Categories
ข่าวกีฬา

“กระต่ายประเดิมแชมป์”

บีจี ปทุม ฟอร์มหรู คว่ำบุรีรัมย์ 10 คน 3-2 เถลิงแชมป์ 2 สมัยซ้อน

ศึกฟุตบอลแชมป์ชนแชมป์ ไทยแลนด์แชมป์เปี้ยนส์ คัพ 2022/23 ปีนี้ได้โยกมาจัดที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดนครราชสีมา โดยคู่ชิงในวันนี้เป็นการพบกันของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทริปเปิ้ลแชมป์ 3 ถ้วยเมื่อฤดูกาลที่ผ่าน กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่เป็นรองแชมป์ในลีก ส่วนผังการเล่นในวันนี้ ทั้ง 2 ทีมต่างมาในระบบ 4-2-3-1 เหมือนกัน

        การแข่งขันเริ่มต้นไปได้เพียง 6 นาที บีจี ปทุม ชิงนำก่อน 0-1 จากการสวนขึ้นมา แล้ว ปฐมพล เลือกยิงไกลจากนอกกรอบ ซึ่งเป็นการยิงที่ดี ส่วนแล้วรับบุรีรัมย์ไม่ถึงขั้นผิดพลาด แต่ป้องกันได้ดีไม่สุด จากนั้นรูปเกมกลายเป็นบุรีรัมย์ ที่ต้องพยายามตั้งเกม ซึ่งเกือบจากได้ฟรีคลิกที่แนวรับบีจี ปทุม ประกบหลวม ขณะที่ลูก open play เซตขึ้นมาและเข้าแดนสุดท้ายแบบนานๆที กระทั่งนาทีที่ 34 บุรีรัมย์มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 โดยลูกนี้ต้องชมคนเปิดที่โยกแล้วเปิดได้ถูกจังหวะ ขณะที่คนโหม่งอย่างโบรินกี้ ก็ขยับหาพื้นที่ได้ดี

        การมีประตูตีเสมอเกิดขึ้นก่อนจบครึ่งแรก ทำให้ทั้ง 2 ทีมต่างเปิดหน้าแลกใส่กัน จนในนาทีที่ 37 บีจี ปทุม ออกนำ 1-2 อีกครั้ง จากการเปิดบอลเข้าไปตรงกรอบเขตโทษ แล้ว อิคซาน เลือกโหม่งแล้วบอลพุ่งเช็คเสาเข้าไปแบบสุดสวย จากนั้น บุรีรัมย์ พยายามจะเอาคืนและเกือบได้ แต่ถูก VAR ริบคืนเพราะล้ำหน้า

ครึ่งหลัง บุรีรัมย์ มาเจอจุดเปลี่ยนใหญ่ คือ การโดนไล่ออกแข้งต่างชาติตัวใหม่ ซึ่งเสียบหนักและไม่ถึงบอล จากนั้นในจังหวะถัดมา บีจี ปทุม ฉวยโอกาสนี้ยิงเพิ่มเป็น 1-3 จาก วรชิต ที่ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษ แต่ไม่มีตัวที่จะจ่ายได้ นั่นจึงทำให้เจ้าตัวเลือกลากหลบและดึงจังหวะก่อนยิงเข้าไป แถมในรูปเกมในตอนนั้น กระต่ายแก้วก็เกือบจะยิงทิ้งห่างเป็น 1-4 เหมือนกัน ถ้าไม่ชนเสาและคานเสียก่อน กระทั่งท้ายเกม บุรีรัมย์ ที่ดูจะเสียรูปขบวนไป ก็มาได้ประตูตีตื้น 2-3 จากจุดโทษ นั่นจึงทำให้ปราสาทสายฟ้าพยายามจะโหมช่วงท้ายอีกหน แต่เจาะไม่ถึงและเกือบโดนยิงเพิ่ม ทำให้เกมนี้จบลงด้วยชัยชนะของ  บีจี ปทุม 2-3

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจองานลำบากตั้งแต่เสียประตูแรกเร็ว จนต้องเร่งและได้ประตูตีเสมอ แต่ก็มิวายที่จะเสียคืนในทันที กระทั่งการมาเหลือ 10 แล้วโดนยิงทิ้งห่างเป็น 1-3 มันก็ทำให้เกมแทบจะจบในทันที ส่วนทางฝั่ง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ขุมกำลังค่อนข้างลงตัวแต่ก็ยังมีตำหนิ ไล่ตั้งแต่เกมรับที่พลาดลูกอากาศให้เห็น กับการเข้าทำในแดนสุดท้ายที่ยังไม่ค่อยเห็นรูปแบบเท่าไร แต่วันนี้ยิงได้เพราะจังหวะทุกอย่างลงล็อคและนักเตะยิงได้เฉียบคม     

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“แชมป์สักที จากที่เกร็งมานาน” 

บุรีรัมย์  ฝ่าความเกร็ง ถล่ม หนองบัว 0-3 ปิดจ็อบแชมป์ลีก 

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามพิชญ สเตเดี้ยม หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่มีผลงานโดดเด่นยามเล่นในบ้าน จะต้องทำดาร์บี้แมตช์อีสานกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ชะตาการคว้าแชมป์อยู่ในตัวเอง โดยหากชนะจะเป็นแชมป์ทันที แต่ถ้าเผด็จศึกไม่ลงก็ต้องไปลุ้นนัดสุดท้าย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านเปลี่ยนมาใช้ 4-4-2 ส่วนทีมเยือนก็เปลี่ยนเช่นกันเป็น 4-3-3      

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น บุรีรัมย์ เป็นฝ่ายบุกใส่ตามคาด แต่การบุกที่ปรากฏยังเกร็งๆเหมือนหลายนัดที่ผ่านมา ทำให้เมื่อเจอแนวรับที่เหนียวแน่นของเจ้าถิ่น จึงเจาะเข้าไปไม่ได้ กระนั้นผู้เล่นของฝั่งปราสาทสายฟ้า ก็ได้แสดงให้เห็นการเล่นให้ชัวร์ให้นิ่งที่สุด แล้วค่อยจ่ายหรือยิง อย่างไรก็ดีโชคและจังหวะได้เข้ามาช่วยปลดล็อคให้ บุรีรัมย์ ในนาทีที่ 39 ด้วยประตู 0-1 จากการไปฉกบอลของ ศุภโชค แล้วลากไปถึงสุดเส้นหลัง ก่อนจะจ่ายกลับมาหน้าประตู ซึ่งกองหลังเจ้าถิ่นสกัดไม่ถึง และผู้น้องอย่าง ศุภณัฏฐ์ ได้วิ่งเข้าชาร์ตพอดี ส่วนทางฝั่ง หนองบัว พิชญ วันนี้ได้แต่เล่นเกมรับ เพราะการสวิตช์บอลจากรับเป็นรุกมักเสียกลางทาง ทำให้กองหน้าทั้ง 2 คน แทบหายไปจากเกม จนต้องอาศัยการยิงไกลเพียงอย่างเดียว  

ครึ่งหลัง หนองบัว พยายามจะครองบอลเพื่อทำเกมบุก แต่การครองบอลในทุกครั้งมักเสียคืนไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องเสียแรงกลับไปตั้งรับ กระทั่งโดนยิงทิ้งห่าง 0-2 จากการเล่นที่ไม่ละเอียด อีกทั้งการปั๊มบอลที่ไม่ได้เปรียบ ดันไม่ตามต่อให้สุดทาง และแนวรับด้านในก็ไม่มองตัวที่วิ่งขึ้น ทำให้ ธีราทร ได้ขึ้นมายิงโล่งๆ ส่วนในช่วงท้ายเกม บุรีรัมย์ มาได้ประตู 0-3 ปิดกล่อง จากการทำชิ่งและหลุดข้าไปยิง

      บทสรุปจากเกม หนองบัว พิชญ เอฟซี ในวันนี้ ถือว่าเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ไล่ตั้งแต่เกมรับที่เหนียวแน่นในช่วง 0-0 แต่พอเสียประตูอาการรั่วมาทันที ส่วนเกมรุกไม่สามารถลำเลียงบอลไปขึ้นหน้าเป้าได้ ทำให้เกมนี้เป็นต้องหมดพลังงานไปกับการตั้งรับ ขณะที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อาการเกร็งแบบที่ผ่านยังมีอยู่ แต่พอได้ประตูเหมือนทุกอย่างถูกปลดล็อค จากนั้นขอแค่เล่นไปตามเกม ซึ่งเมื่อมีโอกาสก็ยิงทิ้งห่างได้ ทำให้เกมนี้เล่นง่ายในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายและปิดจ็อบแชมป์ไทยลีกได้สำเร็จเสียที

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ฟรีคลิกปลิดงานฉลอง”

เชียงราย แสบทรวง ตีเจ๊า บุรีรัมย์ 1-1 ล้มงานฉลองแชมป์ในบ้าน

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 28 ณ สนามช้างอารีน่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่จะต้องลงเล่นในรังเหย้านัดสุดท้ายของฤดูกาล กับ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด โดยเกมการแข่งขันนัดนี้มีความหมายต่อขุนพลปราสาทสายฟ้าอย่างยิ่ง เพราะหากคว้าชัยชนะนัดนี้ได้ ก็จะการันตีการแชมป์และรับถ้วยต่อหน้าแฟนบอลของตัวเอง สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-3-3 ส่วนทีมเยือนปรับมายืนหลัง 4 ในระบบ 4-4-2

ตลอด 45 นาทีแรก บุรีรัมย์ ครองเกมได้เหนือกว่าทุกเหลี่ยมมุม โดยเฉพาะฝั่งซ้ายที่โดดเด่นกว่าการเจาะจากกลางสนามและฝั่งขวา เพราะมี ธีราทร เป็นตัวเคลื่อนบอล อีกทั้งการขยับหาตำแหน่งและรับส่งบอลก็รวดเร็วจนสามารถเจาะพื้นที่อันตรายอยู่เรื่อยๆ กระนั้นปัญหาเดิมเหมือนจะตามหลอกหลอน กับการยิงประตูที่ออกอาการเกร็ง ส่วนทางฝั่ง ลีโอ เชียงราย เหมือนคนยืนพิงเชือกตลอดเวลา เพราะได้แต่เล่นเกมรับ แถมยังเสียบอลหน้าบ้านตัวเองแบบง่ายๆ มิหนำยังไม่สามารถออกบอลให้พ้นแดนตัวเองได้ กระทั่งต้องใช้การโยนยาวถึงจะมีโอกาสได้ลุ้นบ้างแบบนานๆครั้ง

ครึ่งหลัง บุรีรัมย์ เดินหน้าบุกเหมือนเดิม แล้วมาได้ประตูนำ 1-0 จากจุดโทษที่น่ากังขา เพราะการสัมผัสตัวของกองหลังทีมเยือน มันค่อนข้างเบา อีกทั้งการให้ใบแดงก็ดูจะเกินกว่าเหตุ ส่วนจังหวะยิงจุดโทษ ศุภโชค ยิงเกือบไม่เข้า ซึ่งมันก็สื่อให้เห็นว่าขุนพลปราสาทสายฟ้ามีความเกร็งแบบหนักหน่วงจริงๆ จากนั้นเจ้าถิ่นเริ่มเบาเกมบุกลงและเน้นการเก็บบอลให้แน่นอนขึ้น กลับกันทางฝั่ง ลีโอ เชียงราย พยายามจะเปลี่ยนตัวและแท็กติกเพื่อเล่นเกมบุก แต่จากภาพที่ออกมามันไม่มีแม้แต่รูปแบบการเข้าให้เห็นเลย จะมีเพียงการวิ่งเติมของตัวผู้เล่นที่ดูจะเด่นชัดขึ้น กระนั้นในช่วงท้ายเกมราวนาทีที่ 85 กว่างโซ้งมาได้ฟรีคลิกทางมุมซ้าย แล้ว เก็ทเดอร์สัน ปั่นโค้งเสียบเสาไกลในชนิดที่ ศิวรักษ์ พุ่งอย่างไรก็ไปไม่ถึง ตีเสมอเป็น 1-1 พร้อมกับจบเกมด้วยสกอร์นี้

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังมีความเกร็งให้เห็นแบบต่อเนื่อง แต่รูปเกมเหนือกว่าและได้ประตู จนเวลาผ่านไปเรื่อยๆก็เหมือนจะไม่มีปัญหา กระนั้นในเมื่อสกอร์ยังไม่ขาดและนำแค่ลูกเดียว มันก็มีโอกาสถูกตีเสมอจากลูกยิงผีจับยัดได้ ซึ่งมันก็เกิดขึ้นและขุนพลปราสาทสายฟ้าต้องยอมรับที่ตัวเองเลือกจะเล่นแบบนี้เอง ขณะที่ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด การคว้า 1 แต้ม คือดวงมหาเฮง เพราะรูปเกมสู้ไม่ได้ มีความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆหน้าบ้านตามเอง แต่การยิงเข้ากรอบไม่กี่ครั้งดันเป็นประตู

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

” ไม่ชนะก็ต้องรอไปก่อน “

บุรีรัมย์ 10 คน ลนลาน ได้แค่เจ๊า ขอนแก่น แบบมีเดือด 0-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 28 ซึ่งเป็นเกมแข่งล่วงหน้า ณ สนามกีฬากลางจังหวัดขอนแก่น ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่แทบจะร้อยเปอร์เซนต์ต่อการอยู่รอดและก็ต้องการที่จะทำอันดับให้ดีที่สุด ซึ่งวันนี้จะต้องทำศึกดาร์บี้แมตช์อีสานกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่แม้จะพลาดท่าพ่ายแพ้มา แต่โอกาสคว้าแชมป์ก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม ถ้าคว้าชัยชนะในเกมนี้ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-5-2 ตามเดิม ส่วนทีมเยือนก็ยังเป็น 4-4-2 เหมือนเคย

บุรีรัมย์ เน้นการชิ่ง 1-2 ในพื้นที่แดน 1-2 แต่เมื่อเข้าแดน 3-4 จะพยายามเคลื่อนที่ทั้งคนและบอลให้รวดเร็วขึ้น อีกทั้งการเติมเกมของตัวผู้เล่นก็ทำได้ดี แต่สิ่งที่จะเห็นได้ชัดเจน คือ การจบสกอร์ดูรีบเร่งและกดดัน จนความอันตรายลดน้อยถอยลง ส่วนทางฝั่งขอนแก่น พยายามเล่นเกมรับให้เหนียวแน่น แต่ด้วยความที่ศักยภาพของคู่แข่งสูงกว่า การเคลื่อนที่เร็วกว่า ทำให้การตามประกบเอาไม่ค่อยอยู่ ขณะที่เกมรุกโต้กลับไม่ได้ เพราะครองบอลไว้กับตัวไม่นานก็เสียคืน ทำให้การเล่นเกมรับแทบจะไม่ได้หยุดหายใจ กระนั้นด้วยความกดดันของคู่แข่ง ทำให้จงอางผยองรอดพ้นการเสียประตู อีกทั้งความสติแตกของโบลินกี้ จนโดนใบแดง ก็ยิ่งช่วยให้เจ้าบ้านมีความเบาใจมากยิ่งขึ้น

ครึ่งหลัง ขอนแก่น ที่ตัวผู้เล่นมากกว่า ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความได้เปรียบ เพราะรูปเกมยังเป็น บุรีรัมย์ ที่เหลือผู้เล่น 10 คน ได้โหมเกมบุกใส่แบบไม่มีโอกาสได้ตอบโต้ ซึ่งถ้าเกิดโดนยิงขึ้นมา จงอางผยองแทบจะเปิดประตูสู่ความพ่ายแพ้ แต่มันเป็นเพราะแนวรุกปราสาทสายฟ้าเสียเองที่เร่งจังหวะตัวเองมากเกินไป อีกทั้งการคิดแบบซับซ้อนซ่อนเงื่อน ก็เป็นผลให้พวกเขาไม่มีช่องได้ยิง

บทสรุปจากเกม ขอนแก่น ยูไนเต็ด เป็นรองอยู่แล้วตามศักยภาพ โดยเฉพาะเกมรับที่ตามประกบไม่ค่อยอยู่ อย่างไรเสียหมัดเด็ดในเกมโต้กลับ ดันไม่มีไปตอบโต้คู่แข่ง ทำให้ผลเสมอ คือ ผลสกอร์ที่ดีที่สุดสำหรับจงอางผยองแล้ว ส่วนทางฝั่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีทุกอย่างที่เหนือกว่าเจ้าถิ่น ไม่ว่าจะเป็นศักยภาพ แท็กติก และฟอร์มการเล่น แต่พอมีความกดดันสะสมมาจากนัดที่แล้ว มันก็เห็นได้ชัดถึงการจบสกอร์ที่เน้นมากเกินไปจนความอันตรายหดหาย ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องดีแน่หากยังเป็นแบบนี้ในนัดถัดไป

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover