Categories
ข่าวกีฬา

แมวซ่าโดนขยี้

ทำซ่ายิง 2 เม็ด ก่อนโดน บีจี ปทุม ยูไนเต็ด รัวยับ

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 ในโปรแกรมวันเสาร์ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่พึ่งมีการเปลี่ยนแปลงโค้ช จนสามารถกลับมาคว้าชัยชนะได้อีกครั้ง วันนี้จะเปิดรังปทุมธานี สเตเดี้ยม รับทีมฟอร์มแรงอย่าง นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-2-3-1 ส่วนทีมเยือนใช้ระบบ 4-1-4-1

      ในช่วง 30 นาทีแรก รูปเกมดูตื้อและเงียบทั้ง 2 ทีม เพราะไม่มีฝั่งไหนครองบอลได้อย่างต่อเนื่อง จนในนาทีที่ 33 ชาร์ลี คลัฟ จัดการโขกบอลให้ นครราชสีมา นำ 0-1 ซึ่งเจ้าตัวยืนเป็นตัวสุดท้ายที่เสาไกลและแนวรับเจ้าบ้านไม่เข้าไปประกบใกล้ๆ นั่นจึงทำให้ บีจี ปทุม พยายามจะต่อบอลเข้าไปในแดนคู่แข่ง แต่การเคลื่อนที่ของบอลและคนค่อนข้างช้า ทำให้แนวรับโคราชเข้าถึงตัวเร็ว

ครึ่งหลังเริ่มมาได้ 7 นาที เจ้าถิ่นสกัดบอลไม่ดี ทำให้  โคราช ได้ยิงจ่อๆเป็น 0-2 อย่างไรเสียไล่หลังเพียง 5 นาที การลากบอลของ สเตนีโอ ไปให้ ธีรศิลป์ พลิกจ่าย สุรชาติ ได้วิ่งเข้ามาซัดให้ บีจี ปทุม ไล่มา 1-2 จากนั้นรูปเกมก็ยังทรงๆ

กระทั่งจังหวะเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อ โคราช มีสวนกลับขึ้นมา แต่ไม่ได้ประตูเพราะบอลไปชนเสา กลับกัน บีจี ปทุม สามารถทำประตูตีเสมอ 2-2 ได้ ในนาทีที่ 72 และในนาทีที่ 73 แนวรับทีมเยือนสติหลุดจนโดนยิงแซง 3-2 ขณะที่ประตู 4-2 เป็นการจ่ายบอลพลาดของทีมเยือน แล้ว บีจี ปทุม หลุดเข้าไปยิง กระทั่งช่วงทดเวลาการวางบอลยาวขึ้นมา สารัช ได้ยิงเต็มข้อปิดกล่อง 5-2   

      บทสรุปจากเกม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด มีรูปเกมที่ไม่ดีในครึ่งแรก เพราะการครองบอลไม่ต่อเนื่อง หรือต่อให้ครองบอลได้นาน การเคลื่อนที่ของบอลก็เชื่องช้า แถมเกมรับมีความผิดพลาดอีก กระนั้นก็ต้องกล่วว่าที่กลับมาได้ ก็เป็นเพราะจังหวะฝีมือของผู้เล่นตัวเก๋า ผสมกับจังหวะที่เข้าทางและคู่แข่งสมาธิหลุด ส่วนทางฝั่ง นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี การเล่นลูกตั้งเตะดูจะเป็นจุดเด่น

เพราะสามารถทำประตูจากเตะมุมได้หลายนัดในช่วงหลัง ขณะที่เกมสวนกลับ และการฉกฉวยความผิดพลาดจากคู่แข่งก็ทำได้ดี แต่จุดเปลี่ยนของเกมนี้คือ การไม่ได้ประตูนำ 1-3 ซึ่งจังหวะนั้นชนเสา แล้วหลังจากนั้นกลายเป็นเสียสมาธิและสกอร์ไหลอย่างที่เห็น ฉะนั้นในเรื่องของสมาธิ ถือเป็นตัวแปรที่ทำให้สวาทแคทแพ้ยับ ไม่ใช่รูปเกมไม่ดีหรือสู้ไม่ได้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

หยุดฝันแชมป์ไร้พ่าย

โมต้า ตัวแสบ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ยิงเฉือน บุรีรัมย์

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 25 ณ สนามทรู สเตเดี้ยม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่รั้งอันดับ 2 ของตาราง จะต้องพบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่นำเป็นจ่าฝูง อีกทั้งวันนี้จะการันตีแชมป์แบบ 100% หากบุกมาคว้าชัยชนะเหนือแข้งเทพได้ ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ต่างมาในระบบ 4-2-3-1 เหมือนกัน  

      ทรู แบงค็อก ครองบอลได้เหนียวและต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถพาเข้าไปในแดน 3-4 ได้ แล้วเพียงแค่นาทีที่ 11 พวกเขาเสียบอลกลางทางให้ บุรีรัมย์ ที่แม้จะสวนเร็วไม่ได้ เพราะมีแนวรับเจ้าบ้านยืนประคองอยู่ แต่ ศุภชัย ตัดสินใจยิงไกลเสียบหน้าต่างมุมบนให้ทีมเยือนนำ 0-1 จากนั้น บียู พยายามเดินเกมรุก ด้วยการวางบอลยาวไปยังบริเวณริมเส้นและเล่นจังหวะเดียว จนโอกาสใกล้เคียงเริ่มปรากฏ

กระนั้นในนาทีที่ 32 จังหวะบอลที่ไม่มีอะไร แนวรับ บียู จ่ายคืนเบาเกินไป ทำให้ ศุภชัย ที่อ่านจังหวะอยู่ วิ่งสปีดขึ้นบอลฉกและยิงทิ้งห่างให้ บุรีรัมย์ นำเป็น 0-2 อย่างไรเสียไล่หลังเพียง 2 นาที แข้งเทพมาได้ประตูตีตื้น 1-2 จากจังหวะจ่ายเลียดทางด้านข้าง โดยระยะที่มันจ่อประตูมาก มันมีผลให้ รัตนากร สกัดเข้าประตูตัวเองไป

ช่วง 15 นาทีแรกของครึ่งหลัง รูปเกมของ บียู ไม่สามารถโจมตีใส่ผู้มาเยือนได้ กระทั่งหลังจากช่วงเวลาดังกล่าว การวางบอลเปลี่ยนแกนและเปิดไปหน้าประตู เพื่อให้ตัวด้านในจบสกอร์ มันมีโอกาสเหน่งๆหลายครั้ง กระทั่งในนาทีที่ 65 ได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากการลากบอลชายเดี่ยวของ วานเดอร์ แล้วจ่ายแทงเฉียงไปทางขวาเพื่อเปิดไปหน้าประตูให้เพื่อนเข้าชาร์ต

จากนั้นรูปเกมเป็นของ บียู และนาทีที่ 77 มาได้ประตูแซงนำ 3-2 จากเตะมุมที่ โมต้า วิ่งฉีกไปโหม่งที่เสาแรก กระนั้น บุรีรัมย์ ไม่ยอมแพ้และมายิงตีเสมอ 3-3 ในนาทีที่ 81 จากความผิดพลาดของ เอฟเวอร์ตัน ที่โหม่งพลาด ทำให้ เคาซิช ได้ยิงแบบเต็มข้อ นั่นจึงทำให้เกมน่าจะจบแบบแบ่งแต้ม แต่ในช่วงวินาทีสุดท้ายของเกม บียู เก็บบอลและโต้กลับอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ โมต้า จะยิงแบบเฉือนๆจนบอลชนเสาและกระเด้งเข้าประตูไป ทำให้เกมจบด้วยชัยชนะของแข้งเทพ 4-3

บทสรุปจากเกม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เสียทั้ง 3 ประตู จากความผิดพลาดของตัวเองแบบล้วนๆ แต่มันชดเชยด้วยการยิงประตูที่มากกว่า คือ 4 ลูก ฉะนั้นการคว้า 3 แต้มใหญ่ในวันนี้ อาจจะดูน่ายินดี แต่ปัญหาเดิมๆก็ยังคงมีอยู่ ส่วนทางฝั่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รูปเกมเป็นรองเจ้าบ้าน

แต่มีความเฉียบคมและฉกฉวยความผิดพลาดของคู่แข่งได้หมด กระนั้นเกมรับก็มีรูรั่วให้เห็นอยู่ โดยการเสียประตูทั้ง 4 ลูก ล้วนมาจากการยืนตำแหน่งป้องกันที่ไม่แนบชิด ฉะนั้นต่อให้เป็นแชมป์ในฤดูกาลนี้ ปราสาทสายฟ้าก็ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุง

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ที่ผ่านมาคือ..

ขอนแก่น ฟอร์มหลุด พ่าย พีที ประจวบ เอฟซี

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 25 ในโปรแกรมวันเสาร์ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่ผลงานดีและอยู่มีแต้มเหนือโซนแดง จะต้องเปิดรัง อบจ. ขอนแก่น รับ พีที ประจวบ เอฟซี ที่ตอนนี้ฟอร์มดรอปจนอันดับลงมาอยู่ในโซนแดงแล้ว ฉะนั้น 3 แต้มของเกมนี้ ถือว่ามีความหมายต่อทั้ง 2 ทีม สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-4-2  ส่วนทีมเยือนปรับมาเล่น 3-4-3

      ในช่วงต้นเกม ทั้ง 2 ทีมต่างเล่นแบบระมัดระวัง แต่เมื่อเล่นไปเรื่อยๆ พีที ประจวบ เริ่มจะดีกว่าเมื่อโจมตีทางด้านข้าง แม้บอลที่ป้อนเข้าไปจะไม่พอดีกับกองหน้า จนในนาทีที่ 22 ประจวบ มาได้ประตูออกนำ 0-1 จากการขึ้นบอลหลังบ้าน

แล้วเมื่อถึงกลางสนาม คาราบูเอ้ เลี้ยงประวิงเวลาแล้วให้ โรซ่า ที่หลุดกักดักล้ำหน้า พาบอลเข้าไปล่อตาข่าย ซึ่งในจังหวะนี้ แนวรับเจ้าบ้านผิดพลาดในการยืนตำแหน่งป้องกัน จากนั้น ขอนแก่น พยายามจะตั้งเกมของตัวเองให้ได้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ กลับกันกลายเป็นต่อพิฆาต ที่สวนขึ้นมาและได้ประตูทิ้งห่าง 0-2 ในนาทีที่ 41 จากการวางบอลไปที่ริมเส้นฝั่งซ้ายให้ คาราบูเอ้ เปิดบอลใส่เท้า โรซ่า ชาร์ตหน้าประตู

ครึ่งหลังเริ่มได้ 2 นาที ประจวบ ได้ประตูเพิ่ม 0-3 จากการสวนกลับและจ่ายบอลขึ้นมาตามทาง โดยจังหวะนี้ต้องบอกว่ามีโชค เพราะการจับบอลของ ธนาสิทธิ์ เหมือนจะไม่ดีแล้ว

แต่เหลี่ยมบอลไปเข้าทาง จักรกฤษ ซัดเปรี้ยงเดียวหาย จากนั้น ขอนแก่น เลือกจะโหมบุกให้มากขึ้น แต่ยิ่งบุกก็ยิ่งเสียบอล แถมโดนโต้กลับจนต้องลงมาป้องกันเพื่อไม่ให้โดนยิงเพิ่ม ขณะที่ต่อพิฆาต การสวนกลับแต่ละครั้งมีโอกาสเหน่งๆหลายหน แต่พวกเขายิงทิ้งขว้าง ทำให้สกอร์สุดท้ายคงที่ 0-3

บทสรุปจากเกม ขอนแก่น ยูไนเต็ด ถือว่าผิดฟอร์มอย่างมาก ไล่ตั้งแต่เกมรุกที่จ่ายยังไงก็ติด จนกองหน้าแทบจะไม่มีโอกาสได้ยิงประตู แต่ที่ดูเหมือนจะหนักหนากว่าคือเกมรับ เพราะเมื่อไรที่ต้องเจอเกมโต้กลับ การยืนตำแหน่งผิดพลาดและมีช่องให้คู่แข่งโจมตีแบบสบายๆ กระทั่งเป็นที่มาของการเสียประตูทั้ง 3 ลูก ส่วนทางฝั่ง พีที ประจวบ เอฟซี เกมรุกเล่นกับไลน์ดักล้ำหน้าได้ดีและมีตัวหลอก

ทำให้การวิ่งทะลุขึ้นไปมีช่องและโอกาสจบสกอร์ จนสุดท้ายเป็นที่มาของ 2 ประตูแรก ยกเว้นประตูที่ 3 ที่การสวนกลับทำได้ดี แต่จังหวะฟุตบอลก็เป็นใจให้เช่นกัน ขณะที่เกมรับแทบจะไม่เจองานหนัก กระนั้นการจบสกอร์ยังต้องปรับปรุง เพระการยิง 3 ประตู มันดูน้อยไปเลย เมื่อดูจากโอกาสในครึ่งหลังที่น่าได้สุดๆ 2-3 ครั้ง ซึ่งสกอร์สามารถไหลไปถึง 0-5 หรือ 0-6 ได้ หากยิงได้เฉียบคมกว่านี้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

แมต์ชะตาขาด

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ปลดแมตต์ เซ่นเปิดรังพ่าย บียู 0-1 

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 24 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามปทุมธานี สเตเดี้ยม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ผลงานในตอนนี้อยู่ในขั้นวิกฤตจนใกล้โซนตกชั้น จะเปิดรังทำศึกปทุมดาร์บี้กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้กลับมาคว้าชัยชนะ 2 เกมติดต่อกันแล้ว สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 3-5-2  ส่วนทีมเยือนเล่น ผัง 4-2-3-1

      การแข่งขันเริ่มต้นไปเพียง 1 นาทีเศษ ทรู แบงค็อก ได้ฟรีคลิกและขึ้นนำไปก่อน 0-1 จาการเปิดบอลไปหน้าประตู แล้วแนวรับเจ้าบ้านยื่นเท้าจะเคลียร์บอล แต่ดันไปชนกันเอง ทำให้ ทอม เบียรห์ ที่ยืนอยู่ได้ยิงลูกส้มหล่นเข้าไป ซึ่งการเสียประตูอย่างรวดเร็วนี้ บีจี ปทุม ต้องเร่งเกมรุกใส่ โดยเน้นสาดบอลขึ้นข้างหน้า

หรือมีบ้างที่ต่อบอลเข้าไป โดยโอกาสจบสกอร์มีเรื่อยๆ แถมใกล้เคียงที่จะเป็นประตูตีเสมอ แต่ยิงไม่เฉียบคมเอง อย่างไรเสียเมื่อเกมผ่านไปครึ่งชั่วโมง เจ้าบ้านเริ่มหมดไอเดีย ตรงข้ามกับ บียู ที่สวนได้น่ากลัวและควรได้ประตูทิ้งห่าง กระนั้นเป็นเพราะเขาเองที่ไม่เฉียบคมเช่นกัน

ครึ่งหลัง บีจี ปทุม โหมบุกอีกครั้งด้วยวิธีการเดิม คือการโยนบอลเข้าไปในพื้นที่กรอบเขตโทษ แต่การโยนในช่วง 45 นาทีหลัง มันไม่ใช่การพุ่งตัวเข้าไปโหม่ง หรือมีแผนที่จะทำให้การโหม่งดูอันตราย ทำให้เมื่อเกมผ่านไปเรื่อยๆ ยิ่งตื้อยิ่งตันและพาบอลเข้าพื้นที่แดนสุดท้ายไม่ได้ ขณะที่ บียู ตั้งรับแบบไม่มีความกดดัน อย่างไรเสียการสวนกลับดูจะไม่อันตราย เพราะผู้เล่นเกมรุกไม่เติมสูงและเน้นยืนรักษาพื้นที่มากกว่า ทำให้เมื่อครบ 9เ0 นาที แข้งเทพเป็นฝ่ายเฉือนชนะไป 0-1

บทสรุปจากเกม บี จี ปทุม ยูไนเต็ด จัดการปลด แมตต์ สมิธ เมื่อเกมจบลง ซึ่งมันสมควรแก่เวลาตั้งนานแล้ว เพราะอย่างนัดนี้ เกมรับยังคงเหมือนเดิมคือ วิ่งลงไปกองที่แดนสุดท้าย แล้วปล่อยพื้นที่แดน 2-3 ให้คู่แข่งลากขึ้นมาอย่างสะดวก

ส่วนเกมรุกคิดไม่ออก ก็สาดบอลเข้าเขตโทษอย่างเดียว ฉะนั้นหากอยู่ต่อ ทรงบอล ฟอร์มการเล่น และจิตใจ มันจะเหี่ยวเฉาลงไปเรื่อยๆ ส่วนทางฝั่ง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เกมรับยังคงผิดพลาดง่ายๆตามเคย เช่นเดียวกับเกมรุกที่โอกาสเหน่งๆยังอุตส่าห์ยิงออกไป แต่วันนี้ได้ 3 แต้ม เพราะคู่แข่งพลาดตั้งแต่ต้นเกม แล้วตัวเองคว้าโอกาสจ่อๆนี่ไว้ได้ อีกทั้งคู่แข่งก็แพ้ภัยตัวเองจนยิงประตูแข้งเทพไม่ได้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

รูดไม่หยุด ฉุดไม่ขึ้น

ชลบุรี เอฟซี บู่จนชิน โดน เชียงราย สอยถึงถิ่น 1-3  

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 เกมในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามชลบุรี ยูทีเอ สเตเดี้ยม ชลบุรี เอฟซี ผลงานในตอนนี้ย่ำแย่สุดๆ เพราะไม่ชนะใครมา 7 เกมติดต่อกันแล้ว จะต้องพบกับ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ไม่ชนะใครมาหลายเกมแล้วเหมือนกัน ฉะนั้นหากใครเก็บ 3 แต้มได้ ก็จะถือเป็นการปลดล็อคจากความกดดัน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 3-4-3 ส่วนทีมเยือนมาแผนเดิมอย่าง 4-4-2

      ในช่วงต้นเกมทั้ง 2 ทีม ยังตั้งเกมกันไม่ได้ จนกระทั่งนาทีที่ 14 ลีโอ เชียงราย ได้ประตูออกนำไปก่อน 0-1 จากจังหวะเตะมุม โดยเป็น วิคเตอร์ วิ่งโฉบตัดหน้า เคลิช และขึ้นโหม่ง ซึ่งในจังหวะนี้ ชนินทร์ ควรเซฟได้ ทั้งๆที่บอลไม่ห่างจากตัวเลย อย่างไรเสีย ชลบุรี ตามไม่นาน ก็มาตามตีเสมอ 1-1 จากจุดโทษที่ แลนดิส ไปดึง มูริลโญ่ ซึ่งการตัดสินใจทำแบบนั้น อาจมองได้ว่าเหลี่ยมของ มูริลโญ่ ดีกว่าและมีโอกาสที่จะจบสกอร์ได้

      รูปเกมของทั้ง 2 ทีม ไม่ได้แตกต่างจากช่วงที่เสมอกัน 0-0 แต่ เชียงราย มาได้จุดโทษและประตูนำ 1-2 ในนาทีที่ 33 ซึ่งจังหวะนี้ต้องโทษ ฟาอิค ที่ไม่ควรเสียบ เพราะมีเพื่อนยืนประคองอยู่อีกหลายคน นั่นจึงทำให้ ชลบุรี พยายามเปิดเกมบุก แต่การเสียบอลมาแต่ละครั้ง ก็เกือบจะโดนยิงเพิ่มมากกว่า

ครึ่งหลัง ชลบุรี ปรับการทำเกมรุกด้วยการจ่ายขวางหาพื้นที่ แล้วเมื่อริมเส้นมีช่องก็จะจ่าย จากนั้นตัวริมเส้นจะแปะบอลเข้าพื้นที่ตรงกลาง ซึ่งมันสร้างโอกาสได้พอสสมควร แต่มันไม่ใกล้ปากประตูและไม่สามรถทำอย่างต่อเนื่องได้ จนเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เชียงราย

กลายเป็นฝ่ายได้ประตูทิ้งห่าง 1-3 จากการจ่ายเฉียงไปจากด้านซ้าย แล้วกลับมาหน้าประตู โดยจังหวะนี้แนวรับเจ้าถิ่นเปิดพื้นที่ไว้มากกมาย อย่างไรเสียช่วงท้ายเกม ฉลามชล พยายามจะเร่งเกมชุดสุดท้าย แล้วมันมีโอกาสเหน่งๆจาก ยู บยอง-ซู แต่เจ้าตัวทิ้งขว้างโอกาสทองไป

      บทสรุปจากเกม ชลบุรี เอฟซี พ่ายแพ้เพราะความผิดพลาดของผู้เล่นหลายคนประกอบกัน ไล่ตั้งแต่ ผู้รักษาประตู เซฟบอลไม่ได้ กองหลัง-กองกลาง เปิดพื้นที่ให้คู่แข่ง ปีกเสียบคู่แข่งจนเสียจุดโทษ และกองหน้าที่ยิงประตูจากจังหวะเหน่งๆไม่ได้ ซึ่งทั้งหมดผสมผสานกัน จนกลายเป็นความพ่ายแพ้ ส่วนทางฝั่ง ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด วันนี้อาจจะไม่ได้เล่นเกมรุกอย่างที่ตัวเองถนัด

แต่ก็ยังพยายามจะเล่นเร็วเพื่อหลีกหนีตัวรับที่ยืนขวางเต็มพื้นที่ รวมถึงมีทีเด็ดจากลูกตั้งเตะ นั่นจึงทำให้กว่างโซ้งมหาภัย มี 3 แต้ม ในเกมนี้ อย่างไรก็ดี เกมรับมีอาการแกว่งในช่วยท้ายเกม ซึ่งยังดีที่คู่แข่งทำไม่ได้เอง มิเช่นนั้นอาจเป็นฝันร้ายซ้ำสองของพวกเขาก็เป็นได้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

แพ้แล้ว แพ้อยู่ แพ้ต่อ

ชลบุรี เอฟซี เปิดรังพ่าย ราชบุรี 1-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 24 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามชลบุรี ยูทีเอ สเตเดี้ยม ชลบุรี เอฟซี ที่ตอนนี้กำลังเมาหมัดสุดๆเมื่อไม่ชนะใครมา 5 เกมติดต่อกันแล้ว วันนี้จะเจอกับทีมที่ผลงานย่ำแย่ไม่ต่างกันอย่าง ราชบุรี เอฟซี ฉะนั้นหากใครเก็บ 3 แต้มในเกมนี้ มันอาจเป็นจุดเปลี่ยนให้ทีมใดทีมหนึ่งมีโมเมนตัมที่ดีกลับมา สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-2-3-1 ส่วนทีมเยือนวางผัง 4-3-3

      การแข่งขันในครึ่งแรกเป็น ราชบุรี ที่ดูดีกว่า โดยเกมรุกจะเน้นการโจมตีทางฝั่งขวา ซึ่งโอกาสจาก ซาฟาวี่ ที่เลี้ยงตัดเข้าในแล้วยิง มีหลายครั้งและน่าได้ แต่เจ้าตัวจบสกอร์ไม่เฉียบคมเท่าไร

กระนั้นในนาทีที่ 31 ราชบุรี มาได้ประตูนำ 0-1 จากจุดโทษที่ กฤษดา ทำแฮนด์บอล นั่นจึงทำให้ ชลบุรี ที่ดูเป็นรองมาตลอดในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก พยายามจะเปิดเกมสู้ แต่ในนาทีที่ 45+3 ราชันมังกรมาได้ประตูทิ้งห่าง 0-2 จากการเคลียร์สกัดที่ไม่ขาดของแนวรับเจ้าถิ่น

ครึ่งหลัง ชลบุรี ต้องลงมาเล่นแบบเปิดเกมบุก แล้วเพียงแค่นาทีที่ 55 ก็ได้ประตูตีตื้น 1-2 จากเตะมุมที่ อัลเวส ตีลังการยิงเข้าไป นั่นจึงทำให้ฉลามชล เดินหน้าบุกต่อ แต่เมื่อ ราชบุรี ตั้งรับและไม่มีความผิดพลาดให้อีก เจ้าถิ่นก็ไม่สามารถพาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษได้ สุดท้ายสกอร์จบที่ 1-2

      บทสรุปจากเกม ชลบุรี เอฟซี ในตอนนี้เหมือนคนเมาหมัดที่โดนต่อยคาง จากนั้นพยายามจะเร่งเพื่อเอาคืน แต่คู่แข่งยกการ์ดสูงจนทำอะไร ซึ่งมันเหมือนกับเกมนี้ที่พวกเขาเป็นรองในครึ่งแรก แถมเสียประตูไปก่อนถึง 2 ลูก และถึงแม้ว่าพวกเขาจะยิงตีตื้นได้เร็ว แต่เมื่อคู่แข่งไม่เปิดช่องให้อีก ฉลามชลก็แทบจะทำอะไรไม่ได้ ซึ่งนี่ถือเป็นงานหนักของโค้ชเตี้ย ว่าจะทำอย่างไรให้โมเมนตัมกลับมา

หลังจากผลงานเป็นแบบนี้มาพักใหญ่และไม่มีทีท่าจะดีขึ้น ส่วนทางฝั่ง ราชบุรี เอฟซี ปลดล็อคคว้า 3 แต้มได้ก็จริง แต่รายละเอียดต่างๆยังไม่น่าประทับ ไล่ตั้งแต่การจบสกอร์ที่ใช้โอกาสเปลื้อง ซึ่ง 2 ประตูที่ได้มา ก็เป็นเพราะคู่แข่งพลาด ขณะที่เกมรับอาจจะไม่เห็นแผลมากมาย เพราะคู่แข่งบุกขึ้นมาไม่ถึง แต่พอพลาดครั้งเดียวโดนยิงทันที ฉะนั้นราชันมังกรในตอนนี้ อาจจะยังไม่ใช่ทีมเดิมกับช่วงต้นฤดูกาล

ติตตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ฝ่าฝุ่นเก็บ 3 แต้ม

ธีรศักดิ์ โซโล่ 2 พา การท่าเรือ เอฟซี 3-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 25 ในโปรแกรมวันอังคาร ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ฟอร์มในตอนนี้กำลังออกทะเลและไม่ชนะใครมาหลายนัด จะเปิดรังลีโอ เชียงราย รับ การท่าเรือ เอฟซี ที่ผลงานในตอนนี้ คว้าชัยในลีกมา 2 เกมรวด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ต่างใช้ระบบ 4-4-2 เหมือนกัน

      ในช่วง 10 นาทีแรก ทั้ง 2 ทีมยังทำอะไรกันไม่ถนัดนัก จนเวลาผ่านไป การท่าเรือสามารถโจมตีทางฝั่งขวาและซ้าย แต่การเซตบอลหลังบ้าน บูโต๊ส จ่ายพลาด โบนีญ่า วิ่งมาฉกบอลและหลบ สมพร ก่อนจะยิงให้ เชียงรายนำ 1-0 อย่างไรเสีย การท่าเรือ ไม่เป๋ แล้วยังสามารถเดินเกมรุกต่อได้ โดยโอกาสเหน่งๆมี

แต่ยิงแล้วติดเซฟ สรานนท์ กระทั่งในนาทีที่ 40 สถานการณ์ยิ่งเลวร้าย เมื่อ เชียงราย ได้ประตูทิ้งห่าง 0-2 จากการจ่ายบอลแทงทแยงไปหน้าประตู ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีช่อง กระนั้นการเคลื่อนที่เข้าหาบอลและตบกลับหลังให้ เฟลิเป้ เข้ามายิงแบบไม่มีตัวประกบ ถือเป็นการเข้าทำที่รู้ใจกันอย่างยิ่ง   

ครึ่งหลัง การท่าเรือ ยังมีรูปเกมที่ไม่ดีขึ้น จนดูเหมือนว่าวันนี้จะไม่ใช่วันของพวกเขา จนในนาทีที่ 67 จุดเปลี่ยนของเกมนี้เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาได้ประตูตีตื้น 2-1 จากเตะมุมที่ ธีรศักดิ์ โหม่งเดี่ยวๆแล้วไปตรงตัว สรานนท์ ที่ปัดบอลไม่ดี ทำให้ ธีรศักดิ์ ยื่นขาจิ้มบอลประตูไป นั่นจึงทำให้หลังจากนั้น เชียงราย พยายามจะกลับมาบุกอีกครั้ง อย่างไรเสียการโต้กลับของ การท่าเรือ ก็มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จาก ธีรศักดิ์ คนเดิม เท่านั้นไม่พอ สิงห์เจ้าท่า มาได้ประตูแซงนำ 2-3 ในนาทีที่ 85 จากการต่อบอลขึ้นมาไม่กี่จังหวะ ก่อนจบที่ แฮร์มิลตัน ฉีกตัวประกบมาโหม่งที่เสาแรก

บทสรุปจากเกม จริงๆแล้ว ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด รูปเกมเป็นรองตั้งแต่ครึ่งแรก ดังจะเห็นได้จากการโดนเจาะเกมรับและผู้รักษาประตูต้องออกแรงเซฟ แต่เมื่อมีโอกาสทำเกมสวนกลับ กว่างโซ้งมหาภัยยิงได้ถึง 2 ประตู ทำให้ครึ่งหลังเหมือนจะเล่นสบาย แต่เมื่อโดนยิงตีตื้น 2-1 รูปเกมก็เปลี่ยนไปและกลายเป็นพวกเขามีอาการตื่น พร้อมๆกับรูรั่วในเกมรับที่ถูกฉีกให้กว้างขึ้น จนสุดท้ายเสียถึง 3 ประตู

และแพ้แบบช็อคตาตั้ง ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ เอฟซี จริงๆแล้วรูปเกมดีกว่าใน 45 นาทีแรก แต่เกมรับผิดพลาดไปเองและโดนลงโทษ ทำให้ครึ่งหลังดูเหมือนว่าจะกลับมาไม่ได้ กระทั่งการได้ประตูตีตื้น 2-1 นั่นคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้พวกเขากลับมา จนสุดท้ายสามารถพลิกชนะได้ ซึ่งโมเมนแบบนี้เป็นสิ่งที่สิงห์เจ้าท่าหายห่างไปนาน

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ที่ไหน เมื่อไร ไม่แพ้

ศุภณัฎฐ์ ตัวป่วน ช่วย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ศึกฟุตบอลช้างเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ณ สนามดราก้อนโซล่าร์ปาร์ค บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า 5 สมัย และแชมป์ทีมล่าสุด พบกับ การท่าเรือ เอฟซี แชมป์เก่า 3 สมัย โดยเกมนัดนี้จะแข่งขันนัดเดียวรู้ผล ฉะนั้นหากเสมอกันในช่วง 90 นาที จะมีการต่อเวลาและยิงจุดโทษเพื่อหา 1 ทีม เข้าไปชิงชนะเลิศ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ปราสาทสายฟ้าใช้ระบบ 4-4-2 ส่วนสิงห์เจ้าท่าเปลี่ยนเล่นระบบ 3-5-2

      นับตั้งแต่นาทีที่ 10-25 ของเกมการแข่งขัน บุรีรัมย์ ครองบอลกดดันใส่คู่แข่งได้ดี แต่ไม่สามารถพาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษได้ ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ เน้นแพ็คเกมรับให้แน่นหนา แล้วเมื่อไรที่ได้บอลมาครองก็จะไม่เสียง่ายๆ กระนั้นเมื่อพาบอลเข้าเข้าไปในแดนคู่แข่ง

พวกเขามักเสียบอลจนแทบไม่มีโอกาสได้ลุ้น กระทั่งเกมผ่านครึ่งชั่วโมง ทั้ง 2 ทีม เปิดเกมรุกใส่กัน แล้วเป็นทางฝั่งปราสาทสายฟ้า ที่ใกล้เคียงจะได้ประตู เพราะมีจังหวะเล่นลูกฉาบฉวย แต่ดันยิงไม่เข้าเอง ขณะที่ สิงห์เจ้าท่า ประสิทธิภาพเกมรุกด้อยกว่า เพราะรูปแบบการเข้าทำน้อยและไม่รวดเร็วพอที่จะเอาชนะคู่แข่ง

บุรีรัมย์ ยังคงเน้นการโจมตีทางด้านข้าง แต่พยายามกำชับให้เปิดไปยังบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ หรือแถว 2 เพื่อให้มีพื้นที่จบสกอร์ อย่างไรเสียประตูนำ 1-0 ในนาทีที่ 60 มาจากการเล่นเร็วแบบฉาบฉวย แล้วจังหวะยิงของ ศุภณัฎฐ์ ก็เป็นใจด้วย

จากนั้น การท่าเรือ พยายามจะเร่งเกมบุก แต่ยิ่งเร่งก็ยิ่งเสียและโดนโต้กลับ ไม่เพียงเท่านั้น เกมรับที่เหนียวแน่นในครึ่งแรก ก็เริ่มเปิดช่องว่างในพื้นที่กรอบเขตโทษ สุดท้ายโดนยิงประตูทิ้งห่าง 2-0 ในนาทีที่ 76 ขณะที่ช่วงเวลาที่เหลือ สิงห์เจ้าท่าได้แต่เซตบอลไปมากลางสนาม กระทั่งหมดเวลาการแข่งขัน

          บทสรุปจากเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในครึ่งแรก มีช่วงเวลาที่ขึงและทำได้ดีกว่าเพียงแค่ 10-15 นาที เพราะหลังจากนั้น กลายเป็นเกมชิงจังหวะตรงพื้นที่กลางสนาม จนในครึ่งหลัง รูปเกมก็ไม่ได้ดีไปกว่าเดิม แต่การเล่นเร็วและได้ประตูนำ 1-0 มันก็ช่วยให้พวกเขาคลายกดดัน ก่อนจะมาได้ประตูทิ้งห่าง 2-0 และปิดเกม ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ เอฟซี เกมนี้วางหลังสามและเล่นเกมรับได้ดี

แต่เกมสวนกลับ เหมือนทิ้งขว้างโอกาสไป เพราะบอลเคลื่อนที่ช้าและไม่มีรูปแบบการเข้าทำที่หลากหลาย จนในครึ่งหลังเมื่อเสียประตูก่อน จากจังหวะที่ไม่ควรเสีย รูปเกมก็หลุดจากวงโคจรไปเลย ดังจะเห็นได้จากเกมรุกที่เร่งจังหวะแล้วจ่ายเสีย หรือเกมรับที่ยืนเปิดพื้นที่ให้กรอบเขตจนโดนยิงเพิ่มฃ

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ดุดันไม่เกรงใจใคร

พีที ประจวบ เอฟซี ฟอร์มดุ ไล่ถล่ม หนองบัว

ศึกรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามสามอ่าว สเตเดี้ยม พีที ประจวบ เอฟซี ที่พึ่งกลับมาเก็บ 3 แต้มได้ จะต้องพบกับ หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่ผลงานดำดิ่งและรอวันตกชั้นอย่างเป็นทางการเท่านั้น  สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 3-4-3 ส่วนทีมเยือนก็ใช้ผัง 3-5-2  

      ในช่วง 5 นาทีแรก จังหวะบอลค่อนข้างเร็ว เพราะเมื่อใครครองบอล อีกฝ่ายจะบีบให้เล่นลำบาก ทำให้บอลจะอยู่บริเวณกลางสนามเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ พีที ประจวบ เริ่มจะเล่นได้ดีกว่า แล้วเพียงแค่ 9 นาที ประจวบ ได้ประตูนำ 1-0 จากเตะมุมที่เปิดไปให้ จักรกฤษณ์ กระโดดแปรบอลเข้าไป

โดยจังหวะนี้แนวรับทีมเยือนพยายามจะประกบ แต่บอลมันทะลุผ่านผู้เล่นทุกคน จากนั้น 3 นาทีถัดมา ต่อพิฆาตมาได้ประตูทิ้งห่าง 2-0 จากการต่อบอลหน้าบ้านของตัวเอง โดยจังหวะเข้าทำเหมือนจะช้าไปแล้ว แต่ ประสิทธิ์ ยังปั่นโค้งเข้าไปอย่างสวยงาม ซึ่งการได้ประตูนำเร็วเช่นนี้ มันมีผลให้เจ้าบ้านผ่อนเกมจนจบครึ่งแรก

ครึ่งหลัง หนองบัว ปรับแก้แท็กติกเพื่อเล่นเกมบุกให้มากขึ้น แต่การเสียบอลง่ายๆกลางทาง มันก็กลายเป็น ประจวบ ได้โต้กลับอย่างรวดเร็ว กระทั่งนาทีที่ 59 ได้ประตูนำ 3-0 จากการไหลบอลมาให้ นุกูลกิจ ยิงนอกกรอบ จากนั้นกลายเป็น หนองบัว ที่เริ่มถอดใจและไม่ค่อยวิ่งไล่ ทำให้โดนยิงเพิ่มอีก 2 ประตู อย่างไรเสีย พญาไก่ชนก็ได้ประตูไล่มา 1 ลูก ทำให้จบเกมด้วยสกอร์ 5-1

บทสรุปจากเกม พีที ประจวบ เอฟซี ในวันนี้ จังหวะฟุตบอลค่อนข้างเป็นใจ ไล่ตั้งแต่การได้ 2 ประตู ตั้งแต่ต้นเกม เช่นเดียวกับครึ่งหลังที่เมื่อประตูทิ้งห่าง 3-0 จากจังหวะบอลแฉลบ ต่อพิฆาตก็ยิ่งเล่นง่าย จนสุดท้ายสามารถถล่มผู้มาเยือนแบบไม่ไว้หน้า อย่างไรเสีย เกมรับก็ยังมีรูรั่วที่ต้องปรับปรุงกับการเสียประตูง่าย

ส่วนทางฝั่ง หนองบัว พิชญ เอฟซี วันนี้พร้อมเต็มร้อยที่จะมาสู้กับเจ้าถิ่น แต่การเสียประตู 2 ลูก ในช่วง 15 นาทีแรก มันมีต่อแท็กติกที่ต้องปรับเปลี่ยน ซึ่งในครึ่งแรกไม่สามารถบุกใส่เจ้าถิ่นได้ กระทั่งในครึ่งหลัง รูปเกมกำลังดีขึ้น แต่เมื่อมาเสียประตูที่ 3 เพิ่ม ทีนี่กลายเป็นสมาธิแตกและไม่ช่วยกันวิ่งไล่อีกแล้ว ทำให้สกอร์ขาดลอยอย่างที่เห็น

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ฉลาดเตี้ยอาการหนัก

ชลบุรี โคม่าหนัก บุกพ่าย ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 23 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามทรู สเตเดี้ยม รังเหย้าของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ผลงานกลับมาดีอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้ามีอาการเมาหมัดเล็กน้อย ซึ่งวันนี้ต้องเจอทีมที่เมาหมัดกว่าอย่าง ชลบุรี เอฟซี ที่ตอนนี้ตามหาชัยชนะไม่เจอมา 4 เกมติดแล้ว ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ต่างมาในระบบ 4-2-3-1 ทั้งคู่

      ในช่วง 10 นาทีแรก ทั้ง 2 ทีมเน้นการต่อบอลเข้าไปในแดนคู่แข่ง  แต่ทางฝั่งทีมเยือนจ่ายพลาดก่อน แล้วโดน ทรู แบงค็อก ตัดได้ สุดท้ายจบที่ เฮแบร์ตี้ ซัดมุมแคบชนเสา แล้วมาเข้าทาง มาห์มู๊ด จิ้มเข้าประตูให้ทีมนำ 1-0 จากนั้นกลายเป็นบียู ที่ดูดีกว่า เพราะสามารถต่อบอลจากหลังบ้านไปจนถึงการจบสกอร์ได้หลายหน

แต่ขาดความเฉียบคม ตรงข้ามกับ ชลบุรี ที่ได้แต่ต่อบอล ไม่มีจังหวะจบสกอร์ กระนั้นช่วงทดเวลา 45+1 การวางบอลยาวให้ ชาญณรงค์ กลายเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับเจ้าถิ่นพลาดตั้งแต่แดนกลางที่เปิดพื้นที่ให้ได้วางบอลแบบสะดวก รวมถึงคู่กองหลังที่ยืนห่างจากตัวรุก ทั้งๆที่มีแค่คนเดียว 

ครึ่งหลัง ชลบุรี พยายามแก้ในเรื่องการเก็บบอลไว้กับตัว โดยจะปล่อยให้ก็ต่อเมื่อเพื่อนหาช่องดีและมีทางที่บอลจะไปข้างหน้า ซึ่งมันช่วยให้ทีมมีโอกาสจบสกอร์มากขึ้น แต่ในนาทีที 61 พวกเขาป้องกันไม่ดีพอ ทำให้โดน เฮแบร์ตี้ ยิงนำ 2-1 แล้วทางฝั่งฉลามชล สมาธิหลุดอย่างชัดเจน สุดท้ายการออกบอลที่ไม่รอบครอบของ เฉลิมพงษ์ ก็ได้ส่งให้ บียู ขึ้นนำ 3-1 และจบเกมด้วยสกอร์นี้  

      บทสรุปจากเกม ทรู แบงค็อก ยู ไน เต็ด ออกสตาร์ทเกมนี้ได้ดีแถมได้ระตูนำไปก่อน นอกจากนี้ยังสร้างโอกาสได้แบบต่อเนื่อง แต่พอไม่ได้ประตู เกมรับดันมาเสียง่ายๆ ซึ่งยังดีที่มีจุดเปลี่ยนเมื่อได้ประตูนำ 2-1 ทำให้ได้ 3 แต้ม ในวันนี้ ส่วนทางฝั่ง ชลบุรี เอฟซี

วันนี้ตั้งใจเล่นต่อบอลกับพื้นเพื่อสู้กับเจ้าบ้าน แต่การจ่ายบอลพลาดทำให้พวกเขาถูกลงโทษ กระนั้นโมเมนตัมก่อนเข้าห้องแต่งตัว พวกเขาได้สกอร์ตีเสมอ 1-1 ทำให้ในครึ่งหลัง ฉลามชลแก้เกมด้วยการหาวิธีออกบอลให้ชัวร์ ซึ่งมันได้ผลและน่าจะสู้กับเจ้าถิ่นได้สนุก แต่พอเสียประตูอีกครั้ง สมาธินักเตะก็หลุดจากเกมไปเลย

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover