Categories
ข่าวกีฬา

“นอกบ้านก็งั้นๆ”

หนองบัว ฟอร์มไม่แจ่ม แต่ยังแบ่งแต้มจาก เทโร 1-1

ศึกฟุตบอลรีโวไทยลีก นัดที่ 20 ในโปรแกรมของวันเสาร์ ณ สนามบุญยะจินดา โปลิศ เทโร เอฟซี ที่ผลงานอยู่เกณฑ์ดี แต่ยังไม่ชนะใคร จะต้องพบกับ หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่เกมในบ้านอย่างเทพ แต่เกมเยือนก็งั้นๆ สำหรับผังการแล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านปรับมาเล่น 4-4-2 แบบพลิกโผ ส่วนทีมเยือนอัดหลังแน่นในระบบ 5-3-2

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น โปลิศ เทโร จะใช้การครองบอลแบบค่อยๆต่อ แต่ปัญหาจะมาเกิดเมื่อถึงแดนสุดท้าย ซึ่งเจาะยากมาก นั่นจึงเป็นผลให้พวกเขาต้องใช้ความสามารถเฉพาะของนักเตะบางราย ซึ่งมันก็ดูได้ผลกับการลากเลื้อยแล้วแนวรับตามประกบไม่ค่อยทัน หรือหากมีช่องและมีโอกาส ก็จะเปิดบอลจากริมเส้น โดยประตูขึ้นนำ 1-0 ก็มาจากการเปิด แล้วแนวรับทีมเยือนอย่าง อากีราโน่ ผิดพลาดที่ไม่ตามประกบ ทำให้ได้โหม่งแบบเต็มศีรษะ ส่วนในยามที่ไม่มีบอล ผู้เล่นของมังกรโล่เงินจะบีบและเพรสซิ่งกลางสนาม เพื่อบีบบังคับให้คู่แข่งต้องสาดบอลยาว ขณะที่ หนองบัว พิชญ การป้องกันในแดนสุดท้ายทำได้ดี แต่ดันมามีความผิดพลาดส่วนบุคคล ส่วนเกมรุก พอเจอการเพรสซิ่งอย่างหนัก บอลจึงมาไม่ค่อยถึงกองหน้า กระนั้นหากมีโอกาส พวกเขาสามารถจบได้แบบมีเสียว ขาดแค่มันไม่เป็นประตู 

ครึ่งหลัง หนองบัว ลงมาบุกได้ไม่ได้นาน ก็ได้ประตูตีเสมอ 1-1 ซึ่งในจังหวะนี้ แนวรับเจ้าถิ่นผิดพลาดเต็มๆที่เปิดพื้นที่ให้วิ่งตัดและเปิดแบบไร้การรบกวน จากนั้นพอบอลถึงหน้าประตู จังหวะก็เป็นใจให้ทีมเยือนด้วยการชนเสาและมาเข้าทาง ทาร์เดลี่ ได้ยิง จากนั้นกลายเป็นเกมที่ต่างฝ่ายต่างทำเร็ว โดย เทโร จะไม่เน้นการต่อบอลเยอะ แต่จะเน้นการพาบอลขึ้นหน้าตลอด แล้วหากมีช่องก็ให้รีบซัด เพราะหากชักช้าช่องปิดแน่นอน ส่วนทางฝั่ง หนองบัว ดูบุกน้อยกว่า แต่การเปิดบอลให้โหม่งยังอันตรายเสมอ ตรงข้ามกับการยิงไกลที่ไม่ค่อยใกล้เคียง

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม โปลิศ เทโร เอฟซี พยายามเล่นให้หลากหลาย แต่พอเจอความเขี้ยวในแดนสุดท้ายของคู่แข่ง ก็จำเป็นต้องโยนและเลี้ยงฝ่า ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่า ส่วนเกมรับ มีความผิดพลาดในลูกที่เสียประตู รวมถึงการป้องกันลูกกลางอากาศที่เอาไม่ค่อยอยู่ ขณะที่ หนองบัว พิชญ เอฟซี เกมรับยืนป้องกันได้ดี แต่มีความผิดพลาดส่วนบุคคลจนต้องเสียประตู ส่วนเกมรุก การโหม่งคืออาวุธเด็ด แต่วันนี้นำไม่พาไปสู่ประตู กระนั้นยังดีที่จังหวะเป็นใจและได้ประตูตีเสมอ พร้อมกับคว้าแต้มกลับบ้าน

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“จงอางทำเหนื่อย”

บีจี เกือบแย่ แต่ยังตามเจ๊า ขอนแก่น 2-2 เก็บแต้มกลับบ้าน

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 20 ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามกีฬากลางจังหวัดขอนแก่น ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่ดูจะเบาใจกันการหนีตายได้ในระดับหนึ่ง จะต้องพบกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ปลดล็อคชัยในลีก แต่ก็จำเป็นต้องเก็บชัยให้ได้เยอะๆ เพื่อชดเชยแต้มที่ทำหล่นไป สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-5-2 ตามเดิม เช่นกันกับทีมเยือนที่เป็น 4-4-2

บีจี ปทุม ส่งแนวรับอย่าง ตูเญช กับ วิคเตอร์ ลงมายยืนคู่กัน ซึ่งการสกัดบอลดี แต่สปีดช้า ทำให้การเสียบอลกลางทางและโดนโต้กลับอย่างรวดเร็ว ก็มีผลให้พวกเขาเสีย 2 ประตู ในครึ่งแรก ส่วน 1 ประตูที่ได้ มาจากการโต้กลับ ซึ่งแนวรับทีมเยือนพลาดที่เปิดพื้นที่และเวลากับ ปฐมพล มากเกินไป จนบอลมาถึงหัวของ อิคซาน ซึ่งโหม่งไม่ดีมาก แต่ ยศพล กะจังหวะพลาดจนรับบอลไม่อยู่มือ ขณะที่ ขอนแก่น เกมรับ มีความผิดพลาดและถูกลงโทษทันที ส่วนเกมรุกพยายามใช้ความเร็วและการแทงบอลเล่นงานทีมเยือน ซึ่งได้ผลเป็นอย่างอย่างดี

ครึ่งหลัง บีจี ปทุม เปลี่ยน อิรฟาน ลงมาแทน ซึ่งมันแก้ปัญหาในเรื่องการสวนกลับได้ดี เพราะแนวรับทีมชาติสิงคโปร์ มีความเร็วที่จะตามไปสกัดบอลได้ หากคู่แข่งให้บอลในลักษณะการแทง อีกทั้งเกมโต้กลับของ ขอนแก่น ก็ไม่สามารถพาเข้ากรอบเขตโทษได้อีกต่อไป ส่วนเกมรุกของทัพกระต่ายแก้ว ยังเชื่อมไม่ค่อยติด กระทั่งมาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากจุดโทษ โดยในจังหวะนี ยศพล เข้าพรวดแบบไม่มีความจำเป็น จากนั้นทีมเยือนพยายามเพรสซิ่งสูงเพื่อชิงบอล แล้วเอามาโจมตีด้วยการต่อและเปิดด้านข้าง ซึ่งมันมีโอกาสแต่ทำไม่ได้ ทำให้จบเกมด้วยการเจ๊า

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ขอนแก่น ยูไนเต็ด เกมรับมีความผิดพลาดแบบทั้งแผงและส่วนบุคคล ซึ่งอย่างหลังเป็นเหตุให้เสียประตู โดยเฉพาะ ยศพล ที่ต้องรับเต็มๆกับการเสียทั้ง 2 ลูก ส่วนเกมรุก การแทงบอลและการใช้ความเร็วเล่นงาน ถือว่าได้ผล แต่พอครึ่งหลังโดนแก้ทางจนไม่สามารถทำอะไรได้ ขณะที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด การส่งกองหลังที่เชื่องช้าลงสนามพร้อมกัน ถือเป็นความผิดพลาด เพราะมันเป็นเหตุให้เสียประตูถึง 2 ลูก อีกทั้งเกมรับยังจ่ายบอลเสียง่ายๆอีก ส่วนเกมรุก ความหลากหลายไม่มีตามสไตล์ แต่เน้นความแม่นยำจากสิ่งที่เป็นจุดเด่น ซึ่งในครึ่งหลังมีโอกาสแล้วดันทำไม่ได้ ทำให้เกมนี้ได้แค่เจ๊า

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ไม่เคยชนะใคร นอกจากปราการ”

เชียงใหม่ ยังไม่ยอมตาย ตบ ปราการ แบบไปกลับในถิ่น 2-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 20 ในส่วนของโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่อาการโคม่าแบบปางตาย จะต้องเปิดบ้านรับ สมุทรปราการ ซิตี้ ที่นับตั้งแต่เปิดเลก 2 มา ก็ยังไม่ชนะใคร ฉะนั้นในแมตช์นี้ ถ้าช้างเผือกเก็บ 3 แต้มได้  ก็จะเป็นการต่อลมหายใจของตัวเองให้มีลุ้นต่อ แต่ถ้าเป็นเขี้ยวสมุทรได้ 3 แต้ม กลุ่มทีมหนีตายก็จะต้องขับเคี่ยวกันต่อไป สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-4-2-1 ส่วนทีมเยือนเป็น 4-4-2 ตามเดิม

เกมการแข่งขันเริ่มขึ้น สมุทรปราการ ไม่มีรูปแบบการขึ้นเกมรุก ทำให้ภาพที่เห็นบ่อยๆ คือ ฝากบอลไปที่ โรซ่า เพื่อใช้ความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงไป ซี่งดูเหมือนจะไม่อันตราย แต่แนวรับเจ้าถิ่นดันสกัดบอลพลาดและมีความผิดพลาดง่ายๆ ทำให้การบุกของเขี้ยวสมุทรดูอันตรายขึ้น ขณะที่ เชียงใหม่ เกมรุกมีรูปแแบบการเข้าทำที่หลากหลาย ซึ่งแล้วแต่จังหวะและโอกาส โดยรูปแบบที่เห็นใน 45 นาทีแรก คือ การขึ้นบอลเร็วแล้วจ่ายตัดหลังแบ็คโฟร์ การจ่ายบอลจังหวะเดียวแบบขึ้นหน้าตลอด และประตูนำ 1-0 ที่เซตบอลและเกือบเสีย แต่ยังจิ้มบอลกลับมา แล้วมีการข้ามหลอกให้ บิลล์ ยิง ซึ่งหากไม่มีทีมเวิรค์ บอลจังหวะนี้จะถูกสกัดได้แน่นอน เพราะช่องค่อนข้างแคบ

ครึ่งหลัง สมุทรปราการ พยายามบุก ซึ่งอาวุธและไอเดียไม่มีอะไร แต่การสกัดบอลและความผิดพลาดของแนวรับเจ้าถิ่น มีผลให้เขี้ยวสมุทร มีโอกาสยิงตีเสมอ กระนั้นประตูนำ 2-0 แนวรับทีมเยือนผิดพลาดที่ไม่ประกบตัวเสาไกล ทำให้บอลเลยมาถึง ศิริศักดิ์ ไปยิงจ่อๆหน้าประตู จากนั้นกลายเป็นงานยากของ สมุทรปราการ ที่ต้องบุก แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีอะไรดีขึ้น มิหนำซ้ำยังมาเหลือ 10 ตัว ทำให้ท้ายเกมมีอาการถอดใจ

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม เชียงใหม่ ยูไนเต็ด เกมรุกแทบจะไม่น่าห่วง เพราะยิงประตูได้ทุกเกมในเลกที่ 2 แต่ปัญหาที่ชี้วัดผลการแข่งขัน คือ เกมรับ ซึ่งในวันนี้มีความผิดพลาดและควรเสียประตู แต่ทีมเยือนทำไม่ได้เอง ทำให้วันนี้ยังดวงดีและคว้า 3 แต้ม แบบมีเหนื่อย ขณะที่ สมุทรปราการ ซิตี้ กลายไปกลายมาจะเป็นบอลที่กู่ไม่กลับ เพราะเล่นดียังไงก็ไม่ชนะ กระทั่งขาดความมั่นใจจนเล่นได้ไม่ดี ซึ่งก็เห็นได้จากวันนี้ที่เกมรับมีรูรั่ว เกมรุกไม่มีไอเดีย ซึ่งอย่างน้อยหากไม่มีไอเดีย การรอบอลเก็บตกก็ควรจะทำได้ แต่แนวรุกดันทิ้งขวางโอกาสไป ทำให้นับจากนี้คงต้องลุ้นหนีตายอย่างเต็มตัว

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“เก้าอี้ร้อนจนด้าน”

ท่าเรือ ยังไม่ฟื้น บุกพ่าย เมืองทอง 2-1 ร่วงรูดลงกลางตาราง

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 20 ในโปรแกรมของคืนวันเสาร์ ณ สนามธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ตอกชอกช้ำจากการโดนอุทัยธานีเขี่ยตกรอบบอลถ้วยทั้ง 2 รายการ จะต้องเปิดบ้านพบกับ การท่าเรือ เอฟซี ที่นับตั้งแต่เปิดเลก 2 ยังไม่ชนะ อีกทั้งยังตกรอบบอลถ้วยหมดทุกรายการเหมือนกัน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-1-4-1 ส่วนทีมเยือนเป็น 4-4-1-1

      การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น เมืองทอง ใช้เวลาราว 5 นาที ก็สามารถตั้งเกมด้วยการขึ้นบอลจากหลังและใช้การทำชิ่ง กับ โยกเปลี่ยนแกนเร็วเป็นการทำเกมรุก กระนั้นประตูนำ 1-0 มาจากจังหวะเตะมุม ที่ พ็อพพ์ ได้โหม่งบริเวณเสาไกลเข้าไป โดยในจังหวะนี้ โรลเลอร์ ไม่แข็งแรงพอที่จะเบียด แต่สำหรับ กวินทร์ ถือว่าผิดพลาดที่วางเท้าและพุ่งไม่สุดตัว ทั้งๆที่วิถีบอลไม่มุมและยังอยู่ในระยะที่จะป้องกันได้ ขณะที่ การท่าเรือ การต่อบอลและทำเกมรุกมีความไหลลื่น เพราะมี ซัวเรช คอยเชื่อมบอลทั้ง 2 ฝั่ง ซ้าย-ขวา แต่การจบสกอร์ไม่ดี

ครึ่งหลัง การท่าเรือ พยายามเร่งจังหวะเกมรุก ซึ่งการเร่งมากๆมันก็มีบางทีเกือบได้ผล แต่หลายจังหวะมันเร่งแล้วเสียของ จนทำให้ เมืองทอง ได้โต้กลับและได้ประตู 2-0 จากลูกเตะมุม ที่มีการโหม่งชงมาให้ ธีระพล ซัด แล้วแนวรับสิงห์เจ้าท่าไปยืนกองกันบริเวณเสาแรกและกลับมายืนขวางทางไม่ทัน จากนั้น โค้ชอู๊ด พยายามแก้เกมด้วยการเปลี่ยน โก ซุล-กิ ลงมา แล้วในทันทีก็ได้ประตูตีตื้น 2-1 ซึ่งเป็นการเปิดที่เข้าหัวพอดี กระนั้นแทนที่พวกเขาจะโหมบุกต่อ มันกลายเป็นว่าลูกทีมของโค้ชอู๊ดขึงไม่ได้และได้แต่ลุ้นประตูจากการยิงนอกกรอบ   

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด เกมรับทำหน้าที่ได้ดี แม้จะภาพที่เกือบหลุด แต่มันก็ไม่ถึงกับผิดพลาดอะไร โดยประตูที่เสียไปก็ต้องยอม เพราะคู่แข่งเปิดแม่น ส่วนเกมรุก วันนี้เชื่อมเกมกันติดเร็วและไม่ต้องใช้เวลานาน ทำให้ประตูแรกมาเร็ว ขณะที่ การท่าเรือ เอฟซี เกมรับผิดพลาดไม่บ่อย แต่ผิดพลาดทีไรโดนลงโทษด้วยการเสียประตูทันที ทำให้ภาระตกไปอยู่ที่เกมรุก ซึ่งมีช่วงเวลาที่ต่อบอลได้ไหลลื่นเป็นบางช่วง ทำให้ไม่สามารถขึงและโหมใส่เจ้าถิ่นได้ สุดท้ายในเมื่อไม่มีประตูมาชดเชย ก็ต้องพ่ายแพ้ไปอีกเกม

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์

วิเคราะห์ รีโว่ไทยลีก นัดที่ 20 (วันอาทิตย์)

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 20 ในวันอาทิตย์นี้ ยังมีเกมการแข่งขันให้ได้ชมอีก 4 คู่ ซึ่งในส่วนของวันนี้ เกมระดับบิ๊กแมตช์ไม่มี แต่หากเป็นเกมหนีตาย ขอรับประกันว่ามันส์หยดแน่ โดยสถานการณ์จะเป็นอย่างไรและใครมีโอกาสคว้าแต้ม นับจากนี้เราจะได้ทราบกัน   

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบกับ พีที ประจวบ เอฟซี (18.00 น.)

      โมเมนตัมของ บุรีรัมย์ ดูเหมือนจะนำโด่งแบบม้วนเดียวจบ แต่การสะดุดหัวทิ่มอย่างจังเมื่อนัดที่แล้ว ก็มีผลให้ทีมตามใจชื้นขึ้นมาบ้าง ส่วนทางฝั่ง ประจวบ การเก็บ 3 แต้ม จากโคราช ทำให้การหนีตายมีกำลังใจขึ้นมา แต่การต้องบุกมาเยือนช้างอารีนา ดูแล้วน่าจะเสร็จเจ้าบ้านด้วย 3 แต้ม   

ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด พบกับ ชลบุรี เอฟซี  (18.00 น.)

      เชียงราย ได้ลงเล่นในบ้านเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งหากเป็นทีมอื่น การลงเล่นในบ้าน คือ ของหวาน แต่สำหรับอดีตแชมป์ไทยลีก นี่คือ ยาขม เพราะผลงานมักออกมาด้วยความพ่ายแพ้ หรือการแบ่งแต้ม ซึ่งมันก็ไม่แปลกนักที่จะเป็นแบบนี้ เพราะเมื่อไรที่เจอทีมมาอุดหน้าบ้าน ก็มักจะไปไม่เป็น ส่วนทางฝั่ง ชลบุรี ผลงานในภาพรวมถือว่ามาได้ดีกว่าที่คาด ทำให้การขึ้นเหนือในครั้งนี้ เชื่อว่าฉลามชลจะมีอย่าง 1 แต้ม กลับบ้าน

เชียงใหม่ ยูไนเต็ด พบกับ สมุทรปราการ ซิตี้ (18.00 น.)

      การเปิดบ้านพ่าย สุพรรณบุรี ไปเมื่อกลางสัปดาห์ ทำให้การหนีตายเริ่มเหนื่อยขึ้น ซึ่งเกมที่ผ่านมาและก่อนหน้านี้ เชียงใหม่ สู้ได้ดีและยิงประตูได้ แต่การเสียประตูง่ายๆ มันก็ไม่แปลกที่จะไม่ชนะเสียที ส่วนทางฝั่ง สมุทรปราการ เป็นบอลมีทรง แต่ผลการแข่งขันมันได้แค่แบ่งแต้ม นั่นจึงเป็นผลให้พวกเขาวนเวียนและคาบเกี่ยวโซนแดง สำหรับเกมนัดนี้ แน่นอนว่ามีความหมายมากๆสำหรับทั้งคู่ แต่สุดท้ายมองว่าเขี้ยวสมุทรไม่แพ้

สุพรรณบุรี เอฟซี พบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี (19.00 น.)

      สุพรรณบุรี ทรงบอลไม่สวย แต่มีตัวต่างชาติดีจนเก็บแต้มได้รัวๆ พร้อมกับหนีโซนแดงได้แล้ว กระนั้นเพื่อความอุ่นใจ ก็ยังคงต้องเดินหน้าเก็บแต้มต่อไป ส่วนทางฝั่งโคราช การทำผลงานที่ดีก่อนหน้านี้ ทำให้ไม่ต้องก้มมองถึงการหนีตาย หากแต่มองสูงและพยายามทำอันดับดีๆเข้าไว้ ฉะนั้นในแง่ของพลังใจ ช้างศึกยุทธหัตถีมีเป้าหมายที่ต้องทำและน่าจะเป็นผู้ชนะแบบเฉือนๆ  

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ในบ้านยังจืดไม่เสื่อมคลาย”

เชียงราย ยังจืด เปิดบ้านเจ๊า เทโร แบบโน่สกอร์ 0-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 19 ในโปรแกรมของวันเสาร์ ณ สนามลีโอเชียงราย ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ผลงานในบ้านยังเป็นอาถรรพ์ เพราะเก็บชัยชนะได้น้อยมากๆ จะต้องพบกับ โปลิศ เทโร เอฟซี ที่ควรจะเก็บชัยชนะสักหน่อย เพื่อให้สถานการณ์ลอยลำมากว่านี้ เพราะทีมด้านล่างต่างทำคะแนนตีตื้นขึ้นมาแล้ว สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านยังยึด 3-4-3 เช่นเดิม ขณะที่ทีมเยือนปรับเป็น 4-4-2

การแข่งขันในช่วง 15 นาที ไม่มีฝั่งไหนที่ตั้งเกมได้ โดยทางฝั่ง เทโร มีความผิดพลาดที่จ่ายบอลเสีน จนเกือบเสียประตูเลยทีเดียว ส่วนเกมบุกของทีมเยือน จะเป็นในลักษณะลากขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยแนวทางที่รีบขึ้นรีบยิง มันก็มีผลให้การจบสกอร์ตรงนี้ไม่มีความใกล้เคียงที่จะเป็นประตู ส่วนทางฝั่ง เชียงราย ต่อบอลขึ้นมาช้าจนโดนปิดพื้นที่ สุดท้ายจึงทำได้เพียงเปิดโด่งและไม่เข้าเป้า

ครึ่งหลัง รูปเกมแทบไม่ต่างจากเดิม เริ่มจาก เทโร ที่ยังมีภาพของการจ่ายเสียหน้าบ้านตัวเองแบบง่ายๆ แล้วยิ่งไปกว่านั้น คือ เกมรุกมลายหายสิ้นแบบไม่มีจังหวะจบเลย ส่วนทางฝั่ง เชียงราย ทำเกมบุกไม่ต่อเนื่อง และไม่มีรูปแบบการเข้าทำที่อันตรายพอ กระทั่งแนวรับทีมเยือนเริ่มถอยลึกมากขึ้น แนวรุกกว่างโซ้งมหาภัยก็มีโอกาสได้ยิงไกล แต่การรีบยิงแบบไม่ดูระยะและมุม รวมถึงการวางเท้าที่ไม่แม่นยำ มันก็เป็นผลให้พวกเขายิงประตูไม่ได้และต้องก้มหน้ารับ 1 แต้ม อีกเกม

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด เกมรับแทบจะไม่มีงานหนัก เพราะคู่แข่งไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ เว้นเสียแต่แนวรุก ที่เจอปัญหาทุกครั้งยามโดนอุดประตูใส่ แล้วดันไม่มีแผนหรือวิธีการบุกอย่างอื่นมาทดแทน ทำให้สุดท้ายได้แค่แต้มเดียว ซึ่งอารมณ์และความรู้สึก มันไม่ต่างอะไรกับแพ้ เพราะคู่งแข่งไม่มีอะไรจะมาต่อกรได้แล้ว แต่ตัวเองดันทำไม่ได้เอง ขณะที่ โปลิศ เทโร เอฟซี วันนี้เล่นหลุดฟอร์ม ไล่ตั้งแต่ เกมรับเสียที่บอลง่าย เกมรุกมีแค่การลากเลื้อยของผู้เล่นเพียงไม่กี่คน ซึ่งไม่มีภาพของการต่อบอลสวยๆเลย โดยเฉพาะในครึ่งหลัง ฉะนั้นฟอร์มแบบนี้สมควรพ่ายแพ้ แต่เดชะบุญที่เจ้าบ้านดันไม่มีน้ำยา ทำให้มังกรโล่เงินคว้าแต้มกลับบ้านเป็นของโบนัส  

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์

วิเคราะห์รีโว่ไทยลีก นัดที่ 20 (วันเสาร์)

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 20 ในวันเสาร์นี้ มีเกมการแข่งขันให้ได้ชมกันอย่างต่อเนื่องถึง 4 คู่ กระนั้นสำหรับบางทีม ก็ต้องเหนื่อยมากจากเกมกลางสัปดาห์ เพราะมีแมตช์ตกค้าง ซึ่งสุดท้ายแล้วมันจะส่งผลหรือไม่ นับจากนี้เราจะได้รู้กัน

ขอนแก่น ยูไนเต็ด พบกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (18.00 น.) 

      คู่ประเดิมสนามในสัปดาห์นี้ ขอนแก่น ต้องเปิดบ้านรับ บีจี ปทุม โดยทาฝั่งเจ้าบ้าน ได้พักมาสัปดาห์กว่า หลังจากลงเล่นนัดล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว กระนั้นสิ่งที่ต้องตาม คือ แนวรุกจะกลับมายืนกันครบได้หรือยัง ส่วนทางฝั่งทีมเยือน พึ่งลงสนามในเกมบอลถ้วยกลางสัปดาห์ ทำให้ความฟิตอาจไม่เต็มถังนัก อย่างไรเสียหากต้องฟันธง ก็เชื่อว่ากระต่ายแก้วจะไม่แพ้ในเกมนี้

โปลิศ เทโร เอฟซี พบกับ หนองบัว พิชญ เอฟซี (18.00 น.)

      เทโร ของโค้ชอ้น ดูเหมือนจะธรรมดา แต่หลังจากเปิดเลก 2 มา ก็มีหลายนัดที่สร้างความเจ็บทรวงแก่ทีมใหญ่ หรือทีมฟอร์มแรง ซึ่งมันประจวบเหมาะจริงๆ ที่ได้มาเจอ หนองบัว ผู้ฆ่าทีมยักษ์ใหญ่ให้ตายในบ้านตัวเองมาหลายนัด นั่นจึงทำให้มองว่าเกมนี้จะสนุกและไม่ง่วงนอน แต่สุดท้ายมังกรโล่เงินจะมี 1 คะแนน เป็นเบื้องต้น  

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบกับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี (18.30 น.)

      บียู ยิงประตูฝืดและทำแต้มหล่นมาหลายนัด ก่อนจะปลดล็อคในนัดที่ผ่านมา ซึ่งยังดีกว่า ราชบุรี ที่ทำไปทำมาจะต้องหนีตายเสียจริงๆ เพราะจากฟอร์มการเล่นที่ไม่เอาอ่าวและไม่บันเทิงสายตา อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนแปลงและดึงโค้ชใหม่เข้ามา ฉะนั้นเกมนัดนี้ แข้งเทพมีโอกาสเป็นผู้ชนะสูง แต่อาจจะยิงไม่ขาด   

เมืองทอง ยูไนเต็ด พบกับ การท่าเรือ เอฟซี (19.00 น.)

      สถานการณ์ของ เมืองทอง ต่อให้ผลงานไม่เป็นใจ ก็ไม่มีใครว่า แต่การแพ้ต่อ อุทัยธานี คาบ้าน ซ้ำ 2 มันก็ส่งผลต่อความมั่นใจในทีมอยู่ไม่น้อย อีกทั้งต้องไม่ลืมว่าพวกเขาพึ่งจะกลับมาลงทีม ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ สถานการณ์กดดันจนไม่รู้จะกดดันยังไงแล้ว เพราะในลีกผลงานไม่ดีจนหมดลุ้นแชมป์ บอลถ้วยก็ตกรอบหมดแล้ว ทำให้เงินที่ลงทุนไปแทบจะสูญเปล่าในทันที ฉะนั้นการพบกันของทั้ง 2 ทีม ย่อมต่างมุ่งหวังเพื่อผลการแข่งขันที่ดีเพื่อหาจุดเปลี่ยน กระนั้นหากต้องเลือกข้าง ก็คงมองว่ากิเลนผยองจะไม่แพ้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

สรุปภาพรวม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในเลกที่ 1 ฤดูกาล 2021/22

สรุปภาพรวม-บีจี-ปทุม-ยูไนเต็ด1-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก ฤดูกาล 2021/22 ของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้สะท้อนให้เห็นถึงคำกล่าวที่ว่า “เป็นแชมป์นั่นยาก แต่ป้องกันแชมป์นั่นยากกว่า” เพราะในช่วงเริ่มต้น พวกเขายังคงโชว์ฟอร์มได้สมราคาแชมป์เก่า แต่พอผลงานเริ่มสะดุด พวกเขาได้มีการปลด วิดมาร์ ออก พร้อมกลับลำมาใช้โค้ชเก่าอย่าง ดุสิต เฉลิมแสน แล้วใน 2 นัดสุดท้าย ดันสะดุดอย่างรุนแรงด้วยการพ่ายแพ้ทั้งหมด อีกทั้งอันดับยังร่วงลงไปถึงที่ 4 ของตาราง

      ย้อนกลับไปในช่วงต้นฤดูกาล บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้มีการแต่งตั้งโค้ชใหม่หน้าเดิมอย่าง เรออนาโด้ วิดมาร์ ซึ่งเคยคุมทีมเมื่อช่วงปี 2016 โดยการแข่งขัน ACL รอบแบ่งกลุ่ม ถือเป็นงานแรกของกุนซือชาวออสเตรเลีย แล้วสุดท้ายสามารถพาทีมเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ด้วยการเป็นอันดับ 2 ที่ดีที่สุด ถัดมาได้พาทีมบุกไปคว้าถ้วยไทยแลนด์แชมป์เปี้ยนส์ คัพ ก่อนเปิดฤดูกาลรีโว่ไทยลีก

การออกสตาร์ทเกมลีก บีจี ปทุม ต้องเผชิญปัญหาตัวผู้เล่นในแนวรับมีอาการบาดเจ็บแบบยกแผง มิหนำซ้ำ แนวรุกคนสำคัญอย่าง ดิโอโก้ ก็ต้องพักนาน 3 เดือน จากปัญหาบาดเจ็บที่หัวไหล่ นั่นจึงทำให้ วิดมาร์ ต้องหมุนเวียนผู้เล่น แต่ผลงานก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี กระนั้นพอผ่านไปได้ครึ่งทาง ตัวสำรองไม่สามารถทดแทนได้แนบสนิท ทำให้เริ่มมีเกมที่แพ้แบบพลิกล็อคและสะดุดเสมอ ได้แก่ แพ้เชียงรายและเทโรในบ้าน กับบุกไปเสมอโคราช กระทั่งหลังเกมที่ชนะ สมุทรปราการ 1-0 บอร์ดบริหารของทีมได้เรียกโค้ชโอ่งกลับมาคุมทีม ขณะที่ วิดมาร์ ขอลาออกและไม่รับตำแหน่งฝ่ายเทคนิค โดยเหตุผลที่บอสปวิณพูดถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ คือ “โค้ชผมดื้อ”

การเริ่มงานนัดแรกในรอบสองของโค้ชโอ่ง เริ่มต้นด้วยการบุกไปพ่าย หนองบัว พิชญ ซึ่งนี่ถือเป็นความพ่ายแพ้นัดแรกของฤดูกาล จากนั้นนัดต่อไปต้องบุกไปเยือนการท่าเรือ แล้วแพ้ออกมา 1-0 ในสภาพที่ว่า บีจี ปทุม สู้ไม่ได้และรูปเกมไม่เป็นทรงเลย ทำให้จากเกาะกลุ่มหัวตารางอยู่ดีๆ กลายเป็นต้องลงมารั้งอันดับที่ 4

ในเลกที่ 2 ของ บีจี ปทุม หากผลงานออกมาดี โค้ชโอ่งย่อมได้คุมต่อยาวๆ แต่จากผลงาน 2 นัด ก่อนปิดเลกแรก ถือว่าเสียหายและเพิ่มความกดดันในการออกสตาร์เลกที่ 2 ที่ต้องชนะ แล้วถ้าผลออกมาไม่เป็นดังที่คาดหวัง มันก็น่าคิดไม่น้อยว่าบอร์ดบริหารจะยังไว้ใจอยู่หรือไม่ เพราะนอกจากจะต้องป้องกันแชมป์ไทยลีกแล้ว ก็ต้องไม่ลืมว่ากระต่ายแก้วมีคิวต้องลงเล่น ACL รอบแบ่งกลุ่มอีกด้วย

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“งูป่วยนั่นเคี้ยวง่าย”

ชลบุรี งานง่าย ไล่ทุบ ขอนแก่น 2-0 เกาะที่ 3 เหนียวแน่น

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 18 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ที่สนามชลบุรี สเตเดี้ยม ชลบุรี เอฟซี ที่ตอนนี้กำลังลอยลำอยู่ในอันดับที่ 3 จะต้องพบกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่มาในสภาพพิการค่อนทีม เพราะมีผู้เล่นติดเชื้อโควิด-19 แต่ก็โชว์สปิริตไม่ขอเลื่อนการแข่งขัน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-2-3-1 ขณะที่ทีมเยือนใช้ 3-5-2

การแข่งขันเริ่มตันขึ้น ยังไม่มีฝ่ายไหนตั้งเกมได้แบบเบ็ดเสร็จ จนเวลาผ่านไป 15 – 20 นาที ชลบุรี เริ่มจะต่อบอลได้ไหลลื่น โดยเฉพาะทางฝั่งซ้ายที่มี โบลเกียห์ กระชากลากเลื้อย กระทั่งมาได้ประตูนำ 1-0 จากการลากหาช่อง แล้วจัดการเปิดไปให้ ยู บยอง – ซู จัดการกระซวกตาข่าย ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับทีมเยือนพลาดที่เปิดพื้นที่ให้วางบอลเข้ามาง่ายๆ อีกทั้งด้านในก็ไม่ดูการเคลื่อนที่ของ ยู หลังจากนั้นฉลามชลก็มีโอกาสจบสกอร์ตลอด แต่ไม่สามารถยิงเพิ่มได้ ซึ่งหากเอามาประมวลแล้วมันน่าเอาไม้ฟาดเรียงตัว เพราะโอกาสมันเหน่งแบบไม่ควรทำหมูหก ขณะที่ ขอนแก่น การขาดหายตังผู้เล่นหลัก มีผลให้ฟอร์มการเล่นดรอปลง โดยเกมรับมีจังหวะอ่านบอลพลาดทั้งแผง ส่วนแนวรุกที่เคยมีทีเด็ดในการโต้กลับ ก็มักมีภาพของการเสียบอลเมื่อถึงจังหวะที่จะต้องเข้าทำ

ครึ่งหลัง เกมรุกของ ขอนแก่น มลายหายสิ้นไปเลย ทำให้ ชลบุรี สามารถครองบอลไปเรื่อยๆ ซึ่งมันก็มีช่วงเวลาที่เล่นน่าเบื่อและสร้างโอกาสเข้าทำ แต่ในขณะเดียวกันมันก็เริ่มเห็นถึงการใช้โอกาสที่สิ้นเปลื้อง อย่างไรก็ตาม ฉลามชลก็มาบวกประตู 2-0 จากการต่อบอลขึ้นมาจนถึงแดนอันตราย กระนั้นจังหวะก็เป็นใจ เพราะผู้เล่นขอนแก่นไปชนกันเอง ทำให้ได้ยิงโล่งๆและง่ายๆ

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ชลบุรี เอฟซี เหนือกว่าด้วยศักยภาพผู้เล่น และในวันนี้ยิ่งเหนือขึ้นไปอีกเพราะสภาพทีมคู่แข่งไม่พร้อม แต่ในวันนี้พวกเขาโชว์ฟอร์มไม่ค่อยน่าประทับใจเสียเท่าไร เพราะการบุกแบบวันเวย์ อย่างน้อยๆมันควรจบตั้งแต่ครึ่งแรก หรือ 1 ชม แรกของเกม มิใช่รอถึงท้ายเกม แถมได้มาเพราะจังหวะเป็นใจ ขณะที่ ขอนแก่น ยูไนเต็ด การมาเยือนในสภาพผู้เล่นติดเชื่อครึ่งทีม มันก็เป็นงานยากที่จะต่อกรกับเจ้าถิ่น โดยเฉพาะทีเด็ดในแนวรุกที่ใช้น็อคคู่แข่งมาให้เห็นก่อนหน้านี้ แล้วสุดท้ายด้วยสภาพที่ไม่สมบูรณ์ ก็ต้องพ่ายแพ้ด้วยสกอร์ที่ไม่มาก หากดูจากในเกมที่สามารถโดนส่องได้ทุกเวลา

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

สรุปภาพรวม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ในเลกที่ 1 ฤดูกาล 2021/22

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก ฤดูกาล 2021/22 ของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้สะท้อนให้เห็นถึงคำกล่าวที่ว่า “เป็นแชมป์นั่นยาก แต่ป้องกันแชมป์นั่นยากกว่า” เพราะในช่วงเริ่มต้น พวกเขายังคงโชว์ฟอร์มได้สมราคาแชมป์เก่า แต่พอผลงานเริ่มสะดุด พวกเขาได้มีการปลด วิดมาร์ ออก พร้อมกลับลำมาใช้โค้ชเก่าอย่าง ดุสิต เฉลิมแสน แล้วใน 2 นัดสุดท้าย ดันสะดุดอย่างรุนแรงด้วยการพ่ายแพ้ทั้งหมด อีกทั้งอันดับยังร่วงลงไปถึงที่ 4 ของตาราง

      ย้อนกลับไปในช่วงต้นฤดูกาล บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้มีการแต่งตั้งโค้ชใหม่หน้าเดิมอย่าง เรออนาโด้ วิดมาร์ ซึ่งเคยคุมทีมเมื่อช่วงปี 2016 โดยการแข่งขัน ACL รอบแบ่งกลุ่ม ถือเป็นงานแรกของกุนซือชาวออสเตรเลีย แล้วสุดท้ายสามารถพาทีมเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ด้วยการเป็นอันดับ 2 ที่ดีที่สุด ถัดมาได้พาทีมบุกไปคว้าถ้วยไทยแลนด์แชมป์เปี้ยนส์ คัพ ก่อนเปิดฤดูกาลรีโว่ไทยลีก

การออกสตาร์ทเกมลีก บีจี ปทุม ต้องเผชิญปัญหาตัวผู้เล่นในแนวรับมีอาการบาดเจ็บแบบยกแผง มิหนำซ้ำ แนวรุกคนสำคัญอย่าง ดิโอโก้ ก็ต้องพักนาน 3 เดือน จากปัญหาบาดเจ็บที่หัวไหล่ นั่นจึงทำให้ วิดมาร์ ต้องหมุนเวียนผู้เล่น แต่ผลงานก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี กระนั้นพอผ่านไปได้ครึ่งทาง ตัวสำรองไม่สามารถทดแทนได้แนบสนิท ทำให้เริ่มมีเกมที่แพ้แบบพลิกล็อคและสะดุดเสมอ ได้แก่ แพ้เชียงรายและเทโรในบ้าน กับบุกไปเสมอโคราช กระทั่งหลังเกมที่ชนะ สมุทรปราการ 1-0 บอร์ดบริหารของทีมได้เรียกโค้ชโอ่งกลับมาคุมทีม ขณะที่ วิดมาร์ ขอลาออกและไม่รับตำแหน่งฝ่ายเทคนิค โดยเหตุผลที่บอสปวิณพูดถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ คือ “โค้ชผมดื้อ”

การเริ่มงานนัดแรกในรอบสองของโค้ชโอ่ง เริ่มต้นด้วยการบุกไปพ่าย หนองบัว พิชญ ซึ่งนี่ถือเป็นความพ่ายแพ้นัดแรกของฤดูกาล จากนั้นนัดต่อไปต้องบุกไปเยือนการท่าเรือ แล้วแพ้ออกมา 1-0 ในสภาพที่ว่า บีจี ปทุม สู้ไม่ได้และรูปเกมไม่เป็นทรงเลย ทำให้จากเกาะกลุ่มหัวตารางอยู่ดีๆ กลายเป็นต้องลงมารั้งอันดับที่ 4

ในเลกที่ 2 ของ บีจี ปทุม หากผลงานออกมาดี โค้ชโอ่งย่อมได้คุมต่อยาวๆ แต่จากผลงาน 2 นัด ก่อนปิดเลกแรก ถือว่าเสียหายและเพิ่มความกดดันในการออกสตาร์เลกที่ 2 ที่ต้องชนะ แล้วถ้าผลออกมาไม่เป็นดังที่คาดหวัง มันก็น่าคิดไม่น้อยว่าบอร์ดบริหารจะยังไว้ใจอยู่หรือไม่ เพราะนอกจากจะต้องป้องกันแชมป์ไทยลีกแล้ว ก็ต้องไม่ลืมว่ากระต่ายแก้วมีคิวต้องลงเล่น ACL รอบแบ่งกลุ่มอีกด้วย

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover