Categories
ข่าวกีฬา

“สมหวังทั้งคู่”

เมืองทอง ได้ท็อปโฟร์ เฉือน ประจวบ ที่รอดตกชั้น 2-1     

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 30 หรือเกมนัดสุดท้าย ณ สนามธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม เมืองทอง ยูไนเต็ด จะต้องลงล่าท็อปโฟร์ด้วยการพบกับ พีที ประจวบ เอฟซี ที่การบุกมาเยือนมีความกดดันเต็มบ่า เพราะหากพวกเขาแพ้ แล้ว สมุทรปราการ ชนะ มันจะเป็นต่อพิฆาตที่ต้องร่วงตกชั้น ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบเก่ง 4-1-4-1 ขณะที่ทีมเยือนใช้ 3-5-2

      ในช่วงต้นเกมต่างฝ่ายต่างเล่นแบบเน้นความปลอดภัย จนในนาทีที่ 24 เมืองทอง มาได้ประตูนำ 1-0 โดยจังหวะเปิดครั้งแรกล้น แล้ว อานิเยร์ ตามไปเก็บและจ่ายยัดให้ ซาร์เดอร์ ยิงแบบไม่มีสิทธิ์เซฟ ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับทีมเยือนดูเหม่อลอยไปหน่อย เพราะไม่ประกบชิดและสกัดไม่เด็ดขาด จากนั้น พีที ประจวบ ต้องพยายามบุก เพราะไม่อยากรอลุ้นผลอีกคู่ แต่ด้วยความที่ตัวเองเสียบอล มันก็เข้าทางเจ้าบ้านที่ได้สวนกลับตามถนัด แต่ยังดีที่แนวรับต่อพิฆาตยังลงมาปิดพื้นที่ไว มิเช่นนั้นอาจโดนยิงเพิ่มไปแล้ว  

ครึ่งหลัง เมืองทอง บุกขึ้นมาแล้วไม่ได้ประตูเพราะบอลออกเส้นหลังก่อน จากนั้นในจังหวะต่อเนื่องได้เกิดจุดพลิกผัน พีที ประจวบ ได้จุดโทษจากแฮนด์บอล  แล้ว โมต้า สังหารไม่พลาด ตีเสมอ 1-1 ซึ่งจากสกอร์ตรงนี้ ทีมเยือนค่อนข้างพอใจจึงกลับมาเล่นแบบประคอง แต่การประคองมันก็เหมือนรอโดนยิง เนื่องจาก เมืองทอง โจมตีใส่เป็นระลอก กระทั่งมาได้ประตูนำ 2-1 จากการแทงไปหน้ากรอบแล้วเหลือแค่แตะหลบ ราโอวัช ก่อนใส่สกอร์เท่านั้น ส่วนในช่วงเวลาที่เหลือราว 10 กว่านาที ต่อพิฆาตไม่เร่งเกมอีกต่อไป เพราะผลสกอร์อีกคู่เป็นใจ ทำให้เกมนี้เหลือแค่เล่นให้จบเท่านั้น

บทสรุปจากเกม เมืองทอง ยูไนเต็ด ลงเล่นเกมนี้แบบไม่มีความกดดันเท่าไร ทำให้เกมบุกเดินไปเรื่อยๆ เมื่อมีโอกาสก็เข้าทำทันที ซึ่งจะเห็นจากทั้ง 2 ประตู ที่ช่องว่างเมื่อไรโจมตีทันที ส่วนประตูที่เสียไป ถือเป็นความผิดพลาดส่วนบุคคล ขณะที่ พีที ประจวบ เอฟซี วันนี้เหมือนเล่นตามมีตามเกิดและรอให้ฝนฟ้าเป็นตัวสิน เพราะการเล่นในแมตช์นี้ไม่เหมือนกับทีมที่ต้องดิ้นรนหนีตาย ซึ่งมันจะเห็นได้จากเกมรับที่ยืนไม่แน่นหนาตลอด 90 นาที แล้วพอมีดวงและสกอร์เป็นใจ ก็กลับมาเล่นรับเสมือนรอโดนยิง แล้วสุดท้ายก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ กระนั้นยังดีที่ผลอีกคู่เป็นใจ มิเช่นนั้นมีสิทธิ์น้ำตาตกในไปแล้ว

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ครึ่งแรกคึกคัก ครึ่งหลังแทบง่วง”

ประจวบ โหมหนักครึ่งแรก แต่ได้แค่เจ๊า เทโร 0-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 28 คู่เปิดหัวในวันเสาร์ ณ สนามบุญยะจินดา โปลิศ เทโร เอฟซี ที่สถานการณ์ลอยลำต่อการหนีตาย จะต้องพบกับ พีที ประจวบ เอฟซี ที่โซนแดงจี้ก้นแบบร้อนฉ่า ทำให้การบุกมาเยือนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเก็บแต้มให้ได้ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-4-3 ส่วนทีมเยือนวาง 3-5-2 มารับมือ

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น พีที ประจวบ พยายามต่อบอลเพื่อทำเกมบุก โดยการเคาะบอลขึ้นมาจะถ่างออกไปที่ฝั่งซ้ายเมื่อถึงแดน 3 เป็นต้นไป แต่พอถึงจังหวะเข้าทำในแดนสุดท้าย การป้อนบอลเข้ากรอบยังไม่ค่อยได้เปรียบและมีจังหวะจบสกอร์ กระทั่งช่วงท้ายครึ่งแรก ประจวบป้อนบอลเข้าแดนอันตรายได้แม่นยำมากขึ้น แต่ยังไม่มีโอกาสทองสำหรับการจบสกอร์ ส่วนทางฝั่งโปลิศ เทโร เน้นการยืนรับต่ำและประกบชิด เพื่อให้คู่แข่งเล่นลำบาก แต่พอจะโต้กลับก็เจอการไล่บีบจนต่อบอลไม่ถนัด กระทั่งต้องใช้การยิงไกลเป็นทางเลือกสุดท้าย

ครึ่งหลังทั้ง 2 ทีม ต่างรัดกุมในเกมรับมากขึ้น การทำเกมบุกจึงยากและมีช่องน้อย อีกทั้งรูปแบบการเข้าทำของทั้ง 2 ทีม มันไม่มีรูปแบบของวิธีการที่ซับซ้อน ทำให้การใช้ลูกตั้งเตะ การโยน และยิงไกลต้องถูกงัดมาใช้ แต่ก็ขาดทีเด็ดและความแม่นยำ กระทั่งทั้ง 2 ทีม ต่างพอใจใน 1 แต้มที่ตัวเองได้ เกมจึงจบลงแบบจืดๆที่ 0-0

บทสรุปจากเกม โปลิศ เทโร เอฟซี ไม่มีความกดดันก่อนลงสนาม ทำให้รูปเกมไม่มีช่วงเวลาของการโหมบุก ส่วนเกมรับขอแค่ยืนแน่นๆและไม่หลุดตำแหน่ง ฝั่งตรงข้ามก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว ขณะที่ พีที ประจวบ เอฟซี การบุกมาเยือนในเกมนี้ พวกเขาต้องการ 3 แต้ม เพื่อหนีโซนแดง ซึ่งจากรูปเกมในครึ่งแรกต้องใช้เวลาอยู่สักพักถึงจะบุกได้แบบเข้าน้ำเข้าเนื้อ ตรงข้ามกับครึ่งหลังที่ช่องเจาะแคบลงและกระชับขึ้น ทำให้การเดินเกมบุกขาดช่วงจนต้องงัดลูกทีเด็ดขึ้นมา แต่แนวรุกต่อพิฆาตก็ไม่มีทีเด็ดตรงนี้ จนสุดท้ายเลือกประคองเอา 1 แต้มเป็นอย่างน้อย ซึ่งก็เข้าใจได้ เพราะถ้าโหมบุกมีความเสี่ยงที่จะไม่ได้เลยสักแต้ม อีกทั้งสถานการณ์ของทีมก็ยังไม่ถึงขั้นวิกฤตแบบสุดๆ

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ตาม 2 ที ไม่หวั่น นำทีเดียวชนะเลย”

หนองบัว ตาม 2 หน ก่อนรัวแซง ประจวบ ท้ายเกม 2-3

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 27 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามสามอ่าว สเตเดี้ยม พีที ประจวบ เอฟซี ที่ผลงายช่วงหลังย่ำแย่จนต้องกลับมาหนีตาย จะต้องพบกับ พญาไก่ชน หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่สถานการณ์ลอยลำและไร้ความกดดันใดๆ ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-5-2 ขณะที่ทีมเยือนวาง 5-3-2 เพื่อรับลึกแบบเต็มสูบ

ในช่วง 20 นาทีแรกของเกม ต่างฝ่ายต่างระวังและต่างฝ่ายต่างเล่นเกมรุกได้ไม่ดีทั้งคู่ ทำให้รูปเกมที่ออกมาค่อนข้างน่าเบื่อ กระนั้นในนาทีที่ 23 พีที ประจวบ ชิงนำ 1-0 จากการต่อบอลขึ้นมาและไหลมากรอบเขตโทษให้ วันเฉลิม ยิงเสียบเสา ซึ่งการป้องกันของทีมเยือนทำได้ดีแล้ว ยกเว้น กิตติคุณ ที่ควรจะเซฟได้ มิใช่ยืนขาตาจเสมือนสุดปัญญาแบบนั้น จากนั้นในอีก 20 นาทีกว่าๆ ทั้งประจวบและหนองบัว ต่างมีความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆจนไม่สามารถครองบอลให้ปะติดปะต่อได้

ครึ่งหลัง หนองบัว มาตีเสมอ 1-1 จากฟรีคลิกที่ไม่ควรได้ เพราะมันไม่มีการผลักและปะทะแม้แต่น้อย ทำให้ผลพวงจากฟรีคลิกลูกนี้ คือ การเปิดไปให้ แฮร์มิลตัน ได้โฉบโหม่งเข้าไป กระนั้นไล่หลังเพียงนาทีกว่าๆ แนวรับทีมเยือนไหจ่ายบอลติด โมต้า ทำให้ได้บอลและลากเข้าไปยิงให้ ประจวบ ขึ้นนำ 2-1 อย่างไรก็ดี หนองบัว ไม่แกว่งและพยายามหาช่องโจมตี กระทั่งมาได้ประตีเสมอ 2-2 จากการเปิดของ เลอสันต์ ที่ไม่แม่นนัก แต่ แฮร์มิลตัน โชว์ความเหนือชั้นด้วยการโหนโหม่งให้เสียบเสาไกล ซึ่งจากสกอร์ที่ออกมาเช่นนี้ ประจวบ ไม่ต้องการ 1 แต้ม เพราะมันจะส่งผลต่อการหนีตาย ฉะนั้นจึงต้องบุก แต่การโดนสวนกลับในนาที 83 มันได้พราก 3 แต้ม ไปจากต่อพิฆาต จากการสวนกลับของ ทัพ พญาไก่ชน โดย ทาร์เดลี่ สุดท้ายเมื่อจบเกม ทีมเยือนได้ปาดหน้าชนะไป 2-3  

      บทสรุปจากเกม พีที ประจวบ เอฟซี ได้ขึ้นนำถึง 2 ครั้งในเกมนี้ แต่ดันปิดเกมไม่ได้ ซึ่งหากมองที่แผงเกมรับ มันไม่ถึงขั้นผิดพลาด แต่มันไม่ดีมากพอที่จะสยบแนวรุกคู่แข่งที่มีความอันตราย ส่วนทางฝั่ง หนองบัว พิชญ เอฟซี ต้องเล่นเกมรับเป็นหลัก แถมมีความผิดพลาดส่วนบุคคลเกิดขึ้นทั้ง 2 ลูก ขณะที่เกมโต้กลับและเกมรุกแทบจะไม่ได้ทำงาน แต่ที่วันนี้ได้ 3 แต้ม ต้องชม 2 แนวรุกที่ใช้โอกาสไม่สิ้นเปลื้อง เพราะขอแค่ป้อนบอลถึง โอกาสเป็นประตูก็สูงตาม ฉะนั้นจึงต้องกล่าวว่าพวกเขาเล่นไม่ดี แต่ที่ชนะเพราะยิงได้มากกว่าเท่านั้น

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ฉลามฟื้น เมื่อตัวจัดเต็ม”

ชลบุรี ตัวหลักเกือบครบ ย้ำแค้น ประจวบ สกอร์เดิม 2-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีกนัดที่ 26 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามชลบุรี สเตเดี้ยม ชลบุรี เอฟซี ที่ผลงานลุ่มๆดอนๆเพราะตัวต่างชาติมีอาการบาดเจ็บแบบยกชุด จะต้องพบกับ พีที ประจวบ เอฟซี ที่ตั้งแต่แพ้ บีจี ปุทม ด้วยสกอร์มโหฬาร ผลงานก็ดูจะดรอปๆไป สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-4-2 พร้อมกับตัวต่างชาติที่กลับมาเกือบครบ ส่วนทีมเยือนใช้ระบบที่คุ้นเคยอย่าง 3-5-2

      สไตล์บอลของทั้ง 2 ทีม มีลักษณะคล้ายๆกัน คือ เน้นการจ่ายบอลตามช่อง แต่ทางฝั่ง ชลบุรี จะดูดีกว่าตรงที่เมื่อเข้าแดน 3 จะใช้ความเร็วของ โบเกียห์ โจมตีทางริมเส้นทั้งซ้าย-ขวา ซึ่งเจ้าตัวจะสลับฝั่งไปมาอยู่เรื่อยๆ นอกจากนี้ยังมีจังหวะที่เลือกจะเลี้ยงตัดแล้วยิง จนเกือบได้อยู่หลายหน ขณะที่ พีที ประจวบ ดูด้อยกว่าตรงที่พวกเขาเคาะบอลจนถึงแดนสุดท้าย แล้วไม่สามารถจ่ายแทงหรือวางบอลเพื่อทำเข้าได้ ทำให้จังหวะจบสกอร์ล้วนมาจากยิงจากในระยะหัวกะโหลก

ครึ่งหลังเริ่มไปได้ 6 นาที ชลบุรี ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ยู บยอง ซู กำลังจะโดนรุม 2  แต่เจ้าตัวเลือกจะไม่จ่ายออกข้างและเสี่ยงปั๊มบอล แล้วบอลดันเป็นใจก่อนจะยิงเช็คเสาเข้าไป จากนั้นรูปเกมยังไม่เปิดหน้าแลก แต่ พีที ประจวบ มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการเปิดด้านข้างแล้วโหม่ง ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับเจ้าบ้านผิดพลาดที่ไปยืนทับซ้อนกัน ทำให้หน้าประตูมีแนวรุกคู่แข่งยืนว่างถึง 2 คน

การกลับมาเริ่มต้นกันใหม่ ทั้ง 2 ทีมยังไม่แลก กระทั่งนาทีที่ 70 ชลบุรี มาขึ้น 2-1 อีกครั้งจากจังหวะต่อเนื่องที่ได้เตะมุม ซึ่งเป็นการเปิดที่แม่นหัว เคลิช ทำให้การโหม่งรุนแรงและเข้าไป กระนั้นหาก ขวัญชัย อยากเป็นยอดนายทวาร การปัดลูกนี้ไม่ถึงกับสุดปัญหา เพราะวิถีของมันอยู่กลางศีรษะของตัวเอง จากนั้นในอีก 20 นาทีที่เหลือ ประจวบ พยายามจะเคาะบอลไปให้ถึงแดนหน้า ซึ่งมันถึงแดนสุดท้ายแต่ไม่มีโอกาสได้ยิง อีกทั้งการลุ้นประตูที่ใกล้เคียงที่สุดก็มาจากฟรีคลิกเท่านั้น

บทสรุปจากเกม ชลบุรี เอฟซี พอได้ตัวต่างขาติกลับมา รูปเกมสามารถคอนโทรลได้ดีขึ้น อีกทั้งการโจมตีก็ดูอันตราย แต่จังหวะการเข้าทำยังไม่มากพอ นอกจากนี้ในแผงเกมรับก็ต้องกลับไปคุยในเรื่องการแบ่งหน้าที่ประกบคู่แข่ง เพื่อไม่ให้มีภาพของการเสียประตูแบบง่ายๆเช่นนี้ ขณะที่ พีที ประจวบ เอฟซี การต่อบอลเป็นการครอบครองที่ไร้ประโยชน์ เพราะมันเป็นการเคาะไปเรื่อยๆจนไม่มีจังหวะเข้าทำ แล้วในขณะเดียวกัน โค้ชหระอาจต้องกลับไปดูในแผงเกมรับ ว่าทำไม 2-3 นัดหลัง ถึงเสียประตูเยอะขึ้น เพราะมิเช่นนั้นมันอาจส่งผลให้พวกเขาต้องมาหนีตายในช่วงท้ายฤดูกาลก็เป็นได้  

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover