Categories
ข่าวกีฬา

“เจ๊าหืด แต่แชมป์กลุ่ม” ช้างศึก ประคองตัวเจ๊า เวียดนาม เข้ารอบแชมป์กลุ่ม B

รอบแบ่งกลุ่ม B ช้างศึก เจ๊า เวียดนาม เข้ารอบแชมป์กลุ่มในฟุตบอลชายซีเกมส์

ฟุตบอลชายซีเกมส์ รอบแบ่งกลุ่ม B นัดสุดท้าย ณ สนามปรินซ์ สเตเดี้ยม กรุงพนมเปญ ทีมชาติเวียดนาม ที่ชนะรวด 3 นัด และการันตีผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ จะต้องพบกับ ทีมชาติไทย ที่ก็ชนะรวดและการันตีการเข้าสู่รอบต่อไปเช่นกัน ฉะนั้นเกมนัดนี้จะเป็นการชี้ชะตาว่าใครจะเป็นแชมป์กลุ่ม โดยเวียดนาม จะต้องชนะเท่านั้น ขณะที่ไทย ขอแค่ไม่แพ้เพราะประตูได้เสียดีกว่า

           เกมการแข่งขันเริ่มไปได้ 2 นาที ทีมชาติเวียดนาม กำลังจะทำเกมโต้กลับ แต่การจ่ายพลาดตรงกลางสนาม ทีมชาติไทย จ่ายเบิ้ลจังหวะเดียวไปให้ข้างหน้า แล้วอยู่ๆแนวรับเวียดนามเกิดลื่น ทำให้ อชิตพล ได้ซัดบอลเข้าไปตุงตาข่าย นั่นจึงทำให้ เวียดนาม ต้องกลายเป็นฝ่ายเปิดเกม แต่จากภาพที่เห็นคือ พวกเขาได้แต่เซตบอลหลังบ้านและวางยาวไปยังบริเวณเส้นตรงแดน 2-3 แต่ก็ไม่สามารถเก็บเพื่อป้อนเข้าสู่กรอบเขตโทษได้ ส่วนทางฝั่งทัพช้างศึก เมื่อเก็บบอลได้ก็จ่ายตามช่องเพื่อแกะการเพรสซิ่ง กระนั้นเมื่อบอลไปถึงข้างหน้า นักเตะไม่สามารถสร้างจังหวะเข้าทำได้ เว้นเสียแต่การโต้กลับที่มีจังหวะและน่าได้ประตูทิ้งห่าง

รอบแบ่งกลุ่ม B ช้างศึก เวียดนาม เข้ารอบแชมป์กลุ่ม ตีเสมอ 1-1

รอบแบ่งกลุ่ม B ช้างศึก เวียดนาม เข้ารอบแชมป์กลุ่ม ตีเสมอ 1-1

          ครึ่งหลัง ทีมชาติเวียดนาม ปรับการวิ่งและการเคลื่อนที่ให้เร็วขึ้น จนสามารถกดคู่แข่งและได้ประตูตีเสมอ1-1 ในนาทีที่ 55 จากจังหวะที่บอลถูกสกัดแล้วเป็นใจให้ซัดจ่อๆ จากนั้นทัพดาวทอง ไม่โหมบุกรุนแรงเหมือนเดิม โดยจะมีเพียงการขึ้นบอลจากด้านข้างที่พอมีเสียวอยู่บ้าง แต่ก็ถูกตามสกัดไว้ได้ทั้งหมด ส่วนทางฝั่งทีมชาติไทย การเปลี่ยนตัวหลักออกหลายคน รูปเกมดูดรอปและถูกคู่แข่งกดหัวในช่วงต้น กระทั่งเสียประตู อย่างไรเสียรูปเกมก็ไม่ดีขึ้น เพราะเมื่อไรที่ตัดบอลก็ไม่สามารถทำเกมรุกได้ ทำให้เกมนี้จบลงด้วยการเสมอกัน 1-1

          บทสรุปจากเกม ทีมชาติเวียดนาม เริ่มต้นด้วยความผิดพลาดส่วนบุคคลและเสียประตู อีกทั้งการขึ้นเกมรุกตื้อตันเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเริ่มครึ่งหลังจนถึงนาทีที่ 55 ที่ได้ประตูตีเสมอ นี่ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของพวกเขาในเกมนี้ ส่วนทางฝั่ง ทีมชาติไทย เริ่มต้นด้วยประตูนำอย่างรวดเร็วและการเล่นแบบประคองเกมในครึ่งแรก ก็เป็นไปตามแท็กติก แต่เมื่อครึ่งหลังมีการเปลี่ยนตัว ก็ถูกกดจนหลังพิงเชือกและเสียประตูตีเสมอในที่สุด อย่างไรเสียสิ่งที่ต้องปรับต่อ คือการทำเกมรุกที่แทบจะทำอะไรคู่แข่งไม่ได้เลย

รอบแบ่งกลุ่มB ช้างศึก เวียดนาม เข้ารอบแชมป์กลุ่ม ตีเสมอ 1-1

รอบแบ่งกลุ่มB ช้างศึก เวียดนาม เข้ารอบแชมป์กลุ่ม ตีเสมอ 1-1

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ดาวทองหวิดคาบ้าน”

ปาร์ค ฮัง ซอ ช่วย เวียดนาม เจ๊า ไทย 2-2

ศึกฟุตบอล AFF Mitsubishi Electric Cup 2022 รอบชิงชะเลิศ นัดแรก ณ สนามมีดิ่งห์ สเตเดี้ยม ทีมชาติเวียดนาม ในฐานะแชมป์เก่า 2 สมัย จะต้องโคจรมาพบกับคู่แค้นตัวฉกาจอย่าง ทีมชาติไทย ที่เป็นแชมป์มาแล้ว 6 สมัย โดยไฮไลท์สำคัญของวันนี้ คือ การคุมทีมในบ้านนัดสุดท้ายของ ปาร์คฮังซอ ในฐานะเฮดโค้ช ขณะที่ผังการเล่นถือว่าผิดคาด เพราะทัพช้างศึกเลือกเล่นระบบ 3-5-2 เหมือนเจ้าบ้าน   

      ทีมชาติเวียดนาม เริ่มต้นด้วยความคึกคักผ่านการเพรสซิ่งสูงถึงหน้าไลน์แนวรับทีมเยือน อีกทั้งเมื่อได้บอลก็จะจัดการเปิดจากด้านข้าง หรือแทงบอลให้ 2 กองหน้าในเขตโทษ แต่เมื่อเวลาผ่านไปราว 10 นาที ทีมชาติไทย เริ่มครองบอลได้เหนียวแน่น

อีกทั้งสามารถแกะการเพรสซิ่งและเปลี่ยนเป็นเกมรุกได้รวดเร็ว อย่างไรก็ดี ทัพดาวทองมาได้ประตูนำ 1-0 ในนาทีที่ 24 จากการเติมขึ้นมาเปิดที่ด้านขวาของ ก๊อก ไห่ ให้ เตี๋ยน ลิญ ได้พุ่งโหม่งแบบเต็มศีรษะ ซึ่งในจังหวะนี้ ศศลักษณ์ ยืนห่าง และ กฤษดา ถูกวิ่งแซงจากด้านหลังแล้วตามไม่ทัน 

       เวียดนาม ไม่ตั้งรับและต่อบอลเพื่อโจมตีจากด้านข้างแบบต่อเนื่อง กลับกัน ไทยมีอาการตื้อให้เห็นราว 10 นาที ก่อนที่ทัพช้างศึกจะค่อยๆฟื้น แต่โอกาสจบสกอร์ไม่เยอะ แม้จะพาบอลมาถึงแดนสุดท้ายได้อยู่เรื่อยๆ โดยจังหวะที่ใกล้เคียงที่สุด คือ การยิงฟรีคลิกหน้ากรอบของ ธีราทร แล้วบอลพุ่งชนเสาอย่างจัง

ครึ่งหลังเริ่มมาได้เพียง 3 นาที ทีมชาติไทย ได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการวางบอลข้ามไลน์กองหลังของ ธีราทร ให้ ปรเมศ ได้ลากเข้าไปแล้วล็อคหลบ ก่อนยิงเข้าเสาแรกแบบใจเย็น จากนั้นยังคงเป็นไทย ที่พยายามเจาะเข้าไป แต่มักถึงแค่แดน 3 เท่านั้น กระทั่งนาทีที่ 63 การเสียบอลกลางทางของเจ้าบ้าน ทำให้ ธีราทร

เลือกจะแทงเร็วให้ สารัช ที่วิ่งสวนไลน์ล้ำหน้าขึ้นมาพอดี ได้หลุดเข้าไปยิงให้ทัพช้างศึกขึ้นนำ 1-2 ทำให้ ทีมชาติเวียดนาม ที่ครึ่งหลังดูตื้ออยู่แล้ว ยิ่งตื้อกว่าเดิม อย่างไรก็ดีช่วงท้ายเกม ทัพดาวทองมาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากลูกยิงแบบจับยัดของ วาน ธัน ช่วยให้รอดพ้นจากความพ่ายแพ้

      บทสรุปจากเกม ทีมชาติไทย เล่นได้ดีเป็นช่วงๆในครึ่งแรก แต่พอเข้าสู่ครึ่งหลัง การจ่ายบอลของ ธีราทร ถือเป็นตัวแปรสำคัญให้ทีมได้ 2 ประตู กระนั้นการป้องกันลูกกลางอากาศจากทางด้านข้าง ยังมีปัญหาและโดนเล่นงานตลอด ซึ่งหากคู่แข่งโหม่งได้คมกว่านี้ อาจเสียประตูมากกว่า 2 ประตู รวมถึงความผิดพลาดส่วนบุคคล ที่หากเฉียบคมกว่านี้

ทัพช้างศึกสามารถชนะที่สกอร์ 4-2 ได้ ส่วนทางฝั่งทีมชาติเวียดนาม ไม่ได้มีช่วงเวลาที่เล่นได้ดีกว่าแบบชัดเจน แต่มีความเฉียบคมเลยได้ประตูนำก่อน จนเข้าสู่ครึ่งหลัง ความผิดพลาด ปาร์คฮังซอ ที่จัดการวางแนวรับมีผลให้เสียประตู แล้วรูปเกมตื้อตันไป กระนั้นยังดีที่คู่แข่งยิงทิ้งห่างไม่ได้ แล้วกองหน้าสำรองลงมายิงช่วยชีวิตไว้ได้พอดี

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ในเกมตามเจ๊า ไทย 2-2

ตัดเกรดผู้เล่นทีมชาติเวียดนาม

นัดชิงชนะเลิศ AFF Mitsubishi electric cup 2022 ยกแรก ขุนพลดาวทอง ที่ได้เล่นในบ้านก่อน กลายเป็นฝ่ายไล่ตามตีเสมอไทย 2-2 ซึ่งจากสกอร์นี้ถือว่าเสียเปรียบมหาศาล เพราะการบุกไปเยือนต้องชนะเท่านั้น

กระนั้นฟอร์มการเล่นของ ทีมชาติเวียดนาม ในเกมนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง นับจากนี้เราจะไปให้คะแนนกัน

ดัง วาน ลัม (6) : มีจังหวะเซฟช่วยทีม 2-3 จังหวะ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าลูกถูกตีเสมอ 1-1 นั้นพลาดเต็มๆ เพราะโดนยิงเสาแรกทั้งที่ยืนอยูใกล้ๆ  

 โด ดุย มานห์ (5) : เป็นแนวรับที่ประกบแนวรุกไทยไม่ค่อยอยู่ แล้วเพียง 58 นาที ก็ถูกเปลี่ยนตัวออก     

เกว ง็อก ไฮ (5) : เปิดบอลแอสซิสต์ให้เพื่อนแบบงามหยด แต่ทั้ง 2 ประตูที่เสีย  มีความผิดพลาดเต็มๆ คือ ลูกหนึ่งถูกหลอกหลังหัก อีกลูกหนึ่งขยับไลน์ขึ้นมาไม่ทัน ทำให้โดนหักคะแนนเยอะ    

บุย เทียน ดุง (6) : ไม่ได้มีความผิดพลาดแบบน่าเกลียด แต่ที่เปลี่ยนน่าจะเป็นเพราะพลังเริ่มหมด

ดวน วาน เฮา (6) : ไม่ค่อยซ่าเหมือนเกมก่อน และไม่ค่อยมีลูกเปิดสวยๆให้เพื่อน  

 โด ฮุง ดุง (5) : ความโดดเด่นถูกกลืนหายเพราะศักยภาพสสู้กองกลางของไทยไม่ได้    

โฮ ทัน ไท (6) : ไม่ได้มีความผิดพลาด แต่ในช่วงท้ายเริ่มหายไปจากเกม ทำให้ถูกเปลี่ยนตัวออก

 เหงียน ฮวง ดึ๊ก (6) : พยายามจ่ายแทงให้เพื่อนอย่างสุดกำลัง แต่มักถูกดักจากแนวรับของไทย  

พาม ตวน ไฮ (5) : เป็นสากดีๆที่ไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไรนัก ทำให้ถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่นาทีที่ 58

เหงียน ควง ไฮ (5) : ถ้าบอกว่าไม่ได้ลงก็คงจะเชื่อ เพราะบทบาทน้อย แถมจังหวะจ่ายมักติดกับดักตลอด  

เหงียน วาน เควี๊ยต (5) : สนามในนาทีที่ 78 แทน ควง ไฮ แต่ก็มีสภาพไม่ต่างกัน  

 เหงียน เทียน ลินห์ (7) : เป็นกองหน้าที่คมกริบ เพราะโอกาสครั้งแรกของเกมก็ทำประตูได้ทันที แถมมีความอันตรายเมื่อบอลถูกสาดมาที่ศีรษะ แต่ก็น่าเสียดายเพราะมีจังหวะที่เกือบโหม่งเบิ้ลลูก 2  

บุย ฮอง เวียตอันห์ (6) : ลงมาแล้วช่วยยืนคุมแนวรับได้ดี แต่ก็มีจังหวะที่ตามไม่ทันและต้องวิ่งหน้าตั้งให้เห็น

พาน วาน ดึ๊ก (5) : ลงมาแล้ว ก็ไม่ได้ช่วยทีมให้ดีขึ้น 

วู วาน ธันห์ แทน (7) : ลงสนามนาทีที่ 85 สัมผัสโดนบอลไม่กี่ครั้ง แต่การยิงไกลเป็นประตูตีเสมอ 2-2 ถือเป็นประตูสำคัญที่ทำให้ทีมไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ไปมากกว่านี้

เหงียน ตันห์ บิน (ไม่มีคะแนน) : ส่งสนามนาทีที่ 85 แต่ไม่ค่อยโดนบอลนัก

และนี้ก็คือรายชื่อพร้อมคะแนนที่ ขุนพลดาวทอง ได้กลับไป จากการแข่งขันแมตนี้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ดาวทองลิ่วชิงสมัย 3”

ทีเด็ดลูกโยน ก่อนตบ อินโดนีเซีย นิ่มๆ 2-0

ศึกฟุตบอล AFF mitsubishi electric cup 2022 รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 คู่แรก ณ สนามมีดินห์ สเตเดี้ยม เวียดนาม ที่ตั้งแต่เริ่มทัวร์นาเมนต์นี้ ยังไม่แพ้และเสียประตูให้ใคร จะต้องพบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ที่นัดแรกเล่นดีกว่าแต่ยิงประตูไม่ได้ ทำให้เกมนี้ต้องชนะ หรือเสมอแบบมีประตู ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 3-5-2 ขณะที่ทีมเยือนเล่นระบบ 4-2-3-1  

      ทั้ง 2 ทีม ยังตั้งเกมไม่ติด แต่ ทีมชาติเวียดนามมาได้ประตูนำ 1-0 จากการวางบอลกลางสนามไปยันกรอบเขตโทษของทีมเยือน จากนั้น เตี๋ยน ลิญ เอาบอลลงได้นิ่มนวลและยิงสวนเข้าไป ซึ่งในทางกลับกันแนวรับทีมเยือนมีความผิดพลาดที่ปล่อยให้เล่นง่ายและไม่เข้าเบียดทำลายจังหวะ โดยการประตูนำเร็วแบบนี้มันก็เป็นผลให้ทัพดาวทองได้เปรียบและมีรูปเกมที่ดูดีกว่า เพราะแม้จะเสียบอล พวกเขาก็บีบและแย่งมาได้เร็ว กระทั่งทีมชาติอินโดนีเซีย ไม่ครองเกมและบุกใส่ได้

      ทีมชาติอินโดนีเซีย เสียประตูเร็ว แต่ก็ไม่สามารถตั้งเกมได้ เพราะแค่จะออกบอลให้พ้นจากแดนตัวเองก็ยังทำไม่ได้ ซึ่งกว่าจะเริ่มครองบอลได้ก็ต้องรอเกือบครึ่งชั่วโมง กระนั้นการขึ้นเกมบุกต้องขึ้นทางฝั่งขวาจากอัสนาวี่ข้างเดียว แต่บอลไปไม่ถึงแดนสุดท้าย

ครึ่งหลังเหมือนหนังฉายซ้ำ เพราะลูกเตะมุมได้กลายเป็นประตูนำ 2-0 ของ เวียดนาม แบบสุดปัญญาจะป้องกัน ทำให้การพลิกสถานการณ์กลับมาของทีมชาติอินโดนีเซียยากขึ้นทันที เพราะต้องยิง 2 ลูก เพื่อตามตีเสมอ กระนั้นการแก้เกมก็ได้เห็นถึงการขึ้นบอลที่มาบ่อยขึ้น แต่ปัญหาใหญ่ที่แก้ไม่ตก คือ ในแดนสุดท้ายไม่มีจังหวะจบสกอร์ กระทั่งเป็นแบบนี้จนจบเกม

      บทสรุปจากเกม ทีมชาติเวียดนาม ไม่ได้เน้นการเคาะบอลขึ้นไป แต่ใช้การวางบอลยาวเข้าไลน์กองหลัง ซึ่งต้องชมว่าวางได้แม่นยำและกองหน้าใช้โอกาสไม่เปลื้อง อีกทั้งการได้ประตูนำเร็วทำให้สถานการณ์ไม่กดดัน กระทั่งถอยไปรับมากขึ้นและรอสวนกลับ แล้วเกือบได้ประตูทิ้งห่างอีกด้วย ฉะนั้นเกมนี้ถือเป็นฟอร์มที่ดีของทัพดาวทอง

ขณะที่ทีมชาติอินโดนีเซีย เกมรับเสียสมาธิในช่วงต้นครึ่งแรกและครึ่งหลัง อีกทั้งปัญหาใหญ่ที่เห็น คือ การขึ้นเกมที่ไปไม่ถึงแดนสุดท้าย ซึ่งในครึ่งหลังมีการแก้มา แต่ก็ติดปัญหาว่าไม่สามารถสร้างโอกาสจบสกอร์ได้ สุดท้ายเมื่อยิงไม่ได้ก็ต้องตกรอบไป

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“อิเหนาเผด็จศึกไม่ลง”

มีโอกาสแต่ทำไม่ได้ สุดท้ายเจ๊า เวียดนาม 0-0 รอบรองนัดแรก

ศึกฟุตบอล AFF mitsubishi electric cup 2022 รอบรองชนะเลิศคู่แรก นัดที่ 1 ณ สนามเกลอรา บังการ์โน ทีมชาติอินโดนีเซีย ที่ผ่านเข้ารอบมาในฐานะรองแชมป์กลุ่ม A จะต้องเปิดบ้านพบ ทีมชาติเวียดนาม ที่เข้ารอบมาด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม B สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านวางระบบ 4-5-1 ขณะที่ทีมเยือนใช้ระบบ 3-5-2

  ช่วงต้นเกม ทีมชาติเวียดนามเคาะบอลในแดนตัวเอง เพื่อบิ้วเกมขึ้นไปในแดน 1-2 แต่เมื่อเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ผู้เล่นทีมชาติอินโดนีเซียจะเข้าถึงบอลเร็วและปิดพื้นที่กลางสนามไว้อย่างแน่นหนา นั่นจึงทำให้นักเตะเวียดนามต้องเร่งจ่ายบอล ออกบอลลำบาก ทำให้การพาบอลไปถึงแดนสุดท้ายเพื่อจบสกอร์แทบจะไม่มี แล้วเมื่อเกมผ่านไปราว 30 นาที ทัพดาวทองเริ่มมีภาพของการจ่ายบอลเสียมากขึ้น

พร้อมกันนั้นทางฝั่งเดอะการ์รูด้า ก็เริ่มจะโต้กลับและมีโอกาสที่หวาดเสียว ซึ่งในช่วง 10 นาทีสุดท้ายถือเป็นนาทีทองของเจ้าบ้าน เพราะการทำชิ่ง 1-2 หรือการวางบอลจากแดนกลาง มันทะลุถึงแดนสุดท้ายและมีโอกาสจบสกอร์เหน่งๆ แต่ลูกทีมของ ชิน แต ยัง ไม่สามารถฉวยโอกาสนี้ยิงประตูขึ้นนำได้

ครึ่งหลัง ปาร์ค ฮัง ซอ พยายามกำชับลูกทีมไม่ให้เสียบอลง่าย หรือหากเสียก็ต้องสกัดฟาวล์เพื่อไม่ให้เจ้าบ้านพาบอลเข้าไปในแดนอันตราย ซึ่งทำได้ดี แต่ในส่วนของเกมรุกยังไม่สามารถเจาะแนวรับเจ้าบ้านที่ยืนป้องกันอย่างหนาแน่นได้

ขณะที่ทีมชาติอินโดนีเซีย เกมรับยังเล่นตามแผนเดิมและทำได้ดีต่อเนื่อง แต่ในแผงเกมรุกเมื่อถูกตัดฟาวล์หนักๆ รวมถึงการถูกปิดพื้นที่ไม่ให้เจาะง่ายๆ พวกเขาก็แทบจะไม่มีโอกาสเหน่งๆเหมือนช่วงท้ายครึ่งแรกอีกเลย

บทสรุปจากเกม ทีมชาติอินโดนีเซีย มีเกมรับเป็นจุดเด่นเมื่อต้องเจอกับทีมในระดับใกล้เคียงหรือสูงกว่า แล้วตรงจุดนี้สามารถช่วยให้พวกเขาไม่เสียประตูก็จริง แต่ในแผงเกมรุกกลับไม่เฉียบคมเอาเสียเลย โดยเฉพาะในช่วงนาทีทองท้ายครึ่งแรก ซึ่งหากมีสัก 1 ประตู

ก็เชื่อว่ารูปเกมจะเปลี่ยนไปอย่างมหาศาล ขณะที่ทีมชาติเวียดนาม ทีแรกจะมาต่อบอลและเจาะเข้าไป แต่พอเจอแนวรับที่รักษาพื้นที่ได้เหนียวแน่นและเข้าหาบอลเร็วทุกจังหวะ พวกเขาก็เริ่มเสียบอลง่าย กระทั่งไม่สามารถต่อบอลเข้าไปในแดน 3-4 ของเจ้าถิ่นได้เลย นอกจากนี้ยังมีช่วงที่แนวรับสมาธิหลุดไป กระนั้นยังโชคดีที่คู่แข่งไม่เฉียบคมเอง

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ครองบอลข่ม แต่ไร้ความเสียว”

ทัพดาวทอง ครองบอลวันเวย์ แต่ได้แค่บุกเสมอ สิงคโปร์ 0-0

ศึกฟุตบอล AFF mitsubishi electric cup 2022 นัดที่ 3  ณ สนามจาลันเบซาร์ ซึ่งเป็นเกมการแข่งขันของกลุ่ม B ระหว่าง ทีมชาติสิงคโปร์ ที่มี 6 แต้ม กับ ทีมชาติเวียดนาม ที่ก็มี 6 แต้ม เช่นเดียวกัน ฉะนั้นหากใครคว้าชัยในเกมนี้ ก็แทบจะการันตีการเข้ารอบต่อไปทันที สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 5-4-1 ส่วนทีมเยือนวางระบบ 4-4-2  

เกมการแข่งขันในครึ่งแรก ทีมชาติเวียดนาม ดูจะเหนือกว่าในแง่การครองบอล โดยการครองบอลจะเป็นในลักษณะค่อยๆเคาะขึ้นไป แต่เมื่อถึงแดน 3 มักจะถ่ายบอลไปมาซ้าย-ขวา แล้วใช้การโยนเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่ไม่ค่อยมีความแม่นยำ

นอกจากนี้ยังมีการยิงไกล ซึ่งก็ไม่เข้าเป้าเท่าไรนัก ส่วนทางฝั่งทีมชาติสิงคโปร์ เปอร์เซ็นต์การครองบอลและผ่านบอลน้อย เพราะเมื่อจับบอลได้ก็จะถูกเพรสซิ่งสูงจนต้องสาดทิ้งและเสียบอลคืนไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่เกมรุกก็เน้นการโยนบอลไปให้กองหน้าเป็นหลัก แต่ไม่มีความแม่นยำจนโอกาสจบสกอร์แทบเป็นศูนย์

ครึ่งหลัง ทีมชาติเวียดนามเปลี่ยนตัวผู้เล่นถึง 4 คน แต่รูปเกมไม่ต่างจากเดิม คือ ครองบอลมาถึงแดน 3 แล้วมักใช้การโยนเข้ากรอบเขตโทษและยิงไกล นอกจากนี้มีช่วงที่เล่นได้ผิดพลาดง่ายๆ โดยเฉพาะการจ่ายบอลเสียของกองกลาง ทำให้จังหวะที่ใกล้เคียงที่สุดใน 45 นาทีหลัง คือ การยิงไกลที่ไปชนเสาแบบเต็มๆเพียงครั้งเดียว

ส่วนทางฝั่งทีมชาติสิงคโปร์ การแก้เกมที่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง คือ เกมรับพยายามประกบและเข้าบังทางคู่แข่งให้มิดชิด นั่นจึงทำให้การเปิดบอลของคู่แข่งทำได้ยากและมีความแม่นยำน้อย กระนั้นก็มีบางจังหวะที่ยืนป้องกันหละหลวมจนเกือบเสียประตูจากลูกยิงไกล ขณะที่เกมรุกมีโอกาสไม่กี่ครั้งและการให้บอลไม่มีความแม่นยำ

บทสรุปจากเกม ทีมชาติสิงคโปร์ยืนป้องกันได้ดี โดยเฉพาะในครึ่งหลังที่สร้างความลำบากให้คู่แข่งได้พอสมควร กระนั้นมันก็มีบางจังหวะที่ผิดพลาดจนเกือบเสียประตู ส่วนเกมรุกถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะแทบจะไม่มีอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันและดูเหมือนจะเน้นการสาดยาวอย่างเดียว แถมไม่มีความแม่นยำเลย

ส่วนทางด้านทีมชาติเวียดนาม พวกเขาครองบอลได้เยอะมาก แต่มันเป็นการครองบอลที่ไม่เกิดประโยชน์ เพราะเมื่อพาบอลมาถึงแดน 3 ของคู่แข่ง พวกเขาไม่จี้จุดอ่อนคู่แข่ง หรือสร้างจังหวะเข้าทำในสไตล์ที่ตัวเองถนัด แต่จากภาพที่เห็นจะเน้นการเปิดบอลยาวที่ไม่ค่อยแม่นยำ พร้อมกับการยิงไกลที่ไม่ค่อยเข้ากรอบ ซึ่งการทำเกมบุกได้เพียงแค่นี้ แน่นอนว่าจะลำบากต่อทัพดาวทองเมื่อต้องเจอทีมที่ระดับใกล้เคียงกัน  

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover