Categories
ข่าวกีฬา

“ปาร์ค ฮัง-ซอ “

การเดิมพันที่สูงลิบของ ทีมชาติเวียดนาม และ ปาร์ค ฮัง-ซอ

หาก โฮจิมินห์ คือ วีรบุรุษตลอดกาลของชาติ ปาร์ค ฮัง-ซอ ก็คงเป็นวีรบุรุษสำหรับฟุตบอลเวียดนามเหมือนกัน เพราะนับตั้งแต่กุนซือชาวเกาหลีใต้ผู้นี้เข้ามาคุมทีม ทัพดาวทองก็ดีดตัวเองขึ้นมาเป็นมหาอำนาจลูกหนังแห่งภูมิภาคอาเซียน พร้อมกับการขึ้นไปเชิดหน้าชูตาในระดับเอเชีย แต่สำหรับปัจจุบัน กุนซือชาวเกาหลีใต้กำลังอยู่ในช่วงขาลง แล้วถ้าในศึก AFF SUZUKI CUP 2020 หนนี้ พวกเขาไปไม่ถึงแชมป์แล้วละก็ มันคงพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า ทีมชาติเวียดนาม ล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า

หากย้อนกลับไปก่อนที่ ปาร์ค ฮัง-ซอ จะเข้ามา ทีมชาติเวียดนาม อยู่ในสภาพที่ร้างลาจากความสำเร็จมานาน อีกทั้งต้องล้มเหลวกับกุนซือหลายคน แต่พอกุนซือชาวเกาหลีใต้เข้ามา ทีมชาติเวียดนาม สามารถคว้าแชมป์ AFF SUZUKI CUP 2018 เป็นสมัยที่ 2 และคว้าเหรียญทองซีเกมส์ เป็นหนแรกตั้งแต่รวมประเทศ ส่วนในระดับเอเชีย พาทีมชุด U-23 คว้ารองแชมป์เอเชีย และพาทีมชุดใหญ่เข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย เป็นครั้งแรก ซึ่งจากที่ไล่เรียงมาราว 4 ปี ปาร์ค ฮัง-ซอ ได้แปลงโฉมทัพดาวทองค่อนข้างมากทีเดียว เพราะอะไรที่เคยเหินห่าง ก็ได้กลับมา ส่วนอะไรที่ไม่เคย ก็พาไปให้ได้สัมผัส  

การได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบ 12 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย เป็นครั้งแรก แน่นอนว่า ลุงปาร์คและนักเตะรู้ดีว่าเป็นรองทุกทีม ฉะนั้นเป้าหมายของพวกเขา คือ เก็บแต้มให้ได้มากที่สุด แต่ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีแม้แต่คะแนนเดียว นั่นจึงทำให้สถานการณ์ของทีมเริ่มกดดันหนักขึ้น อย่างไรเสีย ฟุตบอลAFF SUZUKI CUP 2020 ในหนนี้ ก็เปรียบเสมือนระฆังพักยกชั้นดี ที่จะเรียกสติและความมั่นใจกลับมาหากคว้าแชมป์ได้ ซึ่งพวกเขาเลือกที่จะเดิมพันขั้นสูงด้วยการตัดจบฟุตบอลวีลีกตั้งแต่เดือนสิงหาคม เพื่อให้ทีมชาติได้มีเวลาซ้อม โดยอีกมุมการทำเช่นนี้มันเปรียบเสมือนการผูกมัดตัวเอง ว่าต้องไปถึงแชมป์สถานเดียว เพราะชาติที่มีลุ้นอย่าง ไทย หรือ อินโดนีเซีย ลีกของพวกเขายังแข่งปกติและมีเวลาซ้อมน้อยกว่า

การเดิมพันที่สูงลิบครั้งนี้ หากทีมชาติเวียดนามไปไม่ถึงแชมป์แล้วละก็ นักเตะในทีมจะสูญเสียความมั่นใจแบบเอียงข้างเป็นแน่ ส่วนฟุตบอลวีลีกก็เสียหายในแง่ของเวลาที่ถูกเว้นว่างไปแบบเปล่าประโยชน์ กระนั้นหากพูดถึงโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงโค้ช คงเป็นเรื่องที่ยาก เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครทำผลงานได้ดีกว่า ปาร์ค รวมถึงตัวนักเตะเวียดนาม ก็ไม่ได้มีศักยภาพที่สูงส่งจนตอบสนองต่อแท็กติกของโค้ชได้ทุกคน

ติดตามข่าวกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : รวมพลคนบันเทิง

Categories
ข่าวกีฬา

“2 เกาหลีกินกันไม่ลง”

เวียดนาม บุกทั้งเกม แต่สุดท้ายได้แค่เจ๊า อินโดนีเซีย 0-0

ศึกฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 นัดที่ 3 ของสาย B ทีมชาติเวียดนาม ที่ชนะมา 2 เกมติด จะพบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ที่ก็ชนะมา 2 เกมติดเหมือนกัน ฉะนั้นหากมีผลแพ้ชนะเกิดขึ้น ทีมนั้นจะลอยลำผ่านเข้ารอบทันที แต่ถ้าออกผลเสมอ จะต้องไปลุ้นกันจนถึงนัดสุดท้าย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ขุนพลดาวทองของลุงปาร์ค มาในระบบ 3-4-3 ส่วนเดอะการูด้าของน้าชิน อัดแน่นเกมรับในระบบ 5-4-1

      เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทีมชาติเวียดนาม เป็นฝ่ายครองบอลและบุกใส่ แต่การต้องพบกับแนวรับที่ยืนอัดแน่นหน้าบริเวณแดน 3-4 ทำให้การต่อบอลและเข้าทำเป็นไปอย่างยากลำบาก กระทั่งต้องออกบอลไปทางริมเส้นแล้วตบมาหน้าประตู ซึ่งมันก็มีจังหวะที่บอลมาถึงหน้าประตูและได้สับไก แต่แนวรับฝ่ายตรงข้ามยังเข้ามาบังทางได้ดี จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เวียดนาม เริ่มจะตื้อตันและใช้วิธีการต่อบอลให้เกิดช่องว่างและรีบยิงไกล แต่ก็ไม่มีความแม่นยำเลย ส่วนทางฝั่ง ทีมชาติอินโดนีเซีย มาเน้นตั้งรับและยืนตำแหน่งได้ดี แต่ไม่มีเกมโต้กลับที่ไปได้สุดทาง ทำให้การครองบอลมีระยะเวลาที่ไม่นาน แล้วสุดท้ายต้องวิ่งหน้าตั้งกลับมาตั้งรับ      

ครึ่งหลัง รูปเกมยังคงเหมือนกับ 45 นาทีแรก แต่สิ่งที่ดูมีการเปลี่ยนแปลง คือ อินโดนีเซีย พยายามต่อบอลเพื่อหนีการบีบสูง จนสามารถขึ้นบอลได้ถึงแดหน้า แต่จังหวะการเข้าทำดันมีแค่การเปิดไปให้หน้าเป้าตัวเดียว ซึ่งไม่แม่นยำและไม่อันตราย ส่วนทางฝั่ง เวียดนาม พอเจอเกมที่อึดอัดและไม่มีแผน หรือวิธีการทำประตูอย่างอื่น ก็เริ่มจะตื้อตันไปเรื่อยๆ กระทั่งทำอะไรก็ไม่ดีไปเสียหมด ทำให้เกมจบลงด้วยการเสมอกัน 0-0

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ทีมชาติเวียดนาม พอเจอทีมที่รับอยากมีวินัย เกมรุกก็พิการทันที แล้วด้วยความที่ว่าตัวเองมีมิติเกมรุกไม่มาก มันจึงเป็นผลให้ไม่มีการแก้เกมหรือแก้ลำระหว่างทางให้เห็น ส่วนทางฝั่ง ทีมชาติอินโดนีเซีย เกมรับทำหน้าที่ได้ดีและไม่มีข้อผิดพลาด แต่เกมรุกของ ชิน แต ยัง ถือว่าสอบตกสิ้นเชิง เพราะมันเห็นถึงความไม่ลงตัวและไม่มีแบบแผน ทั้งๆที่ตัวเองสามารถแกะบอลหนีการดันสูงและขึ้นบอลได้แล้ว ซึ่งการได้ผลเสมอ 0-0 ถือว่าเป็นผลการแข่งขันที่ดีที่สุด เพราะเกมรุกแบบนี้ ไม่มีทางยิงคู่แข่งได้แน่ อีกทั้งถ้าหากพลาดโดนยิงเมื่อไร เดอะการูด้าแพ้แน่นอน

ติดตามข่าวกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : รวมพลคนบันเทิง

Categories
ข่าวกีฬา

“แชมป์เก่ายังไม่พลาด”

เวียดนาม แชมป์เก่ายังไม่พลาด ตบ มาเลเซีย 3-0 ขึ้นนำจ่าฝูงกลุ่ม B

ศึกฟุตบอล AFF ซูซูกิ คัพ ในสาย B คู่ที่ 2 ของวันอาทิตย์ ณ สนามบินชาน สเตเดี้ยม ทีมชาติเวียดนาม จะแข่งขันเป็นนัดที่ 2 แต่สำหรับ ทีมชาติมาเลเซีย นัดนี้เป็นนัดที่ 3 กระนั้นหากใครเก็บ 3 แต้มได้ โอกาสเข้ารอบจะเปิดกว้างทันที สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ขุนพลดาวทองมาในระบบ 3-4-3 ส่วนทางฝั่งเสือเหลืองใช้ 4-3-3       เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น มาเลเซีย ดูเป็นรองชัดเจน เพราะการถูกบีบสูงและตัวเองออกบอลช้า ทำให้ถูกฉกบอลกลางทาง 

หรือการเบิ้ลบอลหนีไปข้างหน้าก็ไม่มีความแม่นยำ ส่วนทางฝั่งเวียดนาม การดันสูงในแดนกลางและหน้า ก็มีผลให้คู่แข่งไปไม่เป็นแล้ว ทำให้จากนั้นก็แค่รอโอกาส ซึ่งเมื่อไรที่ได้บอลก็จะวัดด้วยการแทงไปข้างหน้า กระทั่งประตูนำ 1-0 มาจากการตัดบอลและโจมตีทางริมเส้น แล้วตัดเข้ามาตรงพื้นที่ว่างหน้ากรอบ ซึ่ง กว่าง ไฮ่ ยิงได้เฉียบคม แต่แนวรับของมาเลเซียก็พลาดเต็มๆ  ไม่เพียงเท่านั้น ความผิดพลาดของเสือเหลืองที่เสียบอลกลางสนาม ก็มีผลให้ คอง เฟือง ลากบอลและแต่งหาจังหวะก่อนยิงเช็ดเสาเข้าไปเป็น 2-0 อย่างเฉียบคม

ครึ่งหลัง มาเลเซีย แก้ไขการเสียบอลกลางสนามด้วยการถ่ายไปหาประตูและเซตขึ้นมาใหม่ ส่วนการขึ้นเกมจะเน้นการเล่นน้อยจังหวะ เพื่อเบิ้ลไปให้ปีก หรือแทงบอลไปให้กองหน้า ซึ่งการเล่นแบบนี้ก็ดูจะมีโอกาสขึ้นมาบ้าง แต่พอเลย 15 นาทีในครึ่งหลัง แนวทางตรงนี้ก็เริ่มจะเฉื่อยลงไป จนกลายเป็น เวียดนาม ที่เริ่มได้บอลและโต้กลับ กระทั่งมาได้ประตู 3-0 ในช่วงท้ายเกมเป็นอันปิดจ็อบ

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ทีมชาติเวียดนาม เกมรับไม่ค่อยถูกทดสอบ แต่มันก็เห็นถึงความหละหลวมเล็กๆน้อยๆ ส่วนเกมรุก มิติการเข้าทำมีเพียงแต่การดีดออกข้างและตบมาหน้าประตู กับแทงทะลุช่องให้กองหน้า ซึ่งแม้ว่ามิติการเข้าทำจะไม่หลากหลาย แต่พวกเขามีข้อดีตรงความเฉียบคม ขณะที่ ทีมชาติมาเลเซีย การมีผู้เล่นติดโควิด-19 10 กว่าราย มีผลให้สภาพทีมดูอ่อนลงไป ซึ่งในครึ่งแรกจะเห็นชัดว่าขึ้นเกมบุกไม่ได้ แล้วบอลจะไปได้สุดแค่กลางสนามเท่านั้น อีกทั้งเกมรับก็ผิดพลาดจนเสีย 2 ประตู ส่วนในครึ่งหลัง การแก้เกมเหมือนจะดีขึ้น แต่ก็เฉื่อยลงอีก ทำให้การกลับคืนสู่เกมลำบากและสุดท้ายก็พ่ายแพ้ไป

ติดตามข่าวกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover