Categories
ข่าวกีฬา

“ช้างศึกไปตามนัด”

ข่มมิดเหมือนเคย ก่อนไล่ถล่ม มาเลเซีย ขาด 3-0

ศึกฟุตบอล AFF Mitsubishi Electric cup 2022 รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ณ สนามธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ช้างศึก ที่บุกไปพ่ายมาในเกมแรก ทำให้เกมนี้ต้องชนะด้วยผลต่าง 2 ประตูเป็นอย่างน้อย จะต้องพบกับ ทีมชาติมาเลเซีย ที่ชนะมาในเกมแรกและมีทางเลือกต่อการเข้ารอบ ซึ่งอย่างแย่สุดสามารถแพ้ได้ 1 ประตู ก็ยังเข้ารอบ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-3-3 ส่วนทีมเยือนยึดแผน 4-2-3-1

      ทีมชาติมาเลเซียพยายามจะบีบเร็วตั้งแต่แดน 2 และเปิดพื้นที่ด้านข้างไว้ จนเวลาผ่านไป 10 นาที การบีบเร็วเริ่มไม่มีผลและมีช่องว่าง ทำให้ทีมชาติไทย สามารถพาบอลไปถึงแดนสุดท้ายได้เร็วและอาศัยการเจาะจากริมเส้น

กระทั่งนาทีที่ 18 ธีราทร เปิดบอลให้ ธีรศิลป์ โหม่ง ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับทีมเยือนเปิดพื้นที่ด้านข้างและ โดมินิก ตัน ไม่ตามประกบให้สุดทาง จากนั้น ทัพช้างศึก ไม่สามารถบุกได้อย่างดุดันเหมือนก่อนได้ประตูนำ แต่ในขณะเดียวกัน ทัพเสือเหลืองไม่สามารถต่อบอลให้นิ่งได้ ดังจะเห็นเมื่อต่อบอลได้ไม่กี่จังหวะก็จะเสีย หรือเมื่อครองบอลแล้วใกล้เสียก็จะสาดทิ้งไปเลย

ครึ่งหลัง ทีมชาติมาเลเซีย พยายามจะเพรสเร็วเพื่อให้ได้บอล แต่เมื่อได้บอลมาเหมือนไม่รู้จะเข้าทำยัง ทำให้โอกาสจบสกอร์แทบไม่มี อีกทั้งโอกาสที่ดูจะเสียวหน่อยก็มักมาจากการฉกฉวยโอกาสที่เจ้าบ้านผิดพลาด แล้วด้วยการครองบอลที่ไม่แน่นอนนี้ มันจึงเป็นผลให้ ทีมชาติไทย ไม่กดดันและได้ประตู 2-0 และ 3-0 กระทั่งท้ายเกมมีการผ่อนและเปลี่ยนตัวผู้เล่นเพื่อประคองให้จบเกม  

      บทสรุปจากเกม ช้างศึก ได้ประตูแรกในช่วงเวลาที่เหมาะสม ทำให้สถานการณ์ผ่อนคลายไปได้มาก แต่หลังจากได้ประตูกลับเล่นไม่ดุดันเสียอย่างนั้น จนในครึ่งหลังกลับมาบุกใหม่แล้วได้ประตูเพิ่ม อีกทั้งจังหวะที่เป็นใจยังมาช่วยให้สกอร์ขาด กระนั้นยังมีบางจังหวะที่จ่ายพลาดในแดนตัวเอง ซึ่งต้องปรับปรุงและไม่ควรจะเกิดขึ้น ขณะที่ทีมชาติมาเลเซีย พยายามจะบีบ พยายามเข้าหาบอลเร็ว

แต่ไม่สามารถทำให้ดีอย่างต่อเนื่องได้ สุดท้ายกลายเป็นเปิดพื้นที่จนถูกโจมตีเสียประตู ส่วนเกมรุกเก็บบอลได้ไม่นานและมักมีอาการไม่นิ่ง อีกทั้งการวางบอลจากกลางสนามที่เคยทำได้ก็หายไป ซ้ำร้ายโอกาสที่ดูหวาดเสียวดันมาจากการฉวยโอกาสที่เจ้าถิ่นผิดพลาด สุดท้ายเมื่อเสียประตูมากกว่าและยิงคืนไม่ได้ จึงต้องเป็นฝ่ายตกรอบไป

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“บุกตลอด แค่ยิงไม่เข้า”

บุกข่ม แต่พ่ายมาเลเซีย ที่คมกว่า 1-0

ศึกฟุตบอล AFF mitsubishi electric cup 2022 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก คู่ที่สอง ณ สนามบูกิตจาริล ทีมชาติมาเลเซีย ที่เข้ารอบมาด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม B จะต้องพบกับ ทีมไทย ที่เข้ารอบมาด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม A สำหรับสถิติที่น่าสนใจก่อนเกม คือ ทัพช้างศึกไม่เคยบุกมาชนะทัพเสือเหลืองมาเป็นเวลากว่า 44 ปีแล้ว ส่วนผังการเล่นในวันนี้ ทั้ง 2 ทีมต่างมาในระบบเดียวกัน คือ 4-2-3-1

ในช่วงต้นเกม ทีมชาติไทยบุกใส่ด้วยการเปิดบอลจากด้านข้าง ขาดเพียงการจบสกอร์ในกรอบเขตโทษเท่านั้น กลับกัน ทีมชาติมาเลเซียที่แทบจะไม่บุก พวกเขามาได้ประตูนำ 1-0 จากการเปิดบอลตรงกลางสนามไปยังตัวที่ยืนอยู่ทางซ้ายของกรอบเขตโทษ

แล้วจัดการโหม่งต่อให้ ฮาคิม ที่วิ่งมาเดี่ยวๆได้ซัดแบบไม่เต็ม แต่ได้น้ำหนักและทิศทาง ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับทีมเยือนยืนป้องกันกันผิดพลาด รวมถึงผู้รักษาประตูที่ออกมาพลาดเช่นกัน

นับตั้งแต่เสียประตูในนาทีที่ 11 ทีมชาติไทยเป็นฝ่ายครองเกมไว้ข้างเดียว โดยการบิ้วเกมจากกลางสนามขึ้นมาถึงแดน 3 ได้เร็ว จากนั้นมีการเปิดบอลทางด้านข้าง การแทงบอลจากตรงกลาง และการวางบอลข้ามเข้าไป แต่จังหวะทั้งหมดเหล่านี้ไม่สามารถสร้างความอันตรายได้ เพราะการจบสกอร์มักออกนอกกรอบไปไกล ทั้งๆที่แนวรับเจ้าถิ่นไม่ได้ปิดพื้นที่มิดชิดแต่อย่างใด

ครึ่งหลัง ทีมชาติไทยยังเล่นในลักษณะเดิม คือ การบิ้วเกมจากแดนตัวเองขึ้นไปยังแดน 3 ซึ่งใช้เวลาไม่นานเพราะนักเตะเจ้าถิ่นไม่ได้ไล่บีบ กระนั้นทัพช้างศึกก็ยังติดปัญหาเดิมๆ คือ การเข้าทำและจบสกอร์ที่ไม่เฉียบคม อีกทั้งยิ่งเล่นก็ยิ่งดูเหมือนว่าตัวรุกในกรอบเขตโทษจะน้อยเกินไป ซึ่งกว่าจะมีการแก้เกม เวลาก็เข้าสู่ช่วงท้ายเกมแล้ว

ส่วนทางฝั่งทีมชาติมาเลเซีย การเล่นเกมรับไม่แน่นหนา เกมโต้กลับเก็บบอลแทบไม่ได้ แต่มีข้อดีที่เมื่อมีโอกาสจบสกอร์มักใช้โอกาสไม่เปลื้อง อาทิ จังหวะที่โหม่งบอลเข้าประตูไป แต่ถูกกรรมการริบคืน ทั้งๆที่เมื่อดูภาพช้าแล้วพวกเขาสมควรได้ประตู

      บทสรุปจากเกม การทำหน้าที่ของผู้ตัดสินมีความผิดพลาดและส่งผลเสียต่อทั้ง 2 ฝ่าย คือ ไม่ให้จุดโทษกับไทย และไม่ให้ประตูที่ 2 กับมาเลเซีย ส่วนภาพรวมของ ทีมไทย มี 2 จุดใหญ่ที่ต้องวิจารณ์ คือ การจบสกอร์ในแดนสุดท้ายที่ไม่เฉียบคมและมีตัวยืนในกรอบเขตโทษน้อยเกินไป กับแนวรับที่หละหลวม

รวมถึงผู้รักษาประตูที่การตัดสินใจออกมาตัดบอลผิดพลาดเกือบทุกจังหวะ ขณะที่ทีมชาติมาเลเซีย เกมรับไม่แน่นหนาและพร้อมโดนโจมตีตลอดเวลา แต่ที่รอดพ้นการเสียประตูก็เพราะคู่แข่งไม่คม ไม่ต่างจากเกมโต้กลับที่เก็บบอลได้น้อย แต่สิ่งที่ต่างออกไปและมีผลให้กลายเป็นผู้ชนะ คือ ฮารีเมามลายาเฉียบคมกว่า

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

รีวิว รอบรองชนะเลิศนัก

AFF mitsubishi electric cup 2022 มาเลเซีย พบ ไทย

ศึกฟุตบอล AFF mitsubishi electric cup 2022 รอบรองชนะเลิศนัดแรก คู่ที่ 2 ณ สนามบูกิตจาริล จะลงเตะกันในวันเสาร์ที่ 7 มกราคม เวลา 19.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) โดย ทีมชาติมาเลเซีย ที่เข้ารอบมาในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่ม B จะต้องพบกับคู่หูคนคุ้นเคยอย่าง ทีมชาติไทย

ที่เข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่ม A ซึ่งผลงานในรอบแรกจะเป็นอย่างไร ความพร้อมของคู่จะมีมากน้อยขนาดไหน และใครมีโอกาสเป็นผู้ชนะ นับจากนี้เราจะไปรีวิวกัน

ทีมชาติมาเลเซีย

      ก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่มขึ้น นักเตะ 11 ราย จากยะโฮร์ ดารูทักซิม ถอนตัวทั้งหมด นั่นจึงทำให้ คิม ปัง กอน ต้องไปเลือกนักเตะในลำดับรองลงมา ฉะนั้นทีมชุดนี้จึงเสมือนทีมชุด B กลายๆ แล้วเมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น ฮารีเมามลายาต้องบุกไปเยือน พม่า แล้วเฉือนชนะ 0-1 แบบมีเสียว จากนั้นกลับมาเล่นในบ้านกับ ลาว พร้อมกับถล่มไป 5-0 ส่วนเกมที่ 3 ที่บุกเยือนเวียดนาม

เชื่อว่าพวกเขาจะจดจำไปอีกนาน เพราะได้เปรียบตัวผู้เล่น แต่ไม่สามารถตีเสมอได้ มิหนำซ้ำยังเสียตัวผู้เล่นและจุดโทษ กระทั่งพ่ายไป 3-0 นั่นจึงทำให้เกมในบ้านนัดสุดท้ายกับสิงคโปร์ ต้องชนะสถานเดียว แล้วสุดท้ายพวกเขาถล่มไปราบคาบ 4-1  

ทีมชาติไทย

      มาโน่ สามารถใช้ตัวผู้เล่นที่อยู่ในไทยลีกเกือบครบ จะขาดเพียงบางรายที่สโมสรส่งไปฝึกซ้อมต่างประเทศ รวมถึงตัวที่เล่นอยู่ลีกต่างประเทศที่ไม่ได้เรียกมา อย่างไรเสียนั่นไม่ใช่ปัญหา

เพราะนัดแรกบุกตบบรูไน 0-5 นัดที่ 2 เปิดบ้านถล่มฟิลิปปินส์ 4-0 แต่ในนัดที่ 3 เกือบไม่รอดและต้องตามตีเสมออินโดนีเซีย 1-1 ขณะที่นัดสุดท้ายปิด   จ็อบด้วยชัยชนะเหนือกัมพูชา 3-1  

สถิติและรีวิวก่อนเกม

      ทีมชาติไทย ไม่สามารถเอาชนะ ทีมชาติมาเลเซีย ใน 6 เกมหลังสุด โดยชัยชนะครั้งล่าสุดเหนือขุนพลฮารีเมามลายา ต้องย้อนไปในศึก AFF ปี 2014 รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเอาชนะที่ราชมังคลากีฬาสถานด้วยสกอร์ 2-0 ส่วนการบุกไปเยือนที่บ้านของมาเลเซีย ทัพช้างศึกไม่สามารถเอาชนะได้เลยในระยะเวลา 44 ปีที่ผ่านมา ฉะนั้นนี้จึงเปรียบเป็นของแสลงของแชมป์เก่า 6 สมัยอย่างแท้จริง

      เกมที่จะเกิดขึ้นที่บูกิตจาริล ทีมชาติมาเลเซีย จะจัดเต็มแบบใส่ไข่พิเศษอย่างแน่นอน แม้ตัวผู้เล่นจะไม่ฟูลทีมอย่างที่กล่าวไปข้างต้น ส่วนทีมชาติไทยที่มีอาการล้าสะสม อาจจะต้องดูหน้างานอีกทีว่าสภาพร่างกายพร้อมขนาดไหน โดยหากมีอาการล้าแล้วเจ้าถิ่นเล่นแบบลืมตาย ก็เชื่อว่าขุนพลฮารีเมามลายาจะไม่แพ้ เหลือแค่จะเสมอ หรือคว้าชัยเท่านั้น

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ฮารีเมามาลายาลิ่วชิง”

มาเลเซีย โดนตีเสมอท้ายเกม แต่แม่นโทษดับ

ศึกฟุตบอลคิงคัพ คู่ที่ 2 ณ สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ทีมชาติไทย ในฐานะเจ้าบ้านที่ครองแชมป์รายการนี้สูงที่สุด พร้อมกับจัดตัวผู้เล่นแบบฟูลทีม  จะต้องพบกับทีมชาติมาเลเซีย ที่ปรับโฉมมาใช้บริการโค้ชชาวเกาหลีใต้และตัวผู้เล่นที่เป็นตัวลูกครึ่งและโอนสัญชาติกว่าครึ่งทีม อีกทั้งยังเน้นให้โอกาสผู้เล่นหน้าใหม่ๆอีกด้วย

ทีมชาติไทย พยายามจะตั้งเกมของตัวเองให้ได้ แต่การจัดตัวผู้เล่นกับตำแหน่ง อาการบาดเจ็บของ ชนาธิป รวมถึงความเนือยของผู้เล่นกว่าครึ่งทีม มันสวนทางกับทีมชาติมาเลเซีย ที่วิ่งไล่เพรสซิ่งแดนบน จนเจ้าบ้านขึ้นบอลและออกบอลให้พ้นจากแดนตัวเองไม่ได้ กระนั้นทีมเยือนไม่สามารถดักและจู่โจมได้ถนัดนัก กระทั่งนาทีที่ 32 ฮารีเมามาลายาขึ้นนำ 0-1 จากการตัดบอลและเลือกยิงมุมแคบด้วยความแม่นนยำ นั่นจึงทำให้ทัพช้างศึกพยายาม เร่งสปีดบอลจนสามารถพาบอลเข้าสู่แดนอันตรายได้ แต่เมื่อถึงจังหวะเข้าทำดันจ่ายบอลไม่ได้เปรียบ ทำให้โอกาสที่ควรได้มันหลุดลอยไป

ครึ่งหลัง ทีมชาติไทย พยายามแก้เกมด้วยการวางบอลจากแดนตัวเองไปยังริมเส้นแดน 3-4 ของคู่แข่ง ซึ่งการส่ง ศุภณัฎฐ์ ลงมาช่วยให้เกมรุกดูมีมิติขึ้น จนในช่วง 30 นาทีสุดท้าย ไทย สามารถอัพสปีดบอลแดนกลางและจ่ายแทงให้กับแนวรุกแบบได้หลุดเดี่ยวหลายหน แต่ความเฉียบคมไม่มี จากนั้นรูปเกมค่อยๆขึงใส่ได้แบบเบ็ดเสร็จ

อย่างไรเสียการเปิดบอลจากด้านข้างดูเหมือนไม่ค่อยได้เปรียบ ซึ่งกว่าจะมาได้ประตูตีเสมอก็นาทีสุดท้ายของการทดเวลา ส่วนทางฝั่งทีมชาติมาเลเซีย พละกำลังเริ่มทดถอยจนเกมรับมีหลุดรั่ว กระทั่งต้องเปลี่ยนตัวเพื่อเติมความสดและแพ็คเกมรับให้แน่น พร้อมกับวางเกมสวนกลับไว้ แต่สุดท้ายเกมรับดันประกบตัวผิดพลาดจนถูกตีเสมอ ขณะที่ช่วงการดวลจุดโทษ เสือเหลืองมีความนิ่งและเฉียบคมกว่า ทำให้เป็นฝ่ายชนะไป  

    บทสรุปจากเกม ทีมชาติไทย ในครึ่งแรกเล่นได้น่าผิดหวัง เพราะสปีดบอลช้า ผู้เล่นมีอาการเฉื่อยชา แล้วถูกเพรสซิ่งจนต่อเกมไม่ติดและเสียประตู กลับกันในครึ่งหลังรูปเกมดีขึ้น แต่ความเฉียบคมที่มีไม่มากพอทำให้ต้องลุ้นเหนื่อยท้ายเกม ซึ่งยังโชคดีที่ยิงตีเสมอเพื่อยื้อยิงจุดโทษได้ กระนั้นดันมาตายเพราะความไม่นิ่งและเฉียบคม

ส่วนทางฝั่งทีมชาติมาเลเซีย ทักษะเป็นรอง แต่ที่เหนือกว่าคือการวิ่งเพรสซิ่ง กล้าเข้าบอล มีวินัยในการเล่น และมีความมั่นใจ จนสามารถนำไปก่อน แม้ว่าในช่วงครึ่งหลังจะหวิดโดนเพราะกำลังเริ่มทดถอย แต่สุดท้ายคุณสมบัติที่เหนือกว่า ก็ได้กลายเป็นปัจจัยให้พวกเขาชนะและผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ทีมชาติมาเลเซีย

ความล้มเหลวของทีมชาติมาเลเซีย อยู่ที่ตรงไหน ?

การแข่งขันฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 เสร็จสิ้นการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่มไปเป็นที่เรียบร้อย โดยการเบียดแย่งกันเข้ารอบของสาย B ทีมชาติอินโดนี การแข่งขันฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 เสร็จสิ้นการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่มไปเป็นที่เรียบร้อย โดยการเบียดแย่งกันเข้ารอบของสาย B ทีมชาติอินโดนีเซีย เซีย และ ทีมชาติเวียดนาม คือ 2 ชาติ ที่ได้ไปต่อ ส่วนยักษ์ใหญ่ที่โชคร้ายอย่าง ทีมชาติมาเลเซีย ต้องตกรอบ ทั้งๆที่ตอนแรกวางเป้าหมายไว้ถึงแชมป์ กระนั้นอะไรเป็นสาเหตุให้ ฮารีเมามาลายา ต้องจบเส้นทางอย่างรวดเร็ว บทความนี้จะพาไปวิเคราะห์กัน   

โปรแกรมฟุตบอลในประเทศ

      โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลลีก เสร็จสิ้นไปแล้ว แต่ในเกมนัดชิงฟุตบอลถ้วยระหว่าง สมาคมดันเคลียร์กับฝ่ายจัดไม่ลงตัว ทำให้ตัวผู้เล่นจาก ยะโฮร์ ดารูทักซิม ต้องเข้าแคมป์ช้ากว่าเพื่อน ซึ่งตรงจุดนี้ ตัน เชง โฮ เลือกที่จะเรียกนักเตะที่ไม่มีภารกิจกับสโมสรมาเข้าแคมป์ทีมชาติก่อน ส่วนนักเตะจากพยัคฆ์แดนใต้ ก็เลือกเฉพาะรายที่ร่างกายยังสดๆเท่านั้น อีกทั้งยังเลือกนักเตะมาไม่ครบ 30 คน ตามโควต้าอีกด้วย  

นักเตะถอนตัว – ติดโควิด

      การเรียกนักเตะเข้าสู่แคม์ทีมชาติ มีหลายรายที่ขอถอนตัว ซึ่งมันอาจจะไม่ใช่ปัญหาที่จะอ้างได้ เพราะชาติอื่นๆก็ประสบปัญหานี้ แต่ที่ดูจะหนักหนาสาหัส คือ การเสียผู้เล่นจากการติดเชื้อโควิด-19 อีกทั้งมันดันมาประจวบเหมาะกับเกมสำคัญที่จะต้องพบกับ เวียดนาม ซึ่งสุดท้ายก็ตามสภาพ คือ แพ้ไป 0-3  

การทำทีมของโค้ช

      การเข้ามาทำทีมชาติมาเลเซียชุดใหญ่ ของ ตัน เชง โฮ เกียรติยศสูงสุด คือ การคว้ารองแชมป์ SUZUKI CUP 2018 อย่างไรเสียหากดูจากทรงบอลที่ทำมาตลอด 4 ปี มันไม่เห็นถึงทีมเวิรค์ หรือทรงบอลที่จะต่อยอดได้ โดยอย่างที่แข่งขันไปล่าสุด มันก็มีเพียงการโจมตีจากปีก แล้วเมื่อไรที่หมดมุกและคิดอะไรไม่ออก ก็จะโยนยาว ฉะนั้นหากให้อยู่คุมทีมต่อ มันคงจะไม่มีอะไรที่ดีกว่าที่เห็น นอกจากนี้การเปลี่ยนตัวและการเลือกตัวผู้เล่นมาติดทีมในทัวร์นาเมนต์นี้ แฟนบอลฮามารีเมามาลายาก็ได้ตั้งคำถามไว้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเรียกตัวนักเตะจากยะโฮร์ ซึ่งแม้จะรู้ดีว่านักเตะอาจมีสภาพร่างกายที่อ่อนล้า แต่ก็อย่าลืมว่านัดแรกและนัดที่สอง พวกเขาเจอของเบาอย่าง ลาว และ กัมพูชา ฉะนั้นตัวหลักสามารถเก็บไว้บดใส่ เวียดนาม และ อินโดนีเซีย ในนัดที่ 3-4 ได้ ฉะนั้นการตัดสินของโค้ชจึงผิดพลาด

      นับจากนี้สมาคมฟุตบอล จะทำการประเมินผลงานแบบองค์รวมของทีมชาติ และการทำงานของ ตัน เชง โฮ ซึ่งมันควรออกมาในหน้าของการปรับเปลี่ยนตำแหน่งหัวหน้าโค้ช เพราะหากสอดส่องชาติอื่นๆ ที่ศักยภาพใกล้เคียงกันอย่าง เวียดนาม หรือ อินโดนีเซีย การดึงโค้ชที่มีศักยภาพสูงช่วยแก้วิกฤตได้ พร้อมกับแปรเปลี่ยนให้ทีมมีทรงและผลงานดีขึ้น ฉะนั้นหาก มาเลเซีย อยากหาลู่ทางกลับมาเป็นเสือแห่งอาเซียน โมเดลที่ว่ามาก็นับเป็นเวย์ที่น่าสนใจสำหรับการลอกเลียนแบบ

ติดตามข่าวกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่  livethaileague.com

FB : รวมพลคนบันเทิง