Categories
ข่าวกีฬา

วิเคราะห์ รีโว่ไทยลีก

รีวิว รีโว่ไทยลีก โปรแกรมวันอาทิตย์  

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 17 โปรแกรมวันอาทิตย์ ของฤดูกาล ลงเตะต่อเนื่องในวันอาทิตย์อีก 4 คู่ โดยเมื่อกวาดสายตาดูแล้วก็จะพบว่าไม่มีเกมระดับบิ๊กแมตช์ แต่หากพูดถึงการฟาดฟันของทีมกลางค่อนไปทางด้านล่างของตาตาราง ก็ต้องบอกว่ามันส์อย่างแน่นอน ซึ่งใครจะมีโอกาสเป็นผู้ชนะและคว้า 3 แต้ม นับจากนี้เราจะไปรีวิวและวิเคราะห์กัน

ลำพูน วอริเออร์ พบกับ ราชบุรี เอฟซี (18.00 น.)

      ลำพูน เป็นอีกทีมที่แสดงถึงความต้องการที่จะอยู่รอดด้วยทุ่มทุนผ่านการดึงโค้ชชั้นยอดอย่าง การ์ม่า เข้ามาช่วยทีม พร้อมกับนักเตะใหม่อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งในนัดที่ผ่านมาเกือบทำเซอร์ไพรส์ แต่ก็ยังดีที่เก็บ 1 แต้ม มาจากเชียงราย ส่วนทางฝั่ง ราชบุรี เกมนัดที่แล้วทำช็อคด้วยการพ่าย ขอนแก่น คาบ้านแบบหน้าตาเฉย ทำให้เกมที่ทั้ง 2 ทีมจะพบกัน มีสิทธิ์ออกหน้าเสมอ เพราะทีมหนึ่งต้องการแต้มและอีกทีมหนึ่งไม่ต้องการพ่าย 2 นัดติด

ขอนแก่น ยูไนเต็ด พบกับ สุโขทัย เอฟซี (18.00 น.)  

      ขอนแก่น วุ่นวายกับการเปลี่ยนโค้ชและสุดท้ายกลับมาใช้โค้ชลูกหม้อของตัวเอง แล้วในเกมล่าสุดก็ได้บุกไปคว้า 3 แต้ม ทำให้นี่เป็นชัยชนะนัดที่ 2 หลังจากลงสนามไป 16 นัด ส่วนทางฝั่ง สุโขทัย การพบกับทีมจ่าฝูง พวกเขาต้านทานไม่ไหวและพ่ายไปแบบขาดลอย กระนั้นการบุกไปเยือนถิ่นจงอางผยอง เชื่อว่าจะสู้กันได้อย่างสูสีและเป็นอีกคู่ที่มีโอกาสออกหน้าเสมอมากที่สุด

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบกับ ชลบุรี เอฟซี (18.30 น.)

      บุรีรัมย์ นำโด่งเป็นจ่าฝูงด้วยการมีแต้มนำแบบขาดลอย อีกทั้งเกมล่าสุดก็โชว์ฟอร์มได้สมราคา ส่วน ชลบุรี เกมที่ผ่านมานำคู่แข่งไปไกล แต่เสียคืนแบบน่าตกใจ กระนั้นยังดีที่ยิงเพิ่มและปิดเกมได้ โดยการโคจรมาพบกันของทั้ง 2 ทีม ต่างมีฟอร์มที่ดีทั้งคู่ แต่ ปราสาทสายฟ้าดีกว่าและน่าจะคว้าชัยในเกมนี้

โปลิศ เทโร เอฟซี พบกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (19.00 น.)

      เทโร เสียประตูค่อนข้างเยอะในเกมที่แล้ว แต่ก็ได้โชว์ถึงความมุ่งมั่นและยิงคืนกลับมา แม้ในท้ายที่สุดจะพ่ายแพ้ไปก็ตาม ส่วนทางฝั่ง บีจี ปทุม ยังไม่ฟื้นจากเลกแรก เพราะยังเล่นไม่มีทรงและพ่ายแพ้คู่แข่งอีกเกม ฉะนั้นเกมนี้มองว่า มังกรโล่เงิน จะไม่แพ้ในถิ่น และจากนี้ลุ้นเพียงว่าจะชนะหรือเสมอเท่านั้น

และนี้คือ ศึกฟุตบอลไทยรีโว่ นัดที่ 17 โปรแกรมวันอาทิตย์

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ดาวทองหวิดคาบ้าน”

ปาร์ค ฮัง ซอ ช่วย เวียดนาม เจ๊า ไทย 2-2

ศึกฟุตบอล AFF Mitsubishi Electric Cup 2022 รอบชิงชะเลิศ นัดแรก ณ สนามมีดิ่งห์ สเตเดี้ยม ทีมชาติเวียดนาม ในฐานะแชมป์เก่า 2 สมัย จะต้องโคจรมาพบกับคู่แค้นตัวฉกาจอย่าง ทีมชาติไทย ที่เป็นแชมป์มาแล้ว 6 สมัย โดยไฮไลท์สำคัญของวันนี้ คือ การคุมทีมในบ้านนัดสุดท้ายของ ปาร์คฮังซอ ในฐานะเฮดโค้ช ขณะที่ผังการเล่นถือว่าผิดคาด เพราะทัพช้างศึกเลือกเล่นระบบ 3-5-2 เหมือนเจ้าบ้าน   

      ทีมชาติเวียดนาม เริ่มต้นด้วยความคึกคักผ่านการเพรสซิ่งสูงถึงหน้าไลน์แนวรับทีมเยือน อีกทั้งเมื่อได้บอลก็จะจัดการเปิดจากด้านข้าง หรือแทงบอลให้ 2 กองหน้าในเขตโทษ แต่เมื่อเวลาผ่านไปราว 10 นาที ทีมชาติไทย เริ่มครองบอลได้เหนียวแน่น

อีกทั้งสามารถแกะการเพรสซิ่งและเปลี่ยนเป็นเกมรุกได้รวดเร็ว อย่างไรก็ดี ทัพดาวทองมาได้ประตูนำ 1-0 ในนาทีที่ 24 จากการเติมขึ้นมาเปิดที่ด้านขวาของ ก๊อก ไห่ ให้ เตี๋ยน ลิญ ได้พุ่งโหม่งแบบเต็มศีรษะ ซึ่งในจังหวะนี้ ศศลักษณ์ ยืนห่าง และ กฤษดา ถูกวิ่งแซงจากด้านหลังแล้วตามไม่ทัน 

       เวียดนาม ไม่ตั้งรับและต่อบอลเพื่อโจมตีจากด้านข้างแบบต่อเนื่อง กลับกัน ไทยมีอาการตื้อให้เห็นราว 10 นาที ก่อนที่ทัพช้างศึกจะค่อยๆฟื้น แต่โอกาสจบสกอร์ไม่เยอะ แม้จะพาบอลมาถึงแดนสุดท้ายได้อยู่เรื่อยๆ โดยจังหวะที่ใกล้เคียงที่สุด คือ การยิงฟรีคลิกหน้ากรอบของ ธีราทร แล้วบอลพุ่งชนเสาอย่างจัง

ครึ่งหลังเริ่มมาได้เพียง 3 นาที ทีมชาติไทย ได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการวางบอลข้ามไลน์กองหลังของ ธีราทร ให้ ปรเมศ ได้ลากเข้าไปแล้วล็อคหลบ ก่อนยิงเข้าเสาแรกแบบใจเย็น จากนั้นยังคงเป็นไทย ที่พยายามเจาะเข้าไป แต่มักถึงแค่แดน 3 เท่านั้น กระทั่งนาทีที่ 63 การเสียบอลกลางทางของเจ้าบ้าน ทำให้ ธีราทร

เลือกจะแทงเร็วให้ สารัช ที่วิ่งสวนไลน์ล้ำหน้าขึ้นมาพอดี ได้หลุดเข้าไปยิงให้ทัพช้างศึกขึ้นนำ 1-2 ทำให้ ทีมชาติเวียดนาม ที่ครึ่งหลังดูตื้ออยู่แล้ว ยิ่งตื้อกว่าเดิม อย่างไรก็ดีช่วงท้ายเกม ทัพดาวทองมาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากลูกยิงแบบจับยัดของ วาน ธัน ช่วยให้รอดพ้นจากความพ่ายแพ้

      บทสรุปจากเกม ทีมชาติไทย เล่นได้ดีเป็นช่วงๆในครึ่งแรก แต่พอเข้าสู่ครึ่งหลัง การจ่ายบอลของ ธีราทร ถือเป็นตัวแปรสำคัญให้ทีมได้ 2 ประตู กระนั้นการป้องกันลูกกลางอากาศจากทางด้านข้าง ยังมีปัญหาและโดนเล่นงานตลอด ซึ่งหากคู่แข่งโหม่งได้คมกว่านี้ อาจเสียประตูมากกว่า 2 ประตู รวมถึงความผิดพลาดส่วนบุคคล ที่หากเฉียบคมกว่านี้

ทัพช้างศึกสามารถชนะที่สกอร์ 4-2 ได้ ส่วนทางฝั่งทีมชาติเวียดนาม ไม่ได้มีช่วงเวลาที่เล่นได้ดีกว่าแบบชัดเจน แต่มีความเฉียบคมเลยได้ประตูนำก่อน จนเข้าสู่ครึ่งหลัง ความผิดพลาด ปาร์คฮังซอ ที่จัดการวางแนวรับมีผลให้เสียประตู แล้วรูปเกมตื้อตันไป กระนั้นยังดีที่คู่แข่งยิงทิ้งห่างไม่ได้ แล้วกองหน้าสำรองลงมายิงช่วยชีวิตไว้ได้พอดี

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ช้างศึกไปตามนัด”

ข่มมิดเหมือนเคย ก่อนไล่ถล่ม มาเลเซีย ขาด 3-0

ศึกฟุตบอล AFF Mitsubishi Electric cup 2022 รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ณ สนามธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ช้างศึก ที่บุกไปพ่ายมาในเกมแรก ทำให้เกมนี้ต้องชนะด้วยผลต่าง 2 ประตูเป็นอย่างน้อย จะต้องพบกับ ทีมชาติมาเลเซีย ที่ชนะมาในเกมแรกและมีทางเลือกต่อการเข้ารอบ ซึ่งอย่างแย่สุดสามารถแพ้ได้ 1 ประตู ก็ยังเข้ารอบ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-3-3 ส่วนทีมเยือนยึดแผน 4-2-3-1

      ทีมชาติมาเลเซียพยายามจะบีบเร็วตั้งแต่แดน 2 และเปิดพื้นที่ด้านข้างไว้ จนเวลาผ่านไป 10 นาที การบีบเร็วเริ่มไม่มีผลและมีช่องว่าง ทำให้ทีมชาติไทย สามารถพาบอลไปถึงแดนสุดท้ายได้เร็วและอาศัยการเจาะจากริมเส้น

กระทั่งนาทีที่ 18 ธีราทร เปิดบอลให้ ธีรศิลป์ โหม่ง ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับทีมเยือนเปิดพื้นที่ด้านข้างและ โดมินิก ตัน ไม่ตามประกบให้สุดทาง จากนั้น ทัพช้างศึก ไม่สามารถบุกได้อย่างดุดันเหมือนก่อนได้ประตูนำ แต่ในขณะเดียวกัน ทัพเสือเหลืองไม่สามารถต่อบอลให้นิ่งได้ ดังจะเห็นเมื่อต่อบอลได้ไม่กี่จังหวะก็จะเสีย หรือเมื่อครองบอลแล้วใกล้เสียก็จะสาดทิ้งไปเลย

ครึ่งหลัง ทีมชาติมาเลเซีย พยายามจะเพรสเร็วเพื่อให้ได้บอล แต่เมื่อได้บอลมาเหมือนไม่รู้จะเข้าทำยัง ทำให้โอกาสจบสกอร์แทบไม่มี อีกทั้งโอกาสที่ดูจะเสียวหน่อยก็มักมาจากการฉกฉวยโอกาสที่เจ้าบ้านผิดพลาด แล้วด้วยการครองบอลที่ไม่แน่นอนนี้ มันจึงเป็นผลให้ ทีมชาติไทย ไม่กดดันและได้ประตู 2-0 และ 3-0 กระทั่งท้ายเกมมีการผ่อนและเปลี่ยนตัวผู้เล่นเพื่อประคองให้จบเกม  

      บทสรุปจากเกม ช้างศึก ได้ประตูแรกในช่วงเวลาที่เหมาะสม ทำให้สถานการณ์ผ่อนคลายไปได้มาก แต่หลังจากได้ประตูกลับเล่นไม่ดุดันเสียอย่างนั้น จนในครึ่งหลังกลับมาบุกใหม่แล้วได้ประตูเพิ่ม อีกทั้งจังหวะที่เป็นใจยังมาช่วยให้สกอร์ขาด กระนั้นยังมีบางจังหวะที่จ่ายพลาดในแดนตัวเอง ซึ่งต้องปรับปรุงและไม่ควรจะเกิดขึ้น ขณะที่ทีมชาติมาเลเซีย พยายามจะบีบ พยายามเข้าหาบอลเร็ว

แต่ไม่สามารถทำให้ดีอย่างต่อเนื่องได้ สุดท้ายกลายเป็นเปิดพื้นที่จนถูกโจมตีเสียประตู ส่วนเกมรุกเก็บบอลได้ไม่นานและมักมีอาการไม่นิ่ง อีกทั้งการวางบอลจากกลางสนามที่เคยทำได้ก็หายไป ซ้ำร้ายโอกาสที่ดูหวาดเสียวดันมาจากการฉวยโอกาสที่เจ้าถิ่นผิดพลาด สุดท้ายเมื่อเสียประตูมากกว่าและยิงคืนไม่ได้ จึงต้องเป็นฝ่ายตกรอบไป

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ในเกมตามเจ๊า ไทย 2-2

ตัดเกรดผู้เล่นทีมชาติเวียดนาม

นัดชิงชนะเลิศ AFF Mitsubishi electric cup 2022 ยกแรก ขุนพลดาวทอง ที่ได้เล่นในบ้านก่อน กลายเป็นฝ่ายไล่ตามตีเสมอไทย 2-2 ซึ่งจากสกอร์นี้ถือว่าเสียเปรียบมหาศาล เพราะการบุกไปเยือนต้องชนะเท่านั้น

กระนั้นฟอร์มการเล่นของ ทีมชาติเวียดนาม ในเกมนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง นับจากนี้เราจะไปให้คะแนนกัน

ดัง วาน ลัม (6) : มีจังหวะเซฟช่วยทีม 2-3 จังหวะ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าลูกถูกตีเสมอ 1-1 นั้นพลาดเต็มๆ เพราะโดนยิงเสาแรกทั้งที่ยืนอยูใกล้ๆ  

 โด ดุย มานห์ (5) : เป็นแนวรับที่ประกบแนวรุกไทยไม่ค่อยอยู่ แล้วเพียง 58 นาที ก็ถูกเปลี่ยนตัวออก     

เกว ง็อก ไฮ (5) : เปิดบอลแอสซิสต์ให้เพื่อนแบบงามหยด แต่ทั้ง 2 ประตูที่เสีย  มีความผิดพลาดเต็มๆ คือ ลูกหนึ่งถูกหลอกหลังหัก อีกลูกหนึ่งขยับไลน์ขึ้นมาไม่ทัน ทำให้โดนหักคะแนนเยอะ    

บุย เทียน ดุง (6) : ไม่ได้มีความผิดพลาดแบบน่าเกลียด แต่ที่เปลี่ยนน่าจะเป็นเพราะพลังเริ่มหมด

ดวน วาน เฮา (6) : ไม่ค่อยซ่าเหมือนเกมก่อน และไม่ค่อยมีลูกเปิดสวยๆให้เพื่อน  

 โด ฮุง ดุง (5) : ความโดดเด่นถูกกลืนหายเพราะศักยภาพสสู้กองกลางของไทยไม่ได้    

โฮ ทัน ไท (6) : ไม่ได้มีความผิดพลาด แต่ในช่วงท้ายเริ่มหายไปจากเกม ทำให้ถูกเปลี่ยนตัวออก

 เหงียน ฮวง ดึ๊ก (6) : พยายามจ่ายแทงให้เพื่อนอย่างสุดกำลัง แต่มักถูกดักจากแนวรับของไทย  

พาม ตวน ไฮ (5) : เป็นสากดีๆที่ไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไรนัก ทำให้ถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่นาทีที่ 58

เหงียน ควง ไฮ (5) : ถ้าบอกว่าไม่ได้ลงก็คงจะเชื่อ เพราะบทบาทน้อย แถมจังหวะจ่ายมักติดกับดักตลอด  

เหงียน วาน เควี๊ยต (5) : สนามในนาทีที่ 78 แทน ควง ไฮ แต่ก็มีสภาพไม่ต่างกัน  

 เหงียน เทียน ลินห์ (7) : เป็นกองหน้าที่คมกริบ เพราะโอกาสครั้งแรกของเกมก็ทำประตูได้ทันที แถมมีความอันตรายเมื่อบอลถูกสาดมาที่ศีรษะ แต่ก็น่าเสียดายเพราะมีจังหวะที่เกือบโหม่งเบิ้ลลูก 2  

บุย ฮอง เวียตอันห์ (6) : ลงมาแล้วช่วยยืนคุมแนวรับได้ดี แต่ก็มีจังหวะที่ตามไม่ทันและต้องวิ่งหน้าตั้งให้เห็น

พาน วาน ดึ๊ก (5) : ลงมาแล้ว ก็ไม่ได้ช่วยทีมให้ดีขึ้น 

วู วาน ธันห์ แทน (7) : ลงสนามนาทีที่ 85 สัมผัสโดนบอลไม่กี่ครั้ง แต่การยิงไกลเป็นประตูตีเสมอ 2-2 ถือเป็นประตูสำคัญที่ทำให้ทีมไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ไปมากกว่านี้

เหงียน ตันห์ บิน (ไม่มีคะแนน) : ส่งสนามนาทีที่ 85 แต่ไม่ค่อยโดนบอลนัก

และนี้ก็คือรายชื่อพร้อมคะแนนที่ ขุนพลดาวทอง ได้กลับไป จากการแข่งขันแมตนี้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“เหมือนจะพัฒนา แต่ก็ย่ำอยู่ที่เดิม”

ผลงานทีมชาติลาว ใน AFF cup

ทีมชาติลาว จัดเป็นสมันน้อยแห่งอาเซียนอีกชาติหนึ่ง เพราะเมื่อไรที่มีการแข่งขัน พวกเขาก็แทบจะนอนมาสำหรับการตกรอบ แต่เมื่อเวลาผ่านไปวงการฟุตบอลลาวเติบโตขึ้น ดังจะเห็นได้จากการมีสโมสรชั้นนำ

มีสโมสรที่เน้นปั้นเยาวชน และมีนักเตะลาวออกไปค้าแข้งต่างแดน โดยมีจุดหมายอยู่ที่ไทย นั่นจึงทำให้ขุนพลล้านช้าง เริ่มจะมีความหวังว่าผลงานจะดีขึ้น ไปจนถึงการผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศสักครั้ง

      ผลงานของทีมชาติลาว ในยุคที่ยังมีการเพลย์ออฟเพื่อเข้ามาแข่งขันในรอบสุดท้าย พวกเขาถือเป็นขาจรที่นานๆจะมาสักหน ส่วนการคว้าชัยชนะในรอบแบ่งกลุ่ม เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายในปี 2004 ซึ่งในหนนั้นชนะ กัมพูชา 2-1 และหลังจากนั้นก็ทำได้เพียงผลเสมอ 2 นัด ในปี 2010 ซึ่งเกือบจะชนะไทย แต่ดันโดนตีเสมอ 2-2 และล่าสุดคือในหนนี้ ที่บุกเสมอพม่า 2-2

      จากผลงานในครั้งก่อนที่ยังคงแพ้รวด ทำให้สมาพันธ์บานเตะแห่งชาติลาวได้เปลี่ยนจากโค้ชชาวสิงคโปร์ มาใช้ของนอกอย่าง ไมเคิล ไวสส์ ที่ผ่านการทำงานกับทีมชาติมองโกเลียและฟิลิปปินส์ มาก่อน ส่วนการเลือกนักเตะ ล้วนมาจากที่เล่นอยู่ในประเทศเทศเกือบทั้งหมด

จะมีเพียง 3 ราย คือ มิสะดา สายใต้ฟ้า, สุขอาพอน วงเชียงคำ และ พิทัก กองธรรมาธิราช ที่อยู่ในลีกล่างของไทย นอกจากนี้ยังมี บิลลี่ เกตุแก้วพิมพอน กองหน้าลูกครึ่งที่เป็นตัวความหวังของทีม ซึ่งจากขุมกำลังที่กล่าวมานี้ มันก็น่าจะเพียงพอหากหวังจะเก็บ 3 แต้ม จากพม่า ที่เป็นทีมในระดับใกล้เคียงกัน

การแข่งขันนัดเปิดสนาม ทีมชาติลาวต้องเจอกับของแข็งที่สุดอย่างเวียดนาม แล้วในช่วงต้นเหมือนจะพอสู้ได้ แต่พอมาโดนยิงแบบง่ายๆ อาการถอดใจเริ่มปรากฏ จนสุดท้ายพ่ายไป 0-6 จากนั้นในเกมที่ 2 บุกไปเยือนมาเลเซีย แล้วก็เหมือนเดิม คือ โดนถล่ม 5-0 ถัดมาเกมที่ 3 เจอสิงคโปร์ แล้วถูกนำไปก่อน

ทำให้ตลอดครึ่งหลัง ทัพล้านช้างพยายามจะเอาประตูคืน แต่ก็เอาคืนไม่ได้ มิหนำซ้ำผู้รักษาประตูยังผิดพลาดง่ายๆในจังหวะสุดท้ายของเกม ทำให้แพ้ไป 0-2 ขณะที่เกมสุดท้ายบุกเยือน พม่า แล้วทำได้ดีกับการนำ 2 ครั้ง 2 คราว แต่มาโดนลูกยิงฟรีคลิกแบบสุดโหด ทำให้ได้แค่ผลเสมอ 2-2

      การมีนักเตะที่ออกไปเล่นต่างแดน ผสมกับตัวลูกครึ่ง ดูแล้วยังไม่สามารถที่จะยกระดับของทีมได้ รวมถึงโค้ชที่ไม่ได้มีวิสันทัศน์ที่กว้างไกล นั่นจึงทำให้ผลงานที่ออกมายังไม่ต่างไปจากเดิม

เพราะอย่างน้อยการเจอทีมใหญ่ ก็ควรแพ้ด้วยสกอร์ที่ไม่ขาด มิใช่ถูกถล่มเละแบบนี้ อีกการเจอทีมระดับใกล้เคียงกัน ก็จำเป็นต้องคว้าชัยชนะให้ได้ สุดท้ายจึงกล่าวได้ว่า ทีมชาติลาว มีภาพภายนอกดูดี แต่ผลลัพธ์ที่ออกมายังเหมือนเดิม

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ดาวทองลิ่วชิงสมัย 3”

ทีเด็ดลูกโยน ก่อนตบ อินโดนีเซีย นิ่มๆ 2-0

ศึกฟุตบอล AFF mitsubishi electric cup 2022 รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 คู่แรก ณ สนามมีดินห์ สเตเดี้ยม เวียดนาม ที่ตั้งแต่เริ่มทัวร์นาเมนต์นี้ ยังไม่แพ้และเสียประตูให้ใคร จะต้องพบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ที่นัดแรกเล่นดีกว่าแต่ยิงประตูไม่ได้ ทำให้เกมนี้ต้องชนะ หรือเสมอแบบมีประตู ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 3-5-2 ขณะที่ทีมเยือนเล่นระบบ 4-2-3-1  

      ทั้ง 2 ทีม ยังตั้งเกมไม่ติด แต่ ทีมชาติเวียดนามมาได้ประตูนำ 1-0 จากการวางบอลกลางสนามไปยันกรอบเขตโทษของทีมเยือน จากนั้น เตี๋ยน ลิญ เอาบอลลงได้นิ่มนวลและยิงสวนเข้าไป ซึ่งในทางกลับกันแนวรับทีมเยือนมีความผิดพลาดที่ปล่อยให้เล่นง่ายและไม่เข้าเบียดทำลายจังหวะ โดยการประตูนำเร็วแบบนี้มันก็เป็นผลให้ทัพดาวทองได้เปรียบและมีรูปเกมที่ดูดีกว่า เพราะแม้จะเสียบอล พวกเขาก็บีบและแย่งมาได้เร็ว กระทั่งทีมชาติอินโดนีเซีย ไม่ครองเกมและบุกใส่ได้

      ทีมชาติอินโดนีเซีย เสียประตูเร็ว แต่ก็ไม่สามารถตั้งเกมได้ เพราะแค่จะออกบอลให้พ้นจากแดนตัวเองก็ยังทำไม่ได้ ซึ่งกว่าจะเริ่มครองบอลได้ก็ต้องรอเกือบครึ่งชั่วโมง กระนั้นการขึ้นเกมบุกต้องขึ้นทางฝั่งขวาจากอัสนาวี่ข้างเดียว แต่บอลไปไม่ถึงแดนสุดท้าย

ครึ่งหลังเหมือนหนังฉายซ้ำ เพราะลูกเตะมุมได้กลายเป็นประตูนำ 2-0 ของ เวียดนาม แบบสุดปัญญาจะป้องกัน ทำให้การพลิกสถานการณ์กลับมาของทีมชาติอินโดนีเซียยากขึ้นทันที เพราะต้องยิง 2 ลูก เพื่อตามตีเสมอ กระนั้นการแก้เกมก็ได้เห็นถึงการขึ้นบอลที่มาบ่อยขึ้น แต่ปัญหาใหญ่ที่แก้ไม่ตก คือ ในแดนสุดท้ายไม่มีจังหวะจบสกอร์ กระทั่งเป็นแบบนี้จนจบเกม

      บทสรุปจากเกม ทีมชาติเวียดนาม ไม่ได้เน้นการเคาะบอลขึ้นไป แต่ใช้การวางบอลยาวเข้าไลน์กองหลัง ซึ่งต้องชมว่าวางได้แม่นยำและกองหน้าใช้โอกาสไม่เปลื้อง อีกทั้งการได้ประตูนำเร็วทำให้สถานการณ์ไม่กดดัน กระทั่งถอยไปรับมากขึ้นและรอสวนกลับ แล้วเกือบได้ประตูทิ้งห่างอีกด้วย ฉะนั้นเกมนี้ถือเป็นฟอร์มที่ดีของทัพดาวทอง

ขณะที่ทีมชาติอินโดนีเซีย เกมรับเสียสมาธิในช่วงต้นครึ่งแรกและครึ่งหลัง อีกทั้งปัญหาใหญ่ที่เห็น คือ การขึ้นเกมที่ไปไม่ถึงแดนสุดท้าย ซึ่งในครึ่งหลังมีการแก้มา แต่ก็ติดปัญหาว่าไม่สามารถสร้างโอกาสจบสกอร์ได้ สุดท้ายเมื่อยิงไม่ได้ก็ต้องตกรอบไป

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“บุกตลอด แค่ยิงไม่เข้า”

บุกข่ม แต่พ่ายมาเลเซีย ที่คมกว่า 1-0

ศึกฟุตบอล AFF mitsubishi electric cup 2022 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก คู่ที่สอง ณ สนามบูกิตจาริล ทีมชาติมาเลเซีย ที่เข้ารอบมาด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม B จะต้องพบกับ ทีมไทย ที่เข้ารอบมาด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม A สำหรับสถิติที่น่าสนใจก่อนเกม คือ ทัพช้างศึกไม่เคยบุกมาชนะทัพเสือเหลืองมาเป็นเวลากว่า 44 ปีแล้ว ส่วนผังการเล่นในวันนี้ ทั้ง 2 ทีมต่างมาในระบบเดียวกัน คือ 4-2-3-1

ในช่วงต้นเกม ทีมชาติไทยบุกใส่ด้วยการเปิดบอลจากด้านข้าง ขาดเพียงการจบสกอร์ในกรอบเขตโทษเท่านั้น กลับกัน ทีมชาติมาเลเซียที่แทบจะไม่บุก พวกเขามาได้ประตูนำ 1-0 จากการเปิดบอลตรงกลางสนามไปยังตัวที่ยืนอยู่ทางซ้ายของกรอบเขตโทษ

แล้วจัดการโหม่งต่อให้ ฮาคิม ที่วิ่งมาเดี่ยวๆได้ซัดแบบไม่เต็ม แต่ได้น้ำหนักและทิศทาง ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับทีมเยือนยืนป้องกันกันผิดพลาด รวมถึงผู้รักษาประตูที่ออกมาพลาดเช่นกัน

นับตั้งแต่เสียประตูในนาทีที่ 11 ทีมชาติไทยเป็นฝ่ายครองเกมไว้ข้างเดียว โดยการบิ้วเกมจากกลางสนามขึ้นมาถึงแดน 3 ได้เร็ว จากนั้นมีการเปิดบอลทางด้านข้าง การแทงบอลจากตรงกลาง และการวางบอลข้ามเข้าไป แต่จังหวะทั้งหมดเหล่านี้ไม่สามารถสร้างความอันตรายได้ เพราะการจบสกอร์มักออกนอกกรอบไปไกล ทั้งๆที่แนวรับเจ้าถิ่นไม่ได้ปิดพื้นที่มิดชิดแต่อย่างใด

ครึ่งหลัง ทีมชาติไทยยังเล่นในลักษณะเดิม คือ การบิ้วเกมจากแดนตัวเองขึ้นไปยังแดน 3 ซึ่งใช้เวลาไม่นานเพราะนักเตะเจ้าถิ่นไม่ได้ไล่บีบ กระนั้นทัพช้างศึกก็ยังติดปัญหาเดิมๆ คือ การเข้าทำและจบสกอร์ที่ไม่เฉียบคม อีกทั้งยิ่งเล่นก็ยิ่งดูเหมือนว่าตัวรุกในกรอบเขตโทษจะน้อยเกินไป ซึ่งกว่าจะมีการแก้เกม เวลาก็เข้าสู่ช่วงท้ายเกมแล้ว

ส่วนทางฝั่งทีมชาติมาเลเซีย การเล่นเกมรับไม่แน่นหนา เกมโต้กลับเก็บบอลแทบไม่ได้ แต่มีข้อดีที่เมื่อมีโอกาสจบสกอร์มักใช้โอกาสไม่เปลื้อง อาทิ จังหวะที่โหม่งบอลเข้าประตูไป แต่ถูกกรรมการริบคืน ทั้งๆที่เมื่อดูภาพช้าแล้วพวกเขาสมควรได้ประตู

      บทสรุปจากเกม การทำหน้าที่ของผู้ตัดสินมีความผิดพลาดและส่งผลเสียต่อทั้ง 2 ฝ่าย คือ ไม่ให้จุดโทษกับไทย และไม่ให้ประตูที่ 2 กับมาเลเซีย ส่วนภาพรวมของ ทีมไทย มี 2 จุดใหญ่ที่ต้องวิจารณ์ คือ การจบสกอร์ในแดนสุดท้ายที่ไม่เฉียบคมและมีตัวยืนในกรอบเขตโทษน้อยเกินไป กับแนวรับที่หละหลวม

รวมถึงผู้รักษาประตูที่การตัดสินใจออกมาตัดบอลผิดพลาดเกือบทุกจังหวะ ขณะที่ทีมชาติมาเลเซีย เกมรับไม่แน่นหนาและพร้อมโดนโจมตีตลอดเวลา แต่ที่รอดพ้นการเสียประตูก็เพราะคู่แข่งไม่คม ไม่ต่างจากเกมโต้กลับที่เก็บบอลได้น้อย แต่สิ่งที่ต่างออกไปและมีผลให้กลายเป็นผู้ชนะ คือ ฮารีเมามลายาเฉียบคมกว่า

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“อิเหนาเผด็จศึกไม่ลง”

มีโอกาสแต่ทำไม่ได้ สุดท้ายเจ๊า เวียดนาม 0-0 รอบรองนัดแรก

ศึกฟุตบอล AFF mitsubishi electric cup 2022 รอบรองชนะเลิศคู่แรก นัดที่ 1 ณ สนามเกลอรา บังการ์โน ทีมชาติอินโดนีเซีย ที่ผ่านเข้ารอบมาในฐานะรองแชมป์กลุ่ม A จะต้องเปิดบ้านพบ ทีมชาติเวียดนาม ที่เข้ารอบมาด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม B สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านวางระบบ 4-5-1 ขณะที่ทีมเยือนใช้ระบบ 3-5-2

  ช่วงต้นเกม ทีมชาติเวียดนามเคาะบอลในแดนตัวเอง เพื่อบิ้วเกมขึ้นไปในแดน 1-2 แต่เมื่อเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ผู้เล่นทีมชาติอินโดนีเซียจะเข้าถึงบอลเร็วและปิดพื้นที่กลางสนามไว้อย่างแน่นหนา นั่นจึงทำให้นักเตะเวียดนามต้องเร่งจ่ายบอล ออกบอลลำบาก ทำให้การพาบอลไปถึงแดนสุดท้ายเพื่อจบสกอร์แทบจะไม่มี แล้วเมื่อเกมผ่านไปราว 30 นาที ทัพดาวทองเริ่มมีภาพของการจ่ายบอลเสียมากขึ้น

พร้อมกันนั้นทางฝั่งเดอะการ์รูด้า ก็เริ่มจะโต้กลับและมีโอกาสที่หวาดเสียว ซึ่งในช่วง 10 นาทีสุดท้ายถือเป็นนาทีทองของเจ้าบ้าน เพราะการทำชิ่ง 1-2 หรือการวางบอลจากแดนกลาง มันทะลุถึงแดนสุดท้ายและมีโอกาสจบสกอร์เหน่งๆ แต่ลูกทีมของ ชิน แต ยัง ไม่สามารถฉวยโอกาสนี้ยิงประตูขึ้นนำได้

ครึ่งหลัง ปาร์ค ฮัง ซอ พยายามกำชับลูกทีมไม่ให้เสียบอลง่าย หรือหากเสียก็ต้องสกัดฟาวล์เพื่อไม่ให้เจ้าบ้านพาบอลเข้าไปในแดนอันตราย ซึ่งทำได้ดี แต่ในส่วนของเกมรุกยังไม่สามารถเจาะแนวรับเจ้าบ้านที่ยืนป้องกันอย่างหนาแน่นได้

ขณะที่ทีมชาติอินโดนีเซีย เกมรับยังเล่นตามแผนเดิมและทำได้ดีต่อเนื่อง แต่ในแผงเกมรุกเมื่อถูกตัดฟาวล์หนักๆ รวมถึงการถูกปิดพื้นที่ไม่ให้เจาะง่ายๆ พวกเขาก็แทบจะไม่มีโอกาสเหน่งๆเหมือนช่วงท้ายครึ่งแรกอีกเลย

บทสรุปจากเกม ทีมชาติอินโดนีเซีย มีเกมรับเป็นจุดเด่นเมื่อต้องเจอกับทีมในระดับใกล้เคียงหรือสูงกว่า แล้วตรงจุดนี้สามารถช่วยให้พวกเขาไม่เสียประตูก็จริง แต่ในแผงเกมรุกกลับไม่เฉียบคมเอาเสียเลย โดยเฉพาะในช่วงนาทีทองท้ายครึ่งแรก ซึ่งหากมีสัก 1 ประตู

ก็เชื่อว่ารูปเกมจะเปลี่ยนไปอย่างมหาศาล ขณะที่ทีมชาติเวียดนาม ทีแรกจะมาต่อบอลและเจาะเข้าไป แต่พอเจอแนวรับที่รักษาพื้นที่ได้เหนียวแน่นและเข้าหาบอลเร็วทุกจังหวะ พวกเขาก็เริ่มเสียบอลง่าย กระทั่งไม่สามารถต่อบอลเข้าไปในแดน 3-4 ของเจ้าถิ่นได้เลย นอกจากนี้ยังมีช่วงที่แนวรับสมาธิหลุดไป กระนั้นยังโชคดีที่คู่แข่งไม่เฉียบคมเอง

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

รีวิว รอบรองชนะเลิศนัก

AFF mitsubishi electric cup 2022 มาเลเซีย พบ ไทย

ศึกฟุตบอล AFF mitsubishi electric cup 2022 รอบรองชนะเลิศนัดแรก คู่ที่ 2 ณ สนามบูกิตจาริล จะลงเตะกันในวันเสาร์ที่ 7 มกราคม เวลา 19.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) โดย ทีมชาติมาเลเซีย ที่เข้ารอบมาในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่ม B จะต้องพบกับคู่หูคนคุ้นเคยอย่าง ทีมชาติไทย

ที่เข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่ม A ซึ่งผลงานในรอบแรกจะเป็นอย่างไร ความพร้อมของคู่จะมีมากน้อยขนาดไหน และใครมีโอกาสเป็นผู้ชนะ นับจากนี้เราจะไปรีวิวกัน

ทีมชาติมาเลเซีย

      ก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่มขึ้น นักเตะ 11 ราย จากยะโฮร์ ดารูทักซิม ถอนตัวทั้งหมด นั่นจึงทำให้ คิม ปัง กอน ต้องไปเลือกนักเตะในลำดับรองลงมา ฉะนั้นทีมชุดนี้จึงเสมือนทีมชุด B กลายๆ แล้วเมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น ฮารีเมามลายาต้องบุกไปเยือน พม่า แล้วเฉือนชนะ 0-1 แบบมีเสียว จากนั้นกลับมาเล่นในบ้านกับ ลาว พร้อมกับถล่มไป 5-0 ส่วนเกมที่ 3 ที่บุกเยือนเวียดนาม

เชื่อว่าพวกเขาจะจดจำไปอีกนาน เพราะได้เปรียบตัวผู้เล่น แต่ไม่สามารถตีเสมอได้ มิหนำซ้ำยังเสียตัวผู้เล่นและจุดโทษ กระทั่งพ่ายไป 3-0 นั่นจึงทำให้เกมในบ้านนัดสุดท้ายกับสิงคโปร์ ต้องชนะสถานเดียว แล้วสุดท้ายพวกเขาถล่มไปราบคาบ 4-1  

ทีมชาติไทย

      มาโน่ สามารถใช้ตัวผู้เล่นที่อยู่ในไทยลีกเกือบครบ จะขาดเพียงบางรายที่สโมสรส่งไปฝึกซ้อมต่างประเทศ รวมถึงตัวที่เล่นอยู่ลีกต่างประเทศที่ไม่ได้เรียกมา อย่างไรเสียนั่นไม่ใช่ปัญหา

เพราะนัดแรกบุกตบบรูไน 0-5 นัดที่ 2 เปิดบ้านถล่มฟิลิปปินส์ 4-0 แต่ในนัดที่ 3 เกือบไม่รอดและต้องตามตีเสมออินโดนีเซีย 1-1 ขณะที่นัดสุดท้ายปิด   จ็อบด้วยชัยชนะเหนือกัมพูชา 3-1  

สถิติและรีวิวก่อนเกม

      ทีมชาติไทย ไม่สามารถเอาชนะ ทีมชาติมาเลเซีย ใน 6 เกมหลังสุด โดยชัยชนะครั้งล่าสุดเหนือขุนพลฮารีเมามลายา ต้องย้อนไปในศึก AFF ปี 2014 รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเอาชนะที่ราชมังคลากีฬาสถานด้วยสกอร์ 2-0 ส่วนการบุกไปเยือนที่บ้านของมาเลเซีย ทัพช้างศึกไม่สามารถเอาชนะได้เลยในระยะเวลา 44 ปีที่ผ่านมา ฉะนั้นนี้จึงเปรียบเป็นของแสลงของแชมป์เก่า 6 สมัยอย่างแท้จริง

      เกมที่จะเกิดขึ้นที่บูกิตจาริล ทีมชาติมาเลเซีย จะจัดเต็มแบบใส่ไข่พิเศษอย่างแน่นอน แม้ตัวผู้เล่นจะไม่ฟูลทีมอย่างที่กล่าวไปข้างต้น ส่วนทีมชาติไทยที่มีอาการล้าสะสม อาจจะต้องดูหน้างานอีกทีว่าสภาพร่างกายพร้อมขนาดไหน โดยหากมีอาการล้าแล้วเจ้าถิ่นเล่นแบบลืมตาย ก็เชื่อว่าขุนพลฮารีเมามลายาจะไม่แพ้ เหลือแค่จะเสมอ หรือคว้าชัยเท่านั้น

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ช้างศึกเข้าป้ายแชมป์กลุ่ม”

” ทีมชาติไทย ออกแรงเหนื่อย ก่อนบด กัมพูชา ของฮอนดะ 3-1

ศึกฟุตบอล AFF mitsubishi electric cup 2022 นัดที่ 4 สาย A ณ สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ทีมชาติไทยในฐานะจ่าฝูง เปิดบ้านพบ ทีมชาติกัมพูชาที่รั้งอันดับ 3 โดยก่อนเกมนี้ ทัพช้างศึก มีเงื่อนไข คือ ห้ามแพ้ มิเช่นนั้นจะตกรอบ ต่างจากทัพอังกอร์วอริเออร์ที่ต้องชนะถึงจะแซงเข้ารอบ ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-4-2 ขณะที่ทีมเยือนกางระบบ 3-4-3 มารับมือ

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทีมชาติไทยเคาะบอลเพื่อบุกใส่และพยายามเจาะบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ อย่างไรเสียบอลที่จ่ายเข้าพื้นที่ดังกล่าว แนวรับทีมชาติกัมพูชาสามารถดักได้เกือบทั้งหมด แต่เมื่อจะเปลี่ยนจากรับให้กลายเป็นรุก พวกเขามักจะเสียบอลเมื่อถึงกลางสนาม นั่นจึงทำให้พวกเขาต้องถอยกลับมาเล่นเกมรับอยู่ตลอด

เมื่อเกมผ่าน 30 นาที การบุกของทีมชาติไทย เริ่มจะตื้อตันและจ่ายเสียในแดน 3-4 ง่ายขึ้น อีกทั้งยังถูกทีมชาติกัมพูชา โต้กลับแบบสุดทางและน่าได้ประตูนำก่อน แต่เพราะไม่มีความเฉียบคมจึงไม่สามารถฉวยโอกาสทองได้ กระทั่งนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก แนวรับทีมเยือนสกัดพรวดเล็กน้อยจนเสียจุดโทษ ก่อนที่ ธีรศิลป์ จะยิงให้ทัพช้างศึกขึ้นนำ 1-0

ครึ่งหลัง ทีมชาติไทยแก้เกมด้วยการเปลี่ยนกองกลางเพื่อเพิ่มตัวรุกในแดน 3-4 แล้วเพียง 5 นาที ก็ได้ผลและมาได้ประตูทิ้งห่าง 2-0 จากการวางบอลไปหน้าไลน์แล้ว สุมัญญา เบียดได้เหลี่ยมก่อนยิงเร็วเข้าไป หลังจากนั้นยังคงเป็นฝ่ายไทยที่ครองเกมและบอลได้แน่นอนขึ้น

ทำให้ทีมชาติกัมพูชาโต้กลับไม่ได้เลย อย่างไรเสียการเร่งจังหวะในพื้นที่สุดท้ายของเจ้าถิ่น มันกลายเป็นการทิ้งขว้างโอกาส กลับกันพอเป็นทีมเยือนได้บุกขึ้นมา พวกเขามาได้ประตูตีตื้น 2-1 ในนาทีที่ 68 อย่างไรก็ดี ทัพช้างศึก ไม่เสียสมาธิและมาได้ประตู 3-1 ในช่วงท้ายเกมจากการฉกบอลหน้าบ้านของทัพอังกอร์วอริเออร์ แล้ว ธีรศิลป์ตะบัดไปเสียบที่มุมเสาไกลจาก

บทสรุปจากเกม ทีมชาติไทยจ่ายบอลเสียและเล่นผิดพลาดเยอะในครึ่งแรก ทำให้เกมรุกไม่มีโอกาสยิงและต้องวิ่งหน้าตั้งเพื่อถอยมาเล่นเกมรับ ซึ่งมันเสียพลังงานไปค่อนข้างเยอะ กระนั้นยังดีที่ได้ประตูนำก่อนจบครึ่งแรกและการแก้เกมด้วยการเปลี่ยนเอากองกลางรุกลงมา

เพื่อเพิ่มตัวรุกในแดน 3-4 ถือเป็นการแก้เกมที่ถูกต้อง กระนั้นในรายละเอียดของเกมก็ยังคงต้องปรับปรุง เพราะมันมีความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆให้เห็นอยู่ ส่วนทีมชาติกัมพูชา เกมรับค่อนข้างมีระเบียบวินัยและต้านทานไว้ได้ดี

แต่น่าเสียดายที่การเข้าพรวดนิดเดียวมันเปลี่ยนโฉมรูปเกม ขณะเดียวกันเกมรุกมีโอกาสจบสกอร์ แต่มันน่าเสียดายที่ไม่คมเอง มิเช่นนั้นอาจมีเหตุการณ์พลิกล็อคไปแล้ว

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover