Categories
ข่าวกีฬา

“1 ประตูก็ 3 แต้ม”

เชียงราย พอเพียง ยิงเฉือน เทโร จากจุดโทษ 1-0 ประเดิมซีซั่น

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดเปิดฤดูกาล 2022/23 ณ สนามลีโอเชียงราย ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ฤดูกาลก่อนผลงานไม่ค่อยดี กระทั่งทำอันดับได้แค่กลางตาราง จะต้องพบกับ โปลิศ เทโร เอฟซี ที่ปีก่อนหนีตายสำเร็จก่อนปิดซีซั่น สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-4-3 ส่วนทีมเยือนเป็น 4-4-2

      ในช่วงต้นเกม ลีโอ เชียงราย เพรสซิ่งสูงใส่ผู้มาเยือน แล้วดักบอลเอามาจู่โจมได้ดี ซึ่งการเล่นในลักษณะนี้ได้นำพาให้เจ้าถิ่นนำ 1-0 จากตัดบอลและเลือกตัดฟาวล์ ทำให้กลายเป็นจุดโทษและ วิคเตอร์ สังหารไม่พลาด จากนั้นกว่างโซ้งมหาภัยเล่นตามสูตรของตัวเอง คือ ถอยไปรับและรอโต้กลับ ส่วนทางฝั่ง โปลิศ เทโร ช่วงต้นเกมพวกเขาออกบอลไม่พ้นแดนตัวเอง แถมเสียบอลหน้าบ้านถี่มาก ก่อนจะเสียประตูและรูปเกมเข้าทางเจ้าบ้าน ทำให้ต้องอาศัยการต่อบอลเร็ว แต่ก็ต้องระวังเพราะแนวรุกเจ้าถิ่นมีความชำนาญในการโต้กลับ สุดท้ายการโยนและยิงไกลต้องถูกงัดขึ้นมาใช้  

ครึ่งหลังเป็น เชียงราย ที่คุมเกมไว้ได้อยู่หมัด ผ่านการตั้งรับที่หนาแน่นและปล่อยให้ โปลิศ เทโร ต่อบอลบุกเข้าใส่ แล้วเมื่อไรที่ได้บอลก็จะสวนกลับแบบสุดทาง ซึ่งน่าได้ประตูเพิ่มถ้าเฉียบคมกว่านี้ ส่วนทางฝั่งมังกรโล่เงิน พาบอลเข้าพื้นที่เขตโทษไม่ได้เลย หรือต่อให้เข้าไปได้ก็แค่หันหลังให้ประตู กระทั่งการยิงไกล คือ ท่าไม้ตายสุดท้าย แต่ก็ไม่มีความใกล้เคียงที่จะเป็นประตู 

บทสรุปจากเกม ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ใช้การเพรสซิ่งสูงใส่เพื่อให้ได้บอลกลับมาครอง ซึ่งการเล่นลักษณะนี้ช่วยให้พวกเขาขึ้นนำอย่างรวดเร็ว ทำให้หลังจากนั้นสามารถถอยไปตั้งรับและรอโต้กลับตามถนัด กระนั้นมันน่าเสียดายที่พวกเขามีโอกาสแล้วไม่ได้ประตูเพิ่ม ส่วนทางฝั่งโปลิศ เทโร เอฟซี การเล่นที่ผิดพลาดในช่วงต้น ได้กลายเป็นปัจจัยให้พวกเขาต้องเสียประตู

ซึ่งนี่เป็นโจทย์ที่ไม่ควรพลาดถ้าต้องเล่นกับเชียงราย ทำให้เมื่อโดนยิงนำไปแล้ว การจะทวงคืนเป็นได้ยาก เพราะเจ้าบ้านมีความเชี่ยวชาญในการเล่นแบบเขี้ยวลากดิน ในขณะที่ตัวเองไม่ได้มีศักยภาพมากมายที่จะไปขึงบุกใส่ใคร สุดท้ายกลายเป็นพวกเขาบุกเท่าไรก็ไม่สามารถทำอันตรายได้ เพราะแนวรับเจ้าถิ่นยืนอัดแน่นเต็มพื้นที่กรอบเขตโทษ

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ฟรีคลิกปลิดงานฉลอง”

เชียงราย แสบทรวง ตีเจ๊า บุรีรัมย์ 1-1 ล้มงานฉลองแชมป์ในบ้าน

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 28 ณ สนามช้างอารีน่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่จะต้องลงเล่นในรังเหย้านัดสุดท้ายของฤดูกาล กับ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด โดยเกมการแข่งขันนัดนี้มีความหมายต่อขุนพลปราสาทสายฟ้าอย่างยิ่ง เพราะหากคว้าชัยชนะนัดนี้ได้ ก็จะการันตีการแชมป์และรับถ้วยต่อหน้าแฟนบอลของตัวเอง สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-3-3 ส่วนทีมเยือนปรับมายืนหลัง 4 ในระบบ 4-4-2

ตลอด 45 นาทีแรก บุรีรัมย์ ครองเกมได้เหนือกว่าทุกเหลี่ยมมุม โดยเฉพาะฝั่งซ้ายที่โดดเด่นกว่าการเจาะจากกลางสนามและฝั่งขวา เพราะมี ธีราทร เป็นตัวเคลื่อนบอล อีกทั้งการขยับหาตำแหน่งและรับส่งบอลก็รวดเร็วจนสามารถเจาะพื้นที่อันตรายอยู่เรื่อยๆ กระนั้นปัญหาเดิมเหมือนจะตามหลอกหลอน กับการยิงประตูที่ออกอาการเกร็ง ส่วนทางฝั่ง ลีโอ เชียงราย เหมือนคนยืนพิงเชือกตลอดเวลา เพราะได้แต่เล่นเกมรับ แถมยังเสียบอลหน้าบ้านตัวเองแบบง่ายๆ มิหนำยังไม่สามารถออกบอลให้พ้นแดนตัวเองได้ กระทั่งต้องใช้การโยนยาวถึงจะมีโอกาสได้ลุ้นบ้างแบบนานๆครั้ง

ครึ่งหลัง บุรีรัมย์ เดินหน้าบุกเหมือนเดิม แล้วมาได้ประตูนำ 1-0 จากจุดโทษที่น่ากังขา เพราะการสัมผัสตัวของกองหลังทีมเยือน มันค่อนข้างเบา อีกทั้งการให้ใบแดงก็ดูจะเกินกว่าเหตุ ส่วนจังหวะยิงจุดโทษ ศุภโชค ยิงเกือบไม่เข้า ซึ่งมันก็สื่อให้เห็นว่าขุนพลปราสาทสายฟ้ามีความเกร็งแบบหนักหน่วงจริงๆ จากนั้นเจ้าถิ่นเริ่มเบาเกมบุกลงและเน้นการเก็บบอลให้แน่นอนขึ้น กลับกันทางฝั่ง ลีโอ เชียงราย พยายามจะเปลี่ยนตัวและแท็กติกเพื่อเล่นเกมบุก แต่จากภาพที่ออกมามันไม่มีแม้แต่รูปแบบการเข้าให้เห็นเลย จะมีเพียงการวิ่งเติมของตัวผู้เล่นที่ดูจะเด่นชัดขึ้น กระนั้นในช่วงท้ายเกมราวนาทีที่ 85 กว่างโซ้งมาได้ฟรีคลิกทางมุมซ้าย แล้ว เก็ทเดอร์สัน ปั่นโค้งเสียบเสาไกลในชนิดที่ ศิวรักษ์ พุ่งอย่างไรก็ไปไม่ถึง ตีเสมอเป็น 1-1 พร้อมกับจบเกมด้วยสกอร์นี้

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังมีความเกร็งให้เห็นแบบต่อเนื่อง แต่รูปเกมเหนือกว่าและได้ประตู จนเวลาผ่านไปเรื่อยๆก็เหมือนจะไม่มีปัญหา กระนั้นในเมื่อสกอร์ยังไม่ขาดและนำแค่ลูกเดียว มันก็มีโอกาสถูกตีเสมอจากลูกยิงผีจับยัดได้ ซึ่งมันก็เกิดขึ้นและขุนพลปราสาทสายฟ้าต้องยอมรับที่ตัวเองเลือกจะเล่นแบบนี้เอง ขณะที่ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด การคว้า 1 แต้ม คือดวงมหาเฮง เพราะรูปเกมสู้ไม่ได้ มีความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆหน้าบ้านตามเอง แต่การยิงเข้ากรอบไม่กี่ครั้งดันเป็นประตู

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

เชียงราย ตาม 2 หน แต่ได้โทษพลิกดับโคราช 3-2

ตาม 2 หน แต่พลิกชนะ” เชียงราย ตาม 2 หน แต่ได้โทษพลิกดับโคราช 3-2 แบบสุดดราม่า

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 2 ของฤดูกาล ในส่วนนี้จะพาไปดูเกมที่สิงห์ สเตเดี้ยม สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ในฐานะเจ้าบ้านและมีแฟนบอลเข้ามา 25 % ของความจุ รับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ในนัดแรกโดนน้องใหม่เผาเครื่องมา สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านเปลี่ยนมาใช้ระบบ 3-5-2 ขณะที่ทีมเยือนก็ปรับมาเป็น 4-3-3

          ในช่วงต้นเกม เชียงรายมีปัญหากับการต่อบอลจากหลังสู่กลาง ที่ค่อนข้างช้าและไม่แม่นยำ ทำให้หลายครั้งต้องสาดยาวไปข้างหน้า โดยเมื่อบอลอยู่ในแดนคู่แข่ง แนวรุกของกว่างโซ้งมหาภัยจะต่อบอลได้อย่างไหลลื่น แล้วเมื่อไรที่จังหวะได้และช่องเปิดก็ยิงทันที อย่างไรเสียด้วยความผิดพลาดของการเสียบอลหน้าบ้านและการป้องกันที่ยังดูไม่เข้าที่ ก็มีผลให้ นครราชสีมา ลงโทษด้วยประตูขึ้นนำ 0-1  จากนั้นโคราช เหมือนจะถอนคันเร่ง เพราะแทบจะไม่มีโอกาสบุกอีกเลย

เพราะในอีก 30 นาทีกว่าๆที่เหลือ เจ้าบ้านอย่างเชียงราย ครอบครองไว้ฝ่ายเดียว ขาดเพียงความเฉียบคมที่ยิงทิ้งทิ้งขว้างไป กระนั้นในช่วงท้ายครึ่งแรกก็มาได้จุดโทษและลูกตีเสมอ 1-1 จากความผิดพลาดของผู้รักษาประตูอย่าง ธณชัย หนูราช ที่ออกมาป้องกันแล้วดันเอามือไปรวบขา เอกนิษฐ์ แต่อย่างไรเสีย เจ้าบ้านดีใจได้ดีนาทีเดียว เพราะทันทีที่โคราชเขี่ยบอล ก็สามารถพาบอลมาถึงหน้าบ้านคู่แข่งแล้วจบสกอร์ตุงตาข่าย ทำให้การตีเสมอของเชียงราย เมื่อสักครู่ แทบจะไร้ผล      

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

เกมในครึ่งหลัง โคราช ถอนตัวไปรับแน่น แต่เมื่อนานๆเข้ามันเสมือนกับการรอโดนยิง เพราะผู้เล่นของสวาทแคท ไล่แต่บอลจนเสียพลังงาน โดยไม่สามารถเอาบอลมาครองเพื่อฆ่าเวลาหรือพักหายใจได้ อีกทั้งการไม่เพรสซิ่งแดนบนก็ยิ่งทำให้การโจมตีเข้ามาถึงแดน 3-4 ได้เร็ว สุดท้ายจังหวะบอลที่แฉลบมาเข้าทาง ศิวกร ก็กลายเป็นประตู 2-2

ซึ่งในเวลาที่เหลือน้อยนิด ลูกทีมของโค้ชโจพยายามจะบุกบ้าง แต่มันก็สายเกินไป เพราะการถอนคันเร่งไปเป็นเวลานาน มันมีผลให้จังหวะการเข้าทำขาดความปะติดปะต่อ แล้วในช่วงทดเวลาก็ยังมาโชคร้ายเสียจุดโทษและเป็นระตูพลิกแซงของ เชียงราย 3-2

          ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด มีปัญหาให้เห็นในเกมรับ ได้แก่ การยืนตำแหน่งที่ดี การตามประคู่แข่ง รวมถึงการขึ้นบอลที่เสียง่ายเกินไป ส่วนเกมรุกแม้จะยิงได้ถึง 3 ประตู แต่ก็ยังปรากฏภาพของการจบสกอร์เหน่งๆที่พลาดเป้า ขณะที่ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ออกสตาร์ทเกมนี้ได้ดี แต่การถอนคันเร่งทุกครั้งที่นำ มันต้องมีแผนที่รัดกุมกว่านี้ เพราะจากภาพที่เห็นจากเกมนี้ เมื่อไรที่โดนกดนานๆก็จะเริ่มยวบลงและเสียประตู    

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

ติดตามข่าวสารใหม่ได้ที่ livethaileague.com