Categories
ข่าวกีฬา

“เมื่อไร้แต้ม ก็ต้องหนีตาย” โคราช ระส่ำ บุกพ่าย ชลบุรี 2-1

สวาทแคท ระส่ำ ร่วมวงหนีตาย 2 นัดสุดท้าย

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 28 ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามยูทีเอ สเตเดี้ยม ชลบุรี เอฟซี ที่ผลงานเริ่มฟื้นตัวหลังจากเปลี่ยนมาใช้โค้ชดุลย์ วันนี้จะต้องพบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ผลงานกำลังดำดิ่งไม่ชนะใครมาหลายนัด ซึ่งหากวันนี้เก็บแต้มไม่ได้ สวาทแคท จะต้องหนีตายแบบเต็มตัวใน 2 นัดที่เหลือ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-4-2 ส่วนทีมเยือนปรับมาเป็น 4-1-4-1

ในช่วง 15 นาทีแรก นครราชสีมา รูปเกมดีกว่า เกมรุกขึ้นบอลผ่านกลางงสนาม ป้อนให้ปีกกระชากลากเลื้อยและเปิดป้อนให้กองหน้า แต่ปัญหามันติดตรงที่ไม่ได้จบสกอร์แบบเหน่งๆ เพราะแนวรับเจ้าบ้านยืนปิดพื้นที่ได้เหนียวแน่น กระทั่งเกมผ่าน 15 นาทีแรก ชลบุรี เริ่มตั้งเกมได้ แต่จังหวะการขึ้นบอลเพื่อจบสกอร์ ยังไม่เห็นในลักษณะที่ชัดเจน จนในนาทีที่ 39 ฉลามชล ขึ้นนำ 1-0 เมื่อ ออสตาร่า ลากตัดเข้าในและวางให้ มูรินโล่ พักอกต่อไปยัง สุมัญญา ที่แม้จะมีมุมน้อย แต่ก็เลือกยิงอัดเต็มแรงไปที่เสาไกล กระนั้นไล่หลังไม่กี่นาที สุมัญญา ดันถูกไล่ออกเพราะเจตนาสกัดฟาวล์แบบรุนแรง

สวาทแคท บุกพ่าย ชลบุรี 2-1 ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 28 วันเสาร์
สวาทแคท บุกพ่าย ชลบุรี 2-1 ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 28 วันเสาร์

แม้ว่า ชลบุรี จะเหลือ 10 คน แต่ครึ่งหลังก็ไม่ได้เป็นรอง แถมมาได้ประตูทิ้งห่าง 2-0 ในนาทีที่ 54 จากจังหวะเก็บตกลูกฟรีคลิก ซึ่งต้อโทษ พิศาล ที่ผิดพลาดกับยืนป้องกันจังหวะนี้ จากนั้นในนาทีที่ 60 คริสแลง ยิงตีตื้นให้ โคราช ไล่มา 2-1 ซึ่งเวลาอีกครึ่งชั่วโมง มันก็เพียงพอที่ลุ้นเก็บแต้มกลับบ้าน แต่สวาทแคทไม่สามารถทำเกมรุกเพื่อสร้างโอกาสจบสกอร์ได้ ทำให้เกมจบลงด้วยสกอร์ 2-1  

บทสรุปจากเกม ชลบุรี เอฟซี มีเกมรับที่เหนียวแน่นขึ้น ทำให้ในช่วงที่ยังตั้งเกมไม่ได้ พวกเขาไม่เสียประตูกระทั่งมาได้ประตูนำก่อนจบครึ่งแรก และประตูที่ 2 จากความผิดพลาดของคู่แข่ง อย่างไรเสียเกมรุกก็ยังต้องปรับอีกขนานใหญ่ เพราะไม่มีรูปแบบที่เป็นระบบนัก ส่วนทางฝั่ง นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เริ่มต้นเกมได้วูบวาบ แต่ทำได้เพียงชั่วครู่ แล้วรูปเกมก็ค่อยๆเริ่มเสียความได้เปรียบจนกระทั่งเสียปะตู อีกทั้งผู้รักษาประตูอย่าง พิศาล วันนี้รับบอลหลุดมือบ่อยและเป็นต้นเหตุให้ทีมเสียประตูที่ 2 แบบง่ายดาย แม้ว่าจะไล่คืนมา 2-1 แต่ก็ไม่สามารถเร่งเครื่องกดดันฝ่ายตรงได้ ทั้งๆที่ตัวผู้เล่นได้เปรียบเกือบ 50 นาที ฉะนั้นความพ่ายแพ้ในเกมนี้ของสวาทแคท ถือว่าเสียอย่างใหญ่หลวงทีเดียว

สวาทแคทบุกพ่าย ชลบุรี 2-1 ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 28 วันเสาร์
สวาทแคทบุกพ่าย ชลบุรี 2-1 ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 28 วันเสาร์

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“แมวสวาทอาการไม่ดี” โคราช นำเร็ว ท่าเรือ ตีเจ๊า 1-1

แมวสวาท ต้องลุ้นหนีตายแบบเต็มตัวในอีก 3 นัดที่เหลือ

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 27 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ( แมวสวาท ) ที่ผลงานในตอนนี้ไม่สู้ดี ซึ่งวันนี้ต้องพบกับ การท่าเรือ เอฟซี ที่ผลงานกำลังเข้าฝักและต้องการจบอันดับ 3 เพื่อหวังโควต้าส้มหล่นไปเล่น ACL ฉะนั้น 3 แต้ม ของเกมนี้ ถือว่ามีความหมายต่อทั้ง 2 ทีม สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-3-3  ส่วนทีมเยือนวางผัง 4-4-2

เกมเริ่มขึ้นไม่ถึง 2 นาที นครราชสีมา ขึ้นนำก่อน 1-0 จากการเปิดยาวของผู้รักษาประตู แล้วโหม่งต่อให้ เมอเรย์ ลากเข้าเขตโทษและซัดเต็มข้อที่เสาแรก โดยจังหวะนี้แนวรับทีมเยือนประกบตัวผิดพลาดที่เข้าไปรุมตัวโหม่ง อีกทั้งการยืนดักล้ำหน้าก็ดันตัวเองขึ้นมาไม่ทัน จากนั้นรูปเกมเป็นของ การท่าเรือ ที่ใช้ปีก 2 ข้างเติมสุดทาง แล้วเมื่อไรที่เห็นช่องในกรอบเขตโทษ ก็จะจัดการเปิดหรือจ่ายให้เพื่อน ณ จุดเป้าหมาย ซึ่งการจบสกอร์มีให้เห็น แต่ขาดความเฉียบคม จนเมื่อเกมผ่านครึ่งชั่วโมงจนจบครึ่งแรก เกมรุกของสิงห์เจ้าท่าก็เริ่มจางหายไป

แมวสวาท ตีเจ๊า ท่าเรือ 1-1 ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 27 วันอาทิตย์
แมวสวาท ตีเจ๊า ท่าเรือ 1-1 ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 27 วันอาทิตย์

ครึ่งหลัง โคราช พยายามฝากบอลไว้กับปีกทั้ง 2 ข้าง เพื่อพาบอลไปข้างหน้าและทำได้ตามแผนที่วางไว้ แต่ปัญหามันติดตรงที่ป้อนบอลให้กองหน้าไม่ได้ สุดท้ายจึงเล่นดีได้แปบเดียว กระทั่งช่วงเวลาที่เหลือ การทำเกมโต้กลับถูกดักได้ตั้งแต่กลางสนาม ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ กว่าจะเริ่มเข้าที่ก็ต้องใช้เวลาราว 10-15 นาที โดยวิธีการเข้าทำเปลี่ยนจาก 45 นาทีเล็กน้อย เมื่อเน้นการแทงบอลตรงกลาง มากกว่าจ่ายจากด้านข้าง ซึ่งวิธีการเล่นลักษณะนี้ สิงห์เจ้าท่า ตามตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 70 จากนั้นแม้ว่าทีมเยือนจะยังบุกต่อ แต่ความเข้มข้นไม่เหมือนกับช่วงที่สกอร์ตามหลัง ทำให้เกมนี้จบลงด้วยการแบ่งแต้ม

บทสรุปจากเกม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี มีโมเมนต์ที่ดีเมื่อยิงนำตั้งแต่นาทีแรกของเกม แต่จุดตำหนิก็ยังมีให้เห็น คือเกมรุกที่ไม่สามารถเชื่อมผู้ริมเส้นกับกองหน้าได้ ทำให้ความอันตรายและการลุ้นประตูหายไป กระนั้นที่หนักสุด คือเกมรับมีช่องว่างตลอด กระทั่งเป็นที่มาของการเสียประตู ซึ่งการได้ 1 แต้ม ถือว่าบุญแล้ว อย่างไรเสียในอีก 3 นัดที่เหลือ สวาทแคทต้องลงไปลุ้นหนีตายแบบเต็มตัวแล้ว ขณะที่ การท่าเรือ เอฟซี เกมรับมีความผิดพลาดตั้งแต่จังหวะแรกของเกม แต่เมื่อเกมรับมีสมาธิ ความผิดพลาดก็ไม่เกิดขึ้น พวกเขาก็ค่อยๆเดินเกมรุกจนตีเสมอได้ กระนั้นหากดูจากรูปเกมและโอกาส สิงห์เจ้าท่าสามารถลุ้นถึงชนะได้ หากเฉียบคมมากกว่านี้

แมวสวาท ตีเจ๊า ท่าเรือ 1-1 ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 27 วันอาทิตย์

แมวสวาทตีเจ๊า ท่าเรือ 1-1 ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 27 วันอาทิตย์

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“น็อคแชมป์คาบ้าน”  ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 28 โปรแกรมวันอาทิตย์

น็อคแชมป์คาบ้าน ท่าเรือ โค่น บุรีรัมย์ คาถิ่น 2-3

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 28 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามช้างอารีน่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่การันตีคว้าแชมป์ไทยลีกฤดูกาลนี้ไปครอง จะต้องพบกับ การท่าเรือ เอฟซี ที่ผลงานกำลังขึ้นหม้อและต้องการแต้มเพื่อติดอันดับ 3 และลุ้นโควต้าเพลย์ออฟ ACL ศึกนี้ท่าเรือจะสามารถ น็อคแชมป์คาบ้าน เอาชนะบุรีรัมย์ได้อย่างไรมาติดตามกันสำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-2-3-1 ส่วนทีมเยือนยังยึดผัง 4-4-2  

15 นาทีแรก เหมือนดูเชิงกันเสียมากกว่า แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ บุรีรัมย์ จับทางและระดมเกมบุกใส่ ไล่ตั้งแต่ การแทงจากด้านข้าง หรือแทงจากตรงกลางไปให้กองหน้า รวมถึงลูกเปิดของ ธีราทร ที่สร้างความหวาดเสียวได้ กระนั้นประตูนำ 1-0 มาเกิดขึ้นในนาทีที่ 41 แถมจุดเริ่มต้นมาจากความผิดพลาดของทีมเยือนที่โหม่งสกัดบอลไม่ดี ทำให้ วุชคิช ปรี่เข้ามายิงเสียบโค่นเสาด้านบนอย่างสวยงาม

น็อคแชมป์คาบ้าน ท่าเรือ เฉือนชนะ บุรีรัมย์ 2-3
น็อคแชมป์คาบ้าน ท่าเรือ เฉือนชนะ บุรีรัมย์ 2-3

ครึ่งหลัง การท่าเรือ มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากฟรีคลิกที่แสนโหดเหี้ยมของ แอร์ตอน เพราะมันพุ่งเสียบสามเหลี่ยมแบบไม่ต้องรับ จากนั้นเหมือนเจ้าบ้านช็อคและโดนแซงนำ 1-2 เมื่อโยนบอลให้ แฮรมิลตัน โหม่งชง แล้ว วรชิต จัดการยิงเข้าไปอย่างเด็ดขาด แต่หลังจากนั้น 4 นาที บุรีรัมย์ มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากเตะมุมของ ศุภชัย ที่ได้โขกโล่งๆ แล้วจากจุดนี้ รูปเกมก็เริ่มจะแลกใส่กันแบบหมัดต่อหมัด สุดท้าย สิงห์เจ้าท่า ขึ้นนำ 2-3 ในนาทีที่ 80 จากจังหวะสกัดบอลที่เป็นใจให้ วรชิต แต่ก็ต้องชมเทพตาปิดผู้นี้ ที่ล็อคหลบและเลือกมุมยิงแบบชาญฉลาด ขณะที่ช่วงเวลาที่เหลือ ปราสาทสายฟ้าเหมือนคนสติแตก เพราะเปิดไปข้างก็เหมือนกับคนเตะบอลอัดกำแพง ทำให้จบเกมด้วยการคาบ้าน 2-3

บทสรุปจากเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฉกฉวยความผิดพลาดของคู่แข่งและเปลี่ยนเป็นประตูได้ 2 ลูก แต่จุดหักเหของวันนี้คือ เมื่อเสียประตูแรกแล้วสมาธิแกว่ง ทำให้เสียเพิ่ม และรูปเกมดูขาดๆเกินไปหมด สุดท้ายต้องพ่ายแพ้แบบคาบ้าน ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ เอฟซี ในครึ่งแรกเล่นไม่ออก แถมมีความผิดพลาดง่ายๆในเกมรับจนเสียประตู แต่ประตูตีเสมอ 1-1 ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้พวกเขาฟื้นคืนชีพ จนกลับมายิงรัวอีก 2 ลูก และคนที่ต้องได้รับเครดิตมากที่สุดคือ วรชิต ที่ยิง 2 ลูกในเกมนี้ด้วยนิ่งและชาญฉลาด ทำให้กลายเป็นทีมแรกที่บุกมาชนะแชมป์ไทยลีกประจำซีซั่นนี้       

น็อคแชมป์คาบ้าน ท่าเรือ เฉือนชนะ บุรีรัมย์ 2-3
น็อคแชมป์คาบ้านท่าเรือ เฉือนชนะ บุรีรัมย์ 2-3

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ลำพูนทำศึกขุนตาลดาร์บี้ เฉือน ลำปาง 2-1 โอกาสเป็นตาย 50-50

โคขาวไม่ยอมจำนน ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 28 ในโปรแกรมวันเสาร์

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 28 ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี รังเหย้าชั่วคราวของ ลำพูน วอริเออร์ โคขาวไม่ยอมจำนน ต้องการ 3 แต้ม เพื่ออยู่รอด วันนี้จะต้องทำศึกขุนตาลดาร์บี้ กับ ลำปาง เอฟซี ที่ตกชั้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่สัปดาห์ก่อน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านปรับมาใช้ 3-4-3 ส่วนทีมเยือนยึดแผน 4-3-3 ตามเดิม

 การแข่งขันเริ่มมาได้ 3 นาที ลำพูน ได้เตะมุมและ ทศพล โหม่งให้ทีมนำ 1-0 โดยจังหวะนี้ต้องโทษผู้รักษาประตูฝั่งทีมเยือนแบบเต็มๆที่ออกมาจั่วลม ทำให้การโหม่งของ ทศพล ขอแค่เข้ากรอบเป็นพอ จากนั้นยังคงเป็น ลำพูน ที่พยายามใช้วิธีแทงบอลให้กองหน้าหลุดเข้าไปจบสกอร์ ไม่ก็อาศัยจังหวะยิงไกล หรือเปิดบอลยาวเข้าไป แต่อย่างไรเสียในนาทีที่ 26 ลำปาง มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการจ่ายเลาะที่ริมเส้นไปหน้าประตู โดยการยืนประกบของแนวรับเจ้าถิ่นที่ผิดพลาดทุกตำแหน่ง คือตัวแปรสำคัญที่ทำให้รถม้ามรกตมีช่องว่างสำหรับการยิงตีเสมอ

โคขาวไม่ยอมจำนน เฉือน ลำปาง 2-1 โอกาสเป็นตาย 50-50
ลำพูนทำศึกขุนตาลดาร์บี้ เฉือน ลำปาง 2-1 โอกาสเป็นตาย 50-50

หลังจากสกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1 รูปเกมดูรัดกุมทั้ง 2 ฝั่ง และถึงแม้ว่าจะเข้าสู่ครึ่งหลัง รูปเกมก็ยังคงเป็นเช่นนั้น กระทั่งจุดเปลี่ยนเมื่อผู้เล่น ลำปาง เหลือ 10 คน ในนาทีที่ 76 มันก็เป็นผลให้ ลำพูน พยายามเจาะชุดสุดท้าย แล้วมาประสบความสำเร็จในนาทีที่ 86 เมื่อ 2 ดาวยิงชาวพม่าจ่ายให้กัน ก่อนจะเป็น หม่อง ละวิน ที่ลากบอลฝ่าดงผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ก่อนจะตัดสินในยิงตรงๆ ซึ่งจังหวะบอลเป็นใจจนลอดขาแนวรับทุกคนและหลุดเข้าประตูให้เจ้าบ้านขึ้นนำ 2-1 อีกทั้งยังเป็นประตูชัยสำหรับเกมนี้

บทสรุปจากเกม ลำพูน วอริเออร์ เริ่มต้นเกมได้ดีและได้ประตูขึ้นนำ แต่ความผิดพลาดในเกมรับกลับส่งผลให้เสียประตู จนทำให้รูปเกมนับตั้งแต่นั้นดูเหี่ยวเฉาลงไปอย่างชัดเจน อย่างไรเสียก็ต้องชื่นชมแนวรุกชาวพม่า 2 คน ที่ตัดสินใจใช้ความสามารถเฉพาะจนช่วยให้ทีมขึ้นนำ 2-1 พร้อมกับเก็บ 3 แต้ม แบบสุดลุ้นระทึก ฉะนั้นหากบั้นปลายเกิดรอดขึ้นมา เกมนัดนี้และประตูที่ 2 จะมีความหมายอย่างมหาศาล ส่วนทางฝั่ง ลำปาง เอฟซี พวกเขาเล่นเพื่อสปิริตและสร้างความลำบากให้เจ้าถิ่นได้ดี กระนั้นในแผงเกมรับ ก็ยังเห็นถึงรอยรั่วจนเป็นที่มาของการเสียประตูทั้ง 2 ลูก ซึ่งในตอนนี้มันไม่มีประโยชน์ใดๆที่จะต้องติเตียน

ลำพูนทำศึกขุนตาลดาร์บี้ เฉือน ลำปาง 2-1 โอกาสเป็นตาย 50-50
โคขาวไม่ยอมจำนนเฉือน ลำปาง 2-1 โอกาสเป็นตาย 50-50

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ชนะใหญ่ แต่แพ้เล็ก” บียู ล็อคถล่ม พ่าย ลำพูน 2-1

บียูพ่าย 2-1 ส่งโคขาวพ้นโซนแดง

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ลำพูน วอริเออร์ ที่ผลงานยังสุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้น เพราะอันดับขึ้นๆลงๆ จะต้องพบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่พึ่งหยุดเส้นทางแชมป์ไร้พ่ายของบุรีรัมย์ ส่วนผังการเล่นในวันนี้ เจ้าบ้านมาในระบบ 3-5-2 ขณะที่ทีมเยือนใช้ระบบ 4-2-3-1 บียูพ่าย ส่งให้โคขาวพ้นโซนแดงไปได้

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ลำพูน กลายเป็นฝ่ายที่บุกได้ดีกว่าและมีโอกาสใกล้เคียงจะเป็นประตู แล้วเพียงแค่ 8 นาที ก็มาได้ประตูนำ 1-0 จากการเล่าแบบสามเหลี่ยม คือจ่ายฝากและวิ่งไปรอรับตรงที่ว่าง แล้วลากลอลเพื่อฉีกตัวประกบและยิงอัดไปที่เสาไกล ซึ่งจังหวะนี้ต้องโทษแนวรับทีมเยือนที่ปล่อยให้เล่นง่ายและประกบตัวไม่ละเอียด อย่างไรก็ดี ทรู แบงค็อก มาตามตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 13 จากจังหวะที่ เอฟเวอร์ตัน โหม่งชงลูกเตะมุมให้ ม๊าห์มู๊ด จิ้มบอลลอดขา นนท์ เข้าไป จากนั้น บียู เริ่มจะครองบอลได้มากขึ้น แต่มีพื้นที่เล่นแค่ด้านข้างเท่านั้น เพราะบริเวณกรอบเขตโทษของเจ้าบ้าน ถูกป้องกันอย่างแน่นหนา กลับกันทางฝั่ง ลำพูน ที่แทบจะไม่มีโอกาส ดันได้ประตูขึ้นนำ 2-1 จากจุดโทษที่มีการแฮนด์บอล

บียูพ่าย ลำพูน 2-1 ในศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 วันอาทิตย์

บียูพ่าย ลำพูน 2-1 ในศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 วันอาทิตย์

ครึ่งหลัง ลำพูน ไม่ได้เล่นตั้งรับลึก แต่เล่นแบบเน้นความชัวร์และไม่เสียบอลง่าย ซึ่งมีจังหวะที่น่าได้ประตูเพิ่มจากการฝากบอล แล้ววิ่งหาที่ว่าง ส่วนทางฝั่ง บียู การเคาะบอลและความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะต่างชาติ สร้างโอกาสจนเกือบตีเสมอได้ แต่ดันยิงไม่ดีเอง กระทั่งช่วงท้าย ราชันโคขาวถอยรับลึก ทำให้แข้งเทพ ไม่มีช่องเจาะและจบเกมลงด้วยสกอร์ 2-1 ของเจ้าบ้าน

บทสรุปจากเกม ลำพูน วอริเออร์ การเล่นเกมรุกจะเป็นในลักษณะการเล่นร่วมกันเพียงไม่กี่คน ซึ่งในวันนี้ได้ผลเมื่อยิงได้ 1 ประตู และมาบวกเพิ่มจากจุดโทษ ซึ่งจังหวะที่แฮนด์ถือว่าเป็นใจให้พวกเขา ส่วนแท็กติกหลังจากได้ประตู การ์ม่า  ไม่ได้สั่งถอยรับลึก แต่เน้นย้ำว่าเมื่อมีบอลจะต้องเสียให้ยาก กระทั่งช่วงท้ายเกมถึงจะเล่นแบบรับลึก ส่วนทางฝั่ง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กลับคืนสู่ฟอร์มแบบสามัญ อีกครั้ง ซึ่งการเสียประตูง่ายๆให้ทีมหนีตายที่ต้องการแต้ม มันต้องรัดกุมให้มากที่สุด แม้ประตูแรกจะตามตีเสมอได้รวดเร็ว แต่เมื่อเสียประตูที่ 2 อีก คราวนี้มันก็ยากที่จะแก้ตัว สุดท้ายจึงเป็นภาพฉายซ้ำ คือเคาะบอลไปมา แล้วเจาะเกมรับคู่แข่งไม่ได้

บียูพ่ายลำพูน 2-1 ในศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 วันอาทิตย์

บียูพ่ายลำพูน 2-1 ในศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 วันอาทิตย์

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

แมวซ่าโดนขยี้

ทำซ่ายิง 2 เม็ด ก่อนโดน บีจี ปทุม ยูไนเต็ด รัวยับ

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 ในโปรแกรมวันเสาร์ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่พึ่งมีการเปลี่ยนแปลงโค้ช จนสามารถกลับมาคว้าชัยชนะได้อีกครั้ง วันนี้จะเปิดรังปทุมธานี สเตเดี้ยม รับทีมฟอร์มแรงอย่าง นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-2-3-1 ส่วนทีมเยือนใช้ระบบ 4-1-4-1

      ในช่วง 30 นาทีแรก รูปเกมดูตื้อและเงียบทั้ง 2 ทีม เพราะไม่มีฝั่งไหนครองบอลได้อย่างต่อเนื่อง จนในนาทีที่ 33 ชาร์ลี คลัฟ จัดการโขกบอลให้ นครราชสีมา นำ 0-1 ซึ่งเจ้าตัวยืนเป็นตัวสุดท้ายที่เสาไกลและแนวรับเจ้าบ้านไม่เข้าไปประกบใกล้ๆ นั่นจึงทำให้ บีจี ปทุม พยายามจะต่อบอลเข้าไปในแดนคู่แข่ง แต่การเคลื่อนที่ของบอลและคนค่อนข้างช้า ทำให้แนวรับโคราชเข้าถึงตัวเร็ว

ครึ่งหลังเริ่มมาได้ 7 นาที เจ้าถิ่นสกัดบอลไม่ดี ทำให้  โคราช ได้ยิงจ่อๆเป็น 0-2 อย่างไรเสียไล่หลังเพียง 5 นาที การลากบอลของ สเตนีโอ ไปให้ ธีรศิลป์ พลิกจ่าย สุรชาติ ได้วิ่งเข้ามาซัดให้ บีจี ปทุม ไล่มา 1-2 จากนั้นรูปเกมก็ยังทรงๆ

กระทั่งจังหวะเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อ โคราช มีสวนกลับขึ้นมา แต่ไม่ได้ประตูเพราะบอลไปชนเสา กลับกัน บีจี ปทุม สามารถทำประตูตีเสมอ 2-2 ได้ ในนาทีที่ 72 และในนาทีที่ 73 แนวรับทีมเยือนสติหลุดจนโดนยิงแซง 3-2 ขณะที่ประตู 4-2 เป็นการจ่ายบอลพลาดของทีมเยือน แล้ว บีจี ปทุม หลุดเข้าไปยิง กระทั่งช่วงทดเวลาการวางบอลยาวขึ้นมา สารัช ได้ยิงเต็มข้อปิดกล่อง 5-2   

      บทสรุปจากเกม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด มีรูปเกมที่ไม่ดีในครึ่งแรก เพราะการครองบอลไม่ต่อเนื่อง หรือต่อให้ครองบอลได้นาน การเคลื่อนที่ของบอลก็เชื่องช้า แถมเกมรับมีความผิดพลาดอีก กระนั้นก็ต้องกล่วว่าที่กลับมาได้ ก็เป็นเพราะจังหวะฝีมือของผู้เล่นตัวเก๋า ผสมกับจังหวะที่เข้าทางและคู่แข่งสมาธิหลุด ส่วนทางฝั่ง นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี การเล่นลูกตั้งเตะดูจะเป็นจุดเด่น

เพราะสามารถทำประตูจากเตะมุมได้หลายนัดในช่วงหลัง ขณะที่เกมสวนกลับ และการฉกฉวยความผิดพลาดจากคู่แข่งก็ทำได้ดี แต่จุดเปลี่ยนของเกมนี้คือ การไม่ได้ประตูนำ 1-3 ซึ่งจังหวะนั้นชนเสา แล้วหลังจากนั้นกลายเป็นเสียสมาธิและสกอร์ไหลอย่างที่เห็น ฉะนั้นในเรื่องของสมาธิ ถือเป็นตัวแปรที่ทำให้สวาทแคทแพ้ยับ ไม่ใช่รูปเกมไม่ดีหรือสู้ไม่ได้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

หยุดฝันแชมป์ไร้พ่าย

โมต้า ตัวแสบ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ยิงเฉือน บุรีรัมย์

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 25 ณ สนามทรู สเตเดี้ยม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่รั้งอันดับ 2 ของตาราง จะต้องพบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่นำเป็นจ่าฝูง อีกทั้งวันนี้จะการันตีแชมป์แบบ 100% หากบุกมาคว้าชัยชนะเหนือแข้งเทพได้ ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ต่างมาในระบบ 4-2-3-1 เหมือนกัน  

      ทรู แบงค็อก ครองบอลได้เหนียวและต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถพาเข้าไปในแดน 3-4 ได้ แล้วเพียงแค่นาทีที่ 11 พวกเขาเสียบอลกลางทางให้ บุรีรัมย์ ที่แม้จะสวนเร็วไม่ได้ เพราะมีแนวรับเจ้าบ้านยืนประคองอยู่ แต่ ศุภชัย ตัดสินใจยิงไกลเสียบหน้าต่างมุมบนให้ทีมเยือนนำ 0-1 จากนั้น บียู พยายามเดินเกมรุก ด้วยการวางบอลยาวไปยังบริเวณริมเส้นและเล่นจังหวะเดียว จนโอกาสใกล้เคียงเริ่มปรากฏ

กระนั้นในนาทีที่ 32 จังหวะบอลที่ไม่มีอะไร แนวรับ บียู จ่ายคืนเบาเกินไป ทำให้ ศุภชัย ที่อ่านจังหวะอยู่ วิ่งสปีดขึ้นบอลฉกและยิงทิ้งห่างให้ บุรีรัมย์ นำเป็น 0-2 อย่างไรเสียไล่หลังเพียง 2 นาที แข้งเทพมาได้ประตูตีตื้น 1-2 จากจังหวะจ่ายเลียดทางด้านข้าง โดยระยะที่มันจ่อประตูมาก มันมีผลให้ รัตนากร สกัดเข้าประตูตัวเองไป

ช่วง 15 นาทีแรกของครึ่งหลัง รูปเกมของ บียู ไม่สามารถโจมตีใส่ผู้มาเยือนได้ กระทั่งหลังจากช่วงเวลาดังกล่าว การวางบอลเปลี่ยนแกนและเปิดไปหน้าประตู เพื่อให้ตัวด้านในจบสกอร์ มันมีโอกาสเหน่งๆหลายครั้ง กระทั่งในนาทีที่ 65 ได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากการลากบอลชายเดี่ยวของ วานเดอร์ แล้วจ่ายแทงเฉียงไปทางขวาเพื่อเปิดไปหน้าประตูให้เพื่อนเข้าชาร์ต

จากนั้นรูปเกมเป็นของ บียู และนาทีที่ 77 มาได้ประตูแซงนำ 3-2 จากเตะมุมที่ โมต้า วิ่งฉีกไปโหม่งที่เสาแรก กระนั้น บุรีรัมย์ ไม่ยอมแพ้และมายิงตีเสมอ 3-3 ในนาทีที่ 81 จากความผิดพลาดของ เอฟเวอร์ตัน ที่โหม่งพลาด ทำให้ เคาซิช ได้ยิงแบบเต็มข้อ นั่นจึงทำให้เกมน่าจะจบแบบแบ่งแต้ม แต่ในช่วงวินาทีสุดท้ายของเกม บียู เก็บบอลและโต้กลับอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ โมต้า จะยิงแบบเฉือนๆจนบอลชนเสาและกระเด้งเข้าประตูไป ทำให้เกมจบด้วยชัยชนะของแข้งเทพ 4-3

บทสรุปจากเกม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เสียทั้ง 3 ประตู จากความผิดพลาดของตัวเองแบบล้วนๆ แต่มันชดเชยด้วยการยิงประตูที่มากกว่า คือ 4 ลูก ฉะนั้นการคว้า 3 แต้มใหญ่ในวันนี้ อาจจะดูน่ายินดี แต่ปัญหาเดิมๆก็ยังคงมีอยู่ ส่วนทางฝั่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รูปเกมเป็นรองเจ้าบ้าน

แต่มีความเฉียบคมและฉกฉวยความผิดพลาดของคู่แข่งได้หมด กระนั้นเกมรับก็มีรูรั่วให้เห็นอยู่ โดยการเสียประตูทั้ง 4 ลูก ล้วนมาจากการยืนตำแหน่งป้องกันที่ไม่แนบชิด ฉะนั้นต่อให้เป็นแชมป์ในฤดูกาลนี้ ปราสาทสายฟ้าก็ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุง

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ที่ผ่านมาคือ..

ขอนแก่น ฟอร์มหลุด พ่าย พีที ประจวบ เอฟซี

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 25 ในโปรแกรมวันเสาร์ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่ผลงานดีและอยู่มีแต้มเหนือโซนแดง จะต้องเปิดรัง อบจ. ขอนแก่น รับ พีที ประจวบ เอฟซี ที่ตอนนี้ฟอร์มดรอปจนอันดับลงมาอยู่ในโซนแดงแล้ว ฉะนั้น 3 แต้มของเกมนี้ ถือว่ามีความหมายต่อทั้ง 2 ทีม สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-4-2  ส่วนทีมเยือนปรับมาเล่น 3-4-3

      ในช่วงต้นเกม ทั้ง 2 ทีมต่างเล่นแบบระมัดระวัง แต่เมื่อเล่นไปเรื่อยๆ พีที ประจวบ เริ่มจะดีกว่าเมื่อโจมตีทางด้านข้าง แม้บอลที่ป้อนเข้าไปจะไม่พอดีกับกองหน้า จนในนาทีที่ 22 ประจวบ มาได้ประตูออกนำ 0-1 จากการขึ้นบอลหลังบ้าน

แล้วเมื่อถึงกลางสนาม คาราบูเอ้ เลี้ยงประวิงเวลาแล้วให้ โรซ่า ที่หลุดกักดักล้ำหน้า พาบอลเข้าไปล่อตาข่าย ซึ่งในจังหวะนี้ แนวรับเจ้าบ้านผิดพลาดในการยืนตำแหน่งป้องกัน จากนั้น ขอนแก่น พยายามจะตั้งเกมของตัวเองให้ได้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ กลับกันกลายเป็นต่อพิฆาต ที่สวนขึ้นมาและได้ประตูทิ้งห่าง 0-2 ในนาทีที่ 41 จากการวางบอลไปที่ริมเส้นฝั่งซ้ายให้ คาราบูเอ้ เปิดบอลใส่เท้า โรซ่า ชาร์ตหน้าประตู

ครึ่งหลังเริ่มได้ 2 นาที ประจวบ ได้ประตูเพิ่ม 0-3 จากการสวนกลับและจ่ายบอลขึ้นมาตามทาง โดยจังหวะนี้ต้องบอกว่ามีโชค เพราะการจับบอลของ ธนาสิทธิ์ เหมือนจะไม่ดีแล้ว

แต่เหลี่ยมบอลไปเข้าทาง จักรกฤษ ซัดเปรี้ยงเดียวหาย จากนั้น ขอนแก่น เลือกจะโหมบุกให้มากขึ้น แต่ยิ่งบุกก็ยิ่งเสียบอล แถมโดนโต้กลับจนต้องลงมาป้องกันเพื่อไม่ให้โดนยิงเพิ่ม ขณะที่ต่อพิฆาต การสวนกลับแต่ละครั้งมีโอกาสเหน่งๆหลายหน แต่พวกเขายิงทิ้งขว้าง ทำให้สกอร์สุดท้ายคงที่ 0-3

บทสรุปจากเกม ขอนแก่น ยูไนเต็ด ถือว่าผิดฟอร์มอย่างมาก ไล่ตั้งแต่เกมรุกที่จ่ายยังไงก็ติด จนกองหน้าแทบจะไม่มีโอกาสได้ยิงประตู แต่ที่ดูเหมือนจะหนักหนากว่าคือเกมรับ เพราะเมื่อไรที่ต้องเจอเกมโต้กลับ การยืนตำแหน่งผิดพลาดและมีช่องให้คู่แข่งโจมตีแบบสบายๆ กระทั่งเป็นที่มาของการเสียประตูทั้ง 3 ลูก ส่วนทางฝั่ง พีที ประจวบ เอฟซี เกมรุกเล่นกับไลน์ดักล้ำหน้าได้ดีและมีตัวหลอก

ทำให้การวิ่งทะลุขึ้นไปมีช่องและโอกาสจบสกอร์ จนสุดท้ายเป็นที่มาของ 2 ประตูแรก ยกเว้นประตูที่ 3 ที่การสวนกลับทำได้ดี แต่จังหวะฟุตบอลก็เป็นใจให้เช่นกัน ขณะที่เกมรับแทบจะไม่เจองานหนัก กระนั้นการจบสกอร์ยังต้องปรับปรุง เพระการยิง 3 ประตู มันดูน้อยไปเลย เมื่อดูจากโอกาสในครึ่งหลังที่น่าได้สุดๆ 2-3 ครั้ง ซึ่งสกอร์สามารถไหลไปถึง 0-5 หรือ 0-6 ได้ หากยิงได้เฉียบคมกว่านี้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

แมต์ชะตาขาด

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ปลดแมตต์ เซ่นเปิดรังพ่าย บียู 0-1 

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 24 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามปทุมธานี สเตเดี้ยม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ผลงานในตอนนี้อยู่ในขั้นวิกฤตจนใกล้โซนตกชั้น จะเปิดรังทำศึกปทุมดาร์บี้กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้กลับมาคว้าชัยชนะ 2 เกมติดต่อกันแล้ว สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 3-5-2  ส่วนทีมเยือนเล่น ผัง 4-2-3-1

      การแข่งขันเริ่มต้นไปเพียง 1 นาทีเศษ ทรู แบงค็อก ได้ฟรีคลิกและขึ้นนำไปก่อน 0-1 จาการเปิดบอลไปหน้าประตู แล้วแนวรับเจ้าบ้านยื่นเท้าจะเคลียร์บอล แต่ดันไปชนกันเอง ทำให้ ทอม เบียรห์ ที่ยืนอยู่ได้ยิงลูกส้มหล่นเข้าไป ซึ่งการเสียประตูอย่างรวดเร็วนี้ บีจี ปทุม ต้องเร่งเกมรุกใส่ โดยเน้นสาดบอลขึ้นข้างหน้า

หรือมีบ้างที่ต่อบอลเข้าไป โดยโอกาสจบสกอร์มีเรื่อยๆ แถมใกล้เคียงที่จะเป็นประตูตีเสมอ แต่ยิงไม่เฉียบคมเอง อย่างไรเสียเมื่อเกมผ่านไปครึ่งชั่วโมง เจ้าบ้านเริ่มหมดไอเดีย ตรงข้ามกับ บียู ที่สวนได้น่ากลัวและควรได้ประตูทิ้งห่าง กระนั้นเป็นเพราะเขาเองที่ไม่เฉียบคมเช่นกัน

ครึ่งหลัง บีจี ปทุม โหมบุกอีกครั้งด้วยวิธีการเดิม คือการโยนบอลเข้าไปในพื้นที่กรอบเขตโทษ แต่การโยนในช่วง 45 นาทีหลัง มันไม่ใช่การพุ่งตัวเข้าไปโหม่ง หรือมีแผนที่จะทำให้การโหม่งดูอันตราย ทำให้เมื่อเกมผ่านไปเรื่อยๆ ยิ่งตื้อยิ่งตันและพาบอลเข้าพื้นที่แดนสุดท้ายไม่ได้ ขณะที่ บียู ตั้งรับแบบไม่มีความกดดัน อย่างไรเสียการสวนกลับดูจะไม่อันตราย เพราะผู้เล่นเกมรุกไม่เติมสูงและเน้นยืนรักษาพื้นที่มากกว่า ทำให้เมื่อครบ 9เ0 นาที แข้งเทพเป็นฝ่ายเฉือนชนะไป 0-1

บทสรุปจากเกม บี จี ปทุม ยูไนเต็ด จัดการปลด แมตต์ สมิธ เมื่อเกมจบลง ซึ่งมันสมควรแก่เวลาตั้งนานแล้ว เพราะอย่างนัดนี้ เกมรับยังคงเหมือนเดิมคือ วิ่งลงไปกองที่แดนสุดท้าย แล้วปล่อยพื้นที่แดน 2-3 ให้คู่แข่งลากขึ้นมาอย่างสะดวก

ส่วนเกมรุกคิดไม่ออก ก็สาดบอลเข้าเขตโทษอย่างเดียว ฉะนั้นหากอยู่ต่อ ทรงบอล ฟอร์มการเล่น และจิตใจ มันจะเหี่ยวเฉาลงไปเรื่อยๆ ส่วนทางฝั่ง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เกมรับยังคงผิดพลาดง่ายๆตามเคย เช่นเดียวกับเกมรุกที่โอกาสเหน่งๆยังอุตส่าห์ยิงออกไป แต่วันนี้ได้ 3 แต้ม เพราะคู่แข่งพลาดตั้งแต่ต้นเกม แล้วตัวเองคว้าโอกาสจ่อๆนี่ไว้ได้ อีกทั้งคู่แข่งก็แพ้ภัยตัวเองจนยิงประตูแข้งเทพไม่ได้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

รูดไม่หยุด ฉุดไม่ขึ้น

ชลบุรี เอฟซี บู่จนชิน โดน เชียงราย สอยถึงถิ่น 1-3  

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 เกมในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามชลบุรี ยูทีเอ สเตเดี้ยม ชลบุรี เอฟซี ผลงานในตอนนี้ย่ำแย่สุดๆ เพราะไม่ชนะใครมา 7 เกมติดต่อกันแล้ว จะต้องพบกับ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ไม่ชนะใครมาหลายเกมแล้วเหมือนกัน ฉะนั้นหากใครเก็บ 3 แต้มได้ ก็จะถือเป็นการปลดล็อคจากความกดดัน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 3-4-3 ส่วนทีมเยือนมาแผนเดิมอย่าง 4-4-2

      ในช่วงต้นเกมทั้ง 2 ทีม ยังตั้งเกมกันไม่ได้ จนกระทั่งนาทีที่ 14 ลีโอ เชียงราย ได้ประตูออกนำไปก่อน 0-1 จากจังหวะเตะมุม โดยเป็น วิคเตอร์ วิ่งโฉบตัดหน้า เคลิช และขึ้นโหม่ง ซึ่งในจังหวะนี้ ชนินทร์ ควรเซฟได้ ทั้งๆที่บอลไม่ห่างจากตัวเลย อย่างไรเสีย ชลบุรี ตามไม่นาน ก็มาตามตีเสมอ 1-1 จากจุดโทษที่ แลนดิส ไปดึง มูริลโญ่ ซึ่งการตัดสินใจทำแบบนั้น อาจมองได้ว่าเหลี่ยมของ มูริลโญ่ ดีกว่าและมีโอกาสที่จะจบสกอร์ได้

      รูปเกมของทั้ง 2 ทีม ไม่ได้แตกต่างจากช่วงที่เสมอกัน 0-0 แต่ เชียงราย มาได้จุดโทษและประตูนำ 1-2 ในนาทีที่ 33 ซึ่งจังหวะนี้ต้องโทษ ฟาอิค ที่ไม่ควรเสียบ เพราะมีเพื่อนยืนประคองอยู่อีกหลายคน นั่นจึงทำให้ ชลบุรี พยายามเปิดเกมบุก แต่การเสียบอลมาแต่ละครั้ง ก็เกือบจะโดนยิงเพิ่มมากกว่า

ครึ่งหลัง ชลบุรี ปรับการทำเกมรุกด้วยการจ่ายขวางหาพื้นที่ แล้วเมื่อริมเส้นมีช่องก็จะจ่าย จากนั้นตัวริมเส้นจะแปะบอลเข้าพื้นที่ตรงกลาง ซึ่งมันสร้างโอกาสได้พอสสมควร แต่มันไม่ใกล้ปากประตูและไม่สามรถทำอย่างต่อเนื่องได้ จนเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เชียงราย

กลายเป็นฝ่ายได้ประตูทิ้งห่าง 1-3 จากการจ่ายเฉียงไปจากด้านซ้าย แล้วกลับมาหน้าประตู โดยจังหวะนี้แนวรับเจ้าถิ่นเปิดพื้นที่ไว้มากกมาย อย่างไรเสียช่วงท้ายเกม ฉลามชล พยายามจะเร่งเกมชุดสุดท้าย แล้วมันมีโอกาสเหน่งๆจาก ยู บยอง-ซู แต่เจ้าตัวทิ้งขว้างโอกาสทองไป

      บทสรุปจากเกม ชลบุรี เอฟซี พ่ายแพ้เพราะความผิดพลาดของผู้เล่นหลายคนประกอบกัน ไล่ตั้งแต่ ผู้รักษาประตู เซฟบอลไม่ได้ กองหลัง-กองกลาง เปิดพื้นที่ให้คู่แข่ง ปีกเสียบคู่แข่งจนเสียจุดโทษ และกองหน้าที่ยิงประตูจากจังหวะเหน่งๆไม่ได้ ซึ่งทั้งหมดผสมผสานกัน จนกลายเป็นความพ่ายแพ้ ส่วนทางฝั่ง ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด วันนี้อาจจะไม่ได้เล่นเกมรุกอย่างที่ตัวเองถนัด

แต่ก็ยังพยายามจะเล่นเร็วเพื่อหลีกหนีตัวรับที่ยืนขวางเต็มพื้นที่ รวมถึงมีทีเด็ดจากลูกตั้งเตะ นั่นจึงทำให้กว่างโซ้งมหาภัย มี 3 แต้ม ในเกมนี้ อย่างไรก็ดี เกมรับมีอาการแกว่งในช่วยท้ายเกม ซึ่งยังดีที่คู่แข่งทำไม่ได้เอง มิเช่นนั้นอาจเป็นฝันร้ายซ้ำสองของพวกเขาก็เป็นได้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover