Categories
ข่าวกีฬา

ตัดเกรดผู้เล่น ราชบุรี เอฟซี ในเกมรอบรองศึกรีโว่ลีก คัพ

ตัดเกรดผู้เล่นราชบุรี เอฟซี ในเกมพ่าย บีจี ปทุม ศึกรีโว่ลีกคัพ รอบรองชนะเลิศ

          ผลงานในลีกของ ราชบุรี เอฟซี ในตอนนี้ กำลังอยู่ในช่วงขาลงแบบสุดๆ เพราะเก็บชัยชนะได้น้อยและอันดับค่อยๆถอยลงคลอง ฉะนั้นในเกมรอบรองศึกรีโว่ลีก คัพ ถือเป็นเกมที่สำคัญสำหรับราชันมังกร หากต้องการมีถ้วยสักใบในปีนี้ แต่ท้ายที่สุดแล้วพวกเขากลายเป็นฝ่ายตกรอบด้วยน้ำมือของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ฉะนั้นในเกมที่พึ่งจบลงไป นักเตะของราชบุรีจะได้คะแนนกันคนละเท่าไรบ้าง นับจากนี้เราจะไป ตัดเกรดผู้เล่นราชบุรี เอฟซีกัน    

กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล (7) : 2 ประตูที่เสียในวันนี้ ถือว่าสุดปัญญาจะป้องกัน ขณะที่จังหวะอื่นๆก็ช่วยเซฟไม่ให้ทีมโดนยิงไปมากกว่านี้

ราฟาเอล เจนเซ่น (5) : มีปัญหากับการรับมือเกมรุกของคู่แข่ง แต่ก็อยู่จนจบเกม  

โจนาธาร เข็มดี (6) : ไม่ค่อยมีโอกาสเติมเกมรุก เพราะทีมตัวเองขึ้นบอลไม่ค่อยได้ ก่อนที่ในช่วงกลางครึ่งหลังจะถูกเปลี่ยนตัวออก  

ปาร์ค จุนฮยอง (6) : เหนื่อยแบบลากเลือดในการประกบคู่แข่ง สุดท้ายประกบไม่อยู่จนทีมเสียประตูที่ 2

จักรพันธ์ แก้วพรม (5) : อยู่ท่ามกลางวงล้อมของคู่แข่ง อีกทั้งด้วยความฟิตที่ไม่เต็มร้อย ทำให้ช่วยทีมได้ไม่เต็มที่ สุดท้ายถูกเปลี่ยนตัวออกเป็นคนแรก เพราะทนอาการบาดเจ็บไม่ไหว

ซาฟาวี่ ราซิด (5) : ปีกชาวมาเลเซีย แทบไม่มีโอกาสลากบอล ป้อนให้เพื่อน หรือยิงประตู ทำให้ถูกเปลี่ยนตัวในช่วงกลางครึ่งหลัง   

มุสซา ซิดิเบ้ (7) : เล่นโดดเด่นที่สุดในทีม กับการกระชากบอลด้วยความเร็ว แต่น่าเสียที่ไม่มีประตูมาฝาก

เกียรติศักดิ์ เจียมอุดม (5) : ต้องรับมือกับเกมรุกของคู่แข่งเกือบตลอดเกม แต่ไม่สามารถสยบให้อยู่หมัดได้  

ปฐมชัย เสือสกุล (6) : บทบาทไม่ค่อยโดดเด่น ยกเว้นประตูตีเสมอ 1-1 ที่สมาธิดีและวางเท้าแปรเข้าไป

แดร์เลย์ (5) : แทบจะไม่โดนบอล เพราะมาไม่ถึงตัว มิหนำซ้ำจังหวะที่ได้หลุดเดี่ยว ก็ถูกจับล้ำหน้าไปเสียอีก   , กฤษณนน ศรีสุวรรณ (5) : พยายามจะเชื่อมบอลตรงกลาง แต่เมื่อถูกบีบเกือบตลอด มันก็เป็นผลให้เจ้าตัวเล่นไม่ออก

สิทธิโชค กันหนู (5) : ถูกส่งมาตั้งแต่เริ่มครึ่งหลัง โดยเจ้าตัวพยายามลากบอลโต้กลับ แต่ก็มักโดนเสียบสกัดจนตัวบอบช้ำ 

ไฮน์ เพียว วิน (5) : ถูกส่งลงมาในฐานะตัวสำรอง แต่เวลาที่อยู่ในสนามราว 20 นาที บทบาทค่อนข้างน้อย

อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ (5) : ถูกส่งลงมาเพื่อแจกจ่ายบอลในแนวรุก แต่จากภาพที่เห็นคือ แทบไม่มีโอกาสได้ป้อนบอลสวยๆ    

ตัดเกรดผู้เล่นราชบุรี เอฟซี ศึกรีโว่ลีกคัพ รอบรองชนะเลิศ

ตัดเกรดผู้เล่นราชบุรี เอฟซี ศึกรีโว่ลีกคัพ รอบรองชนะเลิศ

ตัดเกรดผู้เล่นราชบุรี เอฟซี ศึกรีโว่ลีกคัพ รอบรองชนะเลิศ

ตัดเกรดผู้เล่น ราชบุรี เอฟซี ศึกรีโว่ลีกคัพ รอบรองชนะเลิศ

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“กระต่ายแพ้ทาง”

บีจี ยังไร้ชัยเหนือ เทโร หลังจากโดน เฉลิมศักดิ์ โขกตีเจ๊าท้ายเกม 1-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 22 ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามบุญยะจินดา โปลิศ เทโร เอฟซี พบกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ซึ่งพึ่งพบกันในเกมบอลถ้วยเมื่อกลางสัปดาห์ แล้วเป็นทางฝั่งมังกรโล่เงินที่ได้ไปต่อ นั่นจึงทำให้กระต่ายแก้วต้องการแก้แค้น เพราะการเจอกัน 2 ในฤดูกาลนี้แพ้ทั้งหมด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-4-3 ขณะที่ทีมเยือนเป็น 4-3-3

      การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น บีจี ปทุม ใช้บอลยาววางให้แนวรุก แต่ถ้าช้าหรือรู้สึกพื้นที่แน่น ก็จะถ่ายออกริมเส้นแล้วเปิดตามสูตร ซึ่งมีจังหวะได้จบเยอะ แต่ดันทำไม่ได้ หรือต่อให้เจ้าบ้านเคลียร์บอลพลาดแล้ว อิคซาน ที่ได้ล่อเป้าก็ยังยิงไม่เข้า ส่วนทางฝั่ง โปลิศ เทโร เกมรุกมาไม่บ่อย แต่สร้างความอันตรายได้ดี โดยการโจมตีของปีกนั้นสามารถขยายช่องว่างของแนวรับทีมเยือนและเกือบได้ประตูก่อน แต่แนวรับฝั่งตรงข้ามยังตามสกัดทัน

ครึ่งหลัง เกมรุกของ เทโร ที่มาไม่บ่อย สร้างความปั่นป่วนได้ดีและน่าจะได้ประตูขึ้นนำ เพราะแนวรับทีมเยือนยืนหลวมและปล่อยให้ยืนว่างแบบไร้การรบกวน ส่วน บีจี ปทุม เลือกส่ง ชาตรี เพื่อเล่นเกมรุกด้วยการโขก แต่ประตูนำ 1-0 ที่ได้ มาจาก ดิโอโก เป็นตัวเริ่มและทำชิ่ง ก่อนจะยิงติดบ็อคและมาเข้าทาง ชาตรี ที่ยืนอยู่ใกล้ๆได้ยิง โดยการนำได้ประตูนำในตอนนี้ แถมมีตัวผู้เล่นมากกว่า 1 คน ราว 10 นาที กระต่ายแก้วน่าจะปิดเกมได้ กระนั้นด้วยปัญหาในการยืนป้องกันเกมรับ ก็มีผลให้เสียประตูตีเสมอ 1-1 ในนาทีสุดท้ายของเกม  

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม โปลิศ เทโร เอฟซี วางหมากเล่นเกมรับแน่นหนาแน่ แต่ก็ถูกโจมตีอยู่เรื่อยๆ กระนั้นด้วยความไม่เฉียบคมของคู่แข่ง ทำให้โดนยิงเพียงลูกเดียว ส่วนเกมรุกมีโอกาสน้อย แต่สร้างความอันตรายได้ดีและสมควรจะได้ประตูนำก่อนด้วย ซึ่งสุดท้ายโลกยังยุติธรรมที่จะหนุนนำให้พวกเขาตามตีเสมอ 1-1 ขณะที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เกมรุกยังเหมือนเดิม คือ คิดไม่ออกก็โยนเข้าไป ซึ่งมันก็มีโอกาสแต่ยังไม่ได้ กระทั่งมาได้ 1 ลูก ใน 45 นาทีหลัง อย่างก็ตามเกมรับของทีมเริ่มจะเป็นปัญหาที่เห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ กับการถูกโจมตีและคู่แนวรับยืนห่างบ่อย รวมถึงการยืนป้องกันแบบธรรมดา ที่ยังมีภาพของการยืนตำแหน่งที่ผิดพลาดจนเป็นเหตุให้เสียประตูและแต้ม 

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“กระต่ายคนดวงแข็ง”

บีจีปทุม ดวงแข็ง ได้โอนโกลและจุดโทษ เฉือน เชียงราย 1-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทนยลีก นัดที่ 21 ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามลีโอ เชียงราย สเตเดี้ยม ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ผลงานในบ้านเก็บชัยได้เสียที หลังจากพลาดมาเยอะ วันนี้จะเปิดบ้านรับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ต้องเดินทางแบบออนทัวร์ทั่วไทยใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านปรับมาเป็น 3-5-2 ส่วนทีมเยือนก็ปรับเหมือนกันเป็น 4-3-3

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น บีจี ปทุม ต่อบอลและบุกใส่ จนมีโอกาสจบสกอร์ให้เห็น กระนั้นด้วยจังหวะที่เป็นใจ พวกเขาก็มาได้ประตูนำ 0-1 อย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีที่ 12 ซึ่งจังหวะนี้เป็นฟรีคลิกที่เปิดให้ อิรฟาน ที่อยู่เสาไกลได้โขกมาหน้าประตู แล้วบอลดันแฉลบ บรินเนอร์ ที่ตามมาสกัดเข้าประตู อย่างไรเสีย ลีโอ เชียงราย เกือบได้ลูกตีเสมอแบบทันควัน โดยในจังหวะนี้แนวรับทีมเยือนไปเปิดพื้นที่ให้เล่นง่าย โดยเฉพาะ สันติภาพ ที่ปล่อยให้ เก็ทเดอร์สันโหม่ง ซึ่งยังดีที่ไม่มุมและ ประสิทธิ์ ยังอยู่ในวิถีที่จะเซฟได้ จากนั้นเจ้าถิ่นยังคงอยู่เรื่อยๆ ด้วยการวางยาวและโยนบอลจากริมเส้น แล้วก็โอกาสจบก็มีเรื่อย รวมถึงเตะมุมและจุดโทษ ก็ยังยิงไม่ผ่าน ประสิทธิ์

ครึ่งหลัง เชียงราย เดินหน้าต่อด้วยการใช้บอลโยน แล้วต้องใช้ความพยายามหลายรอบหลังจากถูก VAR ริบคืน โดยประตูตีเสมอตีเสมอ 1-1 เป็นการวางบอลที่แม่นยำ จนคนยิงเอาลงและยิงได้ทันที กระนั้นก็ต้องโทษ เฮอร์เนสโต้ ที่เห็นการเคลื่อนที่ตลอด แต่ดันไม่ประกบชิด จากนั้นรูปเกมยังคงเป็น เชียงราย ที่ได้บุก แต่เวลาผ่านไปเริ่มมาน้อยลง พร้อมกับ บีจี ปทุม เริ่มตั้งตัวได้บ้าง กรทั่งท้ายเกมมาได้ลูกจุดโทษ 1-2 จากการกางจนแฮนด์ ทำให้ในช่วงทดเวลา เจ้าถิ่นพยายามจะโหมอีกชุด แต่ไม่ทัน

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ต้องเจอกับจังหวะที่ไม่เป็นใจและความผิดพลาดส่วนบุคคล ทำให้ต้องเสีย 2 ประตู และต้องเดินเกมบุก ซึ่งในวันนี้ไม่ค่อยอึดอัดและมีภาพของการเข้าทำที่ควรจะทำแบบนี้ตั้งนานแล้ว แต่ความถี่และเฉียบคมมีไม่มากพอ ขณะที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เกมรุกแทบจะไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยในตลอด 90 นาที ซึ่งประตูที่ได้มา 2 ลูก ก็พูดได้เต็มปากว่าจังหวะเป็นใจ ส่วนเกมรับ คู่กองหลังยืนตำแหน่งดี แต่แบ็คซ้าย-ขวา เข้ามาช่วยป้องกันไม่ดีและมีส่วนสำคัญที่ทำให้เสียประตู

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“จงอางทำเหนื่อย”

บีจี เกือบแย่ แต่ยังตามเจ๊า ขอนแก่น 2-2 เก็บแต้มกลับบ้าน

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 20 ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามกีฬากลางจังหวัดขอนแก่น ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่ดูจะเบาใจกันการหนีตายได้ในระดับหนึ่ง จะต้องพบกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ปลดล็อคชัยในลีก แต่ก็จำเป็นต้องเก็บชัยให้ได้เยอะๆ เพื่อชดเชยแต้มที่ทำหล่นไป สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-5-2 ตามเดิม เช่นกันกับทีมเยือนที่เป็น 4-4-2

บีจี ปทุม ส่งแนวรับอย่าง ตูเญช กับ วิคเตอร์ ลงมายยืนคู่กัน ซึ่งการสกัดบอลดี แต่สปีดช้า ทำให้การเสียบอลกลางทางและโดนโต้กลับอย่างรวดเร็ว ก็มีผลให้พวกเขาเสีย 2 ประตู ในครึ่งแรก ส่วน 1 ประตูที่ได้ มาจากการโต้กลับ ซึ่งแนวรับทีมเยือนพลาดที่เปิดพื้นที่และเวลากับ ปฐมพล มากเกินไป จนบอลมาถึงหัวของ อิคซาน ซึ่งโหม่งไม่ดีมาก แต่ ยศพล กะจังหวะพลาดจนรับบอลไม่อยู่มือ ขณะที่ ขอนแก่น เกมรับ มีความผิดพลาดและถูกลงโทษทันที ส่วนเกมรุกพยายามใช้ความเร็วและการแทงบอลเล่นงานทีมเยือน ซึ่งได้ผลเป็นอย่างอย่างดี

ครึ่งหลัง บีจี ปทุม เปลี่ยน อิรฟาน ลงมาแทน ซึ่งมันแก้ปัญหาในเรื่องการสวนกลับได้ดี เพราะแนวรับทีมชาติสิงคโปร์ มีความเร็วที่จะตามไปสกัดบอลได้ หากคู่แข่งให้บอลในลักษณะการแทง อีกทั้งเกมโต้กลับของ ขอนแก่น ก็ไม่สามารถพาเข้ากรอบเขตโทษได้อีกต่อไป ส่วนเกมรุกของทัพกระต่ายแก้ว ยังเชื่อมไม่ค่อยติด กระทั่งมาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากจุดโทษ โดยในจังหวะนี ยศพล เข้าพรวดแบบไม่มีความจำเป็น จากนั้นทีมเยือนพยายามเพรสซิ่งสูงเพื่อชิงบอล แล้วเอามาโจมตีด้วยการต่อและเปิดด้านข้าง ซึ่งมันมีโอกาสแต่ทำไม่ได้ ทำให้จบเกมด้วยการเจ๊า

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ขอนแก่น ยูไนเต็ด เกมรับมีความผิดพลาดแบบทั้งแผงและส่วนบุคคล ซึ่งอย่างหลังเป็นเหตุให้เสียประตู โดยเฉพาะ ยศพล ที่ต้องรับเต็มๆกับการเสียทั้ง 2 ลูก ส่วนเกมรุก การแทงบอลและการใช้ความเร็วเล่นงาน ถือว่าได้ผล แต่พอครึ่งหลังโดนแก้ทางจนไม่สามารถทำอะไรได้ ขณะที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด การส่งกองหลังที่เชื่องช้าลงสนามพร้อมกัน ถือเป็นความผิดพลาด เพราะมันเป็นเหตุให้เสียประตูถึง 2 ลูก อีกทั้งเกมรับยังจ่ายบอลเสียง่ายๆอีก ส่วนเกมรุก ความหลากหลายไม่มีตามสไตล์ แต่เน้นความแม่นยำจากสิ่งที่เป็นจุดเด่น ซึ่งในครึ่งหลังมีโอกาสแล้วดันทำไม่ได้ ทำให้เกมนี้ได้แค่เจ๊า

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

สรุปภาพรวม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในเลกที่ 1 ฤดูกาล 2021/22

สรุปภาพรวม-บีจี-ปทุม-ยูไนเต็ด1-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก ฤดูกาล 2021/22 ของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้สะท้อนให้เห็นถึงคำกล่าวที่ว่า “เป็นแชมป์นั่นยาก แต่ป้องกันแชมป์นั่นยากกว่า” เพราะในช่วงเริ่มต้น พวกเขายังคงโชว์ฟอร์มได้สมราคาแชมป์เก่า แต่พอผลงานเริ่มสะดุด พวกเขาได้มีการปลด วิดมาร์ ออก พร้อมกลับลำมาใช้โค้ชเก่าอย่าง ดุสิต เฉลิมแสน แล้วใน 2 นัดสุดท้าย ดันสะดุดอย่างรุนแรงด้วยการพ่ายแพ้ทั้งหมด อีกทั้งอันดับยังร่วงลงไปถึงที่ 4 ของตาราง

      ย้อนกลับไปในช่วงต้นฤดูกาล บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้มีการแต่งตั้งโค้ชใหม่หน้าเดิมอย่าง เรออนาโด้ วิดมาร์ ซึ่งเคยคุมทีมเมื่อช่วงปี 2016 โดยการแข่งขัน ACL รอบแบ่งกลุ่ม ถือเป็นงานแรกของกุนซือชาวออสเตรเลีย แล้วสุดท้ายสามารถพาทีมเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ด้วยการเป็นอันดับ 2 ที่ดีที่สุด ถัดมาได้พาทีมบุกไปคว้าถ้วยไทยแลนด์แชมป์เปี้ยนส์ คัพ ก่อนเปิดฤดูกาลรีโว่ไทยลีก

การออกสตาร์ทเกมลีก บีจี ปทุม ต้องเผชิญปัญหาตัวผู้เล่นในแนวรับมีอาการบาดเจ็บแบบยกแผง มิหนำซ้ำ แนวรุกคนสำคัญอย่าง ดิโอโก้ ก็ต้องพักนาน 3 เดือน จากปัญหาบาดเจ็บที่หัวไหล่ นั่นจึงทำให้ วิดมาร์ ต้องหมุนเวียนผู้เล่น แต่ผลงานก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี กระนั้นพอผ่านไปได้ครึ่งทาง ตัวสำรองไม่สามารถทดแทนได้แนบสนิท ทำให้เริ่มมีเกมที่แพ้แบบพลิกล็อคและสะดุดเสมอ ได้แก่ แพ้เชียงรายและเทโรในบ้าน กับบุกไปเสมอโคราช กระทั่งหลังเกมที่ชนะ สมุทรปราการ 1-0 บอร์ดบริหารของทีมได้เรียกโค้ชโอ่งกลับมาคุมทีม ขณะที่ วิดมาร์ ขอลาออกและไม่รับตำแหน่งฝ่ายเทคนิค โดยเหตุผลที่บอสปวิณพูดถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ คือ “โค้ชผมดื้อ”

การเริ่มงานนัดแรกในรอบสองของโค้ชโอ่ง เริ่มต้นด้วยการบุกไปพ่าย หนองบัว พิชญ ซึ่งนี่ถือเป็นความพ่ายแพ้นัดแรกของฤดูกาล จากนั้นนัดต่อไปต้องบุกไปเยือนการท่าเรือ แล้วแพ้ออกมา 1-0 ในสภาพที่ว่า บีจี ปทุม สู้ไม่ได้และรูปเกมไม่เป็นทรงเลย ทำให้จากเกาะกลุ่มหัวตารางอยู่ดีๆ กลายเป็นต้องลงมารั้งอันดับที่ 4

ในเลกที่ 2 ของ บีจี ปทุม หากผลงานออกมาดี โค้ชโอ่งย่อมได้คุมต่อยาวๆ แต่จากผลงาน 2 นัด ก่อนปิดเลกแรก ถือว่าเสียหายและเพิ่มความกดดันในการออกสตาร์เลกที่ 2 ที่ต้องชนะ แล้วถ้าผลออกมาไม่เป็นดังที่คาดหวัง มันก็น่าคิดไม่น้อยว่าบอร์ดบริหารจะยังไว้ใจอยู่หรือไม่ เพราะนอกจากจะต้องป้องกันแชมป์ไทยลีกแล้ว ก็ต้องไม่ลืมว่ากระต่ายแก้วมีคิวต้องลงเล่น ACL รอบแบ่งกลุ่มอีกด้วย

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

สรุปภาพรวม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ในเลกที่ 1 ฤดูกาล 2021/22

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก ฤดูกาล 2021/22 ของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้สะท้อนให้เห็นถึงคำกล่าวที่ว่า “เป็นแชมป์นั่นยาก แต่ป้องกันแชมป์นั่นยากกว่า” เพราะในช่วงเริ่มต้น พวกเขายังคงโชว์ฟอร์มได้สมราคาแชมป์เก่า แต่พอผลงานเริ่มสะดุด พวกเขาได้มีการปลด วิดมาร์ ออก พร้อมกลับลำมาใช้โค้ชเก่าอย่าง ดุสิต เฉลิมแสน แล้วใน 2 นัดสุดท้าย ดันสะดุดอย่างรุนแรงด้วยการพ่ายแพ้ทั้งหมด อีกทั้งอันดับยังร่วงลงไปถึงที่ 4 ของตาราง

      ย้อนกลับไปในช่วงต้นฤดูกาล บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้มีการแต่งตั้งโค้ชใหม่หน้าเดิมอย่าง เรออนาโด้ วิดมาร์ ซึ่งเคยคุมทีมเมื่อช่วงปี 2016 โดยการแข่งขัน ACL รอบแบ่งกลุ่ม ถือเป็นงานแรกของกุนซือชาวออสเตรเลีย แล้วสุดท้ายสามารถพาทีมเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ด้วยการเป็นอันดับ 2 ที่ดีที่สุด ถัดมาได้พาทีมบุกไปคว้าถ้วยไทยแลนด์แชมป์เปี้ยนส์ คัพ ก่อนเปิดฤดูกาลรีโว่ไทยลีก

การออกสตาร์ทเกมลีก บีจี ปทุม ต้องเผชิญปัญหาตัวผู้เล่นในแนวรับมีอาการบาดเจ็บแบบยกแผง มิหนำซ้ำ แนวรุกคนสำคัญอย่าง ดิโอโก้ ก็ต้องพักนาน 3 เดือน จากปัญหาบาดเจ็บที่หัวไหล่ นั่นจึงทำให้ วิดมาร์ ต้องหมุนเวียนผู้เล่น แต่ผลงานก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี กระนั้นพอผ่านไปได้ครึ่งทาง ตัวสำรองไม่สามารถทดแทนได้แนบสนิท ทำให้เริ่มมีเกมที่แพ้แบบพลิกล็อคและสะดุดเสมอ ได้แก่ แพ้เชียงรายและเทโรในบ้าน กับบุกไปเสมอโคราช กระทั่งหลังเกมที่ชนะ สมุทรปราการ 1-0 บอร์ดบริหารของทีมได้เรียกโค้ชโอ่งกลับมาคุมทีม ขณะที่ วิดมาร์ ขอลาออกและไม่รับตำแหน่งฝ่ายเทคนิค โดยเหตุผลที่บอสปวิณพูดถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ คือ “โค้ชผมดื้อ”

การเริ่มงานนัดแรกในรอบสองของโค้ชโอ่ง เริ่มต้นด้วยการบุกไปพ่าย หนองบัว พิชญ ซึ่งนี่ถือเป็นความพ่ายแพ้นัดแรกของฤดูกาล จากนั้นนัดต่อไปต้องบุกไปเยือนการท่าเรือ แล้วแพ้ออกมา 1-0 ในสภาพที่ว่า บีจี ปทุม สู้ไม่ได้และรูปเกมไม่เป็นทรงเลย ทำให้จากเกาะกลุ่มหัวตารางอยู่ดีๆ กลายเป็นต้องลงมารั้งอันดับที่ 4

ในเลกที่ 2 ของ บีจี ปทุม หากผลงานออกมาดี โค้ชโอ่งย่อมได้คุมต่อยาวๆ แต่จากผลงาน 2 นัด ก่อนปิดเลกแรก ถือว่าเสียหายและเพิ่มความกดดันในการออกสตาร์เลกที่ 2 ที่ต้องชนะ แล้วถ้าผลออกมาไม่เป็นดังที่คาดหวัง มันก็น่าคิดไม่น้อยว่าบอร์ดบริหารจะยังไว้ใจอยู่หรือไม่ เพราะนอกจากจะต้องป้องกันแชมป์ไทยลีกแล้ว ก็ต้องไม่ลืมว่ากระต่ายแก้วมีคิวต้องลงเล่น ACL รอบแบ่งกลุ่มอีกด้วย

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“VAR ช่วยให้รอดคาบ้าน”

บีจี ได้ VAR ช่วยริบสกอร์เจ๊า หนองบัว 1-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 18 คู่ส่งท้ายของวันเสาร์ ณ สนามบีจี ปทุม สเตเดี้ยม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ออกสตาร์ทเลก 2 ด้วยการไม่ชนะใคร จะต้องเปิดรังรับ หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่เคยทำแสบด้วยการเปิดหน้ารัวใส่ 3-1  สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าถิ่นปรับมาใช้ 4-3-3 เป็นครั้งแรก ขณะที่ทีมเยือนก็ปรับให้แน่นขึ้นในผัง 5-3-2

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น บีจี ปทุม เริ่มด้วยการโจมตีจากริมเส้นทั้ง 2 ข้าง กับการต่อบอลเท้าสู่เท้า ซึ่งมันเป็นการครองบอลที่ไม่มีประโยชน์ เว้นเสียแต่การเลี้ยงฝ่าเข้าไป ที่ดูจะสร้างโอกาสได้มากกว่า แต่ก็ยิงประตูไม่ได้ ขณะที่ หนองบัว เกมรับยืนต้านทานได้ดี และรอจังหวะสวนกลับ ด้วยการแกะเพรสซิ่ง พร้อมกับการวางบอลยาวจากหลัง ซึ่งมันดูวูบวาบตรงที่แนวรุกมีสปีดที่เร็วกว่าแนวรับของเจ้าบ้าน แต่พอเข้าสู่พื้นที่อันตราย แนวรับของเจ้าถิ่นยังถอยไปสกัดได้หวุดหวิด กระนั้นมันก็มีบางช่วงที่แดนกลางของ บีจี ปทุม ตัดเกมได้ตั้งแต่กลางสนาม จนเกมสวนกลับกลายเป็นอัมพาต

ครึ่งหลัง รูปเกมไม่ต่างจากเดิม แต่ บีจี ปทุม มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากฟรีคลิก ซึ่งในจังหวะนี้ ทาร์เดลี่ โหม่งสกัดบอลไม่เต็ม ทำให้บอลเลยมาถึงหัว ตูเญช ได้โขกเน้นๆ จากนั้น หนองบัว พยายามจะทวงประตูคืน แต่พอเจอแนวรับเจ้าถิ่นถอยไปตั้งรับและสกัดไว้ได้หมด มันก็เริ่มมีอาการช็อตอีกครั้ง อีกทั้งเจ้าถิ่นก็เกือบได้ประตูทิ้งห่าง แต่บอลด้นไปชนเสา

บีจี ปทุม เลือกที่จะประคองสกอร์นี้ และทำการเปลี่ยนแนวรุกคนสำคัญอย่าง ดีโอโก้ ออก แต่แล้ว หนองบัว ที่เครื่องช็อตไป ก็มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการโต้กลับและวางบอลยาว จนสามารถฉีกหนีแนวรับที่เชื่องช้าได้ ซึ่งจังหวะนี้ก็เกือบถูกสกัดได้ แต่ยังดีที่บอลมาเข้าทาง ซึ่งในเมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้ บีจี ปทุม จึงพยายามเร่งจะเอาประตูนำ อย่างไรเสียพอยิ่งเร่ง ก็ยิ่งโดนสวน จนเกือบโดนหมัดน็อค กระนั้นยังโชคดีมากที่มี VAR เช็คล้ำหน้าและริบสกอร์ของทีมเยือนคืน

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แนวรุกมีศักยภาพที่ดี แต่ขาดการเล่นเป็นทีม ซึ่งมันเป็นปัญหามานาน แต่ไม่ถูกพูดถึงก่อนหน้านี้ เพราะผลงานดี ส่วนเกมรับ คู่แข่งเริ่มใช้ความเร็วของผู้เล่นมาแก้ลำ แล้วมันสามารถทลายกำแพงยักษ์ตรงนี้ได้พอสมควร กระนั้นแนวรับที่ว่านี้ ก็ยังมีดีในเรื่องการอ่านจังหวะสกัดบอล ขณะที่ หนองบัว พิชญ เอฟซี เกมรับมาแพ็คแน่นและไม่มีความผิดพลาด เพราะลูกที่เสียมาจากความผิดพลาดส่วนบุคคล ส่วนเกมรุก มีส่วนเวลาที่เงียบหายไป แต่พอถึงเวลาสำคัญ ก็สามารถใช้ความเร็วเล่นงานคู่แข่งได้ดี จนเกือบจะชนะเสียด้วยซ้ำ หากไม่ล้ำหน้า

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

สรุปภาพรวม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ในเลกที่ 1 ฤดูกาล 2021/22

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก ฤดูกาล 2021/22 ของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้สะท้อนให้เห็นถึงคำกล่าวที่ว่า “เป็นแชมป์นั่นยาก แต่ป้องกันแชมป์นั่นยากกว่า” เพราะในช่วงเริ่มต้น พวกเขายังคงโชว์ฟอร์มได้สมราคาแชมป์เก่า แต่พอผลงานเริ่มสะดุด พวกเขาได้มีการปลด วิดมาร์ ออก พร้อมกลับลำมาใช้โค้ชเก่าอย่าง ดุสิต เฉลิมแสน แล้วใน 2 นัดสุดท้าย ดันสะดุดอย่างรุนแรงด้วยการพ่ายแพ้ทั้งหมด อีกทั้งอันดับยังร่วงลงไปถึงที่ 4 ของตาราง

      ย้อนกลับไปในช่วงต้นฤดูกาล บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้มีการแต่งตั้งโค้ชใหม่หน้าเดิมอย่าง เรออนาโด้ วิดมาร์ ซึ่งเคยคุมทีมเมื่อช่วงปี 2016 โดยการแข่งขัน ACL รอบแบ่งกลุ่ม ถือเป็นงานแรกของกุนซือชาวออสเตรเลีย แล้วสุดท้ายสามารถพาทีมเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ด้วยการเป็นอันดับ 2 ที่ดีที่สุด ถัดมาได้พาทีมบุกไปคว้าถ้วยไทยแลนด์แชมป์เปี้ยนส์ คัพ ก่อนเปิดฤดูกาลรีโว่ไทยลีก

การออกสตาร์ทเกมลีก บีจี ปทุม ต้องเผชิญปัญหาตัวผู้เล่นในแนวรับมีอาการบาดเจ็บแบบยกแผง มิหนำซ้ำ แนวรุกคนสำคัญอย่าง ดิโอโก้ ก็ต้องพักนาน 3 เดือน จากปัญหาบาดเจ็บที่หัวไหล่ นั่นจึงทำให้ วิดมาร์ ต้องหมุนเวียนผู้เล่น แต่ผลงานก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี กระนั้นพอผ่านไปได้ครึ่งทาง ตัวสำรองไม่สามารถทดแทนได้แนบสนิท ทำให้เริ่มมีเกมที่แพ้แบบพลิกล็อคและสะดุดเสมอ ได้แก่ แพ้เชียงรายและเทโรในบ้าน กับบุกไปเสมอโคราช กระทั่งหลังเกมที่ชนะ สมุทรปราการ 1-0 บอร์ดบริหารของทีมได้เรียกโค้ชโอ่งกลับมาคุมทีม ขณะที่ วิดมาร์ ขอลาออกและไม่รับตำแหน่งฝ่ายเทคนิค โดยเหตุผลที่บอสปวิณพูดถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ คือ “โค้ชผมดื้อ”

การเริ่มงานนัดแรกในรอบสองของโค้ชโอ่ง เริ่มต้นด้วยการบุกไปพ่าย หนองบัว พิชญ ซึ่งนี่ถือเป็นความพ่ายแพ้นัดแรกของฤดูกาล จากนั้นนัดต่อไปต้องบุกไปเยือนการท่าเรือ แล้วแพ้ออกมา 1-0 ในสภาพที่ว่า บีจี ปทุม สู้ไม่ได้และรูปเกมไม่เป็นทรงเลย ทำให้จากเกาะกลุ่มหัวตารางอยู่ดีๆ กลายเป็นต้องลงมารั้งอันดับที่ 4

ในเลกที่ 2 ของ บีจี ปทุม หากผลงานออกมาดี โค้ชโอ่งย่อมได้คุมต่อยาวๆ แต่จากผลงาน 2 นัด ก่อนปิดเลกแรก ถือว่าเสียหายและเพิ่มความกดดันในการออกสตาร์เลกที่ 2 ที่ต้องชนะ แล้วถ้าผลออกมาไม่เป็นดังที่คาดหวัง มันก็น่าคิดไม่น้อยว่าบอร์ดบริหารจะยังไว้ใจอยู่หรือไม่ เพราะนอกจากจะต้องป้องกันแชมป์ไทยลีกแล้ว ก็ต้องไม่ลืมว่ากระต่ายแก้วมีคิวต้องลงเล่น ACL รอบแบ่งกลุ่มอีกด้วย

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“VAR ช่วยให้รอดคาบ้าน”

บีจี ได้ VAR ช่วยริบสกอร์เจ๊า หนองบัว 1-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 18 คู่ส่งท้ายของวันเสาร์ ณ สนามบีจี ปทุม สเตเดี้ยม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ออกสตาร์ทเลก 2 ด้วยการไม่ชนะใคร จะต้องเปิดรังรับ หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่เคยทำแสบด้วยการเปิดหน้ารัวใส่ 3-1  สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าถิ่นปรับมาใช้ 4-3-3 เป็นครั้งแรก ขณะที่ทีมเยือนก็ปรับให้แน่นขึ้นในผัง 5-3-2

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น บีจี ปทุม เริ่มด้วยการโจมตีจากริมเส้นทั้ง 2 ข้าง กับการต่อบอลเท้าสู่เท้า ซึ่งมันเป็นการครองบอลที่ไม่มีประโยชน์ เว้นเสียแต่การเลี้ยงฝ่าเข้าไป ที่ดูจะสร้างโอกาสได้มากกว่า แต่ก็ยิงประตูไม่ได้ ขณะที่ หนองบัว เกมรับยืนต้านทานได้ดี และรอจังหวะสวนกลับ ด้วยการแกะเพรสซิ่ง พร้อมกับการวางบอลยาวจากหลัง ซึ่งมันดูวูบวาบตรงที่แนวรุกมีสปีดที่เร็วกว่าแนวรับของเจ้าบ้าน แต่พอเข้าสู่พื้นที่อันตราย แนวรับของเจ้าถิ่นยังถอยไปสกัดได้หวุดหวิด กระนั้นมันก็มีบางช่วงที่แดนกลางของ บีจี ปทุม ตัดเกมได้ตั้งแต่กลางสนาม จนเกมสวนกลับกลายเป็นอัมพาต

ครึ่งหลัง รูปเกมไม่ต่างจากเดิม แต่ บีจี ปทุม มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากฟรีคลิก ซึ่งในจังหวะนี้ ทาร์เดลี่ โหม่งสกัดบอลไม่เต็ม ทำให้บอลเลยมาถึงหัว ตูเญช ได้โขกเน้นๆ จากนั้น หนองบัว พยายามจะทวงประตูคืน แต่พอเจอแนวรับเจ้าถิ่นถอยไปตั้งรับและสกัดไว้ได้หมด มันก็เริ่มมีอาการช็อตอีกครั้ง อีกทั้งเจ้าถิ่นก็เกือบได้ประตูทิ้งห่าง แต่บอลด้นไปชนเสา

บีจี ปทุม เลือกที่จะประคองสกอร์นี้ และทำการเปลี่ยนแนวรุกคนสำคัญอย่าง ดีโอโก้ ออก แต่แล้ว หนองบัว ที่เครื่องช็อตไป ก็มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการโต้กลับและวางบอลยาว จนสามารถฉีกหนีแนวรับที่เชื่องช้าได้ ซึ่งจังหวะนี้ก็เกือบถูกสกัดได้ แต่ยังดีที่บอลมาเข้าทาง ซึ่งในเมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้ บีจี ปทุม จึงพยายามเร่งจะเอาประตูนำ อย่างไรเสียพอยิ่งเร่ง ก็ยิ่งโดนสวน จนเกือบโดนหมัดน็อค กระนั้นยังโชคดีมากที่มี VAR เช็คล้ำหน้าและริบสกอร์ของทีมเยือนคืน

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แนวรุกมีศักยภาพที่ดี แต่ขาดการเล่นเป็นทีม ซึ่งมันเป็นปัญหามานาน แต่ไม่ถูกพูดถึงก่อนหน้านี้ เพราะผลงานดี ส่วนเกมรับ คู่แข่งเริ่มใช้ความเร็วของผู้เล่นมาแก้ลำ แล้วมันสามารถทลายกำแพงยักษ์ตรงนี้ได้พอสมควร กระนั้นแนวรับที่ว่านี้ ก็ยังมีดีในเรื่องการอ่านจังหวะสกัดบอล

ขณะที่ หนองบัว พิชญ เอฟซี เกมรับมาแพ็คแน่นและไม่มีความผิดพลาด เพราะลูกที่เสียมาจากความผิดพลาดส่วนบุคคล ส่วนเกมรุก มีส่วนเวลาที่เงียบหายไป แต่พอถึงเวลาสำคัญ ก็สามารถใช้ความเร็วเล่นงานคู่แข่งได้ดี จนเกือบจะชนะเสียด้วยซ้ำ หากไม่ล้ำหน้า

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“อาถรรพ์ธันเดอร์โดมยังอยู่”

เมืองทอง บีจี ผลัดกันนำ-ตาม สุดท้ายจบมิตรภาพ 2-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 17 คู่บิ๊กแมตช์ของสัปดาห์นี้ ไปกันที่สนามธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ดันพลิกล็อคตกรอบบอลถ้วย ด้วยน้ำมือของทีมรองบ่อน จะต้องพบกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ไม่ชนะใครในลีก 4 นัดติด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้แผน 4-1-4-1 ตามเดิม เช่นเดียวกับทีมเยือนที่เป็น 3-5-2

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น เมืองทอง พยายามจะเซตบอลจากหลังตามถนัด แต่การถูกบีบสูง ทำให้เสียบอลหน้าบ้านตัวเองบ่อยครั้ง กระนั้น บีจี ปทุม ก็ไม่สามารถฉวยโอกาสตรงนี้ให้เป็นประตูได้ อีกทั้งการขึ้นเกมบุกครั้งแรกของ เมืองทอง ก็ได้กลายเป็นประตูนำ 1-0 ซึ่งการขึ้นบอลในจังหวะนี้และอีกหลายๆครั้ง เจ้าบ้านจะใช้การต่อบอลเร็วทางริมเส้นเพื่อดึงตัวประกบ จากนั้นเมื่อเข้าสู่แดน 3 ก็จะวางบอลเปลี่ยนแกนให้กับตัวที่เติมขึ้นมา แล้วมันสร้างความหวาดเสียวจนเกือบได้ประตูทิ้งห่าง ตรงข้ามกับทีมเยือนที่คู่แข่งพลาดให้ รวมถึงมีจังหวะหลุดเดี่ยว แต่ก็ยิงประตูตีเสมอไม่ได้

ครึ่งหลัง บีจี ปทุม เปลี่ยน อภิสิทธิ์ลงมายืนตำแหน่งปีกซ้าย แล้วจังหวะแรกที่เจ้าตัวจับบอล ก็ได้เปิดและกลายเป็นประตูตีเสมอ 1-1 โดย ชาติชาย คือ คนที่ต้องรับผิดชอบ เนื่องจากประกบ ดิโอโก้ อยู่ดีๆ แต่พอถึงจังหวะบอลลอยมา ดันไม่กระโดดตาม จากนั้น บีจี ปทุม พยายามให้ผู้เล่นลากบอลและเคลื่อนที่เยอะๆ ซึ่งมันดีกว่าการส่งไปมาตรงที่แนวรับเจ้าบ้านตามปรกบไม่ค่อยทัน แล้วไม่นานนัก กระต่ายแก้วก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-2 กระนั้นการยิงของ อิคซาน ต้องชื่นชม เพราะมุมถูกปิดหมด แต่กลับสามารถพลิกตัวยิงจนบอลพุ่งเสียบเสาไกล

แม้ว่าจะสกอร์จะนำ 1-2 แต่ บีจี ปทุม ก็ยังเพรสซิ่งสูงและได้บอลตลอด กระนั้นการต่อบอลและจบสกอร์ที่ไม่ดี ทำให้ไม่สามารถยิงเพิ่ม ส่วน เมืองทอง ออกบอลพลาดหน้าบ่อย แต่พอแกะเพรสออกมาได้ ก็สามารถใช้บอลริมเส้นโจมตีจนได้ลูกตีเสมอ 2-2

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด เกมรับมีความผิดพลาดในการป้องกันและการออกบอล ซึ่งมันพลาดค่อนข้างเยอะ แต่ยังดีที่คู่แข่งไม่คมทำให้โดนเพียงเท่านี้ ส่วนเกมรุกต้องชื่นชมที่มีโอกาสน้อย แต่สามารถต่อบอลและสอดประสานไหลลื่น รวมถึงจบสกอร์เฉียบคม ขณะที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เกมรุกเพรสซิ่งจนตัดบอลดี แต่การเข้าทำย่ำแย่และไม่มีทีมเวิร์ค เช่นเดียวกับกองหลังที่เปิดช่องและเสียประตูจากลูกโด่งอีกแล้ว

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover