หนองบัว เกือบแย่ แต่สุดปาดหน้า สุพรรณบุรี 2-1 เก็บ 3 แต้มสำคัญ

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 9 ในส่วนของเย็นวันอาทิตย์ หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่ผลงานโดยรวมยังไม่ค่อยสู้ดี จนมีข่าวลือว่าจะเปลี่ยนแปลงกุนซือ หากการเปิดบ้านรับ สุพรรณบุรี เอฟซี แล้วพ่ายแพ้ กระนั้นสำหรับผู้มาเยือนก็ไม่สู้ดีเหมือนกัน เพราะในช่วงหลังออกไปทางเสมอกับแพ้ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-2-3-1 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนใช้ 3-5-2

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทางฝั่ง หนองบัว พยายามจะต่อบอลจากแดนกลางขึ้นไป แต่การเสียบอลง่ายๆ ทำให้ทีมเยือนได้โต้กลับมา 1-2 ครั้ง กระทั่งนาทีที่ 6 แนวรับเจ้าบ้านดันไปยืนหลวมจนเสียเหลี่ยมและต้องตัดฟาวล์ แต่จุดที่เกิดเหตุดันเป็นเขตโทษ ฉะนั้นผู้ตัดสินจึงไม่มีทางเลือกนอกเสียจากให้เป็นจุดโทษและเป็นประตูขึ้นนำ 0-1 ของ สุพรรณบุรี จากนั้นกลายเป็น หนองบัว โหมบุกกระหน่ำ กระทั่งกลายเป็นมหกรรมการโยนบอลจากริมเส้นทั้งจากซ้ายและขวา ที่พุ่งตรงไปยังเป้าหมายอย่าง แฮมิลตัน ได้โขก ซึ่งการโจมตีลูกกลางบ่อยๆถี่ๆ แนวรับทีมเยือนก็มียวบและประกบไม่แนบชิดในบางจังหวะเหมือนเหมือนกัน ขณะที่เกมโต้กลับของช้างศึกยุทธหัตถี จะเป็นในลักษณะนานๆมาที ส่วนความหวาดเสียวจัดอยู่ในระดับพอใช้

ครึ่งหลัง หนองบัว ยังคงเล่นสไตล์เดิม คือ เปิดเกมรุกด้วยมหกรรมการเปิดลูกโด่งจากริมเส้นไปให้กองหน้าเป้า ซึ่งกี่ครั้งกี่หนก็ยังติดแนวรับของทีมเยือน ทำให้ต้องรอถึงนาทีที่ 77 ถึงได้ประตูตีเสมอ 1-1 โดยในจังหวะนั้น แฮมิลตัน โดนล้อมและจับบอลไม่ดี แต่สมองคิดเร็วแล้วจัดการกระโดดฟาดแบบตะกร้อ จนแหวกแนวรับและเสียบมุมสามเหลี่ยมบนอย่างสวยงาม

การได้ประตูตีเสมอ 1-1 ทำให้ สุพรรณบุรี เลือกจะเปิดเกมบุกสู้เพื่อเอาประตูขึ้นนำ แต่การที่ตัวเองถอนคันเร่งไปตั้งแต่ต้นเกม ทำให้เครื่องเย็นและต่อบอลไม่ค่อยติด อีกทั้งยังเสียง่าย ทำให้ทันทีที่ หนองบัว โต้กลับก็ได้ประตูแซง 2-1 แม้จังหวะเปิดไปให้ตัวเสาไกลได้ชาร์ตจะมีดวงที่ไปแฉลบขาแนวรับก็ตาม

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม หนองบัว พิชญ เอฟซี เล่นพลาดแล้วโดนลงโทษ ซึ่งการเอาประตูคืนเต็มไปด้วยความกดดันและต้องรอนาน เพราะไอเดียการเข้าทำจำเจจนง่ายต่อการจับทาง กระนั้นยังดีที่คู่แข่งก็พลาดให้เหมือนกัน ทำให้วันนี้มีวาสนากับ 3 แต้ม ส่วนทางฝั่ง สุพรรณบุรี เอฟซี เริ่มต้นได้ดี แต่ก็เหมือนกับหลายนัดก่อนหน้า ที่เมื่อนำแล้วหรือสถานการณ์เป็นใจ ก็จะถอยไปรับแบบเต็มสูบ ทำให้เมื่อไรที่โดนเจาะประตูและจะเร่งเกมใหม่อีกรอบ ก็จะเร่งไม่ขึ้น สุดท้ายตอนจบ คือ ได้ผลแค่เสมอหรือแพ้ ฉะนั้นปัญหาของทีมตอนนี้ ไม่ใช่ว่าสู้ไม่ได้ แต่แท็กติกตั้งหากที่ขี้กลัวคู่แข่งเกินไป
ติดตามข่าวสารกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com
FB : Sport lover