Categories
ข่าวกีฬา

ตัดเกรดผู้เล่น ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ชวดหยิบแชมป์แรกเข้าสโมสร  

ตัดเกรดผู้เล่นทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พลาดแชมป์ให้กับ บุรีรัมย์ 2-0

อกหักและต้องรอแชมป์แรกต่อไป สำหรับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พวกเขาได้เข้าชิงบอลถ้วยช้างเอฟเอ คัพ อีกหน และได้เปรียบที่สนามกลาง คือสนามที่พวกเขาใช้เป็นรังเหย้า ซึ่งดูจะได้เปรียบอย่างมหาศาล แต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะเอาชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ ฉะนั้นในเกมที่เหล่าแข้งเทพต้องพ่ายแพ้ไป 0-2 พวกเขามีฟอร์มการเล่นเป็นอย่างไร และใครคือสาเหตุที่ทำให้ทีมต้องพลาดแชมป์ นับจากนี้เราจะไปให้คะแนน ตัดเกรดผู้เล่นทรู แบงค็อก ยูไนเต็ดกัน  

ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด (6) : ไม่ค่อยมีจังหวะเซฟเท่าไร แต่โดยรวมแล้วก็อยู่ในฟอร์มมาตรฐาน ส่วน 2 ประตูที่เสีย ต้องบอกว่าสุดปัญญาที่ช่วยได้

นิติพงษ์ เสลานนท์ (5) : เกมรับไม่ค่อยมีปัญหา แต่การเติมเกมรุกไม่ค่อยสร้างประโยชน์ ไล่ตั้งแต่การเปิดบอลที่ไร้ความแม่นยำ การทำชิ่งกับเพื่อนที่ทำเสียง่ายๆ

มานูเอล ทอม เบียรห์ (4) : นี่คือตัวสำคัญที่ทำให้ทีมเสียประตูแรกและรูปเกมเปลี่ยนไป ซึ่งการจ่ายบอลคืนหลังและน้ำหนักขาดแบบนั้น เป็นปัญหาซ้ำซากที่เจ้าตัวไม่เคยแก้ไข

เอเวอร์ตัน กอนซัลเวส (6) : ยืนตำแหน่งได้ดีและไม่มีความผิดพลาด

พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา (5) : โดนคู่แข่งเจาะผ่านการวางยาว สปีดการวิ่งประกบเป็นรองคู่แข่ง นั่นจึงทำได้เพียงยืนประคอง มากกว่าหาจังหวะสกัดบอล   

ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (5) : มีโอกาสส่องบอลไกลหลายหน แต่สิ่งที่เหมือนเดิม คือความแม่นยำไม่มีและนกตายไปหลายตัว เพราะยิงหลุดกรอบไปไกลลิบ  

ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร (5) : เป็นกองกลางที่น่าจะเงียบที่สุดแล้ว เพราะเมื่อได้บอลก็ได้เพียงแปะไปมา ไม่ก็เสียคืนไปง่ายๆ

มาห์มูด ดาฮัดดา (6) : พยายามจะสร้างความอันตรายตรงริมเส้น แต่พอขาดตัวสนับสนุน เจ้าตัวก็ดูโดดเดี่ยวไปสักหน่อย 

ปกเกล้า อนันต์ (6) : ในช่วงที่เกมตื้อตันและเสียง่ายๆ เจ้าตัวพยายามใช้ความสามารถเฉพาะพาไป แต่ก็ไม่ค่อยได้ผล

วานเดอร์ หลุยส์ (6) : ลากเลี้ยงบอลไว้กับตัวได้ดีตามความถนัด แต่เมื่อจ่ายให้เพื่อนที่อยู่ด้านใน กลับไม่มีความแม่นยำ สุดท้ายโอกาสทำประตูไม่เกิดขึ้น  

วิลเลน โมตา (5) : ช่วงต้นมีส่วนร่วมกับเกม เพราะขยับลงมาพักบอลและจ่ายให้เพื่อนที่วิ่งเติม แต่พอเสียประตูแรก เพื่อนป้อนบอลไม่ถึงและเจ้าตัวค่อยๆหายไปจากเกม

ชญาวัต ศรีนาวงษ์ (5) : ลงมาแล้ว ก็ไม่ได้ช่วยเปลี่ยนเกมให้ดีขึ้น

รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก (5) : ไม่มีจุดเด่นอะไร เว้นเสียแต่จังหวะที่ถูก โบรินกิ บีบคอ และเจ้าตัวไม่ตอบโต้อะไร  

วันชัย จารุนงคราญ และ ทัศนพงษ์ หมวดดารักษ์ (ไม่มีคะแนน) : ลงมาในช่วงที่เพื่อนถอดใจกันหมดแล้ว 

ตัดเกรดผู้เล่นทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในพ่าย บุรีรัมย์ 2-0
ตัดเกรดผู้เล่นทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในพ่าย บุรีรัมย์ 2-0
ตัดเกรดผู้เล่นทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในพ่าย บุรีรัมย์ 2-0
ตัดเกรดผู้เล่น ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในพ่าย บุรีรัมย์ 2-0

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ตัดเกรดผู้เล่น บีจี พ่าย บุรีรัมย์ ชวดแชมป์ลีกคัพ 

ตัดเกรดผู้เล่น บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ชวดแชมป์ลีกคัพสมัยแรก ศึกฟุตบอลรีโว่ลีกคัพ

ศึกฟุตบอลรีโว่ลีกคัพ รอบชิงชนะเลิศ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด หลุดเข้ามาชิงถ้วยนี้เป็นหนที่ 2 เพื่อคว้าแชมป์สมัยแรก แต่การนำทีมของโค้ชใหม่อย่าง ธงชัย สุขโกกี ก็ต้องพ่ายแพ้ความเฉียบคมของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยในเกมนัดนี้ ผู้เล่นของกระต่ายแก้วจะได้คะแนนกันคนละเท่าไรบ้าง นับจากนี้เราไป ตัดเกรดผู้เล่น บีจี กันเลย

กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก (6) : มีจังหวะเซฟช่วยทีมให้เห็น แต่การออกบอลผิดพลาดบ่อย รวมถึงการป้องกันในจังหวะเสียประตู ที่น่าจะป้องกันได้บ้าง มิใช้ปล่อยบอลตุงตาข่ายแบบนั้น

ยูซูเกะ มารุฮาชิ (6) : ยืนเกมรับได้ดีจนคู่แข่งไม่อยากเจาะ แต่เกมรุกอาจจะไม่โดดเด่นนัก

จักพัน ไพรสุวรรณ (6) : ไม่มีความผิดพลาดอะไร แต่ก็น่าเสียดายที่ลูกแรกไม่สามารถสกัดบอลได้ทัน

อันเดรส ตูเญซ (6) : ไม่มีความผิดพลาดและเล่นได้ตามฟอร์ม

สันติภาพ จันทร์หง่อม (6) : ไม่มีความผิดพลาด แต่จุดเด่นเรื่องการเปิดบอล แทบจะไม่ได้ช่วยทีมเลย

เชาว์วัตน์ วีระชาติ (7) : เชื่อมบอลและทำงานอย่างหนักในแดนกลาง แต่น่าเสียดายที่ไม่มีจังหวะจ่ายสวยๆ  

สารัช อยู่เย็น (7) : เชื่อมบอลจากหลังสู่แดนกลาง ซึ่งทำงานหนักและใช้พละกำลังมาก แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถช่วยทีมให้รอดพ้นจากความพ่ายแพ้

พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล (6) : ช่วงต้นเหมือนจะไม่มีบทบาท แต่เมื่อแดนกลางเชื่อมบอลติด การเบียดชิงบอล การจ่ายบอลให้แนวรุก คือสิ่งที่เจ้าเต้แสดงให้เห็น

พาตริก กุสตาฟส์สัน (5) : ถูกดันขึ้นมาเล่นเกมรุก แต่การพาบอลเข้ามุมแคบและไม่มีโอกาสจบ มันทำให้ทีมเสียโอกาสและไม่มีลุ้นแบบเสียวๆ สุดท้ายถูกเปลี่ยนตัวออกเป็นรายแรก

ธีรศิลป์ แดงดา (5) : บอลไม่ค่อยถึงตัว กระนั้นก็ยังมีโอกาสอยู่ 2-3 ครั้ง แต่กดไม่ลงและยิงไม่ผ่านผู้รักษาประตู

สเตนิโอ จูเนียร์ (6) : ในช่วงครึ่งแรกอาจดูเงียบๆ แต่ครึ่งหลังค่อนข้างโดดเด่น โดยเฉพาะการกระชากและลากเลื้อย แต่เมื่อแรงหมด ความอันตรายก็หายไปเช่นกัน

อิรฟาน ฟานดี้ (5) : มีเวลาอยู่ในสนามราว 20 นาที แต่ก็มิอาจช่วยให้ทีมรอดพ้นการเสียประตู  

สุรชาติ สารีพิมพ์ (5) : ถูกส่งลงมาเป็นคนแรกและมีจังหวะช่วยทีม แต่จังหวะที่น่าผิดหวังสุดๆ คือการยิงในกรอบเขตโทษ แต่ไม่มีลุ้นเพราะยิงหลุดกรอบไปเสียดื้อๆ

กรวิชญ์ ทะสา (4) : ถูกส่งมาเล่นเกมรุก แต่ไม่ค่อยกล้าเล่นจนเกมรุกเสียจังหวะ มิหนำซ้ำยังจ่ายพลาดให้คู่แข่งยิงประตูปิดกล่อง  

ตัดเกรดผู้เล่น บีจี ในเกมพ่าย บุรีรัมย์ 2-0 ชวดแชมป์ลีกคัพสมัยแรก
ตัดเกรดผู้เล่น บีจี ในเกมพ่าย บุรีรัมย์ 2-0 ชวดแชมป์ลีกคัพสมัยแรก
ตัดเกรดผู้เล่น บีจี ในเกมพ่าย บุรีรัมย์ 2-0 ชวดแชมป์ลีกคัพสมัยแรก
ตัดเกรดผู้เล่นบีจี ในเกมพ่าย บุรีรัมย์ 2-0 ชวดแชมป์ลีกคัพสมัยแรก

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

3 แต้ม ส่งแชมป์  บุรีรัมย์ การันตีแชมป์ไทยลีก สมัยที่ 8

บุรีรัมย์เก็บ 3 แต้ม เก็บ เชียงราย คาถิ่น 1-2 การันตีการคว้าแชมป์ทันที

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 27 ในโปรแกรมวันเสาร์ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ยังมีลุ้นอันดับ 3 แบบห่างๆ วันนี้จะเปิดบ้านลีโอ เชียงราย สเตเดี้ยม รับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่จ่อแชมป์แบบเต็มแก่ โดยหากเกมนี้ บุรีรัมย์เก็บ 3 แต้ม ได้ พวกเขาจะการันตีการคว้าแชมป์ทันที สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-4-2 ส่วนทีมเยือนปรับมาใช้ผัง 4-3-3  

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ลีโอ เชียงราย เน้นความรัดกุมในแดน 3-4 ซึ่งมีผลให้คู่แข่งไม่สามารถต่อบอลสั้นในพื้นที่หน้าประตู รวมถึงไม่มีพื้นที่สำหรับการวางบอลยาวข้ามไลน์กองหลัง แต่เมื่อเจอลูกเตะมุมในนาทีที่ 30 บุรีรัมย์ เล่นลูกสูตรที่ซ้อมกันมาด้วยการให้ พรรษา โหม่งชงแล้ว เคาซิส ยิงมุมแคบขึ้นนำ 0-1 จากนั้นกลายเป็น ขุนพลปราสาทสายฟ้า ที่จู่โจมในช่วงที่แนวรับเจ้าบ้านเสียสมาธิ กระนั้นก็น่าเสียดายที่ได้แค่ลุ้นเสียว

บุรีรัมย์เก็บ 3 แต้ม การันตีแชมป์ไทยลีก สมัยที่ 8

บุรีรัมย์เก็บ 3 แต้ม การันตีแชมป์ไทยลีก สมัยที่ 8

         

ครึ่งหลัง บุรีรัมย์ ผ่อน  เชียงราย ทำเกมบุกไม่ขึ้น แล้วเกมก็ต้องหยุดพักเพราะเจอพายุลูกเห็บ จนเมื่อเกมกลับมาแข่งกันต่อ บุรีรัมย์ มาได้ประตูทิ้งห่าง 0-2 จากเตะมุมอีกครั้งในนาทีที่ 66 แต่ไล่หลัง 5 นาที ทีมเยือนจ่ายบอลพลาดกลางสนาม ก่อนตัดสินใจจ่ายเบิ้ลจังหวะเดียวให้ คิม จี มิน ลากบอลเข้าไปยิงลอดขาให้ เชียงราย ไล่มา 1-2 พร้อมกับโมเมนตัมที่เข้าทางกว่างโซ้งมหาภัย จากการแทงบอล ปาดบอลที่ด้านข้างของแดน 2-3 ไปยังหน้าประตู โดยโอกาสที่ใกล้เคียง 2-3 ครั้ง พวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูตีเสมอได้ ทำให้จบเกมด้วยสกอร์ 1-2   

          บทสรุปจากเกม ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด วางแผนตั้งต้นด้วยการเล่นแบบรัดกุมตามความถนัด แต่ดันมาเสียประตูจากลูกเตะมุมทั้ง 2 ลูก เพราะตามเล่ห์เหลี่ยมของคู่แข่งไม่ทันและประกบตัวพลาดเอง พร้อมกันนั้นก็อย่างที่รู้ๆกันว่าถ้าพวกเขาโดนนำไปก่อนแล้วต้องบุกใส่ทีมที่เล่นรัดกุม กว่างโซ้งมหาภัยมักมีปัญหา คือเจาะไม่เข้าและยิงไม่ได้ กระทั่งจุดเปลี่ยนเกิดเมื่อมีการจ่ายบอลพลาดและยิงไล่มา 1-2 ซึ่งในเวลานั้นเป็นโอกาสทองที่จะตีเสมอเพื่อแบ่งแต้ม แต่ทำไม่สำเร็จ ส่วนทางฝั่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอาชนะด้วยการมีทีเด็ดจากลูกเตะมุม เพราะการเล่นแบบ open play ถูกปิดพื้นที่แดน 3-4 จนทำอะไรไม่ถนัดนั้น นอกจากนี้ยังต้องกล่าวถึงจังหวะเสียประตู 1-2 ที่เกือบจะเป็นจุดเปลี่ยนให้ทีมไม่ได้ 3 แต้ม แต่สุดท้ายก็ยังช่วยกันสกัด ช่วยกันเซฟ กระทั่งคว้า 3 แต้ม และการันตีแชมป์ในที่สุด

บุรีรัมย์เก็บ3 แต้ม การันตีแชมป์ไทยลีก สมัยที่ 8
บุรีรัมย์เก็บ 3 แต้ม การันตีแชมป์ไทยลีก สมัยที่ 8

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“น็อคแชมป์คาบ้าน”  ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 28 โปรแกรมวันอาทิตย์

น็อคแชมป์คาบ้าน ท่าเรือ โค่น บุรีรัมย์ คาถิ่น 2-3

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 28 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามช้างอารีน่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่การันตีคว้าแชมป์ไทยลีกฤดูกาลนี้ไปครอง จะต้องพบกับ การท่าเรือ เอฟซี ที่ผลงานกำลังขึ้นหม้อและต้องการแต้มเพื่อติดอันดับ 3 และลุ้นโควต้าเพลย์ออฟ ACL ศึกนี้ท่าเรือจะสามารถ น็อคแชมป์คาบ้าน เอาชนะบุรีรัมย์ได้อย่างไรมาติดตามกันสำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-2-3-1 ส่วนทีมเยือนยังยึดผัง 4-4-2  

15 นาทีแรก เหมือนดูเชิงกันเสียมากกว่า แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ บุรีรัมย์ จับทางและระดมเกมบุกใส่ ไล่ตั้งแต่ การแทงจากด้านข้าง หรือแทงจากตรงกลางไปให้กองหน้า รวมถึงลูกเปิดของ ธีราทร ที่สร้างความหวาดเสียวได้ กระนั้นประตูนำ 1-0 มาเกิดขึ้นในนาทีที่ 41 แถมจุดเริ่มต้นมาจากความผิดพลาดของทีมเยือนที่โหม่งสกัดบอลไม่ดี ทำให้ วุชคิช ปรี่เข้ามายิงเสียบโค่นเสาด้านบนอย่างสวยงาม

น็อคแชมป์คาบ้าน ท่าเรือ เฉือนชนะ บุรีรัมย์ 2-3
น็อคแชมป์คาบ้าน ท่าเรือ เฉือนชนะ บุรีรัมย์ 2-3

ครึ่งหลัง การท่าเรือ มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากฟรีคลิกที่แสนโหดเหี้ยมของ แอร์ตอน เพราะมันพุ่งเสียบสามเหลี่ยมแบบไม่ต้องรับ จากนั้นเหมือนเจ้าบ้านช็อคและโดนแซงนำ 1-2 เมื่อโยนบอลให้ แฮรมิลตัน โหม่งชง แล้ว วรชิต จัดการยิงเข้าไปอย่างเด็ดขาด แต่หลังจากนั้น 4 นาที บุรีรัมย์ มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากเตะมุมของ ศุภชัย ที่ได้โขกโล่งๆ แล้วจากจุดนี้ รูปเกมก็เริ่มจะแลกใส่กันแบบหมัดต่อหมัด สุดท้าย สิงห์เจ้าท่า ขึ้นนำ 2-3 ในนาทีที่ 80 จากจังหวะสกัดบอลที่เป็นใจให้ วรชิต แต่ก็ต้องชมเทพตาปิดผู้นี้ ที่ล็อคหลบและเลือกมุมยิงแบบชาญฉลาด ขณะที่ช่วงเวลาที่เหลือ ปราสาทสายฟ้าเหมือนคนสติแตก เพราะเปิดไปข้างก็เหมือนกับคนเตะบอลอัดกำแพง ทำให้จบเกมด้วยการคาบ้าน 2-3

บทสรุปจากเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฉกฉวยความผิดพลาดของคู่แข่งและเปลี่ยนเป็นประตูได้ 2 ลูก แต่จุดหักเหของวันนี้คือ เมื่อเสียประตูแรกแล้วสมาธิแกว่ง ทำให้เสียเพิ่ม และรูปเกมดูขาดๆเกินไปหมด สุดท้ายต้องพ่ายแพ้แบบคาบ้าน ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ เอฟซี ในครึ่งแรกเล่นไม่ออก แถมมีความผิดพลาดง่ายๆในเกมรับจนเสียประตู แต่ประตูตีเสมอ 1-1 ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้พวกเขาฟื้นคืนชีพ จนกลับมายิงรัวอีก 2 ลูก และคนที่ต้องได้รับเครดิตมากที่สุดคือ วรชิต ที่ยิง 2 ลูกในเกมนี้ด้วยนิ่งและชาญฉลาด ทำให้กลายเป็นทีมแรกที่บุกมาชนะแชมป์ไทยลีกประจำซีซั่นนี้       

น็อคแชมป์คาบ้าน ท่าเรือ เฉือนชนะ บุรีรัมย์ 2-3
น็อคแชมป์คาบ้านท่าเรือ เฉือนชนะ บุรีรัมย์ 2-3

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“แกร่งเกินใครจะต้านทาน” บุรีรัมย์ ปิดจ็อบ 3 แชมป์ 2 ปีซ้อน

สร้างสถิติคว้า แชมป์ บุรีรัมย์ ตบ บียู นิ่มๆ 2-0

ศึกฟุตบอลช้าง เอฟเอคัพ ประจำฤดูกาล 2022/23 ณ สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ผ่านเข้ามาชิงเป็นหนที่ 2 เพื่อหวังคว้าแชมป์แรก ซึ่งวันนี้จะต้องพบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่พร้อม สร้างสถิติคว้า 3 แชมป์ 2 ปีซ้อน เป็นทีมแรกของไทย ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม แข้งเทพมาในระบบ 4-2-3-1 ขณะที่ปราสาทสายฟ้าใช้ 4-4-2

ช่วง 15 นาทีแรก บุรีรัมย์ วางบอลยาวจากแดนตัวเองไปยังหน้ากรอบเขตโทษของคู่แข่ง หรือโจมตีด้วยการเคาะบอลจากทางริมเส้น แต่เมื่อไปถึงแดน 3 ทรู แบงค็อก มักเก็บบอลได้และจ่ายฝากไปให้กองหน้าพักบอลเพื่อรอตัวรุกด้านข้างเติมมาช่วย ซึ่งเกมทำท่าจะสูสี แต่ความผิดพลาดครั้งใหญ่อีกหนของ ทอม เบียร์ห ที่ตั้งใจจะจ่ายคืนหลังแล้วน้ำหนักขาดไปเยอะ มันจึงกลายเป็นโอกาสทองของ โอรินกิ ที่วิ่งตามไปซัดให้ บุรีรัมย์ นำ 0-1 ในนาทีที่ 18

หลังจากเสียประตูแบบง่ายๆ บียู พยายามทำเกมบุกด้วยการโจมตีทางด้านข้าง แต่ปัญหาที่เห็นชัดเจนคือ ไม่สามารถป้อนบอลจากริมเส้นไปให้ โมต้า ที่เป็นกองหน้าได้ รวมถึงการผ่านบอลหน้ากรอบเขตโทษที่เสียง่ายๆตลอด ขณะที่ บุรีรัมย์ รูปเกมไม่ได้ดีไปกว่าตอนเสมอ 0-0 เพราะวางบอลไม่แม่น ครองบอลแบบเบ็ดเสร็จไม่ได้ กระนั้นพวกเขามาได้ประตูนำ 0-2 ในช่วงก่อนหมดเวลา จากลูกโหม่งเตะมุมของ โบรินกิ ซึ่งคนเปิดอย่าง ธีราทร วางบอลได้แม่นยำสุดๆ

ครึ่งหลัง บียู พยายามเจาะพื้นที่ตรงกลาง แต่ปัญหาเดิมๆคือ การเคลื่อนที่เพื่อสอดรับกัน ไม่ดีและเสียบอลง่ายๆ ทำให้จังหวะที่เก็บบอลและโต้กลับขึ้นมาหลายครั้ง จากที่ดูเหมือนจะวูบวาบ กลับกลายเป็นไม่ได้ลุ้นอะไรเลย สุดท้ายกลับมาเล่นบอลริมเส้นก็ส่งบอลให้ตัวในไม่ได้ ยิงไกลก็ไม่เข้าเป้า ขณะที่ บุรีรัมย์ ครึ่งหลังแทบจะไม่มีอะไรนอกจากรับให้แน่นๆและรอสวนกลับ แต่ก็ไม่ค่อยมีจังหวะให้ลุ้น ทำให้เกมจบลงด้วยสกอร์เดิมคือ 0-2 ของปราสาทสายฟ้า

บทสรุปจากเกม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เริ่มเกมด้วยโมเมนตัมที่ดี แต่พอเสียประตูจากความผิดพลาดง่ายๆของ ทอม เบียร์ห บียู ก็เล่นแบบไร้แรงจูงใจ แถมโดนยิงเพิ่มก่อนจบครึ่งแรก แม้ว่าช่วงต้นครึ่งหลังจะมีฮึดเล็กน้อย แต่สุดท้ายทำอะไรก็ไม่ดี ไม่ได้ผล และพ่ายแพ้ตามระเบียบ ส่วนทางฝั่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จุดเปลี่ยนคือประตูแรกที่พวกเขาฉกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของคู่แข่งและเปลี่ยนเป็นประตูได้ แถมมาได้ประตูทิ้งห่าง 0-2 จากการเตะที่แม่นยำและรู้ใจ ทำให้ในครึ่งหลังเล่นสบาย แม้ว่าการเล่น open play ในวันนี้ จะไม่ค่อยดีก็ตาม

สร้างสถิติคว้า 3 แชมป์ 2 ปีซ้อน เป็นทีมแรกของไทย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
สร้างสถิติคว้า 3 แชมป์ 2 ปีซ้อน เป็นทีมแรกของไทย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ตัดเกรดผู้เล่น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในเกมเฉือนชนะ บีจีปทุม 2-0 เถลิงแชมป์ลีกคัพสมัยที่ 7

ตัดเกรด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในเกมเฉือนชนะ บีจีปทุม

ศึกฟุตบอลรีโว่ลีกคัพ รอบชิงชนะเลิศ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผ่านเข้าชิงถ้วยใบนี้อีกครั้งและเป็นฝ่ายสมหวังเมื่อเอาชนะ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 2-0 ทำให้กลายเป็นแชมป์ 2 สมัยซ้อน และเป็นแชมป์รวม 7 สมัย ส่วนการแข่งขันในเกมนี้ ขุนพลปราสาทสายฟ้าโชว์ฟอร์มได้สวยหรูหรือไม่ นับจากนี้เราจะไป ตัดเกรด ให้คะแนนกัน

ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (8) : เหนียวหนึบ หากลูกยิงไม่ได้ยากแบบสุดปัญญา ซึ่งการออกแรงเซฟไม่ให้ทีมโดนตีเสมอ ถือเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ทีมได้รับชัยชนะ

ศศลักษณ์ ไหประโคน (5) : การเติมเกมรุกไม่ได้สร้างประโยชน์ การเล่นเกมรับก็ถูกเจาะตลอด กระนั้นยังดีที่ไม่พลาดแบบน่าเกลียด

โจนาธาน โบลินกิ (5) : บอลไม่ค่อยถึงตัว ทำให้ต้องไล่บอลเป็นสวนใหญ่ สุดท้ายเงียบสนิทจนถูกเปลี่ยนตัวออก

พรรษา เหมวิบูลย์ (6) : ยืนรักษาพื้นที่ในกรอบเขตโทษได้ดี แต่ก็มีบ้างที่ถูกเจาะและเกือบโดนลงโทษ

ธีราทร บุญมาทัน (6) : เป็นผู้เปิดลูกเตะมุมและเป็นที่มาของประตูนำ 1-0 แต่นอกเหนือจากนี้ การวางบอลไม่เด่น เกมรับก็งั้นๆ

พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี (6) : ต้องต่อสู้และชิงจังหวะในพื้นที่แดนกลาง ซึ่งในวันนี้ไม่ค่อยสร้างประโยชน์ให้กับทีมนัก

รัตนากร ใหม่คามิ (5) : ไม่โดดเด่น แถมยังตัดเกมโต้กลับไม่อยู่เลย  

นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (6) : เป็นฝั่งที่ไม่ค่อยโดนเจาะ แต่เกมรุกก็ไม่ค่อยได้เติมเลย

ศุภชัย ใจเด็ด (7) : บอลมาไม่ค่อยถึงตัว และต้องวิ่งไล่บอลเป็นส่วนใหญ่ แต่สุดท้ายเมื่อมีโอกาสทอง ก็สามารถยิงประตูฝังให้ทีมได้   

ดิออน คูล (6) : ทำหน้าที่ได้ดีและไม่มีความผิดพลาด

โกรัน เคาซิซ (6) : ประตูนำ 1-0 ถือว่าอยู่ถูกที่ถูกเวลา แต่ในช่วงเวลาที่เหลือ ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร

ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (5) : เป็นวันที่เงียบสนิทเพราะบอลมาถึงตัวน้อย แต่เมื่อบอลถึงตัว ก็โดดรุมและเอาตัวรอดไม่ค่อยสำเร็จ

ลอนซานา ดุมบูยา (5) : ได้บอลน้อย เน้นวิ่งไล่เป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่ถูกเปลี่ยนตัวออกแต่อย่างใด

ตัดเกรด ผู้เล่น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เถลิงแชมป์ลีกคัพสมัยที่ 7
ตัดเกรด ผู้เล่น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เถลิงแชมป์ลีกคัพสมัยที่ 7
ตัดเกรด ผู้เล่น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เถลิงแชมป์ลีกคัพสมัยที่ 7
ตัดเกรดผู้เล่น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เถลิงแชมป์ลีกคัพสมัยที่ 7

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ตัดเกรดผู้เล่น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในคว้าชัยเหนือ บียู 2-0 คว้า 3 แชมป์ 2 ปีซ้อน 

ให้คะแนน ตัดเกรดผู้เล่นบุรีรัมย์

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถือว่าทำได้ตามเป้าหมาย สำหรับการคว้าถ้วยช้างเอฟเอ คัพ เป็นสมัยที่ 6 พร้อมกับทำสถิติคว้า 3 แชมป์ 2 ปีซ้อน ซึ่งเอาชนะ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์ 0-2 ขุนพลปราสาทสายฟ้าได้โชว์สกิลเทพอย่างบ้าง นับจากนี้เราจะไป ให้คะแนน กัน

ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (6) : แทบจะไม่มีจังหวะที่ต้องออกแรงเซฟ เพราะคู่แข่งบุกมาไม่ถึง หรือต่อให้มีโอกาสยิง ก็ยิงนกตกปลาไปเสียหมด  

รัตนากร ใหม่คามิ (6) : เป็นกองกลางที่หยุดแนวรุกไม่อยู่ในช่วงแรก แต่พอคู่แข่งขาดความมั่นใจ ก็เล่นดีขึ้น

ดิออน คูลส์ (7) : ยืนนิ่ง จ่ายบอลดี ประกบคู่แข่งมิดชิด  

พรรษา เหมวิบูลย์ (7) : ยืนประกบมิดชิด และสกัดลูกกลางอากาศได้เกือบหมด

ศศลักษณ์ ไหประโคน (6) : ถูกดักให้ขึ้นไปเล่นเป็นปีกซ้าย แต่ก็ไม่ได้แผงฤทธิ์เท่าที่ควร เพราะไม่สามารถเชื่อมกับเพื่อน ฝ่าคู่แข่ง หรือเลี้ยงตัดเข้าในได้  

พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี (6) : เกมรับไม่โดดเด่น ช่วยทีมไม่ค่อยได้ ส่วนเกมรุกก็ไม่มีจังหวะจ่ายบอลสวยๆ

โกรัน เคาซิช (6) : เป็นกองกลางอีกคนที่ดูเงียบ ไม่เหมือนนัดก่อนที่ทำประตูได้ ทำให้ดูโดดเด่นขึ้นมา

ธีราทร บุญมาทัน (7) : ถูกขยับไปเล่นแบ็คซ้าย เพื่อปิดตัวอันตรายของคู่แข่ง ทำให้การวางบอลจากเจ้าตัว แทบจะไม่ความอันตราย เพราะมันไกลจากเพื่อน แต่พอเล่นลูกเตะมุม ความแม่นยำยังมีอยู่เต็มเปี่ยม

โจนาธาน โบลินกิ (7) : ขยันวิ่งจนเป็นที่มาขอประตูแรก ขยันหาพื้นที่ จนได้ประตูที่สอง ซึ่งคะแนนสามารถดีดไปถึง 9 คะแนน ได้ อย่างไรเสียการควบคุมอารมณ์ถือว่าต่ำมาก เพราะทีมได้เปรียบทุกอย่าง แต่ดันทำตัวเองจนโดนใบแดง ทำให้ต้องหักคะแนนออกตามสมควร

ศุภชัย ใจเด็ด (6) : เงียบ ไม่มีจังหวะยิงแบบเสียวๆ จนแทบจะลืมไปว่าลงสนามในวันนี้ด้วย 

ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (6) : พยายามใช้ความเร็วกระชากบอล เพื่อให้หลุดจากการประกบของคู่แข่ง แต่ก็ไม่ได้ผล ขณะที่การยิงประตู แทบนับครั้งได้ ซึ่งนี่เป็นอีกนัดที่ฟอร์มไม่โดดเด่นอย่างที่ควรจะเป็น

ลอสซาน่า ดูมบูย่า (6) : ลงมาในช่วงท้ายเกม ซึ่งทีมเน้นรัดกุม ทำให้บอลไม่ค่อยถึงตัว   

นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (ไม่มีคะแนน) : เวลาอยู่ในสนามน้อยเกินไป จึงไม่มีคะแนนสำหรับเจ้าต้น

ให้คะแนน ผู้เล่นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในการคว้าถ้วยช้างเอฟเอ คัพ เป็นสมัยที่ 6
ให้คะแนน ผู้เล่นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในการคว้าถ้วยช้างเอฟเอ คัพ เป็นสมัยที่ 6
ให้คะแนน ผู้เล่นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในการคว้าถ้วยช้างเอฟเอ คัพ เป็นสมัยที่ 6
ให้คะแนนผู้เล่นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในการคว้าถ้วยช้างเอฟเอ คัพ เป็นสมัยที่ 6

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ซิวถ้วยที่ 2” บุรีรัมย์ กินนิ่ม บีจี 2-0 ซิวถ้วยลีกคัพสมัยที่ 7

ซิวถ้วยลีกคัพ สมัยที่ 7 บุรีรัมย์ เฉือน บีจี 2-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ลีกคัพ รอบชิงชนะเลิศ ณ สนามธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่คว้าแชมป์รายการนี้มาแล้ว 6 สมัย จะต้องพบกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ยังไม่เคยได้แชมป์และวันนี้เป็นการเข้าชิงหนที่ 2 ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ปราสาทสายฟ้าใช้ระบบ 4-4-2 ขณะที่กระต่ายแก้วใช้ 4-3-3 ศึกนี้ทีมไหนจะ ซิวถ้วยลีกคัพ สมัยที่ 7 ไปติดตามกัน

ในช่วงต้นเกม ทั้ง 2 ทีม ต่างบีบสูงตั้งแต่กรอบเขตโทษของคู่แข่ง นั่นจึงทำให้การต่อบอลและทำเกมรุกค่อนข้างลำบากด้วยกันทั้งคู่ แต่ดูเหมือนว่าทางฝั่ง บีจี ปทุม จะมีความผิดพลาดเยอะกว่า กับการเสียเมื่อบอลถึงกลางสนาม ไม่เพียงเท่านั้นความปั่นป่วนจนต้องสกัดบอลออกหลัง ก็ได้กลายเป็นประตูนำ 1-0 ของ บุรีรัมย์ จากการเล่นเตะมุมและมีสูตรที่เข้าล็อคพอดี จากนั้น บีจี ปทุม มีอาการแกว่งเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มตั้งหลักได้เมื่อเกมผ่าน 30 นาที โดยการโจมตีทางฝั่งซ้ายจะจ่ายยัดให้กองหน้าบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ส่วนการโจมตีทางฝั่งขวา จะเน้นจี้ใส่แบ็คของคู่แข่ง แต่บอลมักจบที่การเข้ามุมแคบจะไม่มีมุมเปิดนัก

ซิวถ้วยลีกคัพ สมัยที่ 7 บีจี พ่าย บุรีรัมย์ คะแนน 2-0

ซิวถ้วยลีกคัพ สมัยที่ 7 บีจี พ่าย บุรีรัมย์ คะแนน 2-0

ทันทีที่เสียงนกหวีดดังขึ้น บีจี ปทุม วิ่งมากขึ้น การเก็บบอลจังหวะ 2 ได้เปรียบทุกครั้ง อีกทั้งนั่นยังเป็นเหตุให้พวกเขาโต้กลับและมีจังหวะจบสกอร์แบบหวาดเสียว แต่ดันขาดความเฉียบคม กระทั่งผู้เล่นเกมรุกแรงตก เกมบุกก็ไม่วูบวาบอีกเลย ส่วนทางฝั่ง บุรีรัมย์ ตั้งแต่เริ่มต้นครึ่งจนถึงช่วงนาทีที่ 70 แดนกลางต้านทานเกมรุกของคู่แข่งไม่อยู่และบอลมาถึงแดนหลังเร็วมาก แต่โชคดีทีคู่แข่งไม่เฉียบคมและ ศิวรักษ์ ช่วยเซฟไว้ได้ ก่อนที่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จะมายิงประตูฝัง 2-0 จาการจ่ายบอลพลาดของคู่แข่ง แล้ว ศุภชัย จัดการลากเข้าไปกดนิ่มๆ

บทสรุปจากเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะได้เพราะมีความเฉียบคมกว่า โดยประตูมาจากแผนที่เตรียมกันมา ขณะที่ประตูปิดกล่องเป็นการฉกฉวยโอกาสเมื่อคู่แข่งพลาด กระนั้นเกมรับยังต้องปรับเมื่อต้องเจอเกมสวนกลับที่แทบจะเอาไม่อยู่ เช่นเดียวกับเกมรุกที่การเข้าทำจาก open play มีน้อยมากๆ ส่วนทางฝั่ง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เริ่มเกมได้แย่กว่า แถมเสียประตูเร็ว แต่เมื่อลงมาเล่นในช่วงครึ่งหลังราว 20-25 นาทีแรก พวกเขามีการแก้เกมและโต้กลับได้ดีมาก ทำให้มีโอกาสที่จะตีเสมอได้ แต่พอยิงไม่ได้ก็เริ่มอ่อนกำลังลงและผิดพลาดจนโดนยิงประตูทิ้งห่าง

ซิวถ้วยลีกคัพ สมัยที่ 7 บีจี พ่าย บุรีรัมย์ คะแนน 2-0
ซิวถ้วยลีกคัพสมัยที่ 7 บีจี พ่าย บุรีรัมย์ คะแนน 2-0

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

หยุดฝันแชมป์ไร้พ่าย

โมต้า ตัวแสบ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ยิงเฉือน บุรีรัมย์

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 25 ณ สนามทรู สเตเดี้ยม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่รั้งอันดับ 2 ของตาราง จะต้องพบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่นำเป็นจ่าฝูง อีกทั้งวันนี้จะการันตีแชมป์แบบ 100% หากบุกมาคว้าชัยชนะเหนือแข้งเทพได้ ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ต่างมาในระบบ 4-2-3-1 เหมือนกัน  

      ทรู แบงค็อก ครองบอลได้เหนียวและต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถพาเข้าไปในแดน 3-4 ได้ แล้วเพียงแค่นาทีที่ 11 พวกเขาเสียบอลกลางทางให้ บุรีรัมย์ ที่แม้จะสวนเร็วไม่ได้ เพราะมีแนวรับเจ้าบ้านยืนประคองอยู่ แต่ ศุภชัย ตัดสินใจยิงไกลเสียบหน้าต่างมุมบนให้ทีมเยือนนำ 0-1 จากนั้น บียู พยายามเดินเกมรุก ด้วยการวางบอลยาวไปยังบริเวณริมเส้นและเล่นจังหวะเดียว จนโอกาสใกล้เคียงเริ่มปรากฏ

กระนั้นในนาทีที่ 32 จังหวะบอลที่ไม่มีอะไร แนวรับ บียู จ่ายคืนเบาเกินไป ทำให้ ศุภชัย ที่อ่านจังหวะอยู่ วิ่งสปีดขึ้นบอลฉกและยิงทิ้งห่างให้ บุรีรัมย์ นำเป็น 0-2 อย่างไรเสียไล่หลังเพียง 2 นาที แข้งเทพมาได้ประตูตีตื้น 1-2 จากจังหวะจ่ายเลียดทางด้านข้าง โดยระยะที่มันจ่อประตูมาก มันมีผลให้ รัตนากร สกัดเข้าประตูตัวเองไป

ช่วง 15 นาทีแรกของครึ่งหลัง รูปเกมของ บียู ไม่สามารถโจมตีใส่ผู้มาเยือนได้ กระทั่งหลังจากช่วงเวลาดังกล่าว การวางบอลเปลี่ยนแกนและเปิดไปหน้าประตู เพื่อให้ตัวด้านในจบสกอร์ มันมีโอกาสเหน่งๆหลายครั้ง กระทั่งในนาทีที่ 65 ได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากการลากบอลชายเดี่ยวของ วานเดอร์ แล้วจ่ายแทงเฉียงไปทางขวาเพื่อเปิดไปหน้าประตูให้เพื่อนเข้าชาร์ต

จากนั้นรูปเกมเป็นของ บียู และนาทีที่ 77 มาได้ประตูแซงนำ 3-2 จากเตะมุมที่ โมต้า วิ่งฉีกไปโหม่งที่เสาแรก กระนั้น บุรีรัมย์ ไม่ยอมแพ้และมายิงตีเสมอ 3-3 ในนาทีที่ 81 จากความผิดพลาดของ เอฟเวอร์ตัน ที่โหม่งพลาด ทำให้ เคาซิช ได้ยิงแบบเต็มข้อ นั่นจึงทำให้เกมน่าจะจบแบบแบ่งแต้ม แต่ในช่วงวินาทีสุดท้ายของเกม บียู เก็บบอลและโต้กลับอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ โมต้า จะยิงแบบเฉือนๆจนบอลชนเสาและกระเด้งเข้าประตูไป ทำให้เกมจบด้วยชัยชนะของแข้งเทพ 4-3

บทสรุปจากเกม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เสียทั้ง 3 ประตู จากความผิดพลาดของตัวเองแบบล้วนๆ แต่มันชดเชยด้วยการยิงประตูที่มากกว่า คือ 4 ลูก ฉะนั้นการคว้า 3 แต้มใหญ่ในวันนี้ อาจจะดูน่ายินดี แต่ปัญหาเดิมๆก็ยังคงมีอยู่ ส่วนทางฝั่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รูปเกมเป็นรองเจ้าบ้าน

แต่มีความเฉียบคมและฉกฉวยความผิดพลาดของคู่แข่งได้หมด กระนั้นเกมรับก็มีรูรั่วให้เห็นอยู่ โดยการเสียประตูทั้ง 4 ลูก ล้วนมาจากการยืนตำแหน่งป้องกันที่ไม่แนบชิด ฉะนั้นต่อให้เป็นแชมป์ในฤดูกาลนี้ ปราสาทสายฟ้าก็ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุง

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ที่ไหน เมื่อไร ไม่แพ้

ศุภณัฎฐ์ ตัวป่วน ช่วย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ศึกฟุตบอลช้างเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ณ สนามดราก้อนโซล่าร์ปาร์ค บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า 5 สมัย และแชมป์ทีมล่าสุด พบกับ การท่าเรือ เอฟซี แชมป์เก่า 3 สมัย โดยเกมนัดนี้จะแข่งขันนัดเดียวรู้ผล ฉะนั้นหากเสมอกันในช่วง 90 นาที จะมีการต่อเวลาและยิงจุดโทษเพื่อหา 1 ทีม เข้าไปชิงชนะเลิศ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ปราสาทสายฟ้าใช้ระบบ 4-4-2 ส่วนสิงห์เจ้าท่าเปลี่ยนเล่นระบบ 3-5-2

      นับตั้งแต่นาทีที่ 10-25 ของเกมการแข่งขัน บุรีรัมย์ ครองบอลกดดันใส่คู่แข่งได้ดี แต่ไม่สามารถพาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษได้ ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ เน้นแพ็คเกมรับให้แน่นหนา แล้วเมื่อไรที่ได้บอลมาครองก็จะไม่เสียง่ายๆ กระนั้นเมื่อพาบอลเข้าเข้าไปในแดนคู่แข่ง

พวกเขามักเสียบอลจนแทบไม่มีโอกาสได้ลุ้น กระทั่งเกมผ่านครึ่งชั่วโมง ทั้ง 2 ทีม เปิดเกมรุกใส่กัน แล้วเป็นทางฝั่งปราสาทสายฟ้า ที่ใกล้เคียงจะได้ประตู เพราะมีจังหวะเล่นลูกฉาบฉวย แต่ดันยิงไม่เข้าเอง ขณะที่ สิงห์เจ้าท่า ประสิทธิภาพเกมรุกด้อยกว่า เพราะรูปแบบการเข้าทำน้อยและไม่รวดเร็วพอที่จะเอาชนะคู่แข่ง

บุรีรัมย์ ยังคงเน้นการโจมตีทางด้านข้าง แต่พยายามกำชับให้เปิดไปยังบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ หรือแถว 2 เพื่อให้มีพื้นที่จบสกอร์ อย่างไรเสียประตูนำ 1-0 ในนาทีที่ 60 มาจากการเล่นเร็วแบบฉาบฉวย แล้วจังหวะยิงของ ศุภณัฎฐ์ ก็เป็นใจด้วย

จากนั้น การท่าเรือ พยายามจะเร่งเกมบุก แต่ยิ่งเร่งก็ยิ่งเสียและโดนโต้กลับ ไม่เพียงเท่านั้น เกมรับที่เหนียวแน่นในครึ่งแรก ก็เริ่มเปิดช่องว่างในพื้นที่กรอบเขตโทษ สุดท้ายโดนยิงประตูทิ้งห่าง 2-0 ในนาทีที่ 76 ขณะที่ช่วงเวลาที่เหลือ สิงห์เจ้าท่าได้แต่เซตบอลไปมากลางสนาม กระทั่งหมดเวลาการแข่งขัน

          บทสรุปจากเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในครึ่งแรก มีช่วงเวลาที่ขึงและทำได้ดีกว่าเพียงแค่ 10-15 นาที เพราะหลังจากนั้น กลายเป็นเกมชิงจังหวะตรงพื้นที่กลางสนาม จนในครึ่งหลัง รูปเกมก็ไม่ได้ดีไปกว่าเดิม แต่การเล่นเร็วและได้ประตูนำ 1-0 มันก็ช่วยให้พวกเขาคลายกดดัน ก่อนจะมาได้ประตูทิ้งห่าง 2-0 และปิดเกม ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ เอฟซี เกมนี้วางหลังสามและเล่นเกมรับได้ดี

แต่เกมสวนกลับ เหมือนทิ้งขว้างโอกาสไป เพราะบอลเคลื่อนที่ช้าและไม่มีรูปแบบการเข้าทำที่หลากหลาย จนในครึ่งหลังเมื่อเสียประตูก่อน จากจังหวะที่ไม่ควรเสีย รูปเกมก็หลุดจากวงโคจรไปเลย ดังจะเห็นได้จากเกมรุกที่เร่งจังหวะแล้วจ่ายเสีย หรือเกมรับที่ยืนเปิดพื้นที่ให้กรอบเขตจนโดนยิงเพิ่มฃ

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover