Categories
ข่าวกีฬา

หยุดฝันแชมป์ไร้พ่าย

โมต้า ตัวแสบ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ยิงเฉือน บุรีรัมย์

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 25 ณ สนามทรู สเตเดี้ยม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่รั้งอันดับ 2 ของตาราง จะต้องพบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่นำเป็นจ่าฝูง อีกทั้งวันนี้จะการันตีแชมป์แบบ 100% หากบุกมาคว้าชัยชนะเหนือแข้งเทพได้ ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ต่างมาในระบบ 4-2-3-1 เหมือนกัน  

      ทรู แบงค็อก ครองบอลได้เหนียวและต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถพาเข้าไปในแดน 3-4 ได้ แล้วเพียงแค่นาทีที่ 11 พวกเขาเสียบอลกลางทางให้ บุรีรัมย์ ที่แม้จะสวนเร็วไม่ได้ เพราะมีแนวรับเจ้าบ้านยืนประคองอยู่ แต่ ศุภชัย ตัดสินใจยิงไกลเสียบหน้าต่างมุมบนให้ทีมเยือนนำ 0-1 จากนั้น บียู พยายามเดินเกมรุก ด้วยการวางบอลยาวไปยังบริเวณริมเส้นและเล่นจังหวะเดียว จนโอกาสใกล้เคียงเริ่มปรากฏ

กระนั้นในนาทีที่ 32 จังหวะบอลที่ไม่มีอะไร แนวรับ บียู จ่ายคืนเบาเกินไป ทำให้ ศุภชัย ที่อ่านจังหวะอยู่ วิ่งสปีดขึ้นบอลฉกและยิงทิ้งห่างให้ บุรีรัมย์ นำเป็น 0-2 อย่างไรเสียไล่หลังเพียง 2 นาที แข้งเทพมาได้ประตูตีตื้น 1-2 จากจังหวะจ่ายเลียดทางด้านข้าง โดยระยะที่มันจ่อประตูมาก มันมีผลให้ รัตนากร สกัดเข้าประตูตัวเองไป

ช่วง 15 นาทีแรกของครึ่งหลัง รูปเกมของ บียู ไม่สามารถโจมตีใส่ผู้มาเยือนได้ กระทั่งหลังจากช่วงเวลาดังกล่าว การวางบอลเปลี่ยนแกนและเปิดไปหน้าประตู เพื่อให้ตัวด้านในจบสกอร์ มันมีโอกาสเหน่งๆหลายครั้ง กระทั่งในนาทีที่ 65 ได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากการลากบอลชายเดี่ยวของ วานเดอร์ แล้วจ่ายแทงเฉียงไปทางขวาเพื่อเปิดไปหน้าประตูให้เพื่อนเข้าชาร์ต

จากนั้นรูปเกมเป็นของ บียู และนาทีที่ 77 มาได้ประตูแซงนำ 3-2 จากเตะมุมที่ โมต้า วิ่งฉีกไปโหม่งที่เสาแรก กระนั้น บุรีรัมย์ ไม่ยอมแพ้และมายิงตีเสมอ 3-3 ในนาทีที่ 81 จากความผิดพลาดของ เอฟเวอร์ตัน ที่โหม่งพลาด ทำให้ เคาซิช ได้ยิงแบบเต็มข้อ นั่นจึงทำให้เกมน่าจะจบแบบแบ่งแต้ม แต่ในช่วงวินาทีสุดท้ายของเกม บียู เก็บบอลและโต้กลับอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ โมต้า จะยิงแบบเฉือนๆจนบอลชนเสาและกระเด้งเข้าประตูไป ทำให้เกมจบด้วยชัยชนะของแข้งเทพ 4-3

บทสรุปจากเกม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เสียทั้ง 3 ประตู จากความผิดพลาดของตัวเองแบบล้วนๆ แต่มันชดเชยด้วยการยิงประตูที่มากกว่า คือ 4 ลูก ฉะนั้นการคว้า 3 แต้มใหญ่ในวันนี้ อาจจะดูน่ายินดี แต่ปัญหาเดิมๆก็ยังคงมีอยู่ ส่วนทางฝั่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รูปเกมเป็นรองเจ้าบ้าน

แต่มีความเฉียบคมและฉกฉวยความผิดพลาดของคู่แข่งได้หมด กระนั้นเกมรับก็มีรูรั่วให้เห็นอยู่ โดยการเสียประตูทั้ง 4 ลูก ล้วนมาจากการยืนตำแหน่งป้องกันที่ไม่แนบชิด ฉะนั้นต่อให้เป็นแชมป์ในฤดูกาลนี้ ปราสาทสายฟ้าก็ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุง

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ฉลาดเตี้ยอาการหนัก

ชลบุรี โคม่าหนัก บุกพ่าย ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 23 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามทรู สเตเดี้ยม รังเหย้าของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ผลงานกลับมาดีอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้ามีอาการเมาหมัดเล็กน้อย ซึ่งวันนี้ต้องเจอทีมที่เมาหมัดกว่าอย่าง ชลบุรี เอฟซี ที่ตอนนี้ตามหาชัยชนะไม่เจอมา 4 เกมติดแล้ว ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ต่างมาในระบบ 4-2-3-1 ทั้งคู่

      ในช่วง 10 นาทีแรก ทั้ง 2 ทีมเน้นการต่อบอลเข้าไปในแดนคู่แข่ง  แต่ทางฝั่งทีมเยือนจ่ายพลาดก่อน แล้วโดน ทรู แบงค็อก ตัดได้ สุดท้ายจบที่ เฮแบร์ตี้ ซัดมุมแคบชนเสา แล้วมาเข้าทาง มาห์มู๊ด จิ้มเข้าประตูให้ทีมนำ 1-0 จากนั้นกลายเป็นบียู ที่ดูดีกว่า เพราะสามารถต่อบอลจากหลังบ้านไปจนถึงการจบสกอร์ได้หลายหน

แต่ขาดความเฉียบคม ตรงข้ามกับ ชลบุรี ที่ได้แต่ต่อบอล ไม่มีจังหวะจบสกอร์ กระนั้นช่วงทดเวลา 45+1 การวางบอลยาวให้ ชาญณรงค์ กลายเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับเจ้าถิ่นพลาดตั้งแต่แดนกลางที่เปิดพื้นที่ให้ได้วางบอลแบบสะดวก รวมถึงคู่กองหลังที่ยืนห่างจากตัวรุก ทั้งๆที่มีแค่คนเดียว 

ครึ่งหลัง ชลบุรี พยายามแก้ในเรื่องการเก็บบอลไว้กับตัว โดยจะปล่อยให้ก็ต่อเมื่อเพื่อนหาช่องดีและมีทางที่บอลจะไปข้างหน้า ซึ่งมันช่วยให้ทีมมีโอกาสจบสกอร์มากขึ้น แต่ในนาทีที 61 พวกเขาป้องกันไม่ดีพอ ทำให้โดน เฮแบร์ตี้ ยิงนำ 2-1 แล้วทางฝั่งฉลามชล สมาธิหลุดอย่างชัดเจน สุดท้ายการออกบอลที่ไม่รอบครอบของ เฉลิมพงษ์ ก็ได้ส่งให้ บียู ขึ้นนำ 3-1 และจบเกมด้วยสกอร์นี้  

      บทสรุปจากเกม ทรู แบงค็อก ยู ไน เต็ด ออกสตาร์ทเกมนี้ได้ดีแถมได้ระตูนำไปก่อน นอกจากนี้ยังสร้างโอกาสได้แบบต่อเนื่อง แต่พอไม่ได้ประตู เกมรับดันมาเสียง่ายๆ ซึ่งยังดีที่มีจุดเปลี่ยนเมื่อได้ประตูนำ 2-1 ทำให้ได้ 3 แต้ม ในวันนี้ ส่วนทางฝั่ง ชลบุรี เอฟซี

วันนี้ตั้งใจเล่นต่อบอลกับพื้นเพื่อสู้กับเจ้าบ้าน แต่การจ่ายบอลพลาดทำให้พวกเขาถูกลงโทษ กระนั้นโมเมนตัมก่อนเข้าห้องแต่งตัว พวกเขาได้สกอร์ตีเสมอ 1-1 ทำให้ในครึ่งหลัง ฉลามชลแก้เกมด้วยการหาวิธีออกบอลให้ชัวร์ ซึ่งมันได้ผลและน่าจะสู้กับเจ้าถิ่นได้สนุก แต่พอเสียประตูอีกครั้ง สมาธินักเตะก็หลุดจากเกมไปเลย

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

เอฟเวอร์ตัน เหมา 2

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด โดนก่อน แต่ได้ เอฟเวอร์ตัน

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 22 ในโปรแกรมวันเสาร์ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ผลงานกำลังย่ำแย่ทั้งในลีกและพึ่งตกรอบบอลถ้วย จะต้องเปิดรัง ลีโอ เชียงราย สเตเดี้ยม รับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ผลงานในลีกพึ่งแพ้ การท่าเรือ แบบคาบ้าน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-4-2  ส่วนทีมเยือนก็ใช้ระบบเดิมอย่าง 4-2-3-1

       ช่วง 10 นาทีแรก รูปเกมยังดูตื้อๆ แต่เมื่อเกมผ่าน 10 นาที การช่วงชิงจังหวะบอลบริเวณกลางสนาม ค่อนข้างรวดเร็วและทันกัน แต่ฝั่งเชียงราย ดูดีกว่าเพราะต่อบอลเข้าทำเร็ว แล้วรีบสกอร์ กระทั่งนาทีที่ 19 มาได้ประตูนำ 1-0 จากเตะมุมและ เฟลิเป้ โหม่งเสียบสามเหลี่ยม ซึ่งในจังหวะนี้เป็นการเปิดที่แม่น

กระนั้นแนวรับทีมเยือนก็ไม่มีใครเข้าไปเบียด จากนั้น ทรู แบงค็อก พยายามจะต่อบอลบุกเข้าใส่ แต่มันไม่สามารถพาเข้าไปยังพื้นที่อันตรายได้ เนื่องจากการบอลไม่มีทำชิ่งหรือจ่ายเร็วจังหวะเดียวในพื้นที่แคบ อย่างไรเสีย แข้งเทพมีโอกาสทองจะตีเสมอจากจุดโทษ แต่ เฮแบร์ตี้ ยิงติดเซฟ

ครึ่งหลัง เชียงราย ลงไปตั้งรับเหมือนในช่วงครึ่งแรกหลังจากได้ประตู พร้อมกับมีโอกาสสวนกลับแบบได้น้ำได้เนื้อ ขณะที่ บียู บุกใส่แบบเดิมและมีลักษณะคล้ายๆเดิม กระทั่งนาทีที่ 66 ถือเป็นจุดเปลี่ยนของเกมเมื่อ บียู ตีเสมอ 1-1 จากลูกเตะมุมที่เปิดให้ เอฟเวอร์ตัน โหม่งผ่านผู้เล่นเจ้าบ้านและลอดขา สรานนท์ เข้าไป

จากนั้นสถานการณ์ของเจ้าถิ่นย่ำแย่ลงเมื่อเหลือผู้เล่น 10 คน นั่นจึงทำให้ บียู พยายามกดให้หนักเพื่อหวัง 3 แต้ม ซึ่งดูเหมือนจะไม่ได้ประตูแล้ว แต่ในนาทีที่ 90+6 แนวรับกว่างโซ้งมหาภัยผิดพลาดติดต่อกันหลายจังหวะ แล้วทางฝั่งแข้งเทพ เหมือนจะต่อบอลไม่แม่นจนเสียจังหวะ กระนั้นการหลุดกับดักล้ำหน้าและเข้าไปยิงจ่อๆของ เอฟเวอร์ตัน ก็ได้กลายเป็นประตูชัย 1-2 ของทีมเยือน

      บทสรุปจากเกม ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด หลังจากได้ประตูขึ้นนำ พวกเขาเหมือนจะประคองและรอโอกาสเพื่อยิงเพิ่ม แต่พอตั้งรับนานๆจนบุกไม่ขึ้น แล้วดันมาโดนยิงตีเสมอผสมกับตัวผู้เล่นถูกไล่ออก มันก็ยิ่งเป็นผลให้พวกเขาต้องรัดกุมให้มากกว่าเดิม ซึ่งเกือบจะทำสำเร็จ

แต่แนวรับมาพลาดช่วงท้าย ทำให้โดนยิงแซงก่อนหมดเวลา ขณะที่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด การต่อบอลบุกดูตื้อตันและต้องเน้นความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะต่างชาติ พร้อมดูเหมือนว่าจะเจอวันที่ยากลำบากอีกครั้ง แต่การมีทีเด็ดจากลูกตั้งเตะและจังหวะที่เข้าทางในประตูที่ 2 มันก็ช่วยให้พวกเขาคว้า 3 ออกมาแบบลุ้นระทึกพอสมควร

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“แข้งเทพโหดส่งท้าย”

บียู ทำเสียแบบงงๆ ก่อนไล่ถล่ม เชียงใหม่ 4-2      

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 30 หรือนัดสุดท้ายของฤดูกาล ณ สนามธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่การันตีอันดับ 3 เป็นที่แน่นอนแล้ว จะต้องพบกับ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่ได้ลงเล่นเกมส่งท้าย ก่อนลงไปสู่ไทยลีก 2 ในฤดูกาลหน้า ฉะนั้นเกมนัดนี้ไม่มีกดดันใดๆต่อทั้ง 2 ทีม ส่วนผังการเล่นที่ทั้งคู่วางมา เจ้าบ้านใช้ 4-3-3 ขณะที่ทีมเยือนเป็น 3-4-3

ด้วยความที่ทั้ง 2 ทีม ไม่มีความกดดันใดๆ ทำให้รูปเกมช่วงครึ่งชั่วโมงแรกเป็นไปอย่างน่าเบื่อ กระนั้นโอกาสแรกของเกมเป็นทางฝั่งเชียงใหม่ ที่ได้ส้มหล่นจากเจ้าบ้านที่สกัดไม่ดี แต่นักเตะช้างเผือกยิงไม่คมเอง จากนั้นเมื่อเข้าสู่ 15 นาทีสุดท้าย ทรู แบงค็อก เริ่มตั้งเกมและขึงบุก จนแนวรับทีมเยือนต้องบ็อคพื้นที่กรอบเขตโทษ แต่สุดท้ายก็ไม่รอดพ้นที่จะเสียประตู 1-0 จากลูกโหม่งเตะมุมของเอฟเวอร์ตัน ที่กระโดดโขกแบบเต็มแรงและได้ทิศทาง

ครึ่งหลัง เชียงใหม่ ได้ลูกตีเสมอ 1-1 จากความผิดพลาดของ มิก้า ที่สกัดแล้วกลายเป็นพุ่งเสียบเสาไกลอย่างสุดสวย กระนั้นการเสียประตูในครั้งนี้ มันได้เป็นแรงขับเคลื่อนให้ บียู เร่งเครื่องแล้วได้ประตูแบบไหลมาเทมา ไล่ตั้งแต่ประตู 2-1 ที่โยกบอลไปมาจน คาร์เตอร์ ว่าง ก็จัดการโยนให้โหม่งแบบเฉือนๆ ประตู 3-1 เป็นการโต้กลับเร็ว แล้ว ชนานันท์ ตัดสินใจยิงบริเวณหัวกะโหลกด้านซ้ายแบบเฉียบคม ประตู 4-1 แนวรับทีมเยือนเปิดพื้นที่ว่างไว้ ทำให้ วานเดอร์ จัดการยิงแบบไม่เหลือซาก อย่างไรก็ดี ช้างเผือกมาได้ประตูตีตื้น 4-2 จากจุดโทษเป็นการปลอบใจ

บทสรุปจากเกม ทรู แบงค็อก เริ่มเกมแบบไม่รีบร้อน จนเมื่อเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง ก็ได้เร่งเครื่องจนได้ประตู ก่อนที่ในครึ่งหลังจะรัวหนักและได้เพิ่มอีก 3 ประตู ซึ่งหากดูจากภาพรวม ถือว่าเป็นการจบสกอร์ที่เฉียบคมและใช้โอกาสไม่เปลื้อง แต่สำหรับเกมรับยังคงเสียประตูง่าย ทั้งๆที่ไม่ถูกกดดันอะไรเลย ส่วนทางฝั่ง เชียงใหม่ ยูไนเต็ด วันนี้วางเกมรับแน่นหนาตามสูตรทีมรอง จนเมื่อถูกขึงบุกใส่ก็เริ่มเห็นถึงการแพ็คป้องกันพื้นที่กรอบเขตโทษ แต่สุดท้ายก็ไม่รอด ส่วนในครึ่งหลัง มาตรฐานการป้องกันอ่อนกำลังลงจนโดนยิงแบบรัวๆ ขณะที่เกมรุกแทบจะไม่มีรูปการณ์เข้าทำอะไรเลย จะมีเพียงการใช้ความสามารถเฉพาะตัว อีกทั้ง 2 ประตูที่ได้มา ก็มีโชคเข้ามาช่วยแบบเต็มๆ

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“สุพรรณอเดสู่ขิต”

สุพรรณบุรี สู่ขิต แพ้ถล่ม บียู 5-2 ร่วงลีกรองหนแรกในรอบ 9 ปี  

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 29 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ในตอนนี้น่าจะการันตีอันดับ 3 ต้องพบกับ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่การแพ้ในนัดล่าสุดถือเป็นเรื่องเสียหายอย่างใหญ่หลวง แล้วมันก็ส่งให้วันนี้ต้องชนะสถานเดียว มิเช่นนั้นจะต้องเป็นทีมที่ 2 ที่ต้องตกชั้นตามเชียงใหม่ไป สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-3-3 ส่วนทีมเยือนเป็น 3-5-2

      ทรู แบงค็อก ขึงและวางบอลเข้าใส่แนวรับทีมเยือน ซึ่งมีที่ได้ประตูและถูกริบ ก่อนจะมาได้จริงๆในนาทีที่ 17 จากจุดโทษ จากนั้นก็ยังเป็นแข้งเทพที่บุกและครองบอลแทบจะฝ่ายเดียว ส่วนทางฝั่งสุพรรณบุรี ได้แต่ตั้งรับและเกมรุกไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ซึ่งการขาด ดานีโล่ ทำให้พ่อเลี้ยงอย่าง เอนริเก้ ต้องโชว์ฉายเดี่ยว กระนั้นในนาทีที่ 40 ช้างศึกยุทธหัตถีมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 โดยในจังหวะนี้ไม่มีอะไรเลย เพราะมันเป็นการเปิดแบบธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาคือแนวรับบียู ยืนนิ่งและปล่อยให้ตัวประกบที่ใกล้ที่สุดเป็นแนวรุกอย่าง ชนานันท์

ครึ่งหลังรูปเกมยังทรงๆ กระทั่งนาทีที่ 64 แนวรับทีมเยือนไปดึงแขน เฮแบร์ตี้ ก่อนจะลุกขึ้นมายิงจุดโทษเป็น 2-1 จากนั้นเหมือนสกอร์ไหลและแนวรับทีมเยือนเริ่มสมาธิแกว่ง ไล่ตั้งแต่ประตู 3-1 ที่ไปรุม วานเดอร์ หลยุส์ พอเขี่ยให้ เฮแบร์ตี้ ก็ไม่เหลือ ส่วนประตู 4-1 เป็นการโหม่งตัดหน้า กระนั้นในแผงเกมรับของแข้งเทพ ก็น่าตำหนิที่เสียประตู 4-2 จากการเปิดมาหน้าปากประตู แล้วมีผู้เล่นบียูยืนอยู่เต็มไปหมด แต่ดันปล่อยให้ จอง ฮัน ซอล ที่อยู่ไกลลิบ ได้วิ่งมาโหม่งเสียอย่างนั้น ขณะที่ประตูปิดท้าย 5-2 คาร์เตอร์ ลากขึ้นมา แล้วเปิดอัดเท้า รุ่งรัฐ เข้าไป

  บทสรุปจากเกม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เกมรุกไม่ค่อยน่าห่วง เพราะเมื่อมีโอกาสก็สามารถทำได้เรื่อยๆ เว้นเสียแต่เกมรับที่เสียง่ายๆแบบนี้หลายนัด ซึ่งหากปล่อยไว้ไปยังฤดูกาลหน้า มันจะมีผลต่อการลุ้นแชมป์แน่นอน ส่วนทางฝั่ง สุพรรณบุรี เอฟซี พอไม่มี ดานีโล่ จากที่เป็นรองก็ยิ่งเป็นรองมากขึ้น ทำให้ในเกมนี้ต้องรับให้หนาแน่น แล้วรอเล่นฉาบฉวย แต่พอลงไปเล่นจริงๆเกมรับไม่แน่นหนา แถมมีความผิดพลาดส่วนบุคคล ทำให้ความพ่ายต้องเกิด สุดท้ายการตกชั้นมันก็สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของทีมที่มีจำกัดเพียงเท่านี้จริงๆ

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“วันบอลแฉลบแห่งชาติ”

เมืองทอง ทั้งเก่งทั้งเฮง ทุบ บียู 3-1 ลุ้นจบท็อปโฟร์ 2 นัดสุดท้าย

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 28 คู่ส่งท้ายของวันอาทิตย์ ณ สนามธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ในตอนนี้มีลุ้นถึงท็อปโฟร์ จะต้องพบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ต้องรักษาอันดับที่ 3 ไว้ให้ได้เพื่อรอลุ้นส้มหล่นสำหรับโควตา ACL ทำให้ 3 แต้มในเกมนี้มีความหมายขึ้นมาทันที ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ต่างใช้ระบบเก่งของตัวเอง โดยแบ่งเป็นเจ้าบ้านในระบบ 4-1-4-1 และทีมเยือนระบบ 4-3-3

      ในครึ่งแรกทั้ง 2 ทีม มีโอกาสพอๆกัน โดยทางฝั่ง ทรู แบงค็อก เริ่มต้นทางริมเส้น แล้วค่อยเลือกว่าจะจ่ายเข้ากลาง เลี้ยงตัด แทง หรือวางไปเสาไกล ส่วน เมืองทอง ใช้การต่อบอลตามช่อง ซึ่งอาจจะดูไม่วูบวาบเท่าทีมเยือน แต่ก็มาได้ประตูนำ 1-0 จากความผิดพลาดของ ฐิติพันธ์ ที่ไปจ่ายบอลพลาด จน อานีเยอร์ ได้ยิงติดบ็อคของ เอฟเวอร์ตัน แต่เหลี่ยมบอลดันเป็นใจและพุ่งเสียบเสาเข้าไป

ครึ่งหลัง บียู น่าได้ประตูตีเสมอสุดๆ จากการต่อบอลหน้าบ้านสู่แดนสุดท้ายของคู่แข่ง แต่ ชนานันท์ ดันยิงออกไปเสียได้ ซึ่งพอไม่ได้ประตูในจังหวะนี้ จังหวะถัดมาเป็นคิวของ เมืองทอง บ้าง ก็ได้โชว์การประสานงานของ 3 แนวรุกต่างชาติ ก่อนจบด้วย พ็อพพ์ ยิงติดแฉลบเข้าเสาแรกเป็น 2-0 ไม่เพียงเท่านั้น การเซตชอลขึ้นมาจากแดนตัวเอง ก็ได้มีการประสานของ 3 แนวรุกต่างชาติ จนสกอร์ไหลเป็น 3-0 จากนั้นทีมเยือนพยายามจะบุกเพื่อทวงประตูคืน แต่มักไปไม่ถึงแดนสุดท้ายเพราะเสียบอล ทำให้ต้องรอเจ้าบ้านเผลอในช่วงทดเวลา ถึงมาได้ประตูตีตื้น 3-1

      บทสรุปจากเกม เมืองทอง ยูไนเต็ด ออกสตาร์ทด้วยฟอร์มที่ไม่ได้เหนือกว่า แต่พอคู่แข่งมีความผิดพลาดและตัวเองคว้าขึ้นนำได้ก่อนจบครึ่งแรก มันก็ช่วยให้ตัวเองเล่นง่าย ส่วนในครึ่งหลัง การรอดพ้นการเสียประตูจากจังหวะยิงของ ชนานันท์ ถือเป็นโมเมนตัมสำคัญที่ทำให้รูปเกมยังได้เปรียบ ก่อนที่ในจังหวะถัดมาจะสบโอกาสยิงทิ้งห่าง 2-0 และ 3-0 กระทั่งคว้า 3 แต้มในที่สุด

ขณะที่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด รูปเกมดูวูบวาบกว่าในช่วงต้น แต่พอมาพลาดเสียประตู ความลำบากก็เข้าหาทันที ซึ่งในช่วงต้นครึ่งหลังถ้าได้ประตูตีเสมอจาก ชนานันท์ รูปเกมจะไม่ลงเอยแบบนี้ แต่พอไม่ได้และเสียประตูเพิ่ม สถานการณ์ก็ยิ่งแย่ไปกันใหญ่ ฉะนั้นความพ่ายแพ้ในวันนี้ มาจากความผิดพลาดส่วนบุคคล ทีเด็ดทีขาดที่ไม่เต็มเปี่ยม และจังหวะฟุตบอลไม่เป็นใจให้เหล่าแข้งเทพเลย

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ต้นดีแผ่วปลาย สไตล์บียู”

สรุปผลงาน ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในเลกที่ 2 ฤดูกาล 2021/22 “ต้นดีแผ่วปลาย สไตล์บียู “

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด สถาปนาเป็นทีมใหญ่มาได้หลายปีแล้ว แต่สิ่งที่ขาดหายและยังทำไม่สำเร็จ คือ ถ้วยแชมป์ ซึ่งในเลกแรกของฤดูกาลนี้ ก็ออกสตาร์ทได้ดี แถมมีช่วงเวลาที่ขึ้นนำจ่าฝูง แต่พอเข้าสู่ช่วงท้ายเลกแรกดันมีอาการสะดุด พร้อมกับถูก บุรีรัมย์ ทำแต้มทาบและปาดหน้าเป็นจ่าฝูงด้วยประตูได้เสียที่ดีกว่า 

ทรู แบงค็อก มีการเสริมทัพในเลกที่ 2 ไม่เยอะ โดยในฝั่งนักเตะไทยมี สุพรรณ ทองสงค์ ที่ดีลไว้นานแล้วมาร่วมทีม ส่วนต่างชาติไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งตรงจุดนี้ถือว่าบียูเสียโอกาส เพราะในรายของ คาร์เตอร์ แทบจะโชว์ฟอร์มไม่ออก นั่นจึงทำให้สภาพทีมโดยรวมไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเลกแรกมากนัก ซึ่งต่างจากคู่แข่งที่ลุ้นแชมป์เหมือนกันตรงกันที่ พวกเขาจัดการเสริมทัพเพื่อให้ทีมเต็มและพร้อมรับมือโปรแกรมเตะที่ถี่ยิบ

การแข่งขันในเลกที่ 2 เริ่มขึ้น ผลงานของทีมยังเมาหมัดมาจากเลกแรก แม้จะมีระยะพัก 1 เดือน โดยการเปิดหัวด้วยการเก็บ 1 แต้ม จากการท่าเรือ และแพ้บุรีรัมย์ ที่เป็นคู่แข่งโดยตรง 0-1 มันก็เป็นผลให้ระยะห่างของแต้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งการเก็บ 3 แต้ม จากทีมเล็กๆเท่านั้น มันก็ผลให้แบงค็อก หมดลุ้นแชมป์ไปอีกปี พร้อมกับมีการปลดโค้ชแบน ออกจากตำแหน่งเฮดโค้ช ทั้งๆที่เข้ามาทำงานได้เพียงปีเศษ พร้อมกันนี้ก็ได้ไปดึง วิดมาร์ กลับมาจากออสเตรเลียอีกหน หลังจากพึ่งแยกทางกับ บีจี ปทุม ซึ่งการเปลี่ยนโค้ชนัดแรกก็ประเดิมด้วยความพ่ายแพ้แก่ ชลบุรี ในเกมบอลถ้วยลีกคัพ กระนั้นในโค้งสุดท้ายของเกมลีก วิดมาร์ได้ประคองทีมจนจบอันดับที่ 3 เป็นรางวัลปลอบใจ

ปัญหาแห่งความล้มเหลวในปีนี้และโดยเฉพาะในเลกที่ 2 ของ แบงค็อก อาจกล่าวได้ว่าแนวรุก คือ ปัจจัยที่สำคัญ เพราะมันมีหลายเกมที่ แฮร์เบอร์ตี้ กับ วานเดอร์ หลุยส์ ไม่ได้ลงพร้อมกันด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บ แล้วเกมรุกเหมือนขาดความสมดุลและมักเก็บ 3 แต้ม จากคู่ไม่ได้เลยหากดูจากสถิติ ซึ่งปัญหาตรงจุดนี้ ตัวสำรองไม่สามารถทดแทนได้ อีกทั้งเกมรับก็มีความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆให้เห็น ทั้งหมดนี้จึงกลายเป็นปัญหาให้ บียู ที่จากมีลุ้นแชมป์เต็มตัว กลายเป็นทีมที่หมดลุ้นเมื่อผ่าน 20 นัดในลีก ฉะนั้นการเสริมตัวผู้เล่นที่ทดแทนตัวจริงได้ จึงกลายเป็นโจทย์ที่สำคัญสำหรับแข้งเทพ หากต้องลุ้นแชมป์ยาวๆไปถึงปลายฤดูกาล

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“รับวิดมาร์ด้วยคาบ้าน”

บียู ประเดิมวิดมาร์ แต่พลิกพ่าย ชลบุรี  ในช่วงต่อเวลา 0-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ลีกคัพ ฤดูกาล 2021/22 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่เหลือถ้วยใบเดียวให้ได้ลุ้นแชมป์ อีกทั้งก่อนเกมก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งเฮดโค้ชจาก ธชตวัน ศรีปาน มาเป็น วิดมาร์ เจ้าเก่า หลังจากผลงานที่ผ่านมาดิ่งลงเหวแบบสุดๆ ส่วนทางฝั่งผู้มาเยือนอย่าง ชลบุรี เอฟซี ผลงานไม่ค่อยแจ่ม แต่ดีที่ตัวหลักเริ่มหายเจ็บกลับมาช่วยทีม สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-3-3 ส่วนทีมเยือนปรับเป็น 3-5-2

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทรู แบงค็อก ดูดีกว่าในเรื่องการต่อบอลเข้าไปในแดนคู่แข่งแล้วโอกาสจบสกอร์ ซึ่งมันไม่ใช่การต่อบอลที่ดีนัก แต่เพราะแนวรับทีมเยือนหละหลวมและไม่ยืนชิด นอกจากนี้การเพรสซิ่งสูงก็สามารถฉกชิงบอลมาได้ กระนั้นการยิงทิ้งยิงขว้างมันก็เป็นเหตุให้แข้งเทพไม่ได้ประตูนำ ส่วนทางฝั่ง ชลบุรี ตั้งใจจะมาเล่นแบบรัดกุม แต่ภาพที่ปรากฎกลับไม่เหนียวแน่นและโชคดีที่คู่แข่งไม่เด็ดขาด ขณะที่เกมรุกขึ้นบอลและโต้กลับไม่ค่อยได้ เว้นเสียเพียงการเพรสซิ่งแล้วฉกชิงบอลมาแล้วมีโอกาสที่หวาดเสียวเหมือนกัน โดยเฉพาะช่วงท้ายครึ่งที่เลี้ยงเยอะจนไปเข้ามือผู้รักษาประตูเสียอย่างนั้น

ครึ่งหลัง บียู เดินเกมบุกต่อ แล้วมีโอกาสจบแบบเหน่งๆเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ได้ประตูเหมือนเดิม อีกทั้งเมื่อเวลาผ่านไปเกมบุกดันหายไปดื้อๆ แล้วมาเร่งอีกสักพักในช่วงท้าย ส่วนทางฝั่ง ชลบุรี รูปเกมไม่ต่างจากครึ่งแรก แต่ก็ไม่โดนยิงเพราะเจ้าบ้านไม่คมเอง จากนั้นในช่วงต่อเวลาพิเศษ ชลบุรี มาทำแสบด้วยการแทงบอลไปข้างหน้าให้ ยู บยอง-ซู แล้วจัดการยิงหักข้อขึ้นนำ 0-1 ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับเจ้าบ้านผิดพลาดเต็มๆ เพราะกองหลังยืนประกบห่าง ผู้รักษาประตูปฏิกิริยาช้า โดยหากรวดเร็วกว่านี้ ก็น่าจะพุ่งปัดได้ไม่ยาก ขณะที่ช่วงเวลาที่เหลือ แข้งเทพพยายามใช้บอลยาวสาดเข้าไป อีกทั้งยังมีจังหวะส้มหล่นแล้ว แต่ ทริสตอง ดันโหม่งออกไปแบบไม่น่าเชื่อ

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เหนือกว่าทุกอย่าง แต่ดันจบสกอร์ไม่ได้ ซึ่งความพยายามที่ถูกทำซ้ำไปซ้ำมาก็ได้กลายเป็นตัวบ่อนทำลายให้ขาดความมั่นใจ แล้วสุดท้ายแนวรับมามีความผิดพลาดจนเสียประตู ทำให้ต้องพ่ายแพ้แบบไม่ควรจะแพ้ ส่วนทางฝั่ง ชลบุรี เอฟซี เกมรับไม่แน่นหนาและเปิดทางให้คู่แข่งยิงตลอด แต่เพราะคู่แข่งยิงไม่ได้ แถมมีความผิดพลาดให้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด (แข้งเทพ)

“บอดโทษทำเจ๊า” บียู พลาดโทษท้ายเกม จึงได้แค่เจ๊า การท่าเรือ

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 2 ของฤดูกาล ในคู่ของวันอาทิตย์ อีกหนึ่งในเกมบิ๊กแมตช์อยู่ที่สนามธรรมศาสตร์รังสิต ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เปิดรังพบกับ การท่าเรือ เอฟซี สำหรับผังการเล่น เจ้าบ้านมาในระบบเดิม คือ  4-3-3 ขณะที่ทีมเยือนปรับมาเป็น 4-4-2

          ทั้ง 2 ทีม ต่างเล่นด้วยความรัดกุม โดยทางฝั่ง บียู มีสปีดการต่อบอลที่ช้า แล้ววันนี้มาเจอกับแนวรับที่ยืนได้แน่นและไม่เปิดช่องว่างเลย ทำให้เกมบุกดูตันๆไป ส่วนการท่าเรือ ได้ทำเกมบุกในลักษณะโต้กลับ แต่ก็ไม่สามารถสร้างจังหวะเข้าทำได้ในทันที เพราะแนวรับของเจ้าบ้านยืนประกบชิดจนพลิกบอลยาก ทำให้แนวรุกของสิงห์เจ้าท่า ต้องจ่ายย้อนแล้วต่อบอลกับถ่ายเปลี่ยนแกนเร็วเข้าสู้

          ประตูขึ้นนำ 0-1 ของการท่าเรือ มาจากความผิดพลาดของ ทอมเบียรห์ ที่เสียเหลี่ยมแบบหมดรูป แล้วซัวเรส จ่ายไซร์กก้อยให้ โบนีญ่า จบสกอร์ ซึ่งนี้เป็นโอกาสเหน่งๆครั้งแรกของทีมเยือนแล้วได้ประตูเลย จากนั้น บียู ก็เอาคืน ด้วยการเลี้ยงหลบจนคู่แข่งจนหลังหัก แล้วยิงเสียบเสาไกลเป็น 1-1 โดยการตัดสินใจที่จะเลี้ยงฝ่าในจังหวะนั้นอาจเป็นสิ่งที่ควรลองบ้าง เพราะการต่อบอลตลอด 45 นาทีแรก มันไม่สามารถนำไปสู่การจบสกอร์ได้

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

          ครึ่งหลัง การท่าเรือ ยังเล่นเกมรับได้ดีเหมือนเดิม ส่วนเกมรุกจะพยายามทำเร็วด้วยการวางบอลไปยังพื้นที่ริมเส้น จากนั้นจะเล่นไม่กี่จังหวะแล้วจบสกอร์ กระนั้นมันก็ยังไม่ค่อยใกล้เคียงกับการได้ประตู ขณะที่บียู ปรับแผนการเคลื่อนที่ การวิ่งนำทาง จ่าบอลไปข้างหน้า ไม่ออกข้างหรือคืนหลังถ้าไม่จำเป็น ซึ่งในลักษณะที่ว่ามานี้มันช่วยให้เกมบุกของแข้งเทพไหลลื่นขึ้น แต่ก็ไม่ได้มากนัก เพราะแนวรับของทีมเยือนไม่เปิดแผลให้ อย่างไรเสียในช่วงท้ายเกม ความผิดพลาดแบบเจตนาก็ช่วยหนุนนำให้ บียู มีโอกาสขึ้นนำจากจุดโทษ แต่ เฮแบร์ตี้ ดันยิงไม่มุมพอ ทำให้จบเกมด้วยการเสมอกันไป 1-1   

          ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม วันนี้เป็นเกมระดับคุณภาพ เพราะความผิดพลาดเล็กนิดเดียว มีผลถึงการเสียประตู หรือการฉวยโอกาสเพียงเสี้ยววินาที ก็สามารถช่วยให้ทีมได้ประตูเช่นกัน แต่หากเจาะลึกเฉพาะทีม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เล่นเกมรับได้รัดกุมดี แต่ความผิดพลาดครั้งเดียว ส่งผลร้ายถึงขั้นเสียประตู ขณะที่เกมรุก มีสปีดบอลที่ช้าเกิน ทำให้การเจาะแนวรับคู่แข่งดูตันๆในครึ่งแรก แต่พอครึ่งหลังมีการปรับสปีดและแท็กติกการเคลื่อนที่ มันก็ช่วยให้เกมไหลลื่นขึ้น ขณะที่การท่าเรือ เอฟซี เกมรับทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม ผิดกับนัดแรกที่พลาดบรรลัย ซึ่งการยืนป้องกันอย่างดีแบบนี้ ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญให้ทีมมีแต้ม ส่วนเกมรุก การสร้างโอกาสมีน้อยไปสักหน่อย แต่กระนั้นเมื่อมีโอกาสทอง ก็สามารถลงโทษได้ดี

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

ติดตามข่าวสารใหม่ได้ที่ livethaileague.com

Categories
ข่าวกีฬา

ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืดในศึกไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22

ฟุตบอลไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22 จะเปิดฉากฟาดแข้งในสัปดาห์หน้าแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าการเปิดฤดูกาลในทุกซีซั่น ทุกคนล้วนแต่จับจ้องไปที่ทีมเต็งก่อน ในขณะที่ทีมม้ามืดจะเป็นที่ฮือฮาก็ต่อเมื่อผลงานพุ่งแรงขึ้นมา โดยจากการสอดส่องและเฝ้าสังเกต ก็มี 4 ทีม ที่เข้าข่ายต่อการเป็นม้ามืดประจำซีซั่นนี้      

สมุทรปราการ ซิตี้

          เขี้ยวสมุทรต้องเสียผู้เล่นตัวหลักไปหลายคนในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา ทำให้หลายคนอดห่วงไม่ได้ว่าจะไหวไหม แต่กระนั้นด้วยความเป็นญี่ปุ่นและสไตล์การทำทีมที่เน้นระบบ โดยไม่พึงซุปตาร์ จึงเชื่อว่า อิชิอิ จะทำทีมให้อยู่ในทรงเดิมและอยู่บริเวณกลางตาราง แต่หากเครื่องร้อนถึงขีดสุดเมื่อไร พวกเขาอาจเป็น 1 ในทีมที่มีลุ้นตั๋วถ้วยเอเชียก็ได้

ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืด ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22
ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืด ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22

ชลบุรี เอฟซี

          ฉลามชลยืนกล้าขาแข็งกับการใช้ตัวเยาวชนของทีมเป็นกกลุ่มผู้เล่นตัวหลัก อีกทั้งการได้โค้ชเตี้ย เข้ามา ก็ช่วยให้ระบบและทีมเวิร์คทำได้อย่างลงตัว แต่กระนั้นเมื่อช่วงครึ่งฤดูกาลหลังที่ผ่านมา การเสริมตัวต่างชาติจัดว่าล้มเหลวสุดๆ ทำให้ผลงานดรอปตามลงไปด้วย อย่างไรเสียในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา พวกเขาได้ตัวต่างชาติจากโคราชถึง 2 ราย นั่นคือ คานยุบ กับ มูริลโล่ ซึ่งการเสริมน้อยแต่เปี่ยมคุณภาพแบบนี้ จึงเชื่อว่าฉลามชลตัวนี้มีสิทธิ์สูงอย่างยิ่งที่จะเป็นม้ามืดของศึกไทยลีก 1

ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืด ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22
ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืด ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

          สภาพทีมที่อุดมไปดูตัวเยาวชน อีกทั้งในช่วงปิดฤดูกาลก็ไม่ได้เสริมตัวดังเข้ามา ทำให้สายตาที่เพ่งไปอาจจะน้อย แต่กระนั้นอยากให้ติดตามดูฝีมือของ มาริโอ้ ยูรอฟสกี้ ที่เป็นกุนซือใหญ่ ซึ่งเมื่อฤดูกาลก่อนแสดงให้เห็นแล้วว่าการใช้เด็กได้ผลลัพธ์ที่ดีเกินคาด หากเน้นการเล่นที่เป็นทีม อีกทั้งน่าติดตามว่าตัวต่างชาติที่มีจะช่วยยกระดับทีมได้ขนาดไหน แต่ที่แน่ๆเชื่อว่ากิเลนผยอง ปีนี้ มีลุ้นทำอันดับดีๆ ไม่ร่วงไปตารางอีกเป็นแน่

ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืด ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22
ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืด ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

          แข้งเทพจัดเป็นราชาที่ไร้ซึ่งถ้วยรางวัลประดับบารมี เพราะในยุคของมาโน่ เคยมีแต่เกือบในฐานะรองแชมป์ ส่วนการเข้ามาของโค้ชแบน ก็ค่อยๆพา บียู ที่อยู่กลางตาราง ขึ้นมาจบอันดับที่ 5 แบบมีลุ้นตั๋วถ้วยเอเชีย ฉะนั้นในฤดูกาลใหม่นี้ โค้ชแบน ได้ทำทีมแบบเต็มสูบ แถมยังมีตัวมาเสริมอีก ทำให้สามารถมองได้ว่าแข้งเทพในปีนี้ มีสิทธิ์จะเป็นม้ามืดอีกราย ที่ก้าวขึ้นมาท้าทายทีมอื่นในกลุ่มหัวตาราง

ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืดในศึกไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22
ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นม้ามืดในศึกไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22

ติดตามข่าวสารใหม่ได้ที่ livethaileague.com