตาลปัตรไปหมด อย่างไรก็ตามต้องชมในความใจสู้ในช่วง 20 นาทีแรกของครึ่งหลัง ซึ่งเป็นสิ่งที่หาดูได้ยากจากสิงห์เจ้าท่า ในช่วงหลังๆ แม้ในท้ายที่สุดจะยิงไม่ได้และเสียประตูเพิ่มอีกก็ตามที   

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด (แข้งเทพ)

“บอดโทษทำเจ๊า” บียู พลาดโทษท้ายเกม จึงได้แค่เจ๊า การท่าเรือ

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 2 ของฤดูกาล ในคู่ของวันอาทิตย์ อีกหนึ่งในเกมบิ๊กแมตช์อยู่ที่สนามธรรมศาสตร์รังสิต ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เปิดรังพบกับ การท่าเรือ เอฟซี สำหรับผังการเล่น เจ้าบ้านมาในระบบเดิม คือ  4-3-3 ขณะที่ทีมเยือนปรับมาเป็น 4-4-2

          ทั้ง 2 ทีม ต่างเล่นด้วยความรัดกุม โดยทางฝั่ง บียู มีสปีดการต่อบอลที่ช้า แล้ววันนี้มาเจอกับแนวรับที่ยืนได้แน่นและไม่เปิดช่องว่างเลย ทำให้เกมบุกดูตันๆไป ส่วนการท่าเรือ ได้ทำเกมบุกในลักษณะโต้กลับ แต่ก็ไม่สามารถสร้างจังหวะเข้าทำได้ในทันที เพราะแนวรับของเจ้าบ้านยืนประกบชิดจนพลิกบอลยาก ทำให้แนวรุกของสิงห์เจ้าท่า ต้องจ่ายย้อนแล้วต่อบอลกับถ่ายเปลี่ยนแกนเร็วเข้าสู้

          ประตูขึ้นนำ 0-1 ของการท่าเรือ มาจากความผิดพลาดของ ทอมเบียรห์ ที่เสียเหลี่ยมแบบหมดรูป แล้วซัวเรส จ่ายไซร์กก้อยให้ โบนีญ่า จบสกอร์ ซึ่งนี้เป็นโอกาสเหน่งๆครั้งแรกของทีมเยือนแล้วได้ประตูเลย จากนั้น บียู ก็เอาคืน ด้วยการเลี้ยงหลบจนคู่แข่งจนหลังหัก แล้วยิงเสียบเสาไกลเป็น 1-1 โดยการตัดสินใจที่จะเลี้ยงฝ่าในจังหวะนั้นอาจเป็นสิ่งที่ควรลองบ้าง เพราะการต่อบอลตลอด 45 นาทีแรก มันไม่สามารถนำไปสู่การจบสกอร์ได้

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

          ครึ่งหลัง การท่าเรือ ยังเล่นเกมรับได้ดีเหมือนเดิม ส่วนเกมรุกจะพยายามทำเร็วด้วยการวางบอลไปยังพื้นที่ริมเส้น จากนั้นจะเล่นไม่กี่จังหวะแล้วจบสกอร์ กระนั้นมันก็ยังไม่ค่อยใกล้เคียงกับการได้ประตู ขณะที่บียู ปรับแผนการเคลื่อนที่ การวิ่งนำทาง จ่าบอลไปข้างหน้า ไม่ออกข้างหรือคืนหลังถ้าไม่จำเป็น ซึ่งในลักษณะที่ว่ามานี้มันช่วยให้เกมบุกของแข้งเทพไหลลื่นขึ้น แต่ก็ไม่ได้มากนัก เพราะแนวรับของทีมเยือนไม่เปิดแผลให้ อย่างไรเสียในช่วงท้ายเกม ความผิดพลาดแบบเจตนาก็ช่วยหนุนนำให้ บียู มีโอกาสขึ้นนำจากจุดโทษ แต่ เฮแบร์ตี้ ดันยิงไม่มุมพอ ทำให้จบเกมด้วยการเสมอกันไป 1-1   

          ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม วันนี้เป็นเกมระดับคุณภาพ เพราะความผิดพลาดเล็กนิดเดียว มีผลถึงการเสียประตู หรือการฉวยโอกาสเพียงเสี้ยววินาที ก็สามารถช่วยให้ทีมได้ประตูเช่นกัน แต่หากเจาะลึกเฉพาะทีม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เล่นเกมรับได้รัดกุมดี แต่ความผิดพลาดครั้งเดียว ส่งผลร้ายถึงขั้นเสียประตู ขณะที่เกมรุก มีสปีดบอลที่ช้าเกิน ทำให้การเจาะแนวรับคู่แข่งดูตันๆในครึ่งแรก แต่พอครึ่งหลังมีการปรับสปีดและแท็กติกการเคลื่อนที่ มันก็ช่วยให้เกมไหลลื่นขึ้น ขณะที่การท่าเรือ เอฟซี เกมรับทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม ผิดกับนัดแรกที่พลาดบรรลัย ซึ่งการยืนป้องกันอย่างดีแบบนี้ ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญให้ทีมมีแต้ม ส่วนเกมรุก การสร้างโอกาสมีน้อยไปสักหน่อย แต่กระนั้นเมื่อมีโอกาสทอง ก็สามารถลงโทษได้ดี

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

ติดตามข่าวสารใหม่ได้ที่ livethaileague.com