Categories
ข่าวกีฬา

“แบ่งแต้มก็ยังดี”

ประจวบ โดนก่อน แต่มาตามตีเสมอ เทโร ในวินาทีสุดท้ายของเกม 1-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 14 ในส่วนของโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามสามอ่าว สเตเดี้ยม พีที ประจวบ เอฟซี ที่ผลงานย่ำแย่จนต้องเปลี่ยนโค้ชกลางครรภ์มาเป็น อิสระ ศรีทะโร ซึ่งในนัดประเดิมงานต้องพบกับ โปลิศ เทโร เอฟซี ที่ผลงานค่อนข้างลอยตัว สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านปรับมาใช้ 3-5-2 เป็นครั้งแรก ขณะที่ทีมเยือนใช้ 3-4-3

      การแข่งขันเริ่มต้นไปได้ไม่กี่นาที โปลิศ เทโร ต่อบอลได้ไหลลื่น แล้วประจวบเหมาะกับแนวรับเจ้าถิ่นที่ยังไม่คุ้นชินกับระบบหลัง 3 ทำให้บอลที่เปิดเข้ามามีช่องว่างจนได้โหม่งเข้าไป 0-1 จากนั้น พีที ประจวบ กลายเป็นฝ่ายต้องเปิดเกมบุก ซึ่งภาพที่ปรากฏ คือ การเข้าสู่แดน 3-4 ค่อนข้างน้อย เพราะการต่อบอลมีเพียงขวางสนาม กับไปทางริมเส้น ไม่มีการแทงทะลุช่องให้เห็น กระนั้นการโจมตีจากริมเส้น มันก็พอมีโอกาสลุ้นประตู แต่จังหวะตัดสินใจขั้นสุดท้าย รวมถึงการวางเท้าจบสกอร์ยังไม่ค่อยดี ส่วนทางฝั่ง เทโร หลังจากขึ้นนำ เกมรุกก็บุกไม่ขึ้น กระทั่งช่วงท้ายครึ่งต้องเล่นรับแบบเต็มพิกัด เพื่อประคองตัวไม่ให้เสียประตู  

ครึ่งหลัง เทโร แก้เกมด้วยการเน้นครองบอล เพื่อไม่ให้คู่แข่งเอาบอลไปบุก ซึ่งก็ทำได้ดีและเกือบได้ประตูทิ้งห่าง ส่วนทางฝั่ง ประจวบ การไม่มีกองหน้าตัวเป้าอย่าง โมต้า ทำให้แก้อย่างไรก็แก้ไม่ตก เพราะต่อให้เซตบอลขึ้นมาดีอย่างไร สุดท้ายก็มาตกม้าตายที่จังหวะเข้าทำและการจบสกอร์ที่น่าผิดหวัง กระทั่งช่วงท้ายเกมต้องโยนและยิงไกล แล้วมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการโหม่งที่ดีเยี่ยมของ อภิชาติ กระนั้นแนวรับทีมเยือนก็พลาดที่ไม่ขึ้นเบียดและเสียหลักอีกตั้งหาก

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม พีที ประจวบ เอฟซี ปรับสไตล์แบบฉับพลัน ซึ่งมันก็ได้เห็นถึงมุมที่เปลี่ยนแปลงและไม่คุ้นชิน จนยิงไปก่อน กระนั้นเกมรุกที่เป็นปัญหา ก็ยิ่งหนักขึ้นเมื่อไม่มี โมต้า อย่างไรเสียยังโชคดีที่วันนี้ตีเสมอและแบ่งแต้มแบบสุดระทึก ส่วนทางฝั่ง โปลิศ เทโร เอฟซี การฉกฉวยโอกาสในช่วงต้นเกมมีผลให้เล่นสบาย แต่หลังจากนั้นจบจบครึ่งแรก อาจจะตั้งรับมากไปหน่อย ทำให้ในครึ่งหลังมีการแก้เกม ซึ่งก็เป็นการแก้ที่ดี กระนั้นการโดนยิงเสมอ 1-1 สำหรับมังกรโล่เงินแล้ว ถือว่าน่าเสียดาย เพราะแผนที่วางและแก้ระหว่างเกม ทำได้ดีละกำลังจะหมดเวลาอยู่แล้ว      

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“รวมประตูนาทีบาป”

ในศึกรีโว่ไทยลีก 2021/22 เลกแรก

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก ฤดูกาล 2021/22 ที่พึ่งเตะจบลงไปในเลกแรก ได้ระเบิดความันส์และกระแทรกไปยังสายตาท่านผู้ชมทางบ้านกันแบบจุใจ ซึ่งในความมันส์ดังกล่าวนั้นมันก็มีถึง 8 นัด ที่มีการยิงประตูชัยในนาทีท้ายๆของการแข่งขัน หรือจะเรียกในแบบศัพท์เฉพาะว่า “นาทีบาป” โดยแมตช์เหล่านั้นจะเป็นอย่างไร นับจากนี้เราย้อนไปดูกันใน 4 คู่แรก  

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 3-2 นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี

เกมนัดที่ 2 ของฤดูกาล เชียงราย ได้ลงเล่นในบ้านนัดที่ 2 ติดต่อกัน แต่ก็ต้องช็อคตั้งแต่ต้นเกม เพราะโดน โคราช นำก่อน กระนั้นก่อนจบครึ่งแรก เจ้าบ้านมาได้ประตูตีเสมอ แต่ก็มาโดนยิงนำ 1-2 แบบทันทีทันใด ทำให้ครึ่งหลัง กว่างโซ้งมหาภัยต้องโหมบุกและมาได้ประตูตีเสมอ 2-2 แบบหอบรากดิน ซึ่งถึงตรงนี้ก็ถือว่าน่าพอใจ อย่างไรเสียในวินาทีสุดท้ายของเกม มีการเช็ค VAR และเป็นจุดโทษที่ บิลล์ ซัดให้เจ้าถิ่นเฉือนชนะไปแบบหน้าตาเฉย

สุพรรณบุรี เอฟซี 2-2 เชียงใหม่ ยูไนเต็ด

เกมนัดที่ 2 ของฤดูกาล สุพรรณบุรี ได้กลับมาเล่นในบ้านนัดแรกและได้ประตูนำ 1-0 ในครึ่งแรก และได้ประตูทิ้งห่าง 2-0 แต่ต้องเหลือผู้เล่น 10 คน เพราะ สีหนาท ถอดเสื้อดีใจ ทั้งๆที่ตัวเองโดนใบเหลืองไปแล้ว ทำให้ต้องโดยใบแดงไล่ออกไป โดยในช่วง 20 นาทีสุดท้าย ช้างศึกยุทธหัตถีโดนตีไข่แตก 2-1 และคาดว่าน่าประคองตัวให้จบสกอร์นี้ได้ แต่สุดท้ายกลายเป็น ทศพล ลาเทศ ที่ขึ้นมายิงตีเสมอ 2-2 ในวินาทีสุดท้าย พร้อมกับช่วยให้ทีมเก็บแต้มแรกในลีกสูงสุด

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 1-2 พีที ประจวบ เอฟซี

เกมนัดที่ 4 ของฤดูกาล และนัดที่ 4 ติดต่อกันของ เชียงราย กับการเล่นในบ้าน ซึ่งในนัดนี้ยิงขึ้นนำไปก่อน 1-0 และดูเหมือนจะสบายๆ แต่ไม่วายมาโดนยิงตีเสมอ 1-1 นั่นจึงทำให้ กว่างโซ้งมหาภัยต้องโหมเกมบุก เพราะไม่ต้องการแต้มเดียวในบ้าน กระทั่งเวลาล่วงเลยถึงท้ายเกม ทีมเยือนได้โต้กลับในจังหวะสุดท้าย แล้วมันได้จังหวะกันพอดี ทำให้ อภิชาต ได้หลุดข้าไปยิงแซงขึ้นนำ 1-2 พร้อมกับเป็นชัยชนะนัดแรกของฤดูกาล

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 0-1 เมืองทอง ยูไนเต็ด

      เกมนัดที่ 8 ของฤดูกาล เชียงราย กำลังเผชิญต่อสถิติที่ไม่ดี ยามเล่นในบ้าน ซึ่งในนัดนี้เหมือนจะเป็นใจให้พวกเขาอีกครั้ง กับการที่ เมืองทอง เหลือผู้เล่น 10 คน ตั้งแต่ 15 นาทีแรก นั่นจึงทำให้ทีมเยือนต้องตั้งรับเกือบ 80 นาที โดยการขึงบุกและมีโอกาสจบสกอร์ที่หวาดเสียวเป็นระยะ ดูแล้วกิเลนผยองไม่รอดแน่ กระนั้นเวลาที่ล่วงเลยไปถึงช่วงท้ายเกม กว่างโซ้งมหาภัยก็ยังยิงไม่ได้ กระทั่งวินาทีสุดท้ายของเกม การขึ้นบอลและได้จบสกอร์ตรงกรอบครั้งแรกของ เมืองทอง มันได้กลายเป็นประตู 0-1 แบบสุดสะใจ จนถึงขั้นที่โค้ชโอ้สไลค์เข่า แล้วกางกางยีนส์สีขาวตัวโปรดเปื้อนหญ้าเลยทีเดียว    

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

  

Categories
ข่าวกีฬา

“สั่งลา อิชิอิ แบบช้ำๆ”

ขอนแก่น ฟอร์มแจ่ม ดับ สมุทรปราการ ของ อิชิอิ ในนัดสั่งลา 1-0

ศึกฟุตบอ ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 15 คู่ส่งท้ายของค่ำคืนวันเสาร์ ณ สนามกีฬากลางจังหวัดขอนแก่น ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่น่าจะลอยลำกับการอยู่เหนือโซนแดง ลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 15 คู่ส่งท้ายของค่ำคืนวันเสาร์ ณ สนามกีฬากลางจังหวัดขอนแก่น ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่น่าจะลอยลำกับการอยู่เหนือโซนแดง จะต้องเปิดรังรับ สมุทรปราการ ซิตี้ ที่ฟอร์มรูดกราวอย่างหนัก อีกทั้งยังเป็นที่แน่นอนแล้วว่านัดนี้จะเป็นนัดสั่งลาของ อิชิอิ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านยังเชื่อมั่นในผัง 3-5-2 ขณะที่ทีมเยือนก็เช่นกันกับระบบ 4-4-2 ที่ยังไม่เปลี่ยน  

      กรแข่งขันเริ่มต้นขึ้น สมุทรปราการ พยายามเปิดฉากใส่ก่อน ด้วยการครองบอลและขึงใส่ แต่มันไม่สามารถเจาะแดน 3-4 ได้ ส่วนทางฝั่ง ขอนแก่น การตั้งรับแบบมีวินัยและรอโอกาสสวนกลับ ก็มีผลให้ได้ประตูนำ 1-0 จาก เมโล่ ซึ่งในจังหวะนี้ ยิงติดเซฟ แต่ ปฏิวัติ ปัดไม่ค่อยดี ทำให้ได้ยิงซ้ำ จากนั้นกลายเป็นเกมที่ออกแนวแลกกัน เพราะทางฝั่งเจ้าบ้านไม่ถอยรับ แล้วเมื่อมีโอกาสก็ยังบุกและเกือบได้ประตูที่ 2 กระนั้นทีมเยือนก็มีโอกาสจะได้ตีเสมอ เพราะการต่อบอลมีความแม่นยำ แต่ทุกจังหวะต้องมาตายเพราะจังหวะการเข้าทำ

ครึ่งหลัง สมุทรปราการ ลงมาเพื่อเล่นเกมบุก เพราะพวกเขาลงมาแล้วดันสูงและชิงบอลทุกจังหวะ อีกทั้งยังเพิ่มการโจมตีจากทางริมเส้น ซึ่งมันก็ได้ผลจนนำพามาสู่การได้จุดโทษ แต่ เอลิอันโด ดันยิงติดเซฟ ส่วนทางฝั่ง ขอนแก่น 45 นาทีหลัง ต้องเน้นเกมรับ แต่ก็มีโอกาสสวนกลับอยู่ตลอด กระนั้นแนวรุกดันไม่คมเสียเอง มิหนำซ้ำยังเกือบโดนยิงตีเสมอจากจุดโทษ แต่ยังดีที่ไม่โดน ทำให้จงอางผยองยังคงประคองสกอร์นำไว้ได้จนจบเกม

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ขอนแก่น ยูไนเต็ด เริ่มต้นเกมได้ดีและรู้จังหวะโมเมนตัมของตัวเอง นั่นจึงทำให้ครึ่งแรกดูดีกว่าทีมเยือน แต่พอลงมาครึ่งหลัง การจบสกอร์ดันไม่คมทำให้ตอกฝาโลงคู่แข่งไม่ได้ อีกทั้งยังเฉียดที่จะเสีย 3 แต้ม ไปอยู่แล้ว ฉะนั้นการคว้าชัยในวันนี้ มีทั้งฝีมือ จังหวะ และโชคประกอบกัน ส่วนทางฝั่ง สมุทรปราการ ซิตี้ ความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆในเกมรับ มีผลเสียถึงการเสียประตู จนต้องเล่นอย่างยากลำบาก กระนั้นในครึ่งหลัง เกมรุกสามารถทำเกมได้ดี แต่สุดท้ายยังติดปัญหาเดิม คือ จังหวะการเข้าทำ อย่างไรเสียวันนี้มีโอกาสที่จะแบ่งแต้มจากจุดโทษ แต่ก็ดันทำไม่สำเร็จ ทำให้สุดท้ายต้องพ่ายแพ้อีกเกม   

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“พลาดปั๊บสกอร์ไหล”

เมืองทอง เต็มระบบ ถล่ม โคราช 4-1 ส่งท้ายเลกแรก  

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 15 ของฤดูกาล ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ผลงานค่อนข้างลอยตัวแล้ว จะต้องพบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ทีมที่เล่นนอกบ้านได้ไม่ดีเอาเสียเลย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-1-4-1 เหมือนเดิม เช่นกันกับทีมเยือนที่ใช้ 4-2-3-1

      เกมการแข่งขันเริ่มต้นไปได้แค่ 3 นาที ธวัชชัย แจกของขวัญด้วยการออกมาตัดบอลพลาด แล้วจังหวะต่อมา แนวรับของทีมเยือนถอยกันหมด ทำให้ พ็อพพ์ ที่เติมขึ้นมาได้ยิงให้ทีมขึ้นนำ 1-0 จากนั้นให้หลังไม่กี่นาที นายทวารผู้นี้ก็ต้องเปลี่ยนตัวออก เพราะมีอาการบาดเจ็บ

      หลังจากเสียประตู นครราชสีมา พยายามจะเดินเกมบุก แต่ก็เหมือนอย่างที่คาด คือ แนวรุกชำนาญแต่การใช้ความเร็ว ทำให้เมื่อเจอแนวรับที่ถอยต่ำ จึงต้องใช้การโยนหรือจ่ายยัดไปหน้าประตู ขณะที่ เมืองทอง ถอยลงไปรับแต่ก็รอโอกาสสวนกลับ แล้วมาได้ประตูทิ้งห่าง 2-0 จากการจ่ายให้ พิชา ใช้ความเร็วเลี้ยงฝ่าและยิงเข้าไป ซึ่งในจังหวะนนี้ต้องโทษแนวรับทีมเยือนด้วย ที่ตามประกบอยู่ดีๆแต่ นัฐพงษ์ ดันไปเข่าอ่อนและล้ม ไม่ต่างกันกับ พิศาล ที่ปล่อยให้โดนยิงลอดขาที่เสาแรก ทั้งที่ไม่อยู่ในระยะที่จ่อขนาดนั้น

ครึ่งหลัง โคราช พยายามจะทำเกมบุกเพื่อทวงประตูตีไข่แตกให้เร็ว แต่พอโดนสวนกลับและเสียประตู สกอร์มันก็ขาด โดยแม้ว่าจะยิงไล่มา 3-1 แต่เวลาก็เหลือน้อย มิหนำซ้ำพอโดนยิงฝัง 4-1 เกมก็จบลงแบบสมบูรณ์ทันที  

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ประตูนำเร็วตั้งแต่ต้นเกม อีกทั้งทีมที่เจอก็เป็นทีมที่วรรณะต่ำกว่า ทำให้สถานการณ์ค่อนข้างได้เปรียบและรอโต้กลับเพื่อยิงเพิ่มเท่านั้น แล้วแท็กติกที่ว่ามานั้นก็เป็นผลกับการยิงถึง 4 ประตู และคว้า 3 แต้ม ไปแบบง่ายๆ ส่วนทางฝั่ง นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี การเสียประตูก่อนเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องระวัง แล้ววันนี้ดันเสียเร็วและต้องมีการเปลี่ยนตัวผู้รักษาประตูอีก ทำให้เกมนี้ไม่มีอะไรเป็นใจ อีกทั้งการขึงบุกใส่และครองบอลให้เหนียวแน่นต่อทีมที่รับต่ำ พวกเขาก็ไม่มีความถนัดอยู่แล้ว ฉะนั้นเมื่อไรที่เสียบอล พวกเขาก็ต้องถอยไปรับอยู่เรื่อยๆ สุดท้ายเมื่อเสียบอลบ่อยๆ แล้วแนวรับมีความผิดพลาดเกิดขึ้นอีก ประตูที่เสียก็เลยไหลและขาดอย่างรวดเร็ว  

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“เล้าแตกส่งท้าย”

หนองบัว ปิดเลกไม่สวย โดน การท่าเรือ บุกมาทลายเล้า 0-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 15 ของฤดูกาล หรือนัดสุดท้ายของเลกแรก ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามพิชญ สเตเดี้ยม หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่ผลงานในบ้านร้อนแรงสุดๆ จะต้องพบกับทีมที่ฟอร์มแรงไม่ต่างกันอย่าง การท่าเรือ เอฟซี นั่นจึงทำให้การพบกันของทั้งคู่ มาได้ถูกเวลาเสียจริงๆ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 5-4-1 ส่วนทางด้านทีมเยือนใช้ 4-2-3-1

      เกมการแข่งขันเริ่มต้น หนองบัว พิชญ มาเล่นแบบรัดกุมและอาศัยการดักบอลเพื่อสวนกลับ แต่พอวันนี้ไม่มีกองหน้าตัวแบกทีมอย่าง แฮร์มิลตัน พญาไก่ชนก็ไม่สามารถบุกถึงแดนสุดท้าย หรือสร้างจังหวะจบสกอร์ได้เลย กลับกันทางฝั่ง การท่าเรือ พวกเขาต้องเจอการตั้งรับแบบแน่หนาในช่วงต้นเกม แต่พอคู่แข่งโต้กลับไม่ได้ มันก็มีผลให้พวกเขาสามารถเดินเกมบุกได้ต่อเนื่อง กระทั่งมาได้ประตูนำ 0-1 จากลูกเตะมุมที่ ซัวเรช โหม่งได้ดี แต่ก็ต้องโทษแนวรับเจ้าถิ่นด้วย ที่ยืนประกบหลวมและไม่มีการเบียดรบกวน

ครึ่งหลัง หนองบัว ใช้เวลาสักพักก็สามารถขึงบุกใส่ผู้มาเยือนได้ อีกทั้งต้องยอมฝืนส่ง แฮร์มิลตัน ลงมา แล้วใช้การสาดบอลเข้ากรอบผสมกับการยิงไกล เพราะแนวรับทีมเยือนถอยไปรับลึก แต่ด้วยความที่เจ้าบ้านเปิดบอลไม่ค่อยแม่น ทำให้สร้างโอกาสจบสกอร์ได้น้อย ตรงข้ามกัน การท่าเรือ รับมากก็จริงใน 45 นาทีหลัง แต่เมื่อได้สวนกลับ โบนีญ่า สร้างความันตรายได้ดีและเกือบได้ประตูทิ้งห่าง กระทั่งท้ายเกม เอียนบัสซี่ ฟิวส์ขาดและไปถ่มน้ำลายใส่คู่แข่งจนโดนใบแดง จากนั้นรูปเกมของพญาไก่ชนก็ดับวูบไปด้วย ทำให้เวลาที่เหลือ สิงห์เจ้าท่าแค่ประคองตัวให้จบด้วยสกอร์นี้    

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม หนองบัว พิชญ เอฟซี พอไม่มีกองหน้าตัวแบกทีมในช่วงครึ่งแรก รูปเกมก็ได้แต่ตั้งเกมรับอย่างเดียว จนกระทั่งเสียประตู ซึ่งการเสียประตูไปก่อนกลายเป็นงานยากเพราะตัวเองไม่เชี่ยวชาญที่จะขึงบุกใส่ใคร แล้วสุดท้ายเอาคืนไม่ได้และต้องพ่ายไป ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ เอฟซี ได้ 3 แต้ม และสร้างสถิติชนะแบบรัวๆก็จริง แต่ในแง่ของรูปเกมยังไม่ดีนัก โดยเกมรุกไม่ค่อยปรากฏถึงไอเดียการเข้าทำใดๆ กระนั้นยังดีที่มีลูกตั้งเตะเข้ามาช่วย ขณะที่เกมรับทำหน้าที่ได้ดี แต่เสี้ยวหนึ่งก็ต้องบอกว่าคู่แข่งไม่ท็อปฟอร์มและไม่วิ่งพล่านเหมือนเกมที่ผ่านๆมาด้วย

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“10 ตัว ที่รูปเกมเหนือกว่า”

บียู 10 ตัว จัดการตบ เมืองทอง นิ่มๆ 3-1 รั้งจ่าฝูงต่ออีกสัปดาห์

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 14 คู่ส่งท้ายของโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามธรรมศาสตร์รังสิต ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่กำลังรั้งจ่าฝูงและฟอร์มแรงต่อเนื่อง จะต้องพบกับทีมวัยหนุ่มคะนองอย่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ผลงานไปลุ่มๆดอนๆ แต่อยู่ในเกณฑ์ดี สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-3-3 ขณะที่ทีมเยือนใช้แผนเดิมอย่าง 4-1-4-1

      การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นได้ราว 10 กว่านาที ทรู แบงค็อก ต้องเจอสถานการณ์ที่ยากลำบาก เพราะ พีรพัฒน์ ไปเปิดปุ่มใส่คู่แข่งจนโดนใบแดงโดยตรง ซึ่งนั้นทำให้พวกเขาต้องใช้เวลาตั้งหลักอยู่นาน กว่าจะคุมเกมและยิงประตูนำ 1-0 จากการยิงไกลเสียบสามเหลี่ยมแบบสุดสวย แต่เพียงชั่วครู่ เมืองทอง มาตามตีเสมอ 1-1 จากการเปิดเตะมุมและหัวชง ก่อนจะตามยิงเข้าไป ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับเจ้าบ้านมีความผิดพลาดในการยืนป้องกัน อย่างไรเสีย แข้งเทพ ก็มาได้ประตูนำ 2-1 จากลูกฟรีคลิกที่เปิดให้ เอฟเวอร์ตัน โหม่ง 

ครึ่งหลัง เมืองทอง ที่ตัวเหนือกว่า พยายามจะแก้เกมเพื่อแก้เพรสซิ่งและทำเกมรุก แต่ภาพที่ออกมา คือ การรับส่งบอลไม่แม่นและไม่สามารถหลีกหนีการเพรสซิ่งอันหนักหน่วงในแดนอันตรายของเจ้าบ้านได้ ทำให้โอกาสยิงประตูไม่มีและเสียบอลให้ บียู เอาบอลไปโต้กลับ กระทั่งเสียประตู 3-1 หลังจากนั้น เมืองทอง ยังคงเดินเกมบุกต่อ ซึ่งมันก็เริ่มดีขึ้น แต่ไม่มีจังหวะจบสกอร์ ส่วนทางฝั่ง บียู เกมรับเริ่มจะเห็นช่องว่างมากขึ้น แต่ยังเดะชะบุญที่ไม่เสียประตู ขณะที่เกมโต้กลับก็มลายหาไปทันที นับตั้งแต่ วานเดอร์ หลุยส์ ถูกเปลี่ยนตัวออกไป

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เจอสถานการณ์ที่ไม่ดีตั้งแต่ต้นเกม ซึ่งยังดีที่ตัวเองยังประคองสถานการณ์แล้วมาได้ประตูจากความสุดยอดของนักเตะและความผิดพลาดของฝ่ายตรงข้าม กระนั้นแนวรับของทีมก็ยังดูมีปัญหา ซึ่งยังดีที่ที่คู่แข่งไม่ได้มีศักยภาพสูง มิเช่นนั้นวันนี้จะเหนื่อยหนักกว่านี้ ขณะที่ เมืองทอง ยูไนเต็ด ศักยภาพเป็นรอง แต่สถานการณ์เหมือนจะเป็นใจให้ แต่วันนี้ตัวเองไม่ได้มาในฟอร์มที่ดี เพราะมันมีภาพของเกมรุกที่เจาะพื้นที่แดนสุดท้ายไม่ได้ และเกมรับก็ยืนกันผิดพลาด กระนั้นก็ต้องยอมรับว่าคู่แข่งมีลูกยิงที่สุดยอดด้วย ทำให้ทั้งหมดทั้งมวลผสมกันจนกลายเป็นความพ่ายแพ้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

สรุปภาพรวมของเหล่าทีมชาติ

ที่ตกรอบแรก ในศึก AFF SUZUKI CUP 2020 กลุ่ม A

ศึกฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 เดินทางมาถึงมาถึงรอบชิงชนะเลิศเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งตามหน้าสื่อเราอาจทราบถึงสภาพของทีมที่ผ่านเข้ารอบมา แต่ในทางกลับกัน 3 ทีม ที่กลับบ้านไปก่อน ล้วนมีข้อมูลค่อนข้างน้อย ฉะนั้นในบทความนี้ จะพาไปดูสภาพทีมของทั้ง 3 ชาติ จากกลุ่ม A ว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง

ทีมชาติติมอร์ เลสเต

แซมบ้าน้อย คือ ทีมที่ได้บายในรอบคัดเลือก โดยตลอดการเล่น 4 นัด พวกเขาเน้นการตั้งรับเพื่อหวังเก็บ 1 แต้ม แต่ด้วยศักยภาพที่ด้อยกว่าทุกชาติ ทำให้ป้องกันยังไงก็โดน เช่นกันกับการต่อบอลบุกที่ได้แค่โยนยาวแล้ววิ่งวัด นอกจากนี้ในเรื่องสภาพร่างกายก็เป็นอีกจุดที่ทำให้ต้องมีหมุนเวียนนักเตะ ฉะนั้นอย่างได้แปลกใจ ว่าทำไมเกมที่แพ้ ฟิลิปปินส์ ถึงแพ้ยับเยินถึง 7-0 ส่วนเกมที่ดูจะสูสีที่สุด ก็น่าจะเป็นการพบกับ เมียนมาร์ แต่สุดท้ายก็พ่ายไป 0-2  

ทีมชาติเมียนมาร์

ประเทศมีปัญหาการเมืองภายใน จนไม่สามารถแข่งขันฟุตบอลลีกได้ อีกทั้งตัวผู้เล่นหลักก็อารยะขันขืนด้วยการไม่มาเล่นให้ ซึ่งนั่นทำให้ศักยภาพของทีมลดลงแน่นอน สุดท้าย อองตวน เฮย์ ต้องเรียกนักเตะสำรองและหน้าใหม่ในประเทศมาติดทีม ส่วนการเตรียมทีมเหมือนจะดูดี

เพราะมีการบินไปเก็บตัวและอุ่นเครื่องที่ตุรกี แต่พอเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์ เหล่านักเตะสิงห์พุกาม ก็ไม่ได้แข็งแกร่ง หรือมีทีมเวิรค์ มิหนำซ้ำความฟิตก็จัดว่าต่ำ ทำให้การเก็บตัวนานนับแรมเดือนแทบจะไร้ประโยชน์ อีกทั้งตลอด 4 นัด ก็ชนะไปแค่นัดเดียว เหนือ ติมอร์  

ทีมชาติฟิลิปินส์

นักเตะของทีมชุดนี้ เล่นอยู่ในไทยลีกหลายราย อีกทั้งยังมีตัวผสมจากลีกในยุโรป และอยู่ภายใต้การดูแลของ สก็อต คูเปอร์ ทำให้พวกเขากลายเป็นตัวเต็งที่จะเบียดลุ้นเข้ารอบ กระนั้นโปรแกรมการแข่งขันอาจไม่ค่อยเป็นใจให้เท่าไร เพราะนัดแรกต้องเจอกับคู่ขับเคี่ยวโดยตรงอย่าง สิงคโปร์ แล้วดันพ่ายแพ้ อย่างไรเสียการเจอ ติมอร์ และไทย ก็ได้เอื้อประโยชน์ให้พวกเขาเก็บตัวหลักไว้บดกับทัพช้างศึก

ซึ่งมันก็เกือบจะได้ผลกับการได้แต้ม แต่ดันมาเสียจุดโทษและพ่ายแพ้ไป โดยการตกรอบของขุนพลตากาล็อก ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ที่ต้องจบเส้นทางอย่างรวดเร็ว ทั้งๆที่ตัวผู้เล่นมีคุณภาพ แต่หากดูถึงรูปทรงของเกมอย่างละเอียด เกมรุกของพวกเขาไม่หลากหลายพอที่จะสู่กับทีมชั้นนำได้เลย

ติดตามข่าวกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

สรุปภาพรวมของเหล่าทีมชาติ

ที่ตกรอบแรก ในศึก AFF SUZUKI CUP 2020 กลุ่ม B

ศึกฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 การสลากในสาย B ถือได้ว่าเป็นการรวมแหล่งของชาติยักษ์และทีมที่กำลังพุ่งแรงขึ้นมา นั่นจึงทำให้การชิงพื้นที่ 2 อันดับแรก เพื่อไปต่อในรอบรองชนะเลิศ ต้องลุ้นกันจนถึงนัดสุดท้าย ซึ่งในบรรดาทีมที่ต้องกลับบ้านไปก่อน จะเป็นใครและมีสภาพเป็นอย่างไร บทความนี้จะมาอธิบายให้เห็นภาพอย่างละเอียด

ทีมชาติลาว

ขุนพลพันธุ์ข้าวเหนียว ปกติจะเป็นทีมไม้ประดับให้คนอื่นได้ไล่ถล่ม แต่ในหนนี้ดูจะเห็นลู่ทางที่ดีรออยู่ แม้จะถูกจับมาอยู่สายหนักก็ตาม เพราะมีถึง 3 ราย ที่เล่นอยู่ในลีกไทย อีกทั้งยังได้ตัวระดับพรีเมี่ยมอย่าง บิลลี่ เกตุแก้ว พิมพอน กลับมารับใช้แผ่นดินเกิด พร้อมกับตัวเยาวชนที่ทำผลงานได้ดี กระนั้นพอการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น แนวรับของทีม คือ ปัญหาใหญ่ มิหนำซ้ำยังมีประเด็นดราม่าผ่านโซเชียล ระหว่างกัปตันทีมอย่าง สุอาพอน วงเชียงคำ กับ สมาพันธ์ฟุตบอล จนทำให้ 2 นัดสุดท้าย มีการจับดองเจ้าตัวและผลงานของทีมก็รูดลงเหวด้วยความพ่ายแพ้รวด 4 นัด เป็นบ๊วยของกลุ่ม

ทีมชาติกัมพูชา

ปกติ กัมพูชา คือ ชาติที่เป็นของหวานของชาวอาเซียน เพราะเจอเมื่อไร ยังไงก็ถล่มได้สบาย ทำให้การเข้ามาคุมทีมของแข้งจอมพเนจรสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง เคนสึเกะ ฮอนดะ ถูกจับตาว่าจะพาชาติที่ไม่มีเกียรติยศใดๆเกี่ยวกับฟุตบอลไปได้ไกลขนาดไหน ซึ่งในทันทีที่ลงสนาม ขุนพลแดนหมื่นปราสาทก็ได้โชว์ให้เห็นการเล่นที่เป็นระบบระเบียบและมีสภาพจิตใจที่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ตามแบบฉบับญี่ปุ่นสไตล์ กระนั้นหากพูดถึง สปีดบอล ทักษะขั้นพื้นฐาน และความฟิตในการวิ่งเพรสซิ่ง มันยังไม่พัฒนาไปมากเท่าที่ควร ทำให้ในการแข่งขันครั้งนี้ พวกเขาชนะไป 1 นัด จากการชนะลาว 0-3 ส่วนนัดที่ประทับใจก็มีให้เห็น อาทิ นัดที่แพ้ อินโดนีเซีย 2-4  

ทีมชาติมาเลเซีย

ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น พวกเขาได้ตั้งเป้าถึงการคว้าแชมป์ เพราะในการแข่งขันหนก่อน หรือก่อนหน้านั้น พวกเขามักเข้าถึงรอบชิงอยู่เรื่อยๆ แต่จากปัญหาการเรียกตัวนักฟุตบอล การแพร่ระบาดโควิด-19 ในทีม และการทำทีมของ ตัน เชง โฮ ที่เมื่อหมดมุกเมื่อไร ก็ใช้การสาดโด่งโต้งๆอย่างเดียว หรือการจัดตัวที่ขัดใจแฟนบอลอยู่เนืองๆ ซึ่งสาเหตุทั้งหมดทั้งมวลนี้ได้ผสมปนเปกัน กระทั่งทำให้ฮารีเมามาลายาต้องตกขบวนและตกรอบแรกไป

ติดตามข่าวกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ตัดเกรดผู้เล่นทีมชาติเวียดนาม

ในเกมประเดิมทัพพ่ายของ พาร์ค ต่อ ไทย 0-2 นัดแรก

ศึกฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ทีมชาติเวียดนาม ที่เป็นเต็งแชมป์ แต่ดันเข้ารอบมาเป็นที่ 2 ของกลุ่ม B เพราะประตูได้เสียแพ้ ทีมชาติอินโดนีเซีย นั่นจึงทำให้ขุนพลดาวทอง ต้องโคจรมาพบกับคู่ปรับสำคัญอย่าง ไทย ตั้งแต่รอบนี้ กระนั้นความผิดพลาดในช่วงต้นเกม ได้ส่งผลให้ลูกทีมของ พาร์ค ฮัง-ซอ ต้องพ่ายแพ้ 0-2 แล้วต้องไปลุ้นเหนื่อยในนัดที่ 2 โดยผู้เล่นที่ลงสนามในเกมนี้ ใครจะได้เกรดเท่าไรบ้าง นับจากนี้เราจะได้ทราบกัน

ตรัน เหงียน มานห์ (7 คะแนน)

      2 ประตู ที่เสียไป ถือว่าสุดวิสัยและทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังแล้ว นอกจากนี้ยังไม่หลงและเซฟลูกโทษของ ชนาธิป ไม่ให้ทีมเสียเปรียบไปมากกว่านี้  

โด ดุย มานห์ (6 คะแนน)

      ยืนปักหลักช่วยทีมไว้ได้หลายครั้ง แต่ก็มีหลายจังหวะที่เข้าหนัก รวมถึงเข้าพรวดจนทีมเสียจุดโทษ ก่อนที่สุดท้ายจะเจ็บไหล่และต้องเปลี่ยนตัวออกไป  

เกว ง็อค ไฮ (6 คะแนน)

       เป็นกองหลังที่ใช้การเล่นหนักและนอกเกมบ่อย กระนั้นยังโชคดีที่ไม่โดนไม่แม้แต่ใบเหลือง

เหงียน ธานห์ ชุง (7 คะแนน)

      เล่นได้ดีและเก็บเกมริมเส้นในแดนลึกของไทยได้อยู่หมัด   

วู วาน ธานห์ (5 คะแนน)

      โดน ธีราทร เผาหลายหน แล้วเมื่อไรที่แย่งบอลไม่ได้ ก็จะใช้การเตะตัดฟาวล์หนักๆเข้าใส่

เหงียน ฮวง ดึค (7 คะแนน)

พลังหนุ่มของเจ้าตัว พยายามอย่างถึงที่สุดที่จะช่วยดันเกมบุก แต่มันก็ไม่มากพอที่จะเปลี่ยนเกมได้    

เหงียน ตวน อันห์ (6 คะแนน)

      ความเก๋ามิอาจช่วยทีมได้มากนัก เพราะเมื่อเจอการจ่ายบอลที่รวดเร็วของไทย หลายหนก็เลือกที่จะตัดเกมด้วยการฟาวล์หนักๆ สุดท้ายถูกเปลี่ยนตัวออกอย่างรวดเร็ว เพราะทีมต้องการเติมแนวรุก  

 เหงียน ฟง ฮง ดุย (5 คะแนน)

       บอลไหลมาแบบไม่อะไร แต่เจ้าตัวดันลื่นจนบอลลอดขาและเสียประตู ซึ่งความผิดพลาดในครั้งนี้ ได้ส่งผลให้รูปเกมต้องเปลี่ยนไป จนสุดท้ายทีมต้องพ่ายแพ้

 เหงียน กวง ไฮ (8 คะแนน)

      ฟอร์มโดดเด่นที่สุดในทีม แต่วันนี้ไม่ใช่วันของแนวรุกจาก ฮานอย เอฟซี อย่างแท้จริง เพราะการยิงไกลที่เป็นจุดเด่น โดนทั้งเสาและคาน รวมถึงการแทงบอลให้เพื่อนก็มีโอกาสได้จบหลายหน แต่เพื่อนดันยิงไม่เข้า   

เหงียน คอง เฟือง (5 คะแนน)

      ศูนย์หน้าจาก ฮองอันห์ ยาลาย เงียบและโชว์ฟอร์มไม่ออกเลย เพราะเมื่อไรที่ได้จับบอล ก็จะถูกแนวรับของไทยเข้าประชิดตัวอย่างน้อย 1-2 คน สุดท้ายโดนเปลี่ยนตัวออกกลางครึ่งหลัง 

 เหงียน วาน ตวน (5 คะแนน)

      ถูก กฤษดา ลักพาตัวไปจากเกม กระทั่งมาเห็นหน้าอีกที คือ ถูกถอดออกในช่วงพักครึ่ง

เงวียน เตี๋ยน ลิญ (5 คะแนน)

      ได้บอลน้อย ส่วนโอกายิงเหน่งๆมี 1 ครั้ง จากการจ่ายแทงของ กวง ไฮ แต่เจ้าตัวดันยิงบดและเบาจนหลุดเสาไกลออกไป

ฟาน วัน ดิ๊ก (6 คะแนน)

      ลงมาแล้วขับเคลื่อนเกมแดนกลางดี แต่ไม่โดดเด่นนัก

ห่าน ดิ๊ก จิง (5 คะแนน)

      ลงมาแล้วก็เงียบไม่ต่างไม่กับตัวที่ออกไปอย่าง คอง เฟือง

โฮ เติ๊น ต๋าย  และ ฝั่ม ซวน หมั่ญ (ไม่มีคะแนน)

      ทั้ง 2 ราย ลงมาเพื่อเติมความสด และทดแทนตัวที่เจ็บช่วงท้ายเกม ซึ่งการสัมผัสบอลไม่กี่ครั้ง ทำให้ไม่มีคะแนน  

ติดตามข่าวกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : รวมพลคนบันเทิง

Categories
ข่าวกีฬา

ทีมชาติมาเลเซีย

ความล้มเหลวของทีมชาติมาเลเซีย อยู่ที่ตรงไหน ?

การแข่งขันฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 เสร็จสิ้นการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่มไปเป็นที่เรียบร้อย โดยการเบียดแย่งกันเข้ารอบของสาย B ทีมชาติอินโดนี การแข่งขันฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 เสร็จสิ้นการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่มไปเป็นที่เรียบร้อย โดยการเบียดแย่งกันเข้ารอบของสาย B ทีมชาติอินโดนีเซีย เซีย และ ทีมชาติเวียดนาม คือ 2 ชาติ ที่ได้ไปต่อ ส่วนยักษ์ใหญ่ที่โชคร้ายอย่าง ทีมชาติมาเลเซีย ต้องตกรอบ ทั้งๆที่ตอนแรกวางเป้าหมายไว้ถึงแชมป์ กระนั้นอะไรเป็นสาเหตุให้ ฮารีเมามาลายา ต้องจบเส้นทางอย่างรวดเร็ว บทความนี้จะพาไปวิเคราะห์กัน   

โปรแกรมฟุตบอลในประเทศ

      โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลลีก เสร็จสิ้นไปแล้ว แต่ในเกมนัดชิงฟุตบอลถ้วยระหว่าง สมาคมดันเคลียร์กับฝ่ายจัดไม่ลงตัว ทำให้ตัวผู้เล่นจาก ยะโฮร์ ดารูทักซิม ต้องเข้าแคมป์ช้ากว่าเพื่อน ซึ่งตรงจุดนี้ ตัน เชง โฮ เลือกที่จะเรียกนักเตะที่ไม่มีภารกิจกับสโมสรมาเข้าแคมป์ทีมชาติก่อน ส่วนนักเตะจากพยัคฆ์แดนใต้ ก็เลือกเฉพาะรายที่ร่างกายยังสดๆเท่านั้น อีกทั้งยังเลือกนักเตะมาไม่ครบ 30 คน ตามโควต้าอีกด้วย  

นักเตะถอนตัว – ติดโควิด

      การเรียกนักเตะเข้าสู่แคม์ทีมชาติ มีหลายรายที่ขอถอนตัว ซึ่งมันอาจจะไม่ใช่ปัญหาที่จะอ้างได้ เพราะชาติอื่นๆก็ประสบปัญหานี้ แต่ที่ดูจะหนักหนาสาหัส คือ การเสียผู้เล่นจากการติดเชื้อโควิด-19 อีกทั้งมันดันมาประจวบเหมาะกับเกมสำคัญที่จะต้องพบกับ เวียดนาม ซึ่งสุดท้ายก็ตามสภาพ คือ แพ้ไป 0-3  

การทำทีมของโค้ช

      การเข้ามาทำทีมชาติมาเลเซียชุดใหญ่ ของ ตัน เชง โฮ เกียรติยศสูงสุด คือ การคว้ารองแชมป์ SUZUKI CUP 2018 อย่างไรเสียหากดูจากทรงบอลที่ทำมาตลอด 4 ปี มันไม่เห็นถึงทีมเวิรค์ หรือทรงบอลที่จะต่อยอดได้ โดยอย่างที่แข่งขันไปล่าสุด มันก็มีเพียงการโจมตีจากปีก แล้วเมื่อไรที่หมดมุกและคิดอะไรไม่ออก ก็จะโยนยาว ฉะนั้นหากให้อยู่คุมทีมต่อ มันคงจะไม่มีอะไรที่ดีกว่าที่เห็น นอกจากนี้การเปลี่ยนตัวและการเลือกตัวผู้เล่นมาติดทีมในทัวร์นาเมนต์นี้ แฟนบอลฮามารีเมามาลายาก็ได้ตั้งคำถามไว้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเรียกตัวนักเตะจากยะโฮร์ ซึ่งแม้จะรู้ดีว่านักเตะอาจมีสภาพร่างกายที่อ่อนล้า แต่ก็อย่าลืมว่านัดแรกและนัดที่สอง พวกเขาเจอของเบาอย่าง ลาว และ กัมพูชา ฉะนั้นตัวหลักสามารถเก็บไว้บดใส่ เวียดนาม และ อินโดนีเซีย ในนัดที่ 3-4 ได้ ฉะนั้นการตัดสินของโค้ชจึงผิดพลาด

      นับจากนี้สมาคมฟุตบอล จะทำการประเมินผลงานแบบองค์รวมของทีมชาติ และการทำงานของ ตัน เชง โฮ ซึ่งมันควรออกมาในหน้าของการปรับเปลี่ยนตำแหน่งหัวหน้าโค้ช เพราะหากสอดส่องชาติอื่นๆ ที่ศักยภาพใกล้เคียงกันอย่าง เวียดนาม หรือ อินโดนีเซีย การดึงโค้ชที่มีศักยภาพสูงช่วยแก้วิกฤตได้ พร้อมกับแปรเปลี่ยนให้ทีมมีทรงและผลงานดีขึ้น ฉะนั้นหาก มาเลเซีย อยากหาลู่ทางกลับมาเป็นเสือแห่งอาเซียน โมเดลที่ว่ามาก็นับเป็นเวย์ที่น่าสนใจสำหรับการลอกเลียนแบบ

ติดตามข่าวกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่  livethaileague.com

FB : รวมพลคนบันเทิง