Categories
ข่าวกีฬา

ใครถูกใครผิด ?

เงินเดือนไม่ออก = ไปเล่นฟุตบอลเดินสาย

ในยุคเศรษฐกิจตกสะเก็ดจากภาวะโควิด-19 แน่นอนว่ามันผลโดยตรงต่อสโมสรฟุตบอล โดยเฉพาะเรื่องการเงินที่ไม่สามารถจับจ่ายเงินได้ถนัดมือ แล้วตรงจุดนี้มันก็ได้กระทบชิ่งไปถึงนักบอล จนมีข่าวว่านักเตะบางรายได้ออกไปเล่นฟุตบอลเดินสาย กระทั่งสโมสรมีการยกเลิกสัญญาตามมา ซึ่งจากประเด็นตรงนี้ใครผิดใครถูกนับจากนี้เราจะมาวิเคราะห์กัน

ต้นเรื่องทั้งหมดเริ่มจากโควิด-19 ที่ทำให้สมาคมฟุตบอลสั่งเบรคการแข่งขันนานเกือบครึ่งปี จากนั้นเมื่อกลับมารีสตาร์ท มาตรการหลายๆอย่างก็มีผลให้รายรับของสโมสรลดลง ไล่ตั้งแต่การจำกัดผู้เข้าชมที่ 25% เป็นอย่างต่ำ ไหนจะเรื่องของสปอนเซอร์ที่ไม่สามารถสนับสนุนได้เท่าเดิม หรือถอนตัวไปเลย กระทั่งสมาคมฟุตบอลเอง ก็ไม่สามารถมอบเงินสนับสนุนแก่สโมสรได้เต็มเม็ดและตรงเวลา ซึ่งสำหรับสโมสรใหญ่อาจไม่มีปัญหา เพราะพวกเขาสามารถควักมาจ่ายได้แบบสบายๆ แต่สำหรับสโมสรเล็กที่สายป่านสั้นและต้องพึ่งพาเงินสนับสนุน ต่างชักหน้าไม่ถึงหลังแบบถ้วนหน้า นั่นจึงทำให้คนที่อยู่ปลายห่วงโซ่อาหารอย่างนักฟุตบอล ต้องได้รับผลกระทบ คือ ได้รับเงินเดือนช้า ได้รับไม่ตรงงวด ไปจนถึงไม่ได้รับเลยเป็นเวลาหลายเดือน

ในมุมของนักฟุตบอล แน่นอนว่าพวกเขาไม่ต่างจากมนุษย์เงินเดือนที่ต้องทำงานเพื่อหารายได้ เพื่อจับจ่ายใช้สอยสำหรับภาระต่างๆ แต่ในเมื่อเงินเดือนไม่ออก พวกเขาก็ต้องหาลู่ทางอื่นเพื่อให้ได้เงินมา เช่น ใช้เงินเก็บ หยิบยืมจากคนรู้จัก หรือหาอาชีพเสริม แต่สำหรับบางคนนั้นไม่มีทักษะอื่นนอกจากเล่นฟุตบอล นั่นจึงทำให้บางคนเลือกออกไปเล่นบอลเดินสาย ซึ่งรู้ทั้งรู้ว่าผิดสัญญากับสโมสร แต่นี้อาจเป็นหนทางสุดท้ายที่จะได้เงินมาจุนเจือตัวเองและครอบครัวได้  

ในมุมของสโมสร ถือว่าผิดที่ไม่จ่ายเงินเดือนให้ตรงงวดตามสัญญา แต่เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันจากโควิด-19 มันก็ได้กลายเป็นบทเรียนว่าทุนทรัพย์สำรองนั้นมีความสำคัญ ขณะที่นักบอลที่ออกไปเล่นเดินสาย ก็มีความผิดที่ละเมิดสัญญา เพราะนักฟุตบอลเป็นสมบัติขอสโมสรและต้องลงเล่นกับต้นสังกัดที่เซ็นสัญญาเท่านั้น อีกทั้งถ้าบาดเจ็บขึ้นมา คนรับผิดชอบก็คือสโมสร ฉะนั้นหากสรุป ทั้ง 2 ฝ่ายต่างมีความผิดที่ไม่ทำตามตกลงในสัญญาที่เซ็นกันไว้ กระนั้นหากมีการเจรจากันปัญหานี้คงไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าเจรจาแล้วยังคงออกไปเล่นฟุตบอลเดินสายอีก ก็คงต้องว่าไปตามกฎ คือ การยกเลิกสัญญา พร้อมกับจ่ายเงินเดือนที่คงค้างให้เสร็จสิ้นแล้วค่อยแยกทางกัน

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“รวมประตูนาทีบาป”

ในศึกรีโว่ไทยลีก 2021/22 เลกแรก

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก ฤดูกาล 2021/22 ที่พึ่งเตะจบลงไปในเลกแรก ได้ระเบิดความันส์และกระแทรกไปยังสายตาท่านผู้ชมทางบ้านกันแบบจุใจ ซึ่งในความมันส์ดังกล่าวนั้นมันก็มีถึง 8 นัด ที่มีการยิงประตูชัยในนาทีท้ายๆของการแข่งขัน หรือจะเรียกในแบบศัพท์เฉพาะว่า “นาทีบาป” โดยแมตช์เหล่านั้นจะเป็นอย่างไร นับจากนี้เราย้อนไปดูกันใน 4 คู่แรก  

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 3-2 นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี

เกมนัดที่ 2 ของฤดูกาล เชียงราย ได้ลงเล่นในบ้านนัดที่ 2 ติดต่อกัน แต่ก็ต้องช็อคตั้งแต่ต้นเกม เพราะโดน โคราช นำก่อน กระนั้นก่อนจบครึ่งแรก เจ้าบ้านมาได้ประตูตีเสมอ แต่ก็มาโดนยิงนำ 1-2 แบบทันทีทันใด ทำให้ครึ่งหลัง กว่างโซ้งมหาภัยต้องโหมบุกและมาได้ประตูตีเสมอ 2-2 แบบหอบรากดิน ซึ่งถึงตรงนี้ก็ถือว่าน่าพอใจ อย่างไรเสียในวินาทีสุดท้ายของเกม มีการเช็ค VAR และเป็นจุดโทษที่ บิลล์ ซัดให้เจ้าถิ่นเฉือนชนะไปแบบหน้าตาเฉย

สุพรรณบุรี เอฟซี 2-2 เชียงใหม่ ยูไนเต็ด

เกมนัดที่ 2 ของฤดูกาล สุพรรณบุรี ได้กลับมาเล่นในบ้านนัดแรกและได้ประตูนำ 1-0 ในครึ่งแรก และได้ประตูทิ้งห่าง 2-0 แต่ต้องเหลือผู้เล่น 10 คน เพราะ สีหนาท ถอดเสื้อดีใจ ทั้งๆที่ตัวเองโดนใบเหลืองไปแล้ว ทำให้ต้องโดยใบแดงไล่ออกไป โดยในช่วง 20 นาทีสุดท้าย ช้างศึกยุทธหัตถีโดนตีไข่แตก 2-1 และคาดว่าน่าประคองตัวให้จบสกอร์นี้ได้ แต่สุดท้ายกลายเป็น ทศพล ลาเทศ ที่ขึ้นมายิงตีเสมอ 2-2 ในวินาทีสุดท้าย พร้อมกับช่วยให้ทีมเก็บแต้มแรกในลีกสูงสุด

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 1-2 พีที ประจวบ เอฟซี

เกมนัดที่ 4 ของฤดูกาล และนัดที่ 4 ติดต่อกันของ เชียงราย กับการเล่นในบ้าน ซึ่งในนัดนี้ยิงขึ้นนำไปก่อน 1-0 และดูเหมือนจะสบายๆ แต่ไม่วายมาโดนยิงตีเสมอ 1-1 นั่นจึงทำให้ กว่างโซ้งมหาภัยต้องโหมเกมบุก เพราะไม่ต้องการแต้มเดียวในบ้าน กระทั่งเวลาล่วงเลยถึงท้ายเกม ทีมเยือนได้โต้กลับในจังหวะสุดท้าย แล้วมันได้จังหวะกันพอดี ทำให้ อภิชาต ได้หลุดข้าไปยิงแซงขึ้นนำ 1-2 พร้อมกับเป็นชัยชนะนัดแรกของฤดูกาล

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 0-1 เมืองทอง ยูไนเต็ด

      เกมนัดที่ 8 ของฤดูกาล เชียงราย กำลังเผชิญต่อสถิติที่ไม่ดี ยามเล่นในบ้าน ซึ่งในนัดนี้เหมือนจะเป็นใจให้พวกเขาอีกครั้ง กับการที่ เมืองทอง เหลือผู้เล่น 10 คน ตั้งแต่ 15 นาทีแรก นั่นจึงทำให้ทีมเยือนต้องตั้งรับเกือบ 80 นาที โดยการขึงบุกและมีโอกาสจบสกอร์ที่หวาดเสียวเป็นระยะ ดูแล้วกิเลนผยองไม่รอดแน่ กระนั้นเวลาที่ล่วงเลยไปถึงช่วงท้ายเกม กว่างโซ้งมหาภัยก็ยังยิงไม่ได้ กระทั่งวินาทีสุดท้ายของเกม การขึ้นบอลและได้จบสกอร์ตรงกรอบครั้งแรกของ เมืองทอง มันได้กลายเป็นประตู 0-1 แบบสุดสะใจ จนถึงขั้นที่โค้ชโอ้สไลค์เข่า แล้วกางกางยีนส์สีขาวตัวโปรดเปื้อนหญ้าเลยทีเดียว    

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover