Categories
ข่าวกีฬา

“เจ๊าหืด แต่แชมป์กลุ่ม” ช้างศึก ประคองตัวเจ๊า เวียดนาม เข้ารอบแชมป์กลุ่ม B

รอบแบ่งกลุ่ม B ช้างศึก เจ๊า เวียดนาม เข้ารอบแชมป์กลุ่มในฟุตบอลชายซีเกมส์

ฟุตบอลชายซีเกมส์ รอบแบ่งกลุ่ม B นัดสุดท้าย ณ สนามปรินซ์ สเตเดี้ยม กรุงพนมเปญ ทีมชาติเวียดนาม ที่ชนะรวด 3 นัด และการันตีผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ จะต้องพบกับ ทีมชาติไทย ที่ก็ชนะรวดและการันตีการเข้าสู่รอบต่อไปเช่นกัน ฉะนั้นเกมนัดนี้จะเป็นการชี้ชะตาว่าใครจะเป็นแชมป์กลุ่ม โดยเวียดนาม จะต้องชนะเท่านั้น ขณะที่ไทย ขอแค่ไม่แพ้เพราะประตูได้เสียดีกว่า

           เกมการแข่งขันเริ่มไปได้ 2 นาที ทีมชาติเวียดนาม กำลังจะทำเกมโต้กลับ แต่การจ่ายพลาดตรงกลางสนาม ทีมชาติไทย จ่ายเบิ้ลจังหวะเดียวไปให้ข้างหน้า แล้วอยู่ๆแนวรับเวียดนามเกิดลื่น ทำให้ อชิตพล ได้ซัดบอลเข้าไปตุงตาข่าย นั่นจึงทำให้ เวียดนาม ต้องกลายเป็นฝ่ายเปิดเกม แต่จากภาพที่เห็นคือ พวกเขาได้แต่เซตบอลหลังบ้านและวางยาวไปยังบริเวณเส้นตรงแดน 2-3 แต่ก็ไม่สามารถเก็บเพื่อป้อนเข้าสู่กรอบเขตโทษได้ ส่วนทางฝั่งทัพช้างศึก เมื่อเก็บบอลได้ก็จ่ายตามช่องเพื่อแกะการเพรสซิ่ง กระนั้นเมื่อบอลไปถึงข้างหน้า นักเตะไม่สามารถสร้างจังหวะเข้าทำได้ เว้นเสียแต่การโต้กลับที่มีจังหวะและน่าได้ประตูทิ้งห่าง

รอบแบ่งกลุ่ม B ช้างศึก เวียดนาม เข้ารอบแชมป์กลุ่ม ตีเสมอ 1-1

รอบแบ่งกลุ่ม B ช้างศึก เวียดนาม เข้ารอบแชมป์กลุ่ม ตีเสมอ 1-1

          ครึ่งหลัง ทีมชาติเวียดนาม ปรับการวิ่งและการเคลื่อนที่ให้เร็วขึ้น จนสามารถกดคู่แข่งและได้ประตูตีเสมอ1-1 ในนาทีที่ 55 จากจังหวะที่บอลถูกสกัดแล้วเป็นใจให้ซัดจ่อๆ จากนั้นทัพดาวทอง ไม่โหมบุกรุนแรงเหมือนเดิม โดยจะมีเพียงการขึ้นบอลจากด้านข้างที่พอมีเสียวอยู่บ้าง แต่ก็ถูกตามสกัดไว้ได้ทั้งหมด ส่วนทางฝั่งทีมชาติไทย การเปลี่ยนตัวหลักออกหลายคน รูปเกมดูดรอปและถูกคู่แข่งกดหัวในช่วงต้น กระทั่งเสียประตู อย่างไรเสียรูปเกมก็ไม่ดีขึ้น เพราะเมื่อไรที่ตัดบอลก็ไม่สามารถทำเกมรุกได้ ทำให้เกมนี้จบลงด้วยการเสมอกัน 1-1

          บทสรุปจากเกม ทีมชาติเวียดนาม เริ่มต้นด้วยความผิดพลาดส่วนบุคคลและเสียประตู อีกทั้งการขึ้นเกมรุกตื้อตันเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเริ่มครึ่งหลังจนถึงนาทีที่ 55 ที่ได้ประตูตีเสมอ นี่ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของพวกเขาในเกมนี้ ส่วนทางฝั่ง ทีมชาติไทย เริ่มต้นด้วยประตูนำอย่างรวดเร็วและการเล่นแบบประคองเกมในครึ่งแรก ก็เป็นไปตามแท็กติก แต่เมื่อครึ่งหลังมีการเปลี่ยนตัว ก็ถูกกดจนหลังพิงเชือกและเสียประตูตีเสมอในที่สุด อย่างไรเสียสิ่งที่ต้องปรับต่อ คือการทำเกมรุกที่แทบจะทำอะไรคู่แข่งไม่ได้เลย

รอบแบ่งกลุ่มB ช้างศึก เวียดนาม เข้ารอบแชมป์กลุ่ม ตีเสมอ 1-1

รอบแบ่งกลุ่มB ช้างศึก เวียดนาม เข้ารอบแชมป์กลุ่ม ตีเสมอ 1-1

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ตัดเกรดผู้เล่นปีก

ทีมชาติไทย ชุดแชมป์ AFF 2022

ในตำแหน่งปีก หรือกองกองหน้ากึ่งปีกในระบบ 4-3-3 อาจไม่ถูกพูดถึงในแง่ฟอร์มอันยอดเยี่ยมเท่าไรนัก แม้ชื่อชั้นของนักเตะที่เรียกมาจะอยู่ในข่าย ทีมชาติไทย มาโดยตลอด

แต่กระนั้นนักเตะกลับมีฟอร์มที่ดรอปลงและหาจุดกลับมาไม่ได้ ซึ่งนักเตะในตำแหน่งนี้ทั้งหมด 4 ราย จะได้คะแนนกันคนละเท่าไร นับจากนี้เราจะไปตัดเกรดกัน

เอกนิษฐ์ ปัญญา (5)

      หลังหายกลับมาจากอาการบาดเจ็บ เอกนิษฐ์ ไม่สามารถกลับไปอยู่ในฟอร์มอันสุดยอดได้อีกเลย นั่นจึงทำให้นักเตะต้องย้ายทีมทุกเลก เพื่อหาโอกาสลงสนาม แล้วการแข่งขันครั้งนี้ถือว่าโชคดีมากๆที่ได้ติดทีมชาติไทย

แม้ผลงานในช่วงหลังจะยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ มาโน่ ก็ให้โอกาสเจ้าบุ๊คลงสนามหลายแมตช์ โดยบทบาทการเล่นตรงริมเส้นถือว่าใช้ได้ อย่างไรเสียเมื่อมีโอกาสต้องเติมตัวเองเข้าไปในกรอบ หรือต้องตัดสินใจยิง กลับมีความผิดพลาดง่ายๆแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้ถูกวิจารณ์ค่อนข้างหนาหู   

ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว (5)

      มีบทบาทเป็นตัวสำรองเสียเป็นส่วนมาก อีกทั้งเมื่อได้รับโอกาสให้ลงสนาม ก็จะมีอันต้องหายไปจากเกม เสมือนกับไม่ได้ลงก็ว่าเช่นนั้นได้ ทำให้ในทัวร์นาเมนต์นี้ยังไม่ใช่เวลาแจ้งเกิดของเจ้าตัว ซึ่งอาจเข้าใจได้ว่าอายุยังไม่มาก ประสบการณ์ยังไม่เก๋า ฉะนั้นโอกาสในครั้งหน้ายังเปิดเสมอ หากมีฟอร์มที่ดีกับสโมสร  

บดินทร์ ผาลา (6)

      ได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงเกือบทุกนัด แต่ฟอร์มการเล่นเหมือนแปลกแยกไปจากทีม เพราะเมื่อไรที่ได้บอลก็จะเหมือนกับเล่นคนเดียว อีกทั้งการกระชากลากเลี้ยงก็มักเสียของอยู่บ่อยๆ แต่ก็น่าแปลกที่ มาโน่ มักเปลี่ยนออกในช่วงนาทีท้ายๆของเกม อย่างไรเสียเจ้าโดมก็ได้ยิงประตูเป็นการแก้หน้าได้บ้าง โดยการยิงใส่ มาเลเซีย เป็น 2-0 ถือเป็นสกอร์สำคัญที่ทำให้ทีมกรุยทางสู่รอบชิงชนะเลิศ

เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ (5)

      เป็นอีกรายที่นับตั้งแต่หายจากอาการบาดเจ็บหนัก ก็ยังไม่สามารถกลับคืนสู่ฟอร์มอันยอดเยี่ยมได้อีก โดยการย้ายไปนั่งแช่ก้นที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด อาจมองได้ว่าเป็นเหตุให้เจ้าเท่ ไม่สามารถฉายฟอร์มแก่งได้ แต่เมื่อได้ลงสนามให้ ทีมชาติไทย ในฐานะตัวสำรอง มันก็พอจะเห็นว่าเจ้าตัวยังไม่สามารถกลับมายืนในจุดเดิม อีกทั้งน่าจะใช้เวลาอีกสักพักในการเรียกความมั่นใจ

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ดาวทองหวิดคาบ้าน”

ปาร์ค ฮัง ซอ ช่วย เวียดนาม เจ๊า ไทย 2-2

ศึกฟุตบอล AFF Mitsubishi Electric Cup 2022 รอบชิงชะเลิศ นัดแรก ณ สนามมีดิ่งห์ สเตเดี้ยม ทีมชาติเวียดนาม ในฐานะแชมป์เก่า 2 สมัย จะต้องโคจรมาพบกับคู่แค้นตัวฉกาจอย่าง ทีมชาติไทย ที่เป็นแชมป์มาแล้ว 6 สมัย โดยไฮไลท์สำคัญของวันนี้ คือ การคุมทีมในบ้านนัดสุดท้ายของ ปาร์คฮังซอ ในฐานะเฮดโค้ช ขณะที่ผังการเล่นถือว่าผิดคาด เพราะทัพช้างศึกเลือกเล่นระบบ 3-5-2 เหมือนเจ้าบ้าน   

      ทีมชาติเวียดนาม เริ่มต้นด้วยความคึกคักผ่านการเพรสซิ่งสูงถึงหน้าไลน์แนวรับทีมเยือน อีกทั้งเมื่อได้บอลก็จะจัดการเปิดจากด้านข้าง หรือแทงบอลให้ 2 กองหน้าในเขตโทษ แต่เมื่อเวลาผ่านไปราว 10 นาที ทีมชาติไทย เริ่มครองบอลได้เหนียวแน่น

อีกทั้งสามารถแกะการเพรสซิ่งและเปลี่ยนเป็นเกมรุกได้รวดเร็ว อย่างไรก็ดี ทัพดาวทองมาได้ประตูนำ 1-0 ในนาทีที่ 24 จากการเติมขึ้นมาเปิดที่ด้านขวาของ ก๊อก ไห่ ให้ เตี๋ยน ลิญ ได้พุ่งโหม่งแบบเต็มศีรษะ ซึ่งในจังหวะนี้ ศศลักษณ์ ยืนห่าง และ กฤษดา ถูกวิ่งแซงจากด้านหลังแล้วตามไม่ทัน 

       เวียดนาม ไม่ตั้งรับและต่อบอลเพื่อโจมตีจากด้านข้างแบบต่อเนื่อง กลับกัน ไทยมีอาการตื้อให้เห็นราว 10 นาที ก่อนที่ทัพช้างศึกจะค่อยๆฟื้น แต่โอกาสจบสกอร์ไม่เยอะ แม้จะพาบอลมาถึงแดนสุดท้ายได้อยู่เรื่อยๆ โดยจังหวะที่ใกล้เคียงที่สุด คือ การยิงฟรีคลิกหน้ากรอบของ ธีราทร แล้วบอลพุ่งชนเสาอย่างจัง

ครึ่งหลังเริ่มมาได้เพียง 3 นาที ทีมชาติไทย ได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการวางบอลข้ามไลน์กองหลังของ ธีราทร ให้ ปรเมศ ได้ลากเข้าไปแล้วล็อคหลบ ก่อนยิงเข้าเสาแรกแบบใจเย็น จากนั้นยังคงเป็นไทย ที่พยายามเจาะเข้าไป แต่มักถึงแค่แดน 3 เท่านั้น กระทั่งนาทีที่ 63 การเสียบอลกลางทางของเจ้าบ้าน ทำให้ ธีราทร

เลือกจะแทงเร็วให้ สารัช ที่วิ่งสวนไลน์ล้ำหน้าขึ้นมาพอดี ได้หลุดเข้าไปยิงให้ทัพช้างศึกขึ้นนำ 1-2 ทำให้ ทีมชาติเวียดนาม ที่ครึ่งหลังดูตื้ออยู่แล้ว ยิ่งตื้อกว่าเดิม อย่างไรก็ดีช่วงท้ายเกม ทัพดาวทองมาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากลูกยิงแบบจับยัดของ วาน ธัน ช่วยให้รอดพ้นจากความพ่ายแพ้

      บทสรุปจากเกม ทีมชาติไทย เล่นได้ดีเป็นช่วงๆในครึ่งแรก แต่พอเข้าสู่ครึ่งหลัง การจ่ายบอลของ ธีราทร ถือเป็นตัวแปรสำคัญให้ทีมได้ 2 ประตู กระนั้นการป้องกันลูกกลางอากาศจากทางด้านข้าง ยังมีปัญหาและโดนเล่นงานตลอด ซึ่งหากคู่แข่งโหม่งได้คมกว่านี้ อาจเสียประตูมากกว่า 2 ประตู รวมถึงความผิดพลาดส่วนบุคคล ที่หากเฉียบคมกว่านี้

ทัพช้างศึกสามารถชนะที่สกอร์ 4-2 ได้ ส่วนทางฝั่งทีมชาติเวียดนาม ไม่ได้มีช่วงเวลาที่เล่นได้ดีกว่าแบบชัดเจน แต่มีความเฉียบคมเลยได้ประตูนำก่อน จนเข้าสู่ครึ่งหลัง ความผิดพลาด ปาร์คฮังซอ ที่จัดการวางแนวรับมีผลให้เสียประตู แล้วรูปเกมตื้อตันไป กระนั้นยังดีที่คู่แข่งยิงทิ้งห่างไม่ได้ แล้วกองหน้าสำรองลงมายิงช่วยชีวิตไว้ได้พอดี

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ช้างศึกไปตามนัด”

ข่มมิดเหมือนเคย ก่อนไล่ถล่ม มาเลเซีย ขาด 3-0

ศึกฟุตบอล AFF Mitsubishi Electric cup 2022 รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ณ สนามธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ช้างศึก ที่บุกไปพ่ายมาในเกมแรก ทำให้เกมนี้ต้องชนะด้วยผลต่าง 2 ประตูเป็นอย่างน้อย จะต้องพบกับ ทีมชาติมาเลเซีย ที่ชนะมาในเกมแรกและมีทางเลือกต่อการเข้ารอบ ซึ่งอย่างแย่สุดสามารถแพ้ได้ 1 ประตู ก็ยังเข้ารอบ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-3-3 ส่วนทีมเยือนยึดแผน 4-2-3-1

      ทีมชาติมาเลเซียพยายามจะบีบเร็วตั้งแต่แดน 2 และเปิดพื้นที่ด้านข้างไว้ จนเวลาผ่านไป 10 นาที การบีบเร็วเริ่มไม่มีผลและมีช่องว่าง ทำให้ทีมชาติไทย สามารถพาบอลไปถึงแดนสุดท้ายได้เร็วและอาศัยการเจาะจากริมเส้น

กระทั่งนาทีที่ 18 ธีราทร เปิดบอลให้ ธีรศิลป์ โหม่ง ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับทีมเยือนเปิดพื้นที่ด้านข้างและ โดมินิก ตัน ไม่ตามประกบให้สุดทาง จากนั้น ทัพช้างศึก ไม่สามารถบุกได้อย่างดุดันเหมือนก่อนได้ประตูนำ แต่ในขณะเดียวกัน ทัพเสือเหลืองไม่สามารถต่อบอลให้นิ่งได้ ดังจะเห็นเมื่อต่อบอลได้ไม่กี่จังหวะก็จะเสีย หรือเมื่อครองบอลแล้วใกล้เสียก็จะสาดทิ้งไปเลย

ครึ่งหลัง ทีมชาติมาเลเซีย พยายามจะเพรสเร็วเพื่อให้ได้บอล แต่เมื่อได้บอลมาเหมือนไม่รู้จะเข้าทำยัง ทำให้โอกาสจบสกอร์แทบไม่มี อีกทั้งโอกาสที่ดูจะเสียวหน่อยก็มักมาจากการฉกฉวยโอกาสที่เจ้าบ้านผิดพลาด แล้วด้วยการครองบอลที่ไม่แน่นอนนี้ มันจึงเป็นผลให้ ทีมชาติไทย ไม่กดดันและได้ประตู 2-0 และ 3-0 กระทั่งท้ายเกมมีการผ่อนและเปลี่ยนตัวผู้เล่นเพื่อประคองให้จบเกม  

      บทสรุปจากเกม ช้างศึก ได้ประตูแรกในช่วงเวลาที่เหมาะสม ทำให้สถานการณ์ผ่อนคลายไปได้มาก แต่หลังจากได้ประตูกลับเล่นไม่ดุดันเสียอย่างนั้น จนในครึ่งหลังกลับมาบุกใหม่แล้วได้ประตูเพิ่ม อีกทั้งจังหวะที่เป็นใจยังมาช่วยให้สกอร์ขาด กระนั้นยังมีบางจังหวะที่จ่ายพลาดในแดนตัวเอง ซึ่งต้องปรับปรุงและไม่ควรจะเกิดขึ้น ขณะที่ทีมชาติมาเลเซีย พยายามจะบีบ พยายามเข้าหาบอลเร็ว

แต่ไม่สามารถทำให้ดีอย่างต่อเนื่องได้ สุดท้ายกลายเป็นเปิดพื้นที่จนถูกโจมตีเสียประตู ส่วนเกมรุกเก็บบอลได้ไม่นานและมักมีอาการไม่นิ่ง อีกทั้งการวางบอลจากกลางสนามที่เคยทำได้ก็หายไป ซ้ำร้ายโอกาสที่ดูหวาดเสียวดันมาจากการฉวยโอกาสที่เจ้าถิ่นผิดพลาด สุดท้ายเมื่อเสียประตูมากกว่าและยิงคืนไม่ได้ จึงต้องเป็นฝ่ายตกรอบไป

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“บุกตลอด แค่ยิงไม่เข้า”

บุกข่ม แต่พ่ายมาเลเซีย ที่คมกว่า 1-0

ศึกฟุตบอล AFF mitsubishi electric cup 2022 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก คู่ที่สอง ณ สนามบูกิตจาริล ทีมชาติมาเลเซีย ที่เข้ารอบมาด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม B จะต้องพบกับ ทีมไทย ที่เข้ารอบมาด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม A สำหรับสถิติที่น่าสนใจก่อนเกม คือ ทัพช้างศึกไม่เคยบุกมาชนะทัพเสือเหลืองมาเป็นเวลากว่า 44 ปีแล้ว ส่วนผังการเล่นในวันนี้ ทั้ง 2 ทีมต่างมาในระบบเดียวกัน คือ 4-2-3-1

ในช่วงต้นเกม ทีมชาติไทยบุกใส่ด้วยการเปิดบอลจากด้านข้าง ขาดเพียงการจบสกอร์ในกรอบเขตโทษเท่านั้น กลับกัน ทีมชาติมาเลเซียที่แทบจะไม่บุก พวกเขามาได้ประตูนำ 1-0 จากการเปิดบอลตรงกลางสนามไปยังตัวที่ยืนอยู่ทางซ้ายของกรอบเขตโทษ

แล้วจัดการโหม่งต่อให้ ฮาคิม ที่วิ่งมาเดี่ยวๆได้ซัดแบบไม่เต็ม แต่ได้น้ำหนักและทิศทาง ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับทีมเยือนยืนป้องกันกันผิดพลาด รวมถึงผู้รักษาประตูที่ออกมาพลาดเช่นกัน

นับตั้งแต่เสียประตูในนาทีที่ 11 ทีมชาติไทยเป็นฝ่ายครองเกมไว้ข้างเดียว โดยการบิ้วเกมจากกลางสนามขึ้นมาถึงแดน 3 ได้เร็ว จากนั้นมีการเปิดบอลทางด้านข้าง การแทงบอลจากตรงกลาง และการวางบอลข้ามเข้าไป แต่จังหวะทั้งหมดเหล่านี้ไม่สามารถสร้างความอันตรายได้ เพราะการจบสกอร์มักออกนอกกรอบไปไกล ทั้งๆที่แนวรับเจ้าถิ่นไม่ได้ปิดพื้นที่มิดชิดแต่อย่างใด

ครึ่งหลัง ทีมชาติไทยยังเล่นในลักษณะเดิม คือ การบิ้วเกมจากแดนตัวเองขึ้นไปยังแดน 3 ซึ่งใช้เวลาไม่นานเพราะนักเตะเจ้าถิ่นไม่ได้ไล่บีบ กระนั้นทัพช้างศึกก็ยังติดปัญหาเดิมๆ คือ การเข้าทำและจบสกอร์ที่ไม่เฉียบคม อีกทั้งยิ่งเล่นก็ยิ่งดูเหมือนว่าตัวรุกในกรอบเขตโทษจะน้อยเกินไป ซึ่งกว่าจะมีการแก้เกม เวลาก็เข้าสู่ช่วงท้ายเกมแล้ว

ส่วนทางฝั่งทีมชาติมาเลเซีย การเล่นเกมรับไม่แน่นหนา เกมโต้กลับเก็บบอลแทบไม่ได้ แต่มีข้อดีที่เมื่อมีโอกาสจบสกอร์มักใช้โอกาสไม่เปลื้อง อาทิ จังหวะที่โหม่งบอลเข้าประตูไป แต่ถูกกรรมการริบคืน ทั้งๆที่เมื่อดูภาพช้าแล้วพวกเขาสมควรได้ประตู

      บทสรุปจากเกม การทำหน้าที่ของผู้ตัดสินมีความผิดพลาดและส่งผลเสียต่อทั้ง 2 ฝ่าย คือ ไม่ให้จุดโทษกับไทย และไม่ให้ประตูที่ 2 กับมาเลเซีย ส่วนภาพรวมของ ทีมไทย มี 2 จุดใหญ่ที่ต้องวิจารณ์ คือ การจบสกอร์ในแดนสุดท้ายที่ไม่เฉียบคมและมีตัวยืนในกรอบเขตโทษน้อยเกินไป กับแนวรับที่หละหลวม

รวมถึงผู้รักษาประตูที่การตัดสินใจออกมาตัดบอลผิดพลาดเกือบทุกจังหวะ ขณะที่ทีมชาติมาเลเซีย เกมรับไม่แน่นหนาและพร้อมโดนโจมตีตลอดเวลา แต่ที่รอดพ้นการเสียประตูก็เพราะคู่แข่งไม่คม ไม่ต่างจากเกมโต้กลับที่เก็บบอลได้น้อย แต่สิ่งที่ต่างออกไปและมีผลให้กลายเป็นผู้ชนะ คือ ฮารีเมามลายาเฉียบคมกว่า

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

รีวิว รอบรองชนะเลิศนัก

AFF mitsubishi electric cup 2022 มาเลเซีย พบ ไทย

ศึกฟุตบอล AFF mitsubishi electric cup 2022 รอบรองชนะเลิศนัดแรก คู่ที่ 2 ณ สนามบูกิตจาริล จะลงเตะกันในวันเสาร์ที่ 7 มกราคม เวลา 19.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) โดย ทีมชาติมาเลเซีย ที่เข้ารอบมาในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่ม B จะต้องพบกับคู่หูคนคุ้นเคยอย่าง ทีมชาติไทย

ที่เข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่ม A ซึ่งผลงานในรอบแรกจะเป็นอย่างไร ความพร้อมของคู่จะมีมากน้อยขนาดไหน และใครมีโอกาสเป็นผู้ชนะ นับจากนี้เราจะไปรีวิวกัน

ทีมชาติมาเลเซีย

      ก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่มขึ้น นักเตะ 11 ราย จากยะโฮร์ ดารูทักซิม ถอนตัวทั้งหมด นั่นจึงทำให้ คิม ปัง กอน ต้องไปเลือกนักเตะในลำดับรองลงมา ฉะนั้นทีมชุดนี้จึงเสมือนทีมชุด B กลายๆ แล้วเมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น ฮารีเมามลายาต้องบุกไปเยือน พม่า แล้วเฉือนชนะ 0-1 แบบมีเสียว จากนั้นกลับมาเล่นในบ้านกับ ลาว พร้อมกับถล่มไป 5-0 ส่วนเกมที่ 3 ที่บุกเยือนเวียดนาม

เชื่อว่าพวกเขาจะจดจำไปอีกนาน เพราะได้เปรียบตัวผู้เล่น แต่ไม่สามารถตีเสมอได้ มิหนำซ้ำยังเสียตัวผู้เล่นและจุดโทษ กระทั่งพ่ายไป 3-0 นั่นจึงทำให้เกมในบ้านนัดสุดท้ายกับสิงคโปร์ ต้องชนะสถานเดียว แล้วสุดท้ายพวกเขาถล่มไปราบคาบ 4-1  

ทีมชาติไทย

      มาโน่ สามารถใช้ตัวผู้เล่นที่อยู่ในไทยลีกเกือบครบ จะขาดเพียงบางรายที่สโมสรส่งไปฝึกซ้อมต่างประเทศ รวมถึงตัวที่เล่นอยู่ลีกต่างประเทศที่ไม่ได้เรียกมา อย่างไรเสียนั่นไม่ใช่ปัญหา

เพราะนัดแรกบุกตบบรูไน 0-5 นัดที่ 2 เปิดบ้านถล่มฟิลิปปินส์ 4-0 แต่ในนัดที่ 3 เกือบไม่รอดและต้องตามตีเสมออินโดนีเซีย 1-1 ขณะที่นัดสุดท้ายปิด   จ็อบด้วยชัยชนะเหนือกัมพูชา 3-1  

สถิติและรีวิวก่อนเกม

      ทีมชาติไทย ไม่สามารถเอาชนะ ทีมชาติมาเลเซีย ใน 6 เกมหลังสุด โดยชัยชนะครั้งล่าสุดเหนือขุนพลฮารีเมามลายา ต้องย้อนไปในศึก AFF ปี 2014 รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเอาชนะที่ราชมังคลากีฬาสถานด้วยสกอร์ 2-0 ส่วนการบุกไปเยือนที่บ้านของมาเลเซีย ทัพช้างศึกไม่สามารถเอาชนะได้เลยในระยะเวลา 44 ปีที่ผ่านมา ฉะนั้นนี้จึงเปรียบเป็นของแสลงของแชมป์เก่า 6 สมัยอย่างแท้จริง

      เกมที่จะเกิดขึ้นที่บูกิตจาริล ทีมชาติมาเลเซีย จะจัดเต็มแบบใส่ไข่พิเศษอย่างแน่นอน แม้ตัวผู้เล่นจะไม่ฟูลทีมอย่างที่กล่าวไปข้างต้น ส่วนทีมชาติไทยที่มีอาการล้าสะสม อาจจะต้องดูหน้างานอีกทีว่าสภาพร่างกายพร้อมขนาดไหน โดยหากมีอาการล้าแล้วเจ้าถิ่นเล่นแบบลืมตาย ก็เชื่อว่าขุนพลฮารีเมามลายาจะไม่แพ้ เหลือแค่จะเสมอ หรือคว้าชัยเท่านั้น

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“สกอร์ขาด แต่ใช้โอกาสเปลื้อง”

ไทย นำเร็ว ก่อนไล่ถล่ม ฟิลิปปินส์ ขาด 4-0

ศึกฟุตบอล AFF mitsubishi electric cup 2022 ทีมชาติไทย ที่ชนะมาในนัดแรก จะเปิดบ้านพบ ทีมชาติฟิลิปปินส์ ที่แข่งไปแล้ว 2 นัด และแบ่งเป็นชนะ 1 แพ้ 1 ฉะนั้นการบุกมาเยือนในครั้งนี้ การมองถึง 1 แต้ม จึงเป็นสิ่งจำเป็น ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ในวันนี้ ต่างมาในระบบเดียวกัน คือ 4-4-2

      เกมการแข่งขันเริ่มไปได้เพียง 2 นาที ทีมชาติไทย ได้ประตูนำ 1-0 อย่างรวดเร็วจากฟรีคลิกที่ ธีราทร เปิดให้ ธีรศิลป์ ได้โหม่งแบบไร้การรบกวนจากแนวรับของคู่แข่ง ซึ่งจากประตูนี้ทำให้ ไทย เล่นสบายและกล้าเพรส     ซิ่งสูงใส่ทีมชาติฟิลิปปินส์ กระทั่งไม่สามารถต่อบอลได้และต้องอาศัยการวางยาวแบบแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน หรือแม้แต่ความพยายามจะผ่านบอลให้เร็ว ก็ติดปัญหาในเรื่องความไม่แม่นยำของการส่งบอล

      ทีมชาติไทยครองเกมไว้ได้แบบเบ็ดเสร็จ และโดยเฉพาะการเจาะทางฝั่งซ้ายที่สามารถลากหรือเปิดบอลให้ตัวในกรอบเขตโทษได้ตลอด กระนั้นก็เริ่มเห็นถึงปัญหาในเรื่องการใช้โอกาสที่สิ้นเปลื้อง จนเข้าสู่ช่วงท้ายครึ่ง ทัพช้างศึกมาได้ประตู 2-0 จากจุดโทษของ ธีรศิลป์ คนเดิม

ครึ่งหลังยังเป็นทีมชาติไทย ที่ได้บุกอย่างต่อเนื่อง แล้วมาได้ประตูทิ้งห่าง 3-0 จากการจับและจ่ายเร็วของ ธีรศิลป์ ให้ อดิศักดิ์ แปรนิ่มๆ และประตู 4-0 จากจุดเริ่มต้นที่ บดินทร์ ลากบอลและยิงติดผู้รักษาประตู ก่อนที่บอลจะกระเด้งและย้อนไปเข้าทาง ศุภนันนท์ ที่วิ่งมาจิ้มบอลเข้าประตูไป

ในช่วง 20 นาทีสุดท้าย ไทย เริ่มเปลี่ยนตัวหลักออกไปพัก พร้อมกับผ่อนเกมบุกลง นั่นจึงทำให้ ฟิลิปปินส์ เริ่มมีโอกาสได้ลากบอลและจบสกอร์บ้าง แต่ความเฉียบคมจากทั้ง 2 ทีมนั้นไม่มี ทำให้สกอร์คงค้างที่ 4-0  

      บทสรุปจากเกม ทีมชาติไทย ได้ประตูนำเร็ว ทำให้คลายความกดดันและเล่นในเกมของตัวเองได้ กระนั้นในเรื่องของการจบสกอร์ ก็ยังคงเป็นปัญหาที่เห็นได้ชัดเจน เพราะจากโอกาสยิงจ่อๆที่มีอยู่มากมาย มันควรจะเปลี่ยนเป็นประตูอย่างน้อยๆ 6-7 ประตู เสียด้วยซ้ำ

ขณะที่ทีมชาติฟิลิปปินส์ เกมรับมีปัญหาและเปิดช่องว่างให้คู่แข่งเจาะอยู่ตลอด นั่นจึงทำให้พวกเขาต้องเสียประตูเยอะ และมันก็ไม่แปลกนักที่จะเสียประตูทุกเกมที่ลงเล่น ส่วนการขึ้นเกมและความพยายามจะทำเกมรุก ศักยภาพยังด้อยกว่าคู่แข่ง สุดท้ายจึงอาจกล่าวได้ว่าขุนพลตากาล็อก มีสภาพที่อ่อนแอลงจากเมื่อครั้งก่อนที่พบกัน

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ไทยลีกต้อเหลือกี่ทีม

ทีมชาติถึงจะมีเวลาฝึกซ้อม ?

ฟุตบอล ไทยลีก มีการปรับเพิ่มและลดทีมเข้าแข่งขันในลีกสูงสุดอยู่หลายหน ซึ่งในยุคที่วรวีร์ เป็นนายกสมาคม ได้มีการเพิ่มทีมจาก 16 เป็น 18 ทีม แต่พอเปลี่ยนยุคเป็นนายกสมยศ ก็ได้เปลี่ยนกลับไปเป็น 16 ทีมเหมือนเดิม ซึ่งสุดท้ายแล้วผลลัพธ์ก็ดูเหมือนจะไม่ดีขึ้น แถมจะมีปัญหามากกว่าเดิมเสียอีก

ทีมชาติผลงานไม่ดี เพราะไม่ได้ฝึกซ้อม โปรแกรมบอลลีกเยอะเกินไป

      ในช่วงที่สมาคมฟุตบอล ไทยลีค มีการเปลี่ยนแปลงมาเป็นนายกสมยศ ผลงานทีมชาติไทย ไม่ได้ย่ำแย่ แต่แนวคิดของผู้บริหารมองว่าการที่ลีกสูงสุดอย่างไทยลีก มีทีมเข้าร่วม 18 ทีม มันจึงมีเกมแข่งขัน 34 นัด ไหนจะฟุตบอลถ้วยอีก 2 รายการ นั่นจึงทำให้โปรแกรมมันอัดแน่นจนเกินไป กลับกันถ้าลดเหลือ 16 ทีม โปรแกรมเตะจะหายไป 4 นัด เหลือ 30 นัด เท่านั้น อีกทั้งยังให้เหตุผลว่าจะช่วยให้การแข่งเข้มข้นและมีคุณภาพ และทีมชาติไทยมีเวลาสำหรับการฝึกซ้อม  

เหลือ 16 ทีม จัดการดีชั่วครู่ ก่อนจะกลายเป็นดีแตก ?

      การปรับจำนวนทีมให้เหลือ 16 ทีม ดูเหมือนจะไปได้สวย เพราะการแข่งขันในลีกเข้มข้น ส่วนทีมชาติไทย ก็มีเวลาเก็บตัวฝึกซ้อมตามรอบปฏิทินฟีฟ่าเดย์ แต่เมื่อโควิด-19 เข้ามา การทำงานของสมาคมฟุตบอลดูจะเหี่ยวเฉาตามไปด้วย เพราะระบบการจัดการดูจะย่ำแย่ จนทำให้ผลงานของทีมชาติไทย ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง แถมไม่ใช่แค่ชุดใหญ่เท่านั้น เพราะมันลามตั้งแต่ชุดใหญ่ไปยันชุดเล็ก ที่มักเจอกัน 1-2 วัน หรือเจอกันที่สนามบินแล้วไปแข่งขันเลย มิหนำซ้ำมันยังเกิดกรณีที่มีการหยุดลีกกะทันหันเพื่อไปล่าเหรียญทองซีเกมส์ แล้วดันล้มเหลวได้แค่เหรียญเงินกลับมา

ปัญหาอยู่ที่คนบริหาร ไม่ใช่จำนวนทีมในลีก ?

     สุดท้ายแล้วปัญหาที่เกิดขึ้น มันก็ชัดเจนว่าจะมีทีมในลีก 16 หรือ 18 ทีม แต่สุดท้ายทุกอย่างจะลงตัวหรือไม่ มันก็อยู่ที่คนบริหาร เพราะฟีฟ่าเองก็ได้ช่วยตีกรอบและจัดสรรคความลงตัวของฟุตบอลลีกกับทีมชาติไว้ให้แล้ว ทำให้หน้าที่ที่สมาคมฟุตบอลต้องทำต่อ  คือ วางแผนและปฏิทินล่วงหน้า ว่าในรอบฤดูกาลนี้จะมีแข่งขันอะไรในช่วงไหน ไม่ใช่มารีบเร่งเอาเมื่อใกล้ทัวร์นาเมนต์การแข่งขัน หรือแก้ไขปัญหาด้วยการจะลดทีมลงไปอีก แล้วในขณะเดียวกัน การจะรวมตัวเพื่อฝึกซ้อมนานแรมเดือนแบบในยุคโค้ชซิโก้ คงจะไม่สามารถทำได้อีก มิเช่นนั้นระบบของฟุตบอลอาชีพจะเละและไม่เป็นไปตามกรอบที่ฟีฟ่าวางไว้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ฮารีเมามาลายาลิ่วชิง”

มาเลเซีย โดนตีเสมอท้ายเกม แต่แม่นโทษดับ

ศึกฟุตบอลคิงคัพ คู่ที่ 2 ณ สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ทีมชาติไทย ในฐานะเจ้าบ้านที่ครองแชมป์รายการนี้สูงที่สุด พร้อมกับจัดตัวผู้เล่นแบบฟูลทีม  จะต้องพบกับทีมชาติมาเลเซีย ที่ปรับโฉมมาใช้บริการโค้ชชาวเกาหลีใต้และตัวผู้เล่นที่เป็นตัวลูกครึ่งและโอนสัญชาติกว่าครึ่งทีม อีกทั้งยังเน้นให้โอกาสผู้เล่นหน้าใหม่ๆอีกด้วย

ทีมชาติไทย พยายามจะตั้งเกมของตัวเองให้ได้ แต่การจัดตัวผู้เล่นกับตำแหน่ง อาการบาดเจ็บของ ชนาธิป รวมถึงความเนือยของผู้เล่นกว่าครึ่งทีม มันสวนทางกับทีมชาติมาเลเซีย ที่วิ่งไล่เพรสซิ่งแดนบน จนเจ้าบ้านขึ้นบอลและออกบอลให้พ้นจากแดนตัวเองไม่ได้ กระนั้นทีมเยือนไม่สามารถดักและจู่โจมได้ถนัดนัก กระทั่งนาทีที่ 32 ฮารีเมามาลายาขึ้นนำ 0-1 จากการตัดบอลและเลือกยิงมุมแคบด้วยความแม่นนยำ นั่นจึงทำให้ทัพช้างศึกพยายาม เร่งสปีดบอลจนสามารถพาบอลเข้าสู่แดนอันตรายได้ แต่เมื่อถึงจังหวะเข้าทำดันจ่ายบอลไม่ได้เปรียบ ทำให้โอกาสที่ควรได้มันหลุดลอยไป

ครึ่งหลัง ทีมชาติไทย พยายามแก้เกมด้วยการวางบอลจากแดนตัวเองไปยังริมเส้นแดน 3-4 ของคู่แข่ง ซึ่งการส่ง ศุภณัฎฐ์ ลงมาช่วยให้เกมรุกดูมีมิติขึ้น จนในช่วง 30 นาทีสุดท้าย ไทย สามารถอัพสปีดบอลแดนกลางและจ่ายแทงให้กับแนวรุกแบบได้หลุดเดี่ยวหลายหน แต่ความเฉียบคมไม่มี จากนั้นรูปเกมค่อยๆขึงใส่ได้แบบเบ็ดเสร็จ

อย่างไรเสียการเปิดบอลจากด้านข้างดูเหมือนไม่ค่อยได้เปรียบ ซึ่งกว่าจะมาได้ประตูตีเสมอก็นาทีสุดท้ายของการทดเวลา ส่วนทางฝั่งทีมชาติมาเลเซีย พละกำลังเริ่มทดถอยจนเกมรับมีหลุดรั่ว กระทั่งต้องเปลี่ยนตัวเพื่อเติมความสดและแพ็คเกมรับให้แน่น พร้อมกับวางเกมสวนกลับไว้ แต่สุดท้ายเกมรับดันประกบตัวผิดพลาดจนถูกตีเสมอ ขณะที่ช่วงการดวลจุดโทษ เสือเหลืองมีความนิ่งและเฉียบคมกว่า ทำให้เป็นฝ่ายชนะไป  

    บทสรุปจากเกม ทีมชาติไทย ในครึ่งแรกเล่นได้น่าผิดหวัง เพราะสปีดบอลช้า ผู้เล่นมีอาการเฉื่อยชา แล้วถูกเพรสซิ่งจนต่อเกมไม่ติดและเสียประตู กลับกันในครึ่งหลังรูปเกมดีขึ้น แต่ความเฉียบคมที่มีไม่มากพอทำให้ต้องลุ้นเหนื่อยท้ายเกม ซึ่งยังโชคดีที่ยิงตีเสมอเพื่อยื้อยิงจุดโทษได้ กระนั้นดันมาตายเพราะความไม่นิ่งและเฉียบคม

ส่วนทางฝั่งทีมชาติมาเลเซีย ทักษะเป็นรอง แต่ที่เหนือกว่าคือการวิ่งเพรสซิ่ง กล้าเข้าบอล มีวินัยในการเล่น และมีความมั่นใจ จนสามารถนำไปก่อน แม้ว่าในช่วงครึ่งหลังจะหวิดโดนเพราะกำลังเริ่มทดถอย แต่สุดท้ายคุณสมบัติที่เหนือกว่า ก็ได้กลายเป็นปัจจัยให้พวกเขาชนะและผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

สรุปผลงาน กองหลัง

ทีมชาติไทย ในศึก AFF SUZUKI CUP 2020

ศึกฟุตบอล AFF SUZUki CUP 2020 ที่พึ่งปิดฉากลงไป ในแผงกองหลังของทีมชาติไทย จัดได้ว่าเป็นตำแหน่งที่แฟนบอล กังวลมากที่สุดเพราะจากรายชื่อที่ปรากฏ ล้วนแต่อยู่ในฟอร์มที่ไม่น่าประทับใจ อีกผู้เล่นที่เป็นดั่งความหวังดันถอดตัว ทำให้ความกังวลยิ่งมากขึ้นเป็นทวีคูณ อย่างไรเสียพอการแข่งขันได้เริ่มต้นและดำเนินไปเรื่อยๆ ความกังวลก็ได้มลายหายไป กระทั่งเป็นตำแหน่งสำคัญที่พาทีมไปสู่แชมป์

กกฤษดา กาแมน

เจ้าและห์เล่นตำแหน่งกองกลาง กับ ชลบุรี เอฟซี แต่พอการแข่งขันนัดแรก กับ ติมอร์ มาโน่ ได้จับให้เจ้าตัวเล่นกองหลัง ซึ่งการลงเล่นที่นิ่งและไม่มีอาการตื่น มันก็มีผลให้ดาวเตะผู้นี้ยึดตำแหน่งแผงหลังแบบถาวรพร้อม กับแจ้งเกิดในทีมชาติชุดใหญ่อย่างเป็นทางการ

มานูเอล ทอมเบียรห์

 การลงเล่นกับต้นสังกัดอย่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด มักมีภาพของความผิดพลาดให้เห็นแบบเนืองๆ กระนั้นหากเทียบกับกองหลังคนไทยรายอื่น มันก็ต้องยอมรับว่าเจ้าตัว คือ แนวรับที่ดีที่สุดของไทย เท่าที่จะมีแล้ว ซึ่งการลงเล่นในทัวร์นาเมนต์นี้ก็มีความผิดพลาดแบบเต็มตาในเกม กับ ฟิลิปินส์ แต่พอเข้าสู่รอบสำคัญ ความผิดพลาดก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นความนิ่ง

เอเลียต ดอเลาะห์

      ทันทีที่แฟนบอลเห็นรายชื่อใน 30 คนสุดท้าย เชื่อว่ากว่า 90 % ย่อมรู้สึกเสียวและหวาดหวั่นกับวีรกรรมในอดีต โดยเฉพาะในเกมที่ พบ มาเลเซีย ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ซึ่งความผิดพลาดแบบนับครั้งไม่ถ้วนในวันนั้น มันยากยิ่งที่จะลืมเลือนจริงๆ อีกทั้งผลงานกับสโมสรก็ไม่ได้โดดเด่น กระนั้นการได้รับโอกาสในเกม กับ สิงคโปร์ ดาวเตะลูกครึ่งไทย-สวีเดน ก็ได้ตอบแทนทีมด้วยการโชว์ฟอร์มขั้นเทพ แถมด้วยการยิงประตูให้ทีม ทำให้เมื่อเข้ารอบลึกๆ เจ้าตัวจึงได้รับโอกาสให้ลงสนามอยู่เนืองๆ

ปวีร์ ฑัณฑะเตมีย์

      การถอนตัวของ พรรษา เหมวิบูลย์ มีผลให้ มาโน่ ต้องเรียกปราการหลังจาก ราชบุรี มิตรผล เอฟซี มาเสริมทีม แต่ด้วยฟอร์มการเล่นที่มีข้อผิดพลาดให้เห็นอยู่บ่อยๆ มันก็ไม่แปลกนักที่แฟนบอลจะมองเจ้าตัว คืออะไหล่สำรอง กระทั่งการแข่งขันเริ่ม ขึ้นสิ่งที่คาดก็เป็นไปตามที่คิด แต่จุดเปลี่ยนมันมาอยู่ตรงที่เกมนัดสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่ม กับ สิงคโปร์ ที่ทีมชาติไทยเข้ารอบไปแล้ว

ฉะนั้น มาโน่ จึงให้โอกาสตัวสำรองแล้ว ปวีร์ ก็สามารถโชว์ฟอร์มจนคว้าแมนออฟเดอะแมตช์ ส่วนโอกาสครั้งที่ 2 เจ้าตัวได้ลงเล่นในเกม กับ อินโดนีเซีย นัดที่ 2 แต่คราวนี้ดันโชว์ฟอร์มได้ต่ำกว่า กระทั่งถูกถอดออกเมื่อจบครึ่งแรก

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover