Categories
ข่าวกีฬา

สายฟ้าไม่ยอมพ่าย

บุรีรัมย์ รัว 3 เม็ดตีเจ๊า เมืองทอง ยูไนเต็ด

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 19 เกมบิ๊กแมตช์คู่ส่งท้ายของสัปดาห์ ณ สนามธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมกลางตารางที่ผลงานไม่ค่อยดีนัก จะต้องพบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงที่ยังไร้พ่าย และตั้งใจอย่างมากที่จะมาย้ำแค้นให้ได้ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบถนัดอย่าง 4-1-4-1 และทีมเยือนในระบบ 4-2-3-1

      เกมเริ่มมาได้ 2 นาที เมืองทอง ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากการเซตบอลจากแดนตัวเอง แล้วแนวรับทีมเยือนเปิดช่องไว้เล็กน้อย ก่อนที่ โจฮาน่า จะยิงไกลแบบสุดสวย ไม่เพียงเท่านั้น นาทีที่ 11 นพพล ออกบอลพลาด ทำให้โดนลากบอลกลับมายิงเป็น 2-0 และเท่านั้นยังไม่พอ กิเลนผยองมาได้ประตูทิ้งห่าง 3-0

โดยมีรูปแบบที่คล้ายกับประตูแรก แต่มุมที่ยิงเป็นเสาด้านซ้ายของ โจฮาน่า ซึ่งการออกนำไปก่อนถึง 3 ลูก และมีรูปเกมที่ดีกว่า ถือเป็นสิ่งที่หาได้ยากเมื่อเล่นกับ บุรีรัมย์ อย่างไรเสียทัพปราสาทสายฟ้า ก็มาได้ประตู 3-1 จาก ศุภณัฏฐ์ ที่แม้จะมีมุมไม่มาก แต่ก็ยังวอลเลย์เสียบสามเหลี่ยม

ครึ่งหลังเริ่มมาได้นาทีเดียว เมืองทอง ทิ้งห่างเป็น 4-1 จากการขึ้นบอลเป็นทอดๆและไม่ได้รวดเร็วอะไร ก่อนจบด้วยการยิงไซร์โค้งของ โจฮาน่า พร้อมกับเป็นแฮตทริกของเจ้าตัว จากนั้นเหมือนกิเลนผยอง จะค่อยๆเบาเกมของตัวเองลง กลับกัน บุรีรัมย์

ยังไม่ถอดใจและพยายามยิงประตูไล่คืนมาให้เร็วที่สุด กระทั่งนาทีที่ 77 ไล่มาเป็น 4-2 จากการโหม่งของ ดูมบูย่า นาทีที่ 82 ฟรีคลิกปั่นเสียบสามเหลี่ยมแบบสุดสวยของ ธีราทร เป็น 4-3 นั่นจึงทำให้เจ้าถิ่นที่ถอนคันเร่งไปแล้ว เกิดอาการเนื้อเต้นและต้องเปิดเกมสู้กับทีมเยือนที่กำลังเครื่องร้อน สุดท้ายเมื่อแลกกันหมัดต่อหมัด กลายเป็น บุรีรัมย์ ยิงตีเสมอ 4-4 ในช่วงทดเวลา

      บทสรุปจากเกม โจฮาน่า ถือเป็นผู้เล่นที่สร้างความแตกต่างในเกมนี้ให้กับ เมือง ทอง ยูไนเต็ด ซึ่งการยิงอย่างเฉียบคมทำให้ทีมขึ้นนำไปไกลถึง 4-1 แต่ก็ต้องโทษเกมรับที่ตลอดทั้งเกมดูไม่นิ่งและพร้อมจะเปิดทางให้คู่แข่งได้ทำเกมง่ายๆ

โดยมันเห็นได้ชัดเมื่อถูกยิงไล่มา 4-2 เพราะหลังจากนั้นเล่นเกมให้รัดกุมไม่ได้ กระทั่งโดนยิงตีเสมออย่างที่เห็น ส่วนทางฝั่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ความประมาท ความผิดพลาดส่วนบุคคล ทำให้พวกเขาเสียประตูจนตั้งเกมไม่ติดราว 70 นาที แต่ที่เกมนี้กลับมาได้ เพราะไม่ถอดใจและมีลูกทีเด็ด ทำให้ตีเจ๊าและแบ่งแต้มออกได้สำเร็จ

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

กิเลนแรงเกินใจ

เมืองทอง ยูไนเต็ด รัว 3 ในครึ่งหลัง แซงชนะ

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 22 คู่บิ๊กแมตช์ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามแพท สเตเดี้ยม การท่าเรือ เอฟซี ที่ผลงานในช่วงหลังเริ่มจะดีขึ้นเมื่อใช้บริการโค้ชคู่ จะต้องพบกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ผลงานหันหัวกลับมาดีเช่นกัน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-4-2  ส่วนทีมเยือนวางระบบคุ้นเคยอย่าง 4-1-4-1

      ช่วงต้นเกมเป็นการชิงจังหวะกันเสียมากกว่า จนเกมผ่านไป 10 นาที รูปเกมเริ่มเด่นชัดและเพียงแค่ 16 นาที การท่าเรือ มาได้ประตูนำ 1-0 จากการจ่ายแทงทางด้านข้าง ก่อนจะเปิดใส่หัว แฮร์มิลตัน โหม่งแบบเต็มแรง ซึ่งแนวรับทีมเยือนเปิดพื้นที่ขนาดนี้

มันจึงไม่แปลกที่จะเสียประตู เท่านั้นไม่พอ นาทีที่ 29 สิงห์เจ้าท่าทุ่มบอลและพยายามจ่ายบอลเข้าเขตโทษ กระนั้นเมื่อตัวประกบไม่บังทาง วรชิต เจ้าตัวจึงจัดการยิงโค้งออกตัว พร้อมกับส่งให้ทีมนำห่าง 2-0

ครึ่งหลัง เมืองทอง ปรับเกมแบบขนานใหญ่ โดยอย่างแรกที่พวกเขาทำคือ การขึงบอลและเน้นเจาะทางฝั่งขวา จนในนาทีที่ 58 มาได้ประตูตีตื้น 1-2 จากการเจาะฝั่งขวาอย่างที่กล่าวไป โดยการเปิดบอลไปให้ โจฮาน่า ถือว่ายอดเยี่ยมที่ยิงทันที ทำให้แนวรับเจ้าถิ่นหมดสิทธิ์ป้องกัน

จากนั้นก็ยังเป็นทีมเยือนที่ได้ครองเกม แต่กว่าจะมาได้ประตูตีเสมอ 2-2 ก็ต้องรอถึงนาทีที่ 83 ซึ่งเป็นการยิงจุดโทษ โดยการเสียประตูนี้ของ การท่าเรือ มันเร่งเร้าให้พวกเขาต้องบุกอีกครั้ง แต่ดันโดนสวนกลับด้วยบอลแทงและเสียประตู 2-3 ให้กิเลนผยอง

      บทสรุปจากเกม นี่เป็นเกมที่ต่างฝ่ายต่างเล่นดีคนละครึ่ง โดยทางฝั่ง การท่าเรือ เอฟซี การเข้าทำมีจังหวะสอดรับที่ลงตัว รวมถึงความมั่นใจของ วรชิต ดูจะเป็นประโยชน์กับทีม เมื่อเจ้าตัวยิงไกลในลักษณะนี้มา 2 เกมติด แต่พอเข้าสู่ครึ่งหลัง

สิงห์เจ้าท่าเป็นรองและโดนเจาะทางฝั่งซ้ายแบบต้านทานไม่ได้เลย กระทั่งการเจาะพื้นที่ดังกล่าว ก็ได้เป็นจุดที่ทำให้พวกเขาพ่ายแพ้ ขณะที่ เมืองทอง ยูไนเต็ด ครึ่งแรกแทบจะไม่ได้บุก ส่วนเกมรับก็มีปัญหาในเรื่องตามประกบตัวทั้ง 2 ลูก แต่พอเข้าสู่ครึ่งหลัง

พวกเขาต่อเกมรุกติดและยิงตีตื้นในช่วงเวลาที่เหมาะสม กระนั้นก็ต้องกล่าวว่าประตูตีเสมอ 2-2 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกม เพราะมันทำให้เกมเปิดและกลายเป็นกิเลนผยอง ที่ชนะในการแลกหมัดครั้งนี้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

คำว่าอายยังน้อย

บีจี สุดเกินจะเยียวยา บุกพ่าย ลำพูน วอริเออร์

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 19 ณ สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ลำพูน วอริเออร์ ที่ต้องเร่งเก็บแต้มเพื่อหนีตาย จะต้องพบกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่นับตั้งแต่เริ่มเลก 2 ยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็น

นอกจากนั้นนี่คือ แมตช์ที่ 3 ในฤดูกาลที่ทั้งคู่พบกัน โดยเป็นทางฝั่งกระต่ายแก้วเก็บชัยได้ทั้งหมด ขณะที่ผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-4-2 ส่วนทีมเยือนยังยึดระบบ 3-5-2  

      การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น บีจี ปทุม มีโอกาสก่อนจากการสวนกลับ แต่ กรวิช ดันยิงออก ทั้งๆที่หลุดขึ้นมา 4 ต่อ 2 และมีช่องให้เลือกหลายทาง กลับกันโอกาสของลำพูน จากลูกเตะมุม

พวกเขาฉวยโอกาสนี้เป็นประตูนำ 1-0 ซึ่งเป็นการฉีกตัวไปโหม่งที่เสาแรกและบังคับบอลให้พุ่งเสียบเสาไกล จากนั้นฝั่ง บีจี ปทุม พยายามจะโหมให้หนักขึ้น กระนั้นการเสียบอลกลางทางอยู่ตลอด มันก็เป็นผลให้พวกเขาต้องคอยวิ่งกลับมาตั้งรับและประมาทจนโดนยิงทิ้งห่าง 2-0 ในนาทีที่ 34

ครึ่งหลัง บีจี ปทุม พยายามเดินหน้าบุกต่อ แต่ก็ยังเจอปัญหาเดิมๆคือ เสียบอลง่ายและเกมรับเหมือนไม่เข้าใจ หรือไม่เคยได้ซ้อมกันมา เพราะยืนป้องกันผิดพลาดจนเปิดช่องว่างเป็นกี่โลให้ได้โต้กลับ อย่างไรเสียในช่วงท้ายเกม ราชันโคขาวมาได้ประตูปิดกล่อง 3-0 จากการยิงไกลของ หม่อง ละ วิน 

      บทสรุปจากเกม ลำพูน วอริเออร์ เกมรับไม่เสียประตูก็จริง แต่มันเป็นเพราะแนวรุกคู่แข่งด้วยที่ไร้ประสิทธิภาพ ดังจะเห็นได้จากการเปิดบอลด้านข้าง หรือเปิดทแยงจากด้านข้างแบบไม่มีจังหวะและชั้นเชิงที่ซับซ้อน ส่วนเกมรุก มีการเล่นร่วมกันไม่กี่คน

แต่สามารถสร้างความอันตรายให้คู่แข่งเสียอย่างนั้น นอกจากนี้การยิงไกลก็กลายเป็นอาวุธที่อันตราย ทำให้ทั้งหมดทั้งมวลกลายเป็นราชันโคขาวที่ฟอร์มโดดเด่นและเก็บ 3 แต้ม ขณะที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด การส่งตัวผู้เล่นไทยครบทั้ง 11 คน ไม่ควรเป็นข้ออ้างสำหรับความพ่ายแพ้วันนี้ ซึ่งการไม่ได้แต้มออกไปก็ว่าแย่แล้ว

แต่ที่แย่ยิ่งกว่าคือ เกมรับหละหลวม พลาดง่าย ไม่มีระบบระเบียบยามถอยไปป้องกัน จนเสมือนว่าไม่เคยซ้อมด้วยกัน ทำให้การโดนยิงเพียง 3 ลูก ถือว่าปราณีแบบสุดๆแล้ว ส่วนเกมรุกไม่รูปแบบอะไรที่ชัดเจนและจะมีเพียงการเปิดบอลจากด้านข้างให้กองหน้าวิ่งเข้าหน้าบอล ซึ่งทั้งหมดนี้ถือว่าน่าห่วงสำหรับกระต่ายแก้ว สำหรับการตามหาชัยชนะนัดแรกในเลกที่ 2  

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

เม็ดเดียวก้เพียงพอ

ขอนแก่น ยูไนเต็ด เฉือน ท่าเรือ 1-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 19 ของฤดูกาล ขอนแก่น ยูไนเต็ด ทีมที่ออกสตาร์ทได้ดีและมีจุดเด่นยามเล่นในบ้าน จะต้องเปิดสนามกีฬากลางจังหวัดขอนแก่น รับ การท่าเรือ เอฟซี ที่ผลงานยังลุ่มๆดอนๆ อีกทั้งยังอยู่ในช่วงการเริ่มงานใหม่ของโค้ชคู่โชค-อั๋น สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-4-2 ส่วนทีมเยือนวางผัง 4-1-4-1

      ในช่วง 10 นาทีแรก การท่าเรือ เล่นได้ดีกว่าและมีโอกาสแบบจะแจ้ง ดังจะเห็นได้จากการขึ้นบอลกลางสนามถึงหน้ากรอบเขตโทษค่อนข้างรวดเร็ว เนื่องจากแนวรับเจ้าถิ่นถอยไปกองในกรอบเขตโทษ

รวมถึงการยืนป้องกันที่มักปล่อยให้คู่แข่งหลุดไปง่ายๆ กระนั้นโอกาสเข้าทำไม่หวาดเสียว เพราะมักเลือกยิงไกลแล้วไม่เข้ากรอบ หรือเมื่อมีโอกาสเหน่งก็ดันยิงไม่เข้าเอง จากนั้นเมื่อเกมผ่าน 10 นาที

ขอนแก่น เริ่มตั้งเกมและเล่นได้ดีกว่า ผ่านการขึ้นทางซ้าย กระทั่งช่วงทดเวลาในครึ่งแรก จงอางผยองมาได้จุดโทษขึ้นนำ 1-0 เนื่องจาก แฮร์มิลตัน ยกเท้าสูง จนไปเตะหัวคู่แข่งและโดนบอล

ครึ่งหลัง การท่าเรือ พยายามจะเล่นเกมรุกเพื่อทวงประตูคืน ซึ่งมีโอกาสนานๆทีและหวาดเสียวบ้างเป็นบางครั้ง ขณะที่ ขอนแก่น เมื่อมีโอกาสเข้าทำก็ยังลุยเต็มที่ แต่น่าเสียดายที่บอลชนคานจนอดยิงทิ้งห่าง กระทั่งท้ายเกม จงอางผยองสามารถประคองตัวจนจบด้วยชัยชนะได้สำเร็จ   

      บทสรุปจากเกม ขอนแก่น ยู ไน เต็ด เริ่มต้นเกมนี้เหมือนจะเกรงกลัวทีมเยือนไปสักหน่อย ดังจะเห็นได้จากเกมรับที่ถอยไปกองกันในกรอบเขตโทษ ทำให้การชะลอบอลจากกลางสนามไม่มีให้เห็น จนเกมผ่านไป 10 นาที รูปเกมดีขึ้น

จนสามารถยิงประตูนำในเวลาที่เหมาะสมและโชคดีมากๆที่จังหวะบอลเป็นใจให้ตามซ้ำ แม้จังหวะแรกจะถูกปัดไว้ได้ อย่างไรเสียเกมรับต้องตำหนิในหลายๆจังหวะที่ประกบตัวหลวมไปหน่อยและโชคดีชั้น 2 ที่ไม่ถูกยิงประตู ฉะนั้นสำหรับจงอางผยอง การคว้า 3 แต้ม ในเกมนี้ถือว่ามีโชคและดวงเข้ามาช่วย ขณะที่ การท่าเรือ เอฟซี เริ่มต้นเกมเหมือนจะมีแววดีสำหรับการมองถึง 3 แต้ม

แต่เมื่อเล่นไปเรื่อยๆดันดรอปลงและถูกซ้ำเติมด้วยการเสียประตูจากจุดโทษ นั่นจึงทำให้ครึ่งหลังต้องออกมาเล่นเกมบุก แต่ก็ไม่เห็นถึงความแตกต่าง แล้วหลังจากนั้นกลายเป็นตื้อตันเหมือนถอดใจไปเสียอย่างนั้น ซึ่งตรงจุดนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง เนื่องจากสกอร์ตามแค่ลูกเดียวและตัวเองเป็นทีมขนาดใหญ่กว่าเจ้าบ้านด้วยซ้ำ

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ธนาสิทธิ์โดดเด่น

เหมา 2 พา พีที ประจวบ เอฟซี คว้าชัย

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 19 ณ สนามสามอ่าว สเตเดี้ยม พีที ประจวบ เอฟซี ที่โชว์ฟอร์มในช่วงออกสตาร์ทได้ดีเหลือเกิน จะต้องพบกับ ชลบุรี เอฟซี ที่ผลงานไม่ย่ำแย่และต้องการแต้มเพื่อทำแต้มไล่จี้ทีมที่อยู่ด้านบน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-3-3 ขณะที่ทีมเยือนปรับไปเล่น 3-5-2  

      รูปเกมในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก โอกาสเข้าทำค่อนข้างน้อย โดยรูปแบบที่ปรากฏให้เห็นคือ การวางบอลข้ามฟากให้เพื่อนที่อยู่ที่ด้านได้ลากบอลเร็วในพื้นที่ว่าง แต่เมื่อถึงจังหวะเข้าทำมักถูกสกัดไว้ได้

กระทั่งนาทีที่ 30 เฉลิมพงษ์ จัดการปั่นฟรีคลิกแบบสุดสวยให้ ชลบุรี ขึ้นนำ 0-1 ซึ่งการมีประตูเกิดขึ้นมันก็เป็นผลให้เกมเปิด เพราะ พีที ประจวบ ต้องการทวงประตูคืนให้เร็วที่สุด โดยจังหวะที่เห็นมักเป็นการเจาะทางซ้ายและใช้ความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะในการเข้าทำ กระทั่งนาทีที่ 41 ต่อพิฆาตมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากจุดโทษ

จากนั้นไล่หลังเพียง 2 นาที แนวรุกเจ้าบ้านทำชิ่งและจบที่ ธนาสิทธิ์ กำลังลากบอลจี้ แล้วตัดสินใจยิงเสียบเสาไกลให้ทีมแซงนำ 2-1    

ครึ่งหลัง ชลบุรี วิ่งมากขึ้นทั้งในยามเล่นเกมบุกหรือในยามเสียบอล แต่มันไม่เห็นถึงผลลัพธ์ที่ดี เพราะ ประจวบ สามารถพาบอลหนีและทำเกมรุกได้อยู่ตลอด จนในนาทีที่ 68 ต่อพิฆาตมาได้ประตูทิ้งห่าง 3-1 จากการทำชิ่งและจบที่ ธนาสิทธิ์ คนเดิมยิงปั่นโค้งๆไปที่เสาไกล

ไม่เพียงเท่านั้น แนวรับฉลามชลยืนป้องกันผิดพลาดและเปิดพื้นที่ด้านข้างตลอด แต่โชคดีมากๆที่ไม่โดนยิงเพิ่ม กระทั่งช่วง 10 นาทีสุดท้าย ทีมเยือนถอดใจไม่สู้ต่อ   

      บทสรุปจากเกม พีที ประจวบเอฟซี ออกสตาร์ทเกมนี้แบบตื้อๆตันๆ แต่มาเร่งเครื่องในช่วงท้ายครึ่งแรกจนแซงนำ 2-1 ซึ่งต้องชม ธนาสิทธิ์ ที่เป็นผู้สร้างความแตกต่างในเกมนี้ กับการรับบอลที่ทำชิ่งแล้วจัดการปั่นบอลไปที่เสาไกลแบบเฉียบคมสุดๆ กระนั้นโอกาสอีกมากมายที่เกิดขึ้น หากต่อพิฆาตเฉียบคมกว่านี้

สกอร์สามารถไหลไปถึง 5-6 ลูก ได้ ส่วนทางฝั่ง ชลบุรี เอฟซี เกมรุกบอดสนิทจนทำอะไรคูแข่งไม่ได้เลย แต่โชคดีที่มีทีเด็ดจากฟรีคลิกจนได้ประตูขึ้นนำไปก่อน อย่างไรเสียปัญหาใหญ่ที่ทำให้พ่ายแพ้คือ การเปิดพื้นที่ด้านข้างมากเกินไปและแก้ไขไม่ได้ ทำให้จุดขึ้นกลายเป็นบ่อให้คู่แข่งเจาะจนเสียประตู ซึ่งในอีกมุมหนึ่งถือว่าโชคดีสุดๆแล้วที่คู่แข่งไม่คม เพราะไม่อย่างนั้นอาจโดนถล่มแบบไม่เหลือซาก

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ปัญหาวุ่นๆ

อุดรธานี เอฟซี ตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว ?

เมื่อกล่าวถึงสโมสรสีส้มที่มีปัญหาด้านการเงินมาตลอด 2-3 ปีหลัง คงหนีไม่พ้น อุดรธานี เอฟซี ที่จนถึงบัดนี้ยังยืนหยัดมาได้แบบน่าประหลาดใจ แต่นี่ก็คงเป็นฤดูกาลสุดท้ายที่พวกเขาจะได้เล่นไทยลีก 2 เพราะจากคะแนนในตารางที่อยู่อันดับสุดท้ายในเวลานี้ ซึ่งในรายการคิดไซด์โค้งก็ได้มีการพูดถึงปัญหา ณ ตอนนี้ พร้อมกับมีการต่อสายตรงถึง อุ๊บ วิริยะ พงษ์อาจหาญ อดีตประธานฝ่ายการตลาดของสโมสร ที่ขอถอนตัวออกไปก่อนหน้านี้อีกด้วย

มีปัญหาค้างเงินเดือนนักเตะมาตลอด 2-3 ปีหลัง

      เมื่อครั้งที่ ประกิต ดีพร้อม เคยออกมาไลฟ์สดเพื่อชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันยังคงมีอยู่ โดยจะเป็นในลักษณะของการค้าง 1-2 งวด แล้วจ่ายย้อนหลังทีละงวดแบบไม่เต็มจำนวน นั่นจึงทำให้นักฟุตบอลหลายคนไม่สามารถอยู่ได้ ซึ่งในบางรายถึงขั้นขอเพียงใบโอนย้ายทีมและยินดีที่จะไม่รับเงินเดือนที่สโมสรค้างอยู่  

สโมสรเคลียร์หนี้ 5 ล้าน ถือผ่านไลเซนซิ่ง

      อุดรธานีเอฟซี ค้างเงินเดือนนักฟุตบอลทั้งของปัจจุบันและอดีตที่ย้ายทีมออกไปแล้ว รวมๆเป็นเงินกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งก่อนที่ฤดูกาลนี้จะเปิด พวกเขาจะต้องเคลียร์หนี้ 5 ล้านบาทให้หมด มิเช่นนั้นจะไม่ได้ไลเซนซิ่งและลงแข่งขัน ซึ่งในรายของ เมืองกาญ ยูไนเต็ด เคลียร์ไม่ทันจึงไม่ได้ลงแข่งขัน ฉะนั้นตรงจุดนี้บอร์ดบริหารยักษ์แสดสามารถเคลียร์ได้ทันเวลา

ดึง อุ๊บ เข้ามาช่วย หาสปอนเซอร์

      บอร์ดบริหาร อุดรธานี เอฟซี ได้มีการดึง อุ๊บ วิริยะ พงษ์อาจหาญ เข้ามาเพื่อช่วยงานในฝ่ายประธานการตลาด ซึ่งสปอนเซอร์ที่หามาได้มักเป็นสิ่งของ ขณะที่การหาเงินสนับสนุนจะมีส่วนแบ่งให้กับ อุ๊บ 10% ของเงินที่หามาได้ แล้วทางฝั่งบริษัทเมืองไทยประกันภัยของมาดามแป้ง ได้มีการมอบเงิน 1 ล้านบาท ฉะนั้นทางฝั่งอุ๊บต้องได้ 1 แสนบาท แต่เกิดการจ่ายไม่ตรงตามเวลาที่ตกลงกัน กล่าวคือ อุ๊บ ได้เงินไปเพียง 5 หมื่นบาท แล้วตรงจุดนี้กลายเป็นการแตกหักให้นักปั้นดาราถอนตัวออกไป

ฟ้องร้องกับขั้วเก่า ชนะแล้ว แต่รอจบซีซั่นนี้

      สิทธิ์การทำทีม อุดรธานี เอฟ ซี ของ อริสรา ชะมูล กับกลุ่มบริหารชุดเก่า มีการฟ้องร้องเพื่อดึงสิทธิ์การทำทีมกลับมา เพราะบอร์ดบริหารชุดเก่ามองว่าปัญหาที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน อริสรา ไม่สามารถจัดการกับปัญหานั้นได้ ซึ่งตามข่าวได้แจ้งว่าสิทธิ์การทำทีมกลับไปอยู่กับบอร์ดชุดเก่าแล้ว แต่รอเวลาที่จะเรียกร้องสิทธิ์เท่านั้น โดยคาดกันว่าน่าจะเป็นหลังจบซีซั่นนี้ ที่ต้องการสร้างทีมขึ้นมาใหม่จากไทยลีก 3

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

วิเคราะห์ รีวิว

รีโว่ไทยลีก นัดที่ 21 (โปรแกรมวันอาทิตย์)

ศึกฟุตบอล รีโว่ไทยลีก นัดที่ 21 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ความเมามันส์จะอยู่ที่การลงสนามพร้อมๆกันในวันนี้ของทีมใหญ่ ซึ่งตำแหน่งแชมป์เหมือนจะการันตีกลายๆแล้ว แต่สำหรับอันดับหัวตารางก็ยังมีความสำคัญต่อการได้โควต้าไปลุยถ้วยเอเชีย โดยความพร้อมของแต่ละทีมก่อนแข่งจะเป็นอย่างไรและผลที่คาดจะออกมาหน้าตาแบบไหน นับจากนี้เราจะได้รู้กัน  

พีที ประจวบ เอฟซี พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (17.30 น.)

      พีที ประจวบ เป็นอีกทีมที่มีการทัพแบบจัดหนักและผลงานออกมาน่าพอใจ แม้ในนัดล่าสุดจะอุตส่าห์ยิงตีเสมอ บีจี ปทุม แต่สุดท้ายดันพ่ายแพ้ ขณะที่ บุรีรัมย์ สภาพทีมสมบูรณ์ ระบบการเล่นลงตัว และพร้อมจะกวาดชัยชนะทุกนัดที่ลงเล่น ฉะนั้นเกมนี้วิเคราะห์ได้ว่าปราสาทสายฟ้าจะบุกมาเฉือนได้

ขอนแก่น ยูไนเต็ด พบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี (18.00 น.)

      ศึกอีสานดาร์บี้ของ 2 จังหวัดที่อยู่ติดกัน ดีกรีมันเข้มข้นขึ้นเพราะอันดับในตารางที่ต้องหนีตายทั้งคู่ โดยทางฝั่ง ขอนแก่น ผลงานดูดีกว่าเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ปลอดภัยเพราะระยะห่างจากโซนแดงเพียง 3 คะแนนเท่านั้น ขณะที่ โคราช การเผชิญต่อผลงานสุดบู่และมีการเปลี่ยนบอร์ดบริหารอีกครั้ง มันก็ต้องมาดูกันว่าจะทันการหรือไม่ เพราะอันดับในตารางได้ลงมาอยู่โซนแดงเป็นที่เรียบร้อย สำหรับเกมนี้มองว่าจงอางผยองแกร่งเมื่อเล่นในบ้าน พร้อมกับเชื่อว่าจะไม่แพ้ในเกมนี้เป็นแน่

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบกับ การท่าเรือ เอฟซี (18.30 น.)

      เกมคู่ใหญ่ของวันนี้อยู่ที่สนาทรู สเตเดี้ยม โดยทางฝั่ง ทรู แบงค็อก ผลงานร้อนแรงอีกครั้งกับการเก็บแต้มแบบรัวๆ แม้จะมาในวันที่สายไปสำหรับการทำแต้มทาบจ่าฝูง ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ การใช้บริหารโค้ชคู่ยังไม่เห็นถึงฟอร์มอันโหดเหี้ยมเท่าไร แล้วยิ่งบุกไปเยือนทีมที่กำลังฟอร์มแรงอย่าง บียู มันก็มองได้ว่า แข้งเทพจะเฉือนชนะให้ดูเป็นขวัญตา

หนองบัว พิชญ เอฟซี พบกับ ชลบุรี เอฟซี (19.00 น.)

      หนองบัว กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่สุดๆกับการลงมารั้งบ๊วย หลังจากเลกที่ 2 เก็บได้เพียง 1แต้มเท่านั้น ส่วนเกมนัดล่าสุดมีโอกาสชนะ แต่ดันยิงไม่คม เสียประตู และโมเมนตัมให้คู่แข่ง ไม่ต่างจาก ชลบุรี ที่ตัวเจ็บเยอะจนผลงานไม่ค่อยดีและแพ้ไปแล้ว 3 นัด จาก 4 เกมหลังสุด กระนั้นการบุกไปเยือนทีมบ๊วย อย่างน้อยๆฉลามชลต้องเก็บ 1 แต้ม มิเช่นนั้นผลงานอาจรูดยาวไปมากกว่านี้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ตัดเกรดผู้เล่น

การท่าเรือ เอฟซี ในเกมเฉือน เชียงราย

ศึกฟุตบอลช้างเอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2022/23 รอบ 8 ทีมสุดท้าย การท่าเรือ เอฟซี จับสลากเป็นเจ้าบ้าน และต้องพบกับ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด แต่ในท้ายที่สุดก็สามารถเฉือนชนะไปได้ 1-0 จากการยิงประตูช่วงท้ายเกม ซึ่งในเกมนี้ผู้เล่นที่ลงสนามจะได้คะแนนเท่าไรบ้าง นับจากนี้เราจะได้ทราบกัน

สมพร ยศ  (6) : งานไม่เยอะ งานไม่หนัก แทบไม่มีจังหวะเซฟสำคัญ แต่ก็มีจังหวะออกบอลพลาดเหมือนกัน  

เอเลียส ดอเลาะ (7) : แม้ความเร็วจะช้ากว่าแนวรุกคู่แข่ง แต่การสกัดบอลและยืนตำแหน่งถือว่าถูกต้องจนสกัดช่วยทีมไว้ได้หลายจังหวะ

เนกาบ้า ปินโต  (6) : การจ่ายบอลมีเสียหลายจังหวะ รวมถึงการเก็บบอลไว้กับตัวมักโดนฉกไป แต่คะแนนดีดกลับเพราะเป็นผู้เติมขึ้นมาโหม่งประตูชัย  

บดินทร์ ผาลา (5) : กระชากไม่ผ่านและมักถูกสกัด รวมถึงการจ่ายบอลที่ดิบดีของเพื่อน เจ้าตัวไม่สามารถดูดบอลให้อยู่เท้าในจังหวะแรก และนั่นทำให้ต้องแต่งบอลหลายจังหวะ กระทั่งคู่แข่งลงมาแพ็คพื้นที่และพลาดโอกาสจู่โจมเร็ว  

ศุภนันท์ บุรีรัตน์ (5) : เกมรับแทบไม่มีงานหนัก แต่การเติมเกมรุกไม่ค่อยสุด การเปิดบอลไม่อันตรายและสร้างจังหวะที่หวาดเสียว  

ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ (5) : การกระชากและใช้ความเร็วบริเวณริมเส้น โดนแนวรับฝั่งตรงข้ามสกัดไว้ได้แบบหมดสิ้น ทำให้ครึ่งหลังถูกเปลี่ยนตัวออกเป็นคนแรก

ฟรานส์ ปูโตรส (5) : ไม่โดเด่น แต่ก็ไม่มีอะไรผิดพลาดแบบน่าเกลียด

เควิน ดีรมรัมย์ (6) : เกมริมเส้นทางฝั่งซ้าย ปิดคู่แข่งได้ดี ขณะที่การเติมเกมรุกน่ากลัวและอันตรายกว่าฝั่งขวา เพราะมีความเร็ว แต่น่าเสียดายที่ไม่นำพาไปสู่ประตู เพราะมักถูกสกัดทิ้งอยู่ร่ำไป  

แฮมิลตัน ซัวเรส (7) : เป็นตัวเชื่อมบอลและเก็บบอลในแดนหน้า อีกทั้งเมื่อเก็บบอลได้ ก็จะป้อนให้เพื่อนที่วิ่งเติมขึ้นมา  

แอร์ตอน ติราบาสซี่ (7) : การสกัดบอลและตามประกบแนวรุกคู่แข่ง ถือว่าทำได้ดีและไม่มีจังหวะที่ผิดพลาดจนต้องหยุดคู่แข่งด้วยการตัดฟาวล์  

วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (6) : มีโอกาสได้ลาก ได้จ่าย และยิง แต่ไม่ได้ประตูและทำให้ดูเหมือนไม่โดดเด่น  

ปกรณ์ เปรมภักดิ์ (5) : มีเวลาอยู่ในสนามราว 30 นาที แต่ไม่ได้สร้างความแตกต่างให้กับทีม

ธีรศักดิ์ เผยพิมาย (ไม่มีคะแนน) : ลงสนามในช่วงทดเวลา

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

สรุปการแข่งขัน

แข่งขัน รีโว่ไทยลีก นัดที่ 20

ศึกฟุตบอล รีโว่ไทยลีก นัดที่ 20 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ เกมคู่เปิดหัวที่เหมือนจะชิวๆ กลับกลายเป็นเกมที่ยากกว่าจะเอาชนะได้ ส่วนเกมหนีตายกินกันไม่ลง ทำให้โอกาสยังเปิดกว้างสำหรับทุกทีม ขณะที่เกมเอลกลาซิโกเมืองไทย ชัยชนะตกเป็นของ เมืองทอง ทั้งที่เหลือตัวผู้เล่นเพียง 10 คน ซึ่งบทสรุปของทุกเกมจะเป็นอย่างไร นับจากนี้เราจะได้ทราบกัน

การท่าเรือ เอฟซี 2-1 หนองบัว พิชญ เอฟซี

      การใช้โค้ชคู่ของ การท่าเรือ ผลงานยังไม่ไฉไลเท่าไร ทำให้เกมนี้ต้องพยายามคว้าชัยชนะให้ได้ แต่ในเกมนี้ก็ต้องเจอกับความยากลำบากด้วยการโดน หนองบัว นำไปก่อน 0-1 อีกทั้งพญาไก่ชนมีโอกาสยิงจ่อๆเพื่อทิ้งห่าง แต่ดันทำโอกาสหลุดลอย จากนั้นในครึ่งหลัง การท่าเรือ ก็ยังไม่ดีขึ้นและส่อแววจะพ่ายคาบ้าน กระทั่ง 10 นาทีสุดท้าย สิงห์เจ้าท่ายิงรัว 2 เม็ด แซงชนะไป 2-1 แบบเหงื่อตก

สุโขทัย เอฟซี 1-1 ลำปาง เอฟซี

      3 แต้มในเกมนี้ ถือว่ามีความหมายสำหรับทั้ง 2 ทีม โดยเฉพาะฝั่งทีมเยือน ที่หากยังคว้าชัยไม่ได้ โอกาสอยู่รอดก็จะยิ่งเหลือน้อยลงไปอีก โดยในครึ่งแรกยังทำอะไรกันไม่ได้ แต่เมื่อเริ่มครึ่งหลัง สุโขทัย ชิงนำไปก่อน 1-0 จาก บาสโจ้ แต่ไล่หลังไม่นาน ลำปาง มายิงตีเสมอ 1-1 และแบ่งแต้มออกไปได้สำเร็จ ซึ่งทางฝั่งค้างคาวไฟ อาจพอใจ แต่สำหรับรถม้ามรกต การได้แต้มเดียวอาจไม่ถูกใจนัก

ลำพูน วอริเออร์ 0-0 นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี

      3 แต้มของคู่ที่แล้วว่าสำคัญแล้ว เกมคู่นี้สำคัญยิ่งกว่า เพราะทั้งคู่อยู่ในข่ายโซนแดง แต่จากรูปเกมที่ปรากฏ ทั้ง 2 ทีมต่างระมัดระวังตัวเองแบบเต็มพิกัด อีกทั้ง ลำพูน ยังจบสกอร์ไม่ตรงกรอบเลยสักครั้ง ขณะที่ โคราช ยิงเข้ากรอบไป 2 ครั้ง แต่ไม่ได้ประตู ทำให้ทั้ง 2 ทีม เสมอกันไป 0-0 และแน่นอนว่าการได้ 1 แต้มสำหรับทั้งคู่ ย่อมไม่มีใครพอใจ เพราะมันไม่สามารถตัดแต้มคู่แข่งได้

ชลบุรี เอฟซี 0-1 เมืองทอง ยูไนเต็ด

      เอลกลาซิโกเมืองไทยในหนนี้ ชลบุรี กำลังเผชิญต่อปัญหานักเตะบาดเจ็บจนผลงานไม่ค่อยดี ขณะที่เมืองทอง ปัญหาเรื่องโค้ชมาริโอ้ จะออกหรือไม่ออก ได้จบสิ้นตรงที่การดึง โจซิส เข้ามาช่วย โดยในครึ่งแรกยังยิงกันไม่ได้ แต่พอเข้าสู่ครึ่งหลัง เมืองทอง เหมือนจะเจอสถานการณ์ที่เลวร้ายกับการเหลือผู้เล่น 10 คน แต่จำนวนที่น้อยกว่านี้กลับยิงนำ ชลบุรี 0-1 และคว้าชัยชนะออกไปแบบหน้าตาเฉย

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

มือไม่จับ แต้มก็ไม่ได้

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจอดราม่าตั้งแต่เกมยังไม่เริ่ม

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 17 ของฤดูกาล ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามช้างอารีน่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ผลงานยังแรงดีไม่มีตก จะต้องพบกับ ชลบุรี เอฟซี ที่ผลงานก่อนปิดเลกตกลงไป สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ปราสาทสายฟ้ามาในระบบ 4-2-3-1 ส่วนฉลามชลใช้ 4-3-3

      บุรีรัมย์ เคาะบอลถึงแดน 3 แล้วจะพยายามแทง วาง หรือออกด้านข้างเพื่อให้แบ็คเติมขึ้นมาเปิด โดยแนวรุกจะมีหน้าที่ในการวิ่งเล่นไลน์และหาพื้นที่ว่างเมื่อบอลถูกส่งมาให้

นั่นจึงทำให้แนวรุกของบุรีรัมย์ หลุดจากการประกบของแนวรับทีมเยือน แต่ยังยิงประตูนำไม่ได้เพราะไม่คม และตัดสินใจนานจนไม่มีโอกาสยิงแบบเหน่งๆ อย่างไรเสียพอผ่าน 15 นาทีแรกของเกม ชลบุรี รอดพ้นการเสียประตูและมีโอกาสได้ส่องประตู แต่ดันไม่ได้

ทั้งที่แนวรับเจ้าถิ่นเปิดช่องให้แล้ว นั่นจึงทำให้เกมยังเยื้อกันต่อไป จนในช่วงท้ายครึ่งแรก ปราสาทสายฟ้าขึ้นนำ 1-0 จากลูกยิงซ้ำของ ศุภชัย ที่ควรสมควรจะล้ำหน้า แม้ในภายหลังจะมาอธิบายด้วยภาพที่ไม่ใช่แนวขนานว่าไม่ล้ำ เพราะนี่จะเป็นบรรทัดฐานที่ทำให้อีกหลายเคสเกิดปัญหา

(รูปที่2-3)

      ครึ่งหลัง บุรีรัมย์ ยังคงเป็นฝ่ายเดินหน้าใส่ในลักษณะได้ก็ดี แต่ไม่ได้ก็ต้องไม่เสีย ซึ่งมีโอกาสเยอะมากมาย จนมาได้ประตูทิ้งห่าง 2-0 จากจุดโทษ และค่อยๆผ่อนเกมมากขึ้น ส่วนทางฝั่ง ชลบุรี เล่นเกมรับเยอะกว่า แต่ก็มีโอกาสสวนขึ้นมาแบบได้น้ำได้เนื้อ ซึ่งโอกาสทองจาก ยู บยอง ซู สามารถพลิกโมเมนตัมให้ ฉลามชล กลับสู่เกมได้ แต่เจ้าตัวดันยิงไม่เข้า ทั้งๆนี่เป็นอีกครั้งที่แนวรับเจ้าถิ่นพลาดให้ สุดท้ายเมื่อทำอะไรกันไม่ได้ สกอร์จึงค้างอยู่ที่ 2-0

      บทสรุปจากเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เกมรุกไม่ค่อยน่าห่วง เพราะมีรูปแบบการเข้าทำที่หลากหลายแล้วแต่จะหยิบอันไหนขึ้นมาใช้ กระนั้นก็ต้องติในเรื่องความเฉียบคมที่ต้องมีมากกว่านี้ เมื่อเทียบกับโอกาสที่เพื่อนปั้นมาให้ ส่วนเกมรับไม่เสียประตูก็จริง

แต่มันปรากฏให้เห็นถึงการเปิดพื้นที่ให้คู่แข่งได้ยิงแบบจังๆ ซึ่งยังดีที่คู่แข่งไม่คมเอง ขณะที่ ชลบุรี เอฟซี เกมรับทำงานหนักและเอาแนวรุกเจ้าถิ่นไม่ค่อยอยู่ ไม่ต่างจากเกมรุกที่มีแม้จะมีโอกาสไม่มากมาย แต่ด้วยความที่แนวรับเจ้าถิ่นพลาดให้แล้ว อย่างน้อยมันก็ควรยิงได้บ้าง มิใช่ยิงทิ้งขว้างแบบนี้  หรือหากจะกล่าวว่า ฉลามชลต้องปรับทั้งเกมรับและรุกก็คงไม่ผิดนัก

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover