Categories
ข่าวกีฬา

ตัดเกรดผู้เล่น ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ชวดหยิบแชมป์แรกเข้าสโมสร  

ตัดเกรดผู้เล่นทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พลาดแชมป์ให้กับ บุรีรัมย์ 2-0

อกหักและต้องรอแชมป์แรกต่อไป สำหรับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พวกเขาได้เข้าชิงบอลถ้วยช้างเอฟเอ คัพ อีกหน และได้เปรียบที่สนามกลาง คือสนามที่พวกเขาใช้เป็นรังเหย้า ซึ่งดูจะได้เปรียบอย่างมหาศาล แต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะเอาชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ ฉะนั้นในเกมที่เหล่าแข้งเทพต้องพ่ายแพ้ไป 0-2 พวกเขามีฟอร์มการเล่นเป็นอย่างไร และใครคือสาเหตุที่ทำให้ทีมต้องพลาดแชมป์ นับจากนี้เราจะไปให้คะแนน ตัดเกรดผู้เล่นทรู แบงค็อก ยูไนเต็ดกัน  

ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด (6) : ไม่ค่อยมีจังหวะเซฟเท่าไร แต่โดยรวมแล้วก็อยู่ในฟอร์มมาตรฐาน ส่วน 2 ประตูที่เสีย ต้องบอกว่าสุดปัญญาที่ช่วยได้

นิติพงษ์ เสลานนท์ (5) : เกมรับไม่ค่อยมีปัญหา แต่การเติมเกมรุกไม่ค่อยสร้างประโยชน์ ไล่ตั้งแต่การเปิดบอลที่ไร้ความแม่นยำ การทำชิ่งกับเพื่อนที่ทำเสียง่ายๆ

มานูเอล ทอม เบียรห์ (4) : นี่คือตัวสำคัญที่ทำให้ทีมเสียประตูแรกและรูปเกมเปลี่ยนไป ซึ่งการจ่ายบอลคืนหลังและน้ำหนักขาดแบบนั้น เป็นปัญหาซ้ำซากที่เจ้าตัวไม่เคยแก้ไข

เอเวอร์ตัน กอนซัลเวส (6) : ยืนตำแหน่งได้ดีและไม่มีความผิดพลาด

พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา (5) : โดนคู่แข่งเจาะผ่านการวางยาว สปีดการวิ่งประกบเป็นรองคู่แข่ง นั่นจึงทำได้เพียงยืนประคอง มากกว่าหาจังหวะสกัดบอล   

ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (5) : มีโอกาสส่องบอลไกลหลายหน แต่สิ่งที่เหมือนเดิม คือความแม่นยำไม่มีและนกตายไปหลายตัว เพราะยิงหลุดกรอบไปไกลลิบ  

ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร (5) : เป็นกองกลางที่น่าจะเงียบที่สุดแล้ว เพราะเมื่อได้บอลก็ได้เพียงแปะไปมา ไม่ก็เสียคืนไปง่ายๆ

มาห์มูด ดาฮัดดา (6) : พยายามจะสร้างความอันตรายตรงริมเส้น แต่พอขาดตัวสนับสนุน เจ้าตัวก็ดูโดดเดี่ยวไปสักหน่อย 

ปกเกล้า อนันต์ (6) : ในช่วงที่เกมตื้อตันและเสียง่ายๆ เจ้าตัวพยายามใช้ความสามารถเฉพาะพาไป แต่ก็ไม่ค่อยได้ผล

วานเดอร์ หลุยส์ (6) : ลากเลี้ยงบอลไว้กับตัวได้ดีตามความถนัด แต่เมื่อจ่ายให้เพื่อนที่อยู่ด้านใน กลับไม่มีความแม่นยำ สุดท้ายโอกาสทำประตูไม่เกิดขึ้น  

วิลเลน โมตา (5) : ช่วงต้นมีส่วนร่วมกับเกม เพราะขยับลงมาพักบอลและจ่ายให้เพื่อนที่วิ่งเติม แต่พอเสียประตูแรก เพื่อนป้อนบอลไม่ถึงและเจ้าตัวค่อยๆหายไปจากเกม

ชญาวัต ศรีนาวงษ์ (5) : ลงมาแล้ว ก็ไม่ได้ช่วยเปลี่ยนเกมให้ดีขึ้น

รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก (5) : ไม่มีจุดเด่นอะไร เว้นเสียแต่จังหวะที่ถูก โบรินกิ บีบคอ และเจ้าตัวไม่ตอบโต้อะไร  

วันชัย จารุนงคราญ และ ทัศนพงษ์ หมวดดารักษ์ (ไม่มีคะแนน) : ลงมาในช่วงที่เพื่อนถอดใจกันหมดแล้ว 

ตัดเกรดผู้เล่นทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในพ่าย บุรีรัมย์ 2-0
ตัดเกรดผู้เล่นทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในพ่าย บุรีรัมย์ 2-0
ตัดเกรดผู้เล่นทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในพ่าย บุรีรัมย์ 2-0
ตัดเกรดผู้เล่น ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในพ่าย บุรีรัมย์ 2-0

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“แกร่งเกินใครจะต้านทาน” บุรีรัมย์ ปิดจ็อบ 3 แชมป์ 2 ปีซ้อน

สร้างสถิติคว้า แชมป์ บุรีรัมย์ ตบ บียู นิ่มๆ 2-0

ศึกฟุตบอลช้าง เอฟเอคัพ ประจำฤดูกาล 2022/23 ณ สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ผ่านเข้ามาชิงเป็นหนที่ 2 เพื่อหวังคว้าแชมป์แรก ซึ่งวันนี้จะต้องพบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่พร้อม สร้างสถิติคว้า 3 แชมป์ 2 ปีซ้อน เป็นทีมแรกของไทย ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม แข้งเทพมาในระบบ 4-2-3-1 ขณะที่ปราสาทสายฟ้าใช้ 4-4-2

ช่วง 15 นาทีแรก บุรีรัมย์ วางบอลยาวจากแดนตัวเองไปยังหน้ากรอบเขตโทษของคู่แข่ง หรือโจมตีด้วยการเคาะบอลจากทางริมเส้น แต่เมื่อไปถึงแดน 3 ทรู แบงค็อก มักเก็บบอลได้และจ่ายฝากไปให้กองหน้าพักบอลเพื่อรอตัวรุกด้านข้างเติมมาช่วย ซึ่งเกมทำท่าจะสูสี แต่ความผิดพลาดครั้งใหญ่อีกหนของ ทอม เบียร์ห ที่ตั้งใจจะจ่ายคืนหลังแล้วน้ำหนักขาดไปเยอะ มันจึงกลายเป็นโอกาสทองของ โอรินกิ ที่วิ่งตามไปซัดให้ บุรีรัมย์ นำ 0-1 ในนาทีที่ 18

หลังจากเสียประตูแบบง่ายๆ บียู พยายามทำเกมบุกด้วยการโจมตีทางด้านข้าง แต่ปัญหาที่เห็นชัดเจนคือ ไม่สามารถป้อนบอลจากริมเส้นไปให้ โมต้า ที่เป็นกองหน้าได้ รวมถึงการผ่านบอลหน้ากรอบเขตโทษที่เสียง่ายๆตลอด ขณะที่ บุรีรัมย์ รูปเกมไม่ได้ดีไปกว่าตอนเสมอ 0-0 เพราะวางบอลไม่แม่น ครองบอลแบบเบ็ดเสร็จไม่ได้ กระนั้นพวกเขามาได้ประตูนำ 0-2 ในช่วงก่อนหมดเวลา จากลูกโหม่งเตะมุมของ โบรินกิ ซึ่งคนเปิดอย่าง ธีราทร วางบอลได้แม่นยำสุดๆ

ครึ่งหลัง บียู พยายามเจาะพื้นที่ตรงกลาง แต่ปัญหาเดิมๆคือ การเคลื่อนที่เพื่อสอดรับกัน ไม่ดีและเสียบอลง่ายๆ ทำให้จังหวะที่เก็บบอลและโต้กลับขึ้นมาหลายครั้ง จากที่ดูเหมือนจะวูบวาบ กลับกลายเป็นไม่ได้ลุ้นอะไรเลย สุดท้ายกลับมาเล่นบอลริมเส้นก็ส่งบอลให้ตัวในไม่ได้ ยิงไกลก็ไม่เข้าเป้า ขณะที่ บุรีรัมย์ ครึ่งหลังแทบจะไม่มีอะไรนอกจากรับให้แน่นๆและรอสวนกลับ แต่ก็ไม่ค่อยมีจังหวะให้ลุ้น ทำให้เกมจบลงด้วยสกอร์เดิมคือ 0-2 ของปราสาทสายฟ้า

บทสรุปจากเกม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เริ่มเกมด้วยโมเมนตัมที่ดี แต่พอเสียประตูจากความผิดพลาดง่ายๆของ ทอม เบียร์ห บียู ก็เล่นแบบไร้แรงจูงใจ แถมโดนยิงเพิ่มก่อนจบครึ่งแรก แม้ว่าช่วงต้นครึ่งหลังจะมีฮึดเล็กน้อย แต่สุดท้ายทำอะไรก็ไม่ดี ไม่ได้ผล และพ่ายแพ้ตามระเบียบ ส่วนทางฝั่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จุดเปลี่ยนคือประตูแรกที่พวกเขาฉกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของคู่แข่งและเปลี่ยนเป็นประตูได้ แถมมาได้ประตูทิ้งห่าง 0-2 จากการเตะที่แม่นยำและรู้ใจ ทำให้ในครึ่งหลังเล่นสบาย แม้ว่าการเล่น open play ในวันนี้ จะไม่ค่อยดีก็ตาม

สร้างสถิติคว้า 3 แชมป์ 2 ปีซ้อน เป็นทีมแรกของไทย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
สร้างสถิติคว้า 3 แชมป์ 2 ปีซ้อน เป็นทีมแรกของไทย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ชนะใหญ่ แต่แพ้เล็ก” บียู ล็อคถล่ม พ่าย ลำพูน 2-1

บียูพ่าย 2-1 ส่งโคขาวพ้นโซนแดง

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ลำพูน วอริเออร์ ที่ผลงานยังสุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้น เพราะอันดับขึ้นๆลงๆ จะต้องพบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่พึ่งหยุดเส้นทางแชมป์ไร้พ่ายของบุรีรัมย์ ส่วนผังการเล่นในวันนี้ เจ้าบ้านมาในระบบ 3-5-2 ขณะที่ทีมเยือนใช้ระบบ 4-2-3-1 บียูพ่าย ส่งให้โคขาวพ้นโซนแดงไปได้

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ลำพูน กลายเป็นฝ่ายที่บุกได้ดีกว่าและมีโอกาสใกล้เคียงจะเป็นประตู แล้วเพียงแค่ 8 นาที ก็มาได้ประตูนำ 1-0 จากการเล่าแบบสามเหลี่ยม คือจ่ายฝากและวิ่งไปรอรับตรงที่ว่าง แล้วลากลอลเพื่อฉีกตัวประกบและยิงอัดไปที่เสาไกล ซึ่งจังหวะนี้ต้องโทษแนวรับทีมเยือนที่ปล่อยให้เล่นง่ายและประกบตัวไม่ละเอียด อย่างไรก็ดี ทรู แบงค็อก มาตามตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 13 จากจังหวะที่ เอฟเวอร์ตัน โหม่งชงลูกเตะมุมให้ ม๊าห์มู๊ด จิ้มบอลลอดขา นนท์ เข้าไป จากนั้น บียู เริ่มจะครองบอลได้มากขึ้น แต่มีพื้นที่เล่นแค่ด้านข้างเท่านั้น เพราะบริเวณกรอบเขตโทษของเจ้าบ้าน ถูกป้องกันอย่างแน่นหนา กลับกันทางฝั่ง ลำพูน ที่แทบจะไม่มีโอกาส ดันได้ประตูขึ้นนำ 2-1 จากจุดโทษที่มีการแฮนด์บอล

บียูพ่าย ลำพูน 2-1 ในศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 วันอาทิตย์

บียูพ่าย ลำพูน 2-1 ในศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 วันอาทิตย์

ครึ่งหลัง ลำพูน ไม่ได้เล่นตั้งรับลึก แต่เล่นแบบเน้นความชัวร์และไม่เสียบอลง่าย ซึ่งมีจังหวะที่น่าได้ประตูเพิ่มจากการฝากบอล แล้ววิ่งหาที่ว่าง ส่วนทางฝั่ง บียู การเคาะบอลและความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะต่างชาติ สร้างโอกาสจนเกือบตีเสมอได้ แต่ดันยิงไม่ดีเอง กระทั่งช่วงท้าย ราชันโคขาวถอยรับลึก ทำให้แข้งเทพ ไม่มีช่องเจาะและจบเกมลงด้วยสกอร์ 2-1 ของเจ้าบ้าน

บทสรุปจากเกม ลำพูน วอริเออร์ การเล่นเกมรุกจะเป็นในลักษณะการเล่นร่วมกันเพียงไม่กี่คน ซึ่งในวันนี้ได้ผลเมื่อยิงได้ 1 ประตู และมาบวกเพิ่มจากจุดโทษ ซึ่งจังหวะที่แฮนด์ถือว่าเป็นใจให้พวกเขา ส่วนแท็กติกหลังจากได้ประตู การ์ม่า  ไม่ได้สั่งถอยรับลึก แต่เน้นย้ำว่าเมื่อมีบอลจะต้องเสียให้ยาก กระทั่งช่วงท้ายเกมถึงจะเล่นแบบรับลึก ส่วนทางฝั่ง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กลับคืนสู่ฟอร์มแบบสามัญ อีกครั้ง ซึ่งการเสียประตูง่ายๆให้ทีมหนีตายที่ต้องการแต้ม มันต้องรัดกุมให้มากที่สุด แม้ประตูแรกจะตามตีเสมอได้รวดเร็ว แต่เมื่อเสียประตูที่ 2 อีก คราวนี้มันก็ยากที่จะแก้ตัว สุดท้ายจึงเป็นภาพฉายซ้ำ คือเคาะบอลไปมา แล้วเจาะเกมรับคู่แข่งไม่ได้

บียูพ่ายลำพูน 2-1 ในศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 วันอาทิตย์

บียูพ่ายลำพูน 2-1 ในศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 วันอาทิตย์

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

หยุดฝันแชมป์ไร้พ่าย

โมต้า ตัวแสบ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ยิงเฉือน บุรีรัมย์

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 25 ณ สนามทรู สเตเดี้ยม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่รั้งอันดับ 2 ของตาราง จะต้องพบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่นำเป็นจ่าฝูง อีกทั้งวันนี้จะการันตีแชมป์แบบ 100% หากบุกมาคว้าชัยชนะเหนือแข้งเทพได้ ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ต่างมาในระบบ 4-2-3-1 เหมือนกัน  

      ทรู แบงค็อก ครองบอลได้เหนียวและต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถพาเข้าไปในแดน 3-4 ได้ แล้วเพียงแค่นาทีที่ 11 พวกเขาเสียบอลกลางทางให้ บุรีรัมย์ ที่แม้จะสวนเร็วไม่ได้ เพราะมีแนวรับเจ้าบ้านยืนประคองอยู่ แต่ ศุภชัย ตัดสินใจยิงไกลเสียบหน้าต่างมุมบนให้ทีมเยือนนำ 0-1 จากนั้น บียู พยายามเดินเกมรุก ด้วยการวางบอลยาวไปยังบริเวณริมเส้นและเล่นจังหวะเดียว จนโอกาสใกล้เคียงเริ่มปรากฏ

กระนั้นในนาทีที่ 32 จังหวะบอลที่ไม่มีอะไร แนวรับ บียู จ่ายคืนเบาเกินไป ทำให้ ศุภชัย ที่อ่านจังหวะอยู่ วิ่งสปีดขึ้นบอลฉกและยิงทิ้งห่างให้ บุรีรัมย์ นำเป็น 0-2 อย่างไรเสียไล่หลังเพียง 2 นาที แข้งเทพมาได้ประตูตีตื้น 1-2 จากจังหวะจ่ายเลียดทางด้านข้าง โดยระยะที่มันจ่อประตูมาก มันมีผลให้ รัตนากร สกัดเข้าประตูตัวเองไป

ช่วง 15 นาทีแรกของครึ่งหลัง รูปเกมของ บียู ไม่สามารถโจมตีใส่ผู้มาเยือนได้ กระทั่งหลังจากช่วงเวลาดังกล่าว การวางบอลเปลี่ยนแกนและเปิดไปหน้าประตู เพื่อให้ตัวด้านในจบสกอร์ มันมีโอกาสเหน่งๆหลายครั้ง กระทั่งในนาทีที่ 65 ได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากการลากบอลชายเดี่ยวของ วานเดอร์ แล้วจ่ายแทงเฉียงไปทางขวาเพื่อเปิดไปหน้าประตูให้เพื่อนเข้าชาร์ต

จากนั้นรูปเกมเป็นของ บียู และนาทีที่ 77 มาได้ประตูแซงนำ 3-2 จากเตะมุมที่ โมต้า วิ่งฉีกไปโหม่งที่เสาแรก กระนั้น บุรีรัมย์ ไม่ยอมแพ้และมายิงตีเสมอ 3-3 ในนาทีที่ 81 จากความผิดพลาดของ เอฟเวอร์ตัน ที่โหม่งพลาด ทำให้ เคาซิช ได้ยิงแบบเต็มข้อ นั่นจึงทำให้เกมน่าจะจบแบบแบ่งแต้ม แต่ในช่วงวินาทีสุดท้ายของเกม บียู เก็บบอลและโต้กลับอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ โมต้า จะยิงแบบเฉือนๆจนบอลชนเสาและกระเด้งเข้าประตูไป ทำให้เกมจบด้วยชัยชนะของแข้งเทพ 4-3

บทสรุปจากเกม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เสียทั้ง 3 ประตู จากความผิดพลาดของตัวเองแบบล้วนๆ แต่มันชดเชยด้วยการยิงประตูที่มากกว่า คือ 4 ลูก ฉะนั้นการคว้า 3 แต้มใหญ่ในวันนี้ อาจจะดูน่ายินดี แต่ปัญหาเดิมๆก็ยังคงมีอยู่ ส่วนทางฝั่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รูปเกมเป็นรองเจ้าบ้าน

แต่มีความเฉียบคมและฉกฉวยความผิดพลาดของคู่แข่งได้หมด กระนั้นเกมรับก็มีรูรั่วให้เห็นอยู่ โดยการเสียประตูทั้ง 4 ลูก ล้วนมาจากการยืนตำแหน่งป้องกันที่ไม่แนบชิด ฉะนั้นต่อให้เป็นแชมป์ในฤดูกาลนี้ ปราสาทสายฟ้าก็ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุง

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ฉลาดเตี้ยอาการหนัก

ชลบุรี โคม่าหนัก บุกพ่าย ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 23 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามทรู สเตเดี้ยม รังเหย้าของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ผลงานกลับมาดีอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้ามีอาการเมาหมัดเล็กน้อย ซึ่งวันนี้ต้องเจอทีมที่เมาหมัดกว่าอย่าง ชลบุรี เอฟซี ที่ตอนนี้ตามหาชัยชนะไม่เจอมา 4 เกมติดแล้ว ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ต่างมาในระบบ 4-2-3-1 ทั้งคู่

      ในช่วง 10 นาทีแรก ทั้ง 2 ทีมเน้นการต่อบอลเข้าไปในแดนคู่แข่ง  แต่ทางฝั่งทีมเยือนจ่ายพลาดก่อน แล้วโดน ทรู แบงค็อก ตัดได้ สุดท้ายจบที่ เฮแบร์ตี้ ซัดมุมแคบชนเสา แล้วมาเข้าทาง มาห์มู๊ด จิ้มเข้าประตูให้ทีมนำ 1-0 จากนั้นกลายเป็นบียู ที่ดูดีกว่า เพราะสามารถต่อบอลจากหลังบ้านไปจนถึงการจบสกอร์ได้หลายหน

แต่ขาดความเฉียบคม ตรงข้ามกับ ชลบุรี ที่ได้แต่ต่อบอล ไม่มีจังหวะจบสกอร์ กระนั้นช่วงทดเวลา 45+1 การวางบอลยาวให้ ชาญณรงค์ กลายเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับเจ้าถิ่นพลาดตั้งแต่แดนกลางที่เปิดพื้นที่ให้ได้วางบอลแบบสะดวก รวมถึงคู่กองหลังที่ยืนห่างจากตัวรุก ทั้งๆที่มีแค่คนเดียว 

ครึ่งหลัง ชลบุรี พยายามแก้ในเรื่องการเก็บบอลไว้กับตัว โดยจะปล่อยให้ก็ต่อเมื่อเพื่อนหาช่องดีและมีทางที่บอลจะไปข้างหน้า ซึ่งมันช่วยให้ทีมมีโอกาสจบสกอร์มากขึ้น แต่ในนาทีที 61 พวกเขาป้องกันไม่ดีพอ ทำให้โดน เฮแบร์ตี้ ยิงนำ 2-1 แล้วทางฝั่งฉลามชล สมาธิหลุดอย่างชัดเจน สุดท้ายการออกบอลที่ไม่รอบครอบของ เฉลิมพงษ์ ก็ได้ส่งให้ บียู ขึ้นนำ 3-1 และจบเกมด้วยสกอร์นี้  

      บทสรุปจากเกม ทรู แบงค็อก ยู ไน เต็ด ออกสตาร์ทเกมนี้ได้ดีแถมได้ระตูนำไปก่อน นอกจากนี้ยังสร้างโอกาสได้แบบต่อเนื่อง แต่พอไม่ได้ประตู เกมรับดันมาเสียง่ายๆ ซึ่งยังดีที่มีจุดเปลี่ยนเมื่อได้ประตูนำ 2-1 ทำให้ได้ 3 แต้ม ในวันนี้ ส่วนทางฝั่ง ชลบุรี เอฟซี

วันนี้ตั้งใจเล่นต่อบอลกับพื้นเพื่อสู้กับเจ้าบ้าน แต่การจ่ายบอลพลาดทำให้พวกเขาถูกลงโทษ กระนั้นโมเมนตัมก่อนเข้าห้องแต่งตัว พวกเขาได้สกอร์ตีเสมอ 1-1 ทำให้ในครึ่งหลัง ฉลามชลแก้เกมด้วยการหาวิธีออกบอลให้ชัวร์ ซึ่งมันได้ผลและน่าจะสู้กับเจ้าถิ่นได้สนุก แต่พอเสียประตูอีกครั้ง สมาธินักเตะก็หลุดจากเกมไปเลย

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

เอฟเวอร์ตัน เหมา 2

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด โดนก่อน แต่ได้ เอฟเวอร์ตัน

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 22 ในโปรแกรมวันเสาร์ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ผลงานกำลังย่ำแย่ทั้งในลีกและพึ่งตกรอบบอลถ้วย จะต้องเปิดรัง ลีโอ เชียงราย สเตเดี้ยม รับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ผลงานในลีกพึ่งแพ้ การท่าเรือ แบบคาบ้าน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-4-2  ส่วนทีมเยือนก็ใช้ระบบเดิมอย่าง 4-2-3-1

       ช่วง 10 นาทีแรก รูปเกมยังดูตื้อๆ แต่เมื่อเกมผ่าน 10 นาที การช่วงชิงจังหวะบอลบริเวณกลางสนาม ค่อนข้างรวดเร็วและทันกัน แต่ฝั่งเชียงราย ดูดีกว่าเพราะต่อบอลเข้าทำเร็ว แล้วรีบสกอร์ กระทั่งนาทีที่ 19 มาได้ประตูนำ 1-0 จากเตะมุมและ เฟลิเป้ โหม่งเสียบสามเหลี่ยม ซึ่งในจังหวะนี้เป็นการเปิดที่แม่น

กระนั้นแนวรับทีมเยือนก็ไม่มีใครเข้าไปเบียด จากนั้น ทรู แบงค็อก พยายามจะต่อบอลบุกเข้าใส่ แต่มันไม่สามารถพาเข้าไปยังพื้นที่อันตรายได้ เนื่องจากการบอลไม่มีทำชิ่งหรือจ่ายเร็วจังหวะเดียวในพื้นที่แคบ อย่างไรเสีย แข้งเทพมีโอกาสทองจะตีเสมอจากจุดโทษ แต่ เฮแบร์ตี้ ยิงติดเซฟ

ครึ่งหลัง เชียงราย ลงไปตั้งรับเหมือนในช่วงครึ่งแรกหลังจากได้ประตู พร้อมกับมีโอกาสสวนกลับแบบได้น้ำได้เนื้อ ขณะที่ บียู บุกใส่แบบเดิมและมีลักษณะคล้ายๆเดิม กระทั่งนาทีที่ 66 ถือเป็นจุดเปลี่ยนของเกมเมื่อ บียู ตีเสมอ 1-1 จากลูกเตะมุมที่เปิดให้ เอฟเวอร์ตัน โหม่งผ่านผู้เล่นเจ้าบ้านและลอดขา สรานนท์ เข้าไป

จากนั้นสถานการณ์ของเจ้าถิ่นย่ำแย่ลงเมื่อเหลือผู้เล่น 10 คน นั่นจึงทำให้ บียู พยายามกดให้หนักเพื่อหวัง 3 แต้ม ซึ่งดูเหมือนจะไม่ได้ประตูแล้ว แต่ในนาทีที่ 90+6 แนวรับกว่างโซ้งมหาภัยผิดพลาดติดต่อกันหลายจังหวะ แล้วทางฝั่งแข้งเทพ เหมือนจะต่อบอลไม่แม่นจนเสียจังหวะ กระนั้นการหลุดกับดักล้ำหน้าและเข้าไปยิงจ่อๆของ เอฟเวอร์ตัน ก็ได้กลายเป็นประตูชัย 1-2 ของทีมเยือน

      บทสรุปจากเกม ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด หลังจากได้ประตูขึ้นนำ พวกเขาเหมือนจะประคองและรอโอกาสเพื่อยิงเพิ่ม แต่พอตั้งรับนานๆจนบุกไม่ขึ้น แล้วดันมาโดนยิงตีเสมอผสมกับตัวผู้เล่นถูกไล่ออก มันก็ยิ่งเป็นผลให้พวกเขาต้องรัดกุมให้มากกว่าเดิม ซึ่งเกือบจะทำสำเร็จ

แต่แนวรับมาพลาดช่วงท้าย ทำให้โดนยิงแซงก่อนหมดเวลา ขณะที่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด การต่อบอลบุกดูตื้อตันและต้องเน้นความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะต่างชาติ พร้อมดูเหมือนว่าจะเจอวันที่ยากลำบากอีกครั้ง แต่การมีทีเด็ดจากลูกตั้งเตะและจังหวะที่เข้าทางในประตูที่ 2 มันก็ช่วยให้พวกเขาคว้า 3 ออกมาแบบลุ้นระทึกพอสมควร

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“แข้งเทพโหดส่งท้าย”

บียู ทำเสียแบบงงๆ ก่อนไล่ถล่ม เชียงใหม่ 4-2      

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 30 หรือนัดสุดท้ายของฤดูกาล ณ สนามธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่การันตีอันดับ 3 เป็นที่แน่นอนแล้ว จะต้องพบกับ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่ได้ลงเล่นเกมส่งท้าย ก่อนลงไปสู่ไทยลีก 2 ในฤดูกาลหน้า ฉะนั้นเกมนัดนี้ไม่มีกดดันใดๆต่อทั้ง 2 ทีม ส่วนผังการเล่นที่ทั้งคู่วางมา เจ้าบ้านใช้ 4-3-3 ขณะที่ทีมเยือนเป็น 3-4-3

ด้วยความที่ทั้ง 2 ทีม ไม่มีความกดดันใดๆ ทำให้รูปเกมช่วงครึ่งชั่วโมงแรกเป็นไปอย่างน่าเบื่อ กระนั้นโอกาสแรกของเกมเป็นทางฝั่งเชียงใหม่ ที่ได้ส้มหล่นจากเจ้าบ้านที่สกัดไม่ดี แต่นักเตะช้างเผือกยิงไม่คมเอง จากนั้นเมื่อเข้าสู่ 15 นาทีสุดท้าย ทรู แบงค็อก เริ่มตั้งเกมและขึงบุก จนแนวรับทีมเยือนต้องบ็อคพื้นที่กรอบเขตโทษ แต่สุดท้ายก็ไม่รอดพ้นที่จะเสียประตู 1-0 จากลูกโหม่งเตะมุมของเอฟเวอร์ตัน ที่กระโดดโขกแบบเต็มแรงและได้ทิศทาง

ครึ่งหลัง เชียงใหม่ ได้ลูกตีเสมอ 1-1 จากความผิดพลาดของ มิก้า ที่สกัดแล้วกลายเป็นพุ่งเสียบเสาไกลอย่างสุดสวย กระนั้นการเสียประตูในครั้งนี้ มันได้เป็นแรงขับเคลื่อนให้ บียู เร่งเครื่องแล้วได้ประตูแบบไหลมาเทมา ไล่ตั้งแต่ประตู 2-1 ที่โยกบอลไปมาจน คาร์เตอร์ ว่าง ก็จัดการโยนให้โหม่งแบบเฉือนๆ ประตู 3-1 เป็นการโต้กลับเร็ว แล้ว ชนานันท์ ตัดสินใจยิงบริเวณหัวกะโหลกด้านซ้ายแบบเฉียบคม ประตู 4-1 แนวรับทีมเยือนเปิดพื้นที่ว่างไว้ ทำให้ วานเดอร์ จัดการยิงแบบไม่เหลือซาก อย่างไรก็ดี ช้างเผือกมาได้ประตูตีตื้น 4-2 จากจุดโทษเป็นการปลอบใจ

บทสรุปจากเกม ทรู แบงค็อก เริ่มเกมแบบไม่รีบร้อน จนเมื่อเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง ก็ได้เร่งเครื่องจนได้ประตู ก่อนที่ในครึ่งหลังจะรัวหนักและได้เพิ่มอีก 3 ประตู ซึ่งหากดูจากภาพรวม ถือว่าเป็นการจบสกอร์ที่เฉียบคมและใช้โอกาสไม่เปลื้อง แต่สำหรับเกมรับยังคงเสียประตูง่าย ทั้งๆที่ไม่ถูกกดดันอะไรเลย ส่วนทางฝั่ง เชียงใหม่ ยูไนเต็ด วันนี้วางเกมรับแน่นหนาตามสูตรทีมรอง จนเมื่อถูกขึงบุกใส่ก็เริ่มเห็นถึงการแพ็คป้องกันพื้นที่กรอบเขตโทษ แต่สุดท้ายก็ไม่รอด ส่วนในครึ่งหลัง มาตรฐานการป้องกันอ่อนกำลังลงจนโดนยิงแบบรัวๆ ขณะที่เกมรุกแทบจะไม่มีรูปการณ์เข้าทำอะไรเลย จะมีเพียงการใช้ความสามารถเฉพาะตัว อีกทั้ง 2 ประตูที่ได้มา ก็มีโชคเข้ามาช่วยแบบเต็มๆ

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“สุพรรณอเดสู่ขิต”

สุพรรณบุรี สู่ขิต แพ้ถล่ม บียู 5-2 ร่วงลีกรองหนแรกในรอบ 9 ปี  

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 29 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ในตอนนี้น่าจะการันตีอันดับ 3 ต้องพบกับ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่การแพ้ในนัดล่าสุดถือเป็นเรื่องเสียหายอย่างใหญ่หลวง แล้วมันก็ส่งให้วันนี้ต้องชนะสถานเดียว มิเช่นนั้นจะต้องเป็นทีมที่ 2 ที่ต้องตกชั้นตามเชียงใหม่ไป สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-3-3 ส่วนทีมเยือนเป็น 3-5-2

      ทรู แบงค็อก ขึงและวางบอลเข้าใส่แนวรับทีมเยือน ซึ่งมีที่ได้ประตูและถูกริบ ก่อนจะมาได้จริงๆในนาทีที่ 17 จากจุดโทษ จากนั้นก็ยังเป็นแข้งเทพที่บุกและครองบอลแทบจะฝ่ายเดียว ส่วนทางฝั่งสุพรรณบุรี ได้แต่ตั้งรับและเกมรุกไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ซึ่งการขาด ดานีโล่ ทำให้พ่อเลี้ยงอย่าง เอนริเก้ ต้องโชว์ฉายเดี่ยว กระนั้นในนาทีที่ 40 ช้างศึกยุทธหัตถีมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 โดยในจังหวะนี้ไม่มีอะไรเลย เพราะมันเป็นการเปิดแบบธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาคือแนวรับบียู ยืนนิ่งและปล่อยให้ตัวประกบที่ใกล้ที่สุดเป็นแนวรุกอย่าง ชนานันท์

ครึ่งหลังรูปเกมยังทรงๆ กระทั่งนาทีที่ 64 แนวรับทีมเยือนไปดึงแขน เฮแบร์ตี้ ก่อนจะลุกขึ้นมายิงจุดโทษเป็น 2-1 จากนั้นเหมือนสกอร์ไหลและแนวรับทีมเยือนเริ่มสมาธิแกว่ง ไล่ตั้งแต่ประตู 3-1 ที่ไปรุม วานเดอร์ หลยุส์ พอเขี่ยให้ เฮแบร์ตี้ ก็ไม่เหลือ ส่วนประตู 4-1 เป็นการโหม่งตัดหน้า กระนั้นในแผงเกมรับของแข้งเทพ ก็น่าตำหนิที่เสียประตู 4-2 จากการเปิดมาหน้าปากประตู แล้วมีผู้เล่นบียูยืนอยู่เต็มไปหมด แต่ดันปล่อยให้ จอง ฮัน ซอล ที่อยู่ไกลลิบ ได้วิ่งมาโหม่งเสียอย่างนั้น ขณะที่ประตูปิดท้าย 5-2 คาร์เตอร์ ลากขึ้นมา แล้วเปิดอัดเท้า รุ่งรัฐ เข้าไป

  บทสรุปจากเกม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เกมรุกไม่ค่อยน่าห่วง เพราะเมื่อมีโอกาสก็สามารถทำได้เรื่อยๆ เว้นเสียแต่เกมรับที่เสียง่ายๆแบบนี้หลายนัด ซึ่งหากปล่อยไว้ไปยังฤดูกาลหน้า มันจะมีผลต่อการลุ้นแชมป์แน่นอน ส่วนทางฝั่ง สุพรรณบุรี เอฟซี พอไม่มี ดานีโล่ จากที่เป็นรองก็ยิ่งเป็นรองมากขึ้น ทำให้ในเกมนี้ต้องรับให้หนาแน่น แล้วรอเล่นฉาบฉวย แต่พอลงไปเล่นจริงๆเกมรับไม่แน่นหนา แถมมีความผิดพลาดส่วนบุคคล ทำให้ความพ่ายต้องเกิด สุดท้ายการตกชั้นมันก็สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของทีมที่มีจำกัดเพียงเท่านี้จริงๆ

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“วันบอลแฉลบแห่งชาติ”

เมืองทอง ทั้งเก่งทั้งเฮง ทุบ บียู 3-1 ลุ้นจบท็อปโฟร์ 2 นัดสุดท้าย

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 28 คู่ส่งท้ายของวันอาทิตย์ ณ สนามธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ในตอนนี้มีลุ้นถึงท็อปโฟร์ จะต้องพบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ต้องรักษาอันดับที่ 3 ไว้ให้ได้เพื่อรอลุ้นส้มหล่นสำหรับโควตา ACL ทำให้ 3 แต้มในเกมนี้มีความหมายขึ้นมาทันที ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ต่างใช้ระบบเก่งของตัวเอง โดยแบ่งเป็นเจ้าบ้านในระบบ 4-1-4-1 และทีมเยือนระบบ 4-3-3

      ในครึ่งแรกทั้ง 2 ทีม มีโอกาสพอๆกัน โดยทางฝั่ง ทรู แบงค็อก เริ่มต้นทางริมเส้น แล้วค่อยเลือกว่าจะจ่ายเข้ากลาง เลี้ยงตัด แทง หรือวางไปเสาไกล ส่วน เมืองทอง ใช้การต่อบอลตามช่อง ซึ่งอาจจะดูไม่วูบวาบเท่าทีมเยือน แต่ก็มาได้ประตูนำ 1-0 จากความผิดพลาดของ ฐิติพันธ์ ที่ไปจ่ายบอลพลาด จน อานีเยอร์ ได้ยิงติดบ็อคของ เอฟเวอร์ตัน แต่เหลี่ยมบอลดันเป็นใจและพุ่งเสียบเสาเข้าไป

ครึ่งหลัง บียู น่าได้ประตูตีเสมอสุดๆ จากการต่อบอลหน้าบ้านสู่แดนสุดท้ายของคู่แข่ง แต่ ชนานันท์ ดันยิงออกไปเสียได้ ซึ่งพอไม่ได้ประตูในจังหวะนี้ จังหวะถัดมาเป็นคิวของ เมืองทอง บ้าง ก็ได้โชว์การประสานงานของ 3 แนวรุกต่างชาติ ก่อนจบด้วย พ็อพพ์ ยิงติดแฉลบเข้าเสาแรกเป็น 2-0 ไม่เพียงเท่านั้น การเซตชอลขึ้นมาจากแดนตัวเอง ก็ได้มีการประสานของ 3 แนวรุกต่างชาติ จนสกอร์ไหลเป็น 3-0 จากนั้นทีมเยือนพยายามจะบุกเพื่อทวงประตูคืน แต่มักไปไม่ถึงแดนสุดท้ายเพราะเสียบอล ทำให้ต้องรอเจ้าบ้านเผลอในช่วงทดเวลา ถึงมาได้ประตูตีตื้น 3-1

      บทสรุปจากเกม เมืองทอง ยูไนเต็ด ออกสตาร์ทด้วยฟอร์มที่ไม่ได้เหนือกว่า แต่พอคู่แข่งมีความผิดพลาดและตัวเองคว้าขึ้นนำได้ก่อนจบครึ่งแรก มันก็ช่วยให้ตัวเองเล่นง่าย ส่วนในครึ่งหลัง การรอดพ้นการเสียประตูจากจังหวะยิงของ ชนานันท์ ถือเป็นโมเมนตัมสำคัญที่ทำให้รูปเกมยังได้เปรียบ ก่อนที่ในจังหวะถัดมาจะสบโอกาสยิงทิ้งห่าง 2-0 และ 3-0 กระทั่งคว้า 3 แต้มในที่สุด

ขณะที่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด รูปเกมดูวูบวาบกว่าในช่วงต้น แต่พอมาพลาดเสียประตู ความลำบากก็เข้าหาทันที ซึ่งในช่วงต้นครึ่งหลังถ้าได้ประตูตีเสมอจาก ชนานันท์ รูปเกมจะไม่ลงเอยแบบนี้ แต่พอไม่ได้และเสียประตูเพิ่ม สถานการณ์ก็ยิ่งแย่ไปกันใหญ่ ฉะนั้นความพ่ายแพ้ในวันนี้ มาจากความผิดพลาดส่วนบุคคล ทีเด็ดทีขาดที่ไม่เต็มเปี่ยม และจังหวะฟุตบอลไม่เป็นใจให้เหล่าแข้งเทพเลย

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ต้นดีแผ่วปลาย สไตล์บียู”

สรุปผลงาน ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในเลกที่ 2 ฤดูกาล 2021/22 “ต้นดีแผ่วปลาย สไตล์บียู “

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด สถาปนาเป็นทีมใหญ่มาได้หลายปีแล้ว แต่สิ่งที่ขาดหายและยังทำไม่สำเร็จ คือ ถ้วยแชมป์ ซึ่งในเลกแรกของฤดูกาลนี้ ก็ออกสตาร์ทได้ดี แถมมีช่วงเวลาที่ขึ้นนำจ่าฝูง แต่พอเข้าสู่ช่วงท้ายเลกแรกดันมีอาการสะดุด พร้อมกับถูก บุรีรัมย์ ทำแต้มทาบและปาดหน้าเป็นจ่าฝูงด้วยประตูได้เสียที่ดีกว่า 

ทรู แบงค็อก มีการเสริมทัพในเลกที่ 2 ไม่เยอะ โดยในฝั่งนักเตะไทยมี สุพรรณ ทองสงค์ ที่ดีลไว้นานแล้วมาร่วมทีม ส่วนต่างชาติไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งตรงจุดนี้ถือว่าบียูเสียโอกาส เพราะในรายของ คาร์เตอร์ แทบจะโชว์ฟอร์มไม่ออก นั่นจึงทำให้สภาพทีมโดยรวมไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเลกแรกมากนัก ซึ่งต่างจากคู่แข่งที่ลุ้นแชมป์เหมือนกันตรงกันที่ พวกเขาจัดการเสริมทัพเพื่อให้ทีมเต็มและพร้อมรับมือโปรแกรมเตะที่ถี่ยิบ

การแข่งขันในเลกที่ 2 เริ่มขึ้น ผลงานของทีมยังเมาหมัดมาจากเลกแรก แม้จะมีระยะพัก 1 เดือน โดยการเปิดหัวด้วยการเก็บ 1 แต้ม จากการท่าเรือ และแพ้บุรีรัมย์ ที่เป็นคู่แข่งโดยตรง 0-1 มันก็เป็นผลให้ระยะห่างของแต้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งการเก็บ 3 แต้ม จากทีมเล็กๆเท่านั้น มันก็ผลให้แบงค็อก หมดลุ้นแชมป์ไปอีกปี พร้อมกับมีการปลดโค้ชแบน ออกจากตำแหน่งเฮดโค้ช ทั้งๆที่เข้ามาทำงานได้เพียงปีเศษ พร้อมกันนี้ก็ได้ไปดึง วิดมาร์ กลับมาจากออสเตรเลียอีกหน หลังจากพึ่งแยกทางกับ บีจี ปทุม ซึ่งการเปลี่ยนโค้ชนัดแรกก็ประเดิมด้วยความพ่ายแพ้แก่ ชลบุรี ในเกมบอลถ้วยลีกคัพ กระนั้นในโค้งสุดท้ายของเกมลีก วิดมาร์ได้ประคองทีมจนจบอันดับที่ 3 เป็นรางวัลปลอบใจ

ปัญหาแห่งความล้มเหลวในปีนี้และโดยเฉพาะในเลกที่ 2 ของ แบงค็อก อาจกล่าวได้ว่าแนวรุก คือ ปัจจัยที่สำคัญ เพราะมันมีหลายเกมที่ แฮร์เบอร์ตี้ กับ วานเดอร์ หลุยส์ ไม่ได้ลงพร้อมกันด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บ แล้วเกมรุกเหมือนขาดความสมดุลและมักเก็บ 3 แต้ม จากคู่ไม่ได้เลยหากดูจากสถิติ ซึ่งปัญหาตรงจุดนี้ ตัวสำรองไม่สามารถทดแทนได้ อีกทั้งเกมรับก็มีความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆให้เห็น ทั้งหมดนี้จึงกลายเป็นปัญหาให้ บียู ที่จากมีลุ้นแชมป์เต็มตัว กลายเป็นทีมที่หมดลุ้นเมื่อผ่าน 20 นัดในลีก ฉะนั้นการเสริมตัวผู้เล่นที่ทดแทนตัวจริงได้ จึงกลายเป็นโจทย์ที่สำคัญสำหรับแข้งเทพ หากต้องลุ้นแชมป์ยาวๆไปถึงปลายฤดูกาล

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover