Categories
ข่าวกีฬา

“เท่ากันทั้งผู้เล่นและสกอร์”

กำลังจะได้เฮ แต่โดน บาโบ้ ยิงตะบัดแบ่งแต้มให้ เทโร 1-1   

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 5 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามดรากอนโซล่าพาร์ค ราชบุรี เอฟซี ที่ผลงานช่วงหลังเริ่มหลุดเสมอ จนถูกทีมนำทำแต้มทิ้งห่าง จะต้องพบกับ โปลิศ เทโร เอฟซี ที่การคว้าชัยชนะอยู่เรื่อยๆ มันก็ช่วยให้พวกเขาลืมการหนีตายไปได้เลย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-3-3 ส่วนทีมเยือนเป็น 4-4-2  

      โปลิศ เทโร ถือว่าสร้างความลำบากให้เจ้าบ้านได้ดี โดยเฉพาะเกมเพรสซิ่งในพื้นที่กลางสนามและในแดน 1-2 กระนั้นในนาทีที่ 22 พวกเขาต้องมาเหลือผู้เล่น 10 จากการยกเท้าเตะสูงจนไปโดนใบหน้าคู่แข่ง แล้วผู้ตัดสินไปดู VAR และมาให้ใบแดง ซึ่งใสจังหวะนี้ดูไม่เจตนาและไม่น่าถือแดง แล้วหลังจากนั้น มังกรโล่เงินพยายามเล่นเกมรับให้รัดกุม เพราะตัวน้อยกว่า ส่วนทางฝั่ง ราชบุรี การขึ้นบอลจะต้องแกะเพรสซิ่งของคู่แข่งตั้งแต่กลางสนาม อย่างไรเสียพอทีมเยือนเหลือ 10 คน มันกลายเป็นพวกเขาเจาะพื้นที่แดน 3-4 ไม่ได้เลย

ครึ่งหลัง ราชบุรี มาพลาดเหลือผู้เล่น 10 คน จากการสไลค์เปิดปุ่ม ซึ่งในจังหวะนี้ตัดสินถูกต้อง แล้วจากนั้นกลายเป็นว่าทั้ง 2 ทีม ต่างระวังตัวจนแทบไม่มีจังหวะหวาดเสียว กระทั่งเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายของเกม ราชบุรี พยายามจะโหม แล้วจังหวะบอลเป็นใจมาลงที่หัวของ สิทธิโชค ทำให้ขึ้นนำ 1-0 นั่นจึงทำให้ เทโร ก็อยู่เฉยไม่ได้และต้องแลกเหมือนกัน โดยการวางบอลไดเรคจากหลังไปให้กองหน้า สุดท้ายมาสำเร็จในนาทีที่ 90+4 จากการยิงตรงกรอบเขตโทษของ บาโบ้ ทั้งๆที่การจับบอลเหมือจะไม่ดีแล้ว แต่การเอาเท้ากระแทรกบอลให้พุ่งเสียบ 3 เหลี่ยม มันก็สุดปัญญาที่จะเซฟได้จริงๆ

      บทสรุปจากเกม ราชบุรี เอฟซี ถือว่าเสียหายที่เก็บ 3 แต้ม ไม่ได้ อีกทั้งโมเมนตันก็มีความได้เปรียบแล้วทุกอย่าง แต่ดันเล่นแบบเหี่ยวเฉากันเอง จนท้ายเกมเหมือนจะโชคดีที่ยิงนำได้ แต่การเสียบอลและโดนโต้กลับ มันก็มีสัญญาณเตือนมาก่อนแล้วพวกเขาไม่ยอมถอยมาเล่นรัดกุม  สุดท้ายวันนี้ต้องจบด้วยการแบ่งแต้ม

ส่วนทางฝั่ง โปลิศ เทโร เอฟซี พกวเขาพยายามเล่นเพื่อให้เจ้าบ้านตั้งเกมไม่ได้และลำบากเมื่อต้องครองบอล กระนั้นมันก็มีปัจจัยอื่นที่ให้พวกเขาเกือบมือเปล่าออกไป เช่น การเหลือผู้เล่น 10 คน ราว 30 นาที หรือการโดนยิงนำแล้วมีเวลาให้แก้ตัวแค่ 10 นาที แต่สุดท้ายก็ต้องชื่นชมที่พยายามบุกแลก จนยิงได้และคว้า 1 แต้ม อันล้ำค่าออกมา

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ไทยลีกต้อเหลือกี่ทีม

ทีมชาติถึงจะมีเวลาฝึกซ้อม ?

ฟุตบอล ไทยลีก มีการปรับเพิ่มและลดทีมเข้าแข่งขันในลีกสูงสุดอยู่หลายหน ซึ่งในยุคที่วรวีร์ เป็นนายกสมาคม ได้มีการเพิ่มทีมจาก 16 เป็น 18 ทีม แต่พอเปลี่ยนยุคเป็นนายกสมยศ ก็ได้เปลี่ยนกลับไปเป็น 16 ทีมเหมือนเดิม ซึ่งสุดท้ายแล้วผลลัพธ์ก็ดูเหมือนจะไม่ดีขึ้น แถมจะมีปัญหามากกว่าเดิมเสียอีก

ทีมชาติผลงานไม่ดี เพราะไม่ได้ฝึกซ้อม โปรแกรมบอลลีกเยอะเกินไป

      ในช่วงที่สมาคมฟุตบอล ไทยลีค มีการเปลี่ยนแปลงมาเป็นนายกสมยศ ผลงานทีมชาติไทย ไม่ได้ย่ำแย่ แต่แนวคิดของผู้บริหารมองว่าการที่ลีกสูงสุดอย่างไทยลีก มีทีมเข้าร่วม 18 ทีม มันจึงมีเกมแข่งขัน 34 นัด ไหนจะฟุตบอลถ้วยอีก 2 รายการ นั่นจึงทำให้โปรแกรมมันอัดแน่นจนเกินไป กลับกันถ้าลดเหลือ 16 ทีม โปรแกรมเตะจะหายไป 4 นัด เหลือ 30 นัด เท่านั้น อีกทั้งยังให้เหตุผลว่าจะช่วยให้การแข่งเข้มข้นและมีคุณภาพ และทีมชาติไทยมีเวลาสำหรับการฝึกซ้อม  

เหลือ 16 ทีม จัดการดีชั่วครู่ ก่อนจะกลายเป็นดีแตก ?

      การปรับจำนวนทีมให้เหลือ 16 ทีม ดูเหมือนจะไปได้สวย เพราะการแข่งขันในลีกเข้มข้น ส่วนทีมชาติไทย ก็มีเวลาเก็บตัวฝึกซ้อมตามรอบปฏิทินฟีฟ่าเดย์ แต่เมื่อโควิด-19 เข้ามา การทำงานของสมาคมฟุตบอลดูจะเหี่ยวเฉาตามไปด้วย เพราะระบบการจัดการดูจะย่ำแย่ จนทำให้ผลงานของทีมชาติไทย ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง แถมไม่ใช่แค่ชุดใหญ่เท่านั้น เพราะมันลามตั้งแต่ชุดใหญ่ไปยันชุดเล็ก ที่มักเจอกัน 1-2 วัน หรือเจอกันที่สนามบินแล้วไปแข่งขันเลย มิหนำซ้ำมันยังเกิดกรณีที่มีการหยุดลีกกะทันหันเพื่อไปล่าเหรียญทองซีเกมส์ แล้วดันล้มเหลวได้แค่เหรียญเงินกลับมา

ปัญหาอยู่ที่คนบริหาร ไม่ใช่จำนวนทีมในลีก ?

     สุดท้ายแล้วปัญหาที่เกิดขึ้น มันก็ชัดเจนว่าจะมีทีมในลีก 16 หรือ 18 ทีม แต่สุดท้ายทุกอย่างจะลงตัวหรือไม่ มันก็อยู่ที่คนบริหาร เพราะฟีฟ่าเองก็ได้ช่วยตีกรอบและจัดสรรคความลงตัวของฟุตบอลลีกกับทีมชาติไว้ให้แล้ว ทำให้หน้าที่ที่สมาคมฟุตบอลต้องทำต่อ  คือ วางแผนและปฏิทินล่วงหน้า ว่าในรอบฤดูกาลนี้จะมีแข่งขันอะไรในช่วงไหน ไม่ใช่มารีบเร่งเอาเมื่อใกล้ทัวร์นาเมนต์การแข่งขัน หรือแก้ไขปัญหาด้วยการจะลดทีมลงไปอีก แล้วในขณะเดียวกัน การจะรวมตัวเพื่อฝึกซ้อมนานแรมเดือนแบบในยุคโค้ชซิโก้ คงจะไม่สามารถทำได้อีก มิเช่นนั้นระบบของฟุตบอลอาชีพจะเละและไม่เป็นไปตามกรอบที่ฟีฟ่าวางไว้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“สายฟ้าหวิดคาบ้าน”

กำลังจะคาบ้าน ก่อนได้ ศุภชัย ยิงเซฟแต้มจาก บีจี ปทุม 2-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 4 ของฤดูกาล ณ สนามช้างอารีน่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ออกสตาร์ทแบบไม่มีติดขัด จะต้องพบกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่แค่เปิดหัวก็พ่ายแพ้เสียแล้ว อีกทั้งการพบกับของทั้ง 2 ทีม ก็พึ่งเจอกันไปในเกมไทยแลนด์แชมป์เปี้ยนส์ คัพ แล้วเป็นทางกระต่ายแก้ว คว้าชัยชนะได้ 2-3 ส่วนเกมนี้ทั้งทั้งคู่ต่างมาในระบบเดียวกัน คือ 4-2-3-1  

      การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น บุรีรัมย์ พยายามโหมบุกใส่ทีมเยือน แต่ด้วยสภาพสนามที่มีน้ำท่วมขัง ทำให้ต้องวางบอลจากหลังไปให้แนวรุกเก็บและหาช่องยิง แต่มันไม่อันตรายเพราะการจบสกอร์อยู่นอกเขตโทษและมีแนวรับทีมเยือนอยู่ขวางอยู่เต็มลำ กระนั้นมันก็มีจังหวะที่ บุรีรัมย์ น่าได้แบบจริงจัง แต่ดันโดนสกัดไว้ได้แบบคาเส้น

ซึ่งในเมื่อบุกแล้วไม่ได้ บีจี ปทุม ได้บุกครั้งแรก กลับได้ประตูนำจากการเปิดทางฝั่งขวาตามจังหวะของเกม แล้วเหลี่ยมบอลพุ่งหาหน้าแข้งของ นฤบดินทร์ และเหลี่ยมดันโชคร้ายเข้าประตูให้ บีจี ปทุม นำก่อน 0-1 ในนาทีที่ 25 ถัดมาเพียง 3 นาที บีจี ปทุม ขึงบุกและเปิดบอลทางฝั่งขวาให้ อิคซาน โหม่งเต็มศีรษะหนีเป็น 0-2 จากนั้นกลายเป็นปราสาทสายฟ้า ที่เกมบุกช็อคไปเสียเสียดื้อๆจนจบครึ่งแรก

ครึ่งหลัง บุรีรัมย์ กลับมาโหมบุกใหม่อีกครั้ง กระทั่งมาได้ประตูตีตื้น 1-2 จากการที่ ธีรศิลป์ ไปโอบด้านหลัง ซึ่งดูเบาไปสักหน่อยที่จะให้จุดโทษ แต่กระนั้นกลับเป็น บุรีรัมย์ เสียเอง ที่เกมรุกดูเหี่ยวเฉาลงไปอีกครั้ง จนเข้าสู่ช่วงทดเวลา ก็มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากการเตะสกัดไม่ขาดของแนวรับ บีจี ปทุม เอง ทำให้ ศุภชัย ได้ยิงแบบเต็มช่วยเซฟแต้มไว้

      บทสรุปจากเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เล่นได้ดีในช่วง 15 นาทีแรกของเกม แต่พอไม่ได้แล้วมาเสีย 2 ประตู รูปเกมที่เคยทำได้ดีก็หายไป จนในช่วงต้นครึ่งหลัง เมื่อปรับจูนมาใหม่ก็เล่นได้ดีอีกครั้ง แต่พอเล่นๆไปอาการเดิมออก กระนั้นยังดีที่วันนี้สามารถแบ่งแต้มได้ ส่วนทางฝั่ง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เกมรับถือว่าช่วยเซฟทีมไม่ให้โดนนำเร็ว ขณะที่เกมรุกดูไม่เห็นถึงรูปแบบการเข้าทำที่หลากหลาย แต่ดันโชคดีที่ได้ประตูจากความผิดพลาดของคู่แข่งและโยนแม่นอย่างละ 1 ลูก นั่นจึงทำให้ครึ่งหลังเล่นสบาย แต่อาจจะผ่อนมากไปหน่อย แถมมีความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ ทำให้จาก 3 เหลือแค่ 1 แต้ม  

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“จงอางปลดล็อค 3 แต้ม”

ขอนแก่น นำเร็ว ก่อนปิดเกมเฉือน ลำปาง 1-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 4 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามกีฬากลางจังหวัดขอนแก่น ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่ออกสตาร์ทมายังไม่ชนะใครเลย แถมเก็บได้แค่คะแนนเดียว จะต้องพบกับ ลำปาง เอฟซี เหมือนจะเป็นการออกสตาร์ทในฝัน แต่นัดล่าสุดเหมือนโดนของจริง เพราะถูกถล่มคาบ้านถึง 0-5 ส่วนผังการเล่นในวันนี้ของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-4-3 ขณะที่ทีมเยือนกางผัง 4-2-3-1 มารับมือ

ช่วงต้นเกมยังไม่มีใครของเกมได้เหนือกว่าชัดเจน แล้วเพียงแค่ 9 นาทีเท่านั้น ขอนแก่น มาขึ้นนำ 1-0 จากเปิดบอลไปให้ ถวิล โหม่งตัดผู้รักษาประตูเข้าประตูไป ซึ่งจังหวะนี้เป็นการโหม่งที่ยอดเยี่ยม แต่แนวรับทีมเยือนก็ผิดพลาด 2 จุด คือ เปิดพื้นที่ให้ได้เปิดบอลง่ายๆ กับ คู่กองหลังที่ไม่มีใครเข้าประกบหรือเบียดเลยสักคน พร้อมกับปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้รักษาประตูอย่างเดียว ส่วนทางฝั่ง ลำปาง ก่อนเสียบอลประตูพวกเขาต่อบอลเข้าไปถึงแดน 3 แต่ยังสร้างจังหวะเข้าทำไม่ได้ ขณะที่หลังเสียประตูไปแล้ว พวกเขาก็ยังต่อบอลเข้าไปไม่ถึงแดนสุดท้าย ทำให้ต้องเริ่มสาดบอลแทน ซึ่งมีโอกาสลุ้นทำสกอร์มากกว่า

ครึ่งหลัง ลำปาง พยายามจะเดินหน้า ซึ่งทำได้ดีกับการแกะเพรสซิ่งกลางสนาม แต่เมื่อพอบอลไปถึงแดน 3-4 จังหวะไม่ลงล็อค ทำให้โอกาสจบสกอร์มีน้อย จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไปเกมบุกก็ลดพลังลงไป ส่วนทางฝั่ง ขอนแก่น เกมรุกยังไม่ค่อยมีมิติการเข้าทำ นอกเสียจากสาดยาวหรือส่งให้ เมโล่ ถึงจะพอมีลุ้น กระทั่งเข้าสู่ท้ายเกม จงอางผยองเลือกที่จะรับแน่นแล้วได้ผลที่ต้องการ คือ ไม่เสียประตูและคว้าชัยชนะได้สำเร็จ

      บทสรุปจากเกม ขอนแก่น ยูไนเต็ด  ไม่เคยมีรูปแบบการเข้าทำประตูที่ซับซ้อนอะไร อีกทั้งยังพยายามจะเล่นเกมรุกแบบเมื่อฤดูกาลก่อน แต่พอแนวรุกไม่อันตรายและเล่นได้ไม่ดีเหมือนเดิม มันก็มีผลให้จำนวนการยิงประตูลดลงไปด้วย ซึ่งในวันนี้ดันยิงได้และเกมรับก็ช่วยกันได้ดี ทำให้คว้าขัยชนะนัดแรกได้สำเร็จ

กระนั้นเมื่อดูจากทรงแล้ว จงอางผยองก็ยังเหนื่อยสำหรับการหนีตาย ส่วนทางฝั่ง ลำปาง เอฟซี แผนแตกตั้งแต่ 10 นาทีแรก เพราะเสียประตูก่อน ทำให้ต้องหาทางเล่นเกมบุกเพื่อทวงประตู กระนั้นมันก็เริ่มเห็นว่าศักยภาพของพวกเขายังห่างจากคู่แข่ง ดังจะเห็นได้จากแนวรับที่เชื่องช้า เกมรุกที่ยังไม่มีรูปแบบการเข้าทำเป็นทีมเวิรค์ ทำให้เมื่อโดนยิงนำก่อน พวกเขาก็แทบจะแพ้ไปแล้วครึ่งตัว

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

รีวิวก่อนเกมรีโว่ไทยลีก

นัดที่ 13 โปรแกรมวันเสาร์ – อาทิตย์

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 13 ของ แมตช์การแข่งขัน ฤดูกาลนี้ จะมารีวิวก่อนเกมในอีก 4 คู่ที่เหลือในวันเสาร์ และอาทิตย์ อย่างละ 2 คู่ โดยเมื่อกวาดสายตาแล้วมักเป็นทีมเล็กปะทะทีมใหญ่ ฉะนั้นนับจากนี้เราจะไปรีวิวกันว่าจะมีคู่ไหนบ้างที่มีสิทธิ์พลิกล็อค และคู่ไหนบ้างที่น่าจะกินหมูแบบสบายๆ

หนองบัว พิชญ เอฟซี พบกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด (วันเสาร์, 18.30 น.)

      บอลเปลี่ยนโค้ชของ หนองบัว นำพาให้พวกเขาได้ 3 แต้ม แต่กระนั้นก็ต้องไม่ลืมว่าพวกโดนไปก่อนและมาได้ 3 ประตู หลังจากคู่แข่งเหลือ 10 คน ส่วน เมืองทอง เกมล่าสุดอุตส่าห์ออกนำไปก่อน แต่ดันมาโดนขอนแก่นยิงตีเสมอในนาทีบาป อย่างไรเสียการพบกันของทั้ง 2 ทีม ก็ยังเทน้ำหนักไปที่กิเลนผยอง ว่าจะไม่แพ้ในเกมนี้  

ลำพูน วอริเออร์ พบกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด (วันเสาร์, 19.00 น.)

      หลังจาก ลำพูน บุกไปคว้า 3 แต้มมาได้ พวกเขาก็ยังไม่สามารถเก็บ 3 แต้มได้อีก ส่วนทางฝั่ง ขอนแก่น การเปลี่ยนโค้ชดูจะช่วยให้ทีมดูมีคึกคักขึ้นมาบ้าง ฉะนั้นการพบกันของทั้ง 2 ทีม จะต้องใส่กันยับ เพราะเป็นทีมหนีตายด้วยกัน การแข่งขัน ทำให้ผลที่น่าจะออกมา คือ เสมอ แต่ถ้าถามหาผู้ชนะ ขอยกให้ทางฝั่งจงอางผยอง

ชลบุรี เอฟซี พบกับ ลำปาง เอฟซี (วันอาทิตย์, 18.00 น.)

      แมตช์การแข่งขัน ชลบุรี ดูจะเสียรางวัดหลังจากเจอกระแสข่าวด้านลบนอกสนาม เพราะผลการแข่งขันมีแต่เสมอกับแพ้ ส่วนทางฝั่ง ลำปาง พยายามอย่างเต็มที่ในเกมล่าสุด แต่สุดท้ายก็ต้องยอมในความแข็งแกร่งของ บุรีรัมย์ สำหรับเกมที่ทั้ง 2 ทีม จะพบกัน ฉลามชลเหนือกว่าและต้องเก็บ 3 แต้มให้ได้ มิเช่นนั้นสถานการณ์จะดำดิ่งไปมากกว่านี้   

โปลิศ เทโร เอฟซี พบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด (วันอาทิตย์, 18.00 น.)

      เทโร เหมือนจะมีผลงานที่ดีต่อเนื่องจากการคว้าชัย 3 เกมรวด แต่ในนัดที่ผ่านมาได้สะดุดพ่ายแก่ สุโขทัย กระนั้นหากดูจากสภาพตัวผู้เล่น การทำผลงานได้ขนาดนี้ถือว่าสอบผ่านแล้ว ส่วนทาฝั่ง ทรู แบงค็อก พวกเขายังรักษาผลงานที่ดีได้ต่อเนื่อง ซึ่งต่างจากปีก่อนๆที่มักหลุดวงโคจรในช่วงนี้ ทำให้อันดับในตารางขึ้นมาอยู่ที่ 2 พร้อมกับมีคะแนนตามจ่าฝูง 4 แต้ม ขณะที่เกมนัดนี้ บียู เหนือกว่าชัดเจน ฉะนั้นเกมนัดนี้ต้องบุกไปคว้า 3 แต้ม ให้ได้ เพื่อไล่จี้จ่าฝูงต่อไป   

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

รีวิวก่อนเกมรีโว่ไทยลีก

นัดที่ 13 โปรแกรมวันพุธ – ศุกร์ – เสาร์

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก แมตช์การแข่งขัน นัดที่ 13 เดินทางเข้าสู่โค้งสุดท้ายของเลกแรกแล้ว โดยโปรแกรมในสัปดาห์นี้จะต่างออกไปจากที่ผ่านๆมา เพราะ 2 คู่แรกจะเริ่มเตะในวันพุธ เพื่อไปเตะกับทีมจากเจลีกในวันสุดสัปดาห์ จากนั้นวันศุกร์และเสาร์จะมีอีกอย่างละ 1 คู่ ซึ่งจากโปรแกรมที่ว่ามานี้ ใครจะมีโอกาสคว้า 3 แต้มบ้าง นับจากนี้เราจะไปรีวิวกัน

แมตช์ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบกับ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด (วันพุธ, 18.00 น.)

      บุรีรัมย์ บุกไปคว้า 3 แต้ม มาจากลำปาง นั่นจึงทำให้พวกเขาแทบจะการันตีแชมป์เลกแรก ส่วนทางฝั่ง เชียงราย ถือว่ามีโชคและดวงที่เสมอกับชลบุรี ได้สำเร็จ สำหรับการพบกันของทั้ง 2 ทีม ที่สนามช้างอารีน่า กว่างโซ้งมหาภัยไม่เคยบุกมาชนะได้เลย ฉะนั้นจึงขอฟันธงว่าปราสาทสายฟ้า จะไม่แพ้อย่างแน่นอน  

แมตช์ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พบกับ สุโขทัย เอฟซี (วันพุธ, 19.00 น.)

      อีกคู่ของวันพุธ บีจี ปทุม จะกลับมาเฝ้ารังอีกทั้ง หลังจากบุกไปถล่มโคราชมาแบบขาดลอย พร้อมกับเป็น แมตช์การแข่งขัน แรกของ แมตต์ สมิธ ส่วนทางฝั่ง สุโขทัย พึ่งทำการดับซ่าเทโร ด้วยการเฉือนในถิ่นตัวเอง สำหรับการพบกับของทั้ง 2 ทีม สถิติในบ้านของ บีจี ปทุม มักเก็บ 3 แต้มได้อยู่เรื่อยๆ ฉะนั้นเกมนี้มีโอกาสสูงที่กระต่ายแก้วจะเอาชนะค้างคาวไฟได้แบบไม่ยาก   

แมตช์ พีที ประจวบ เอฟซี พบกับ ราชบุรี เอฟซี (วันศุกร์, 19.00 น.)

 2 เกมล่าสุด ประจวบ ต้องเล่น 10 ตัว แล้วได้ผลการแข่งขันที่ไม่ดี โดยเฉพาะนัดล่าสุดที่นำก่อน แต่พอเหลือ 10 คน ก็โดนยิงแซงเสียดื้อๆ ส่วนทางฝั่ง ราชบุรี ผลเสมอ 5 นัด จาก 12 เกมของพวกเขา ทำให้อันดับในตารางเริ่มจะหยุดนิ่งที่อันดับ 4 ฉะนั้นเกมที่จะบุกไปเยือนถิ่นสามอ่าว ราชันมังกรจะใส่เต็ม แต่สุดท้ายก็ต้องเผื่อใจว่าอาจจะได้แค่เสมอเป็นอย่างน้อย

การท่าเรือ เอฟซี พบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี (วันเสาร์, 18.00 น.)

      แมตช์การแข่งขัน 5 นัดหลังของ การท่าเรือ ไม่แพ้ใครก็จริง แต่มันเป็นการหลุดเสมอแบบน่าเจ็บใจถึง 3 นัด นั่นจึงทำให้อันดับอยู่ในช่วงกลางตาราง ส่วนทางฝั่ง นครราชสีมา ตอนนี้ผลงานเริ่มจะดูดรอปลงไป เพราะมีแค่แพ้สลับเสมอใน 5 นัดที่ผ่านมา อีกทั้งเกมนี้ต้องบุกไปเยือน ทำให้มองว่าสิงห์เจ้าท่าจะคว้าชัยได้ ถ้าไม่ทำอะไรพลาดไปเอง

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

รีวิวก่อนเกมรีโว่ไทยลีก

แมตช์การแข่งวันอาทิตย์ นัดที่ 12

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 12 ในโปรแกรม แมตช์การแข่งขัน วันอาทิตย์ จะเปิดหัวด้วยการใช้โค้ชใหม่ ปะทะกับทีมฟอร์มแรงที่ยิงไป 10 จาก 2 เกมล่าสุด จากนั้นจะเป็นเกมของทีมหนีตายที่ต่างต้องการแต้ม และปิดท้ายด้วยเกมบิ๊กแมตช์ ซึ่งผลที่คาดจะเป็นอย่างไร นับจากนี้เราจะไปวิเคราะห์กัน 

แมตช์การแข่งขัน ขอนแก่น ยูไนเต็ด พบกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด (17.30 น.)

      การยันเสมอ บุรีรัมย์ ดูเหมือนจะเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ของ ขอนแก่น แต่แล้วผลงานก็ยังดำดิ่งจนสุดท้ายต้องแยกทางกับโค้ชอย่าง คาร์ลอส เอดูอาร์โด และแต่งตั้งโค้ชเบ๊ ไพโรจน์ ผู้เชี่ยวชาญแห่การหนีตกชั้นเข้ามาแทน ซึ่งโค้ชผู้มากประสบการณ์ผู้นี้จะทำสำเร็จอีกครั้งหรือไม่ นับว่าน่าติดตามอย่างยิ่ง ส่วนทางฝั่ง เมืองทอง ผลงาน 2 นัดหลังยิงไป 10 ประตู คงจะมีความมั่นใจมากขึ้นเป็นกอง แล้วมันน่าจะส่งผลให้กิเลนผยอง จะเก็บอย่างน้อย 1 แต้มออกไป

หนองบัว พิชญ เอฟซี พบกับ พีที ประจวบ เอฟซี (18.00 น.)

      หนองบัว อยู่ในอาการวิกฤตขั้นสุด ทำให้เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องมีการแยกทางกับโค้ชวัง เพื่อหาโค้ชใหม่มาทำทีมแทนในเลกที่ 2 ส่วนทางฝั่ง ประจวบ ผลงานยังทรงๆ คือ ไม่ดีหรือแย่ ฉะนั้นผลที่ออกมาเมื่อครบ 90 นาที ต่อพิฆาตน่าจะไม่แพ้

แมตช์การแข่ง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบกับ ลำพูน วอริเออร์ (18.30 น.)

      แบงค็อก กำลังมีผลงานที่ยอดเยี่ยมและเกาะกลุ่มหัวตาราง แต่การแพ้ทีมหัวตารางด้วยกันต่อ ราชบุรี และ บุรีรัมย์ มันก็ส่งผลให้คะแนนในตารางต้องถูกตีออกห่าง ส่วนทางฝั่ง ลำพูน คงต้องประคองไปให้จบเลกแรก แล้วจากนั้นคงมีการผ่าตัดทีมครั้งใหญ่ ฉะนั้นสำหรับเกมนี้ บียูไม่มีทางอื่น นอกจากเกม 3 แต้ม ให้ได้สถานเดียว ซึ่งหากผลออกมาเป็นอื่น แข้งเทพอาจถึงขั้นหลุดวงโคจรการลุ้นแชมป์เลยก็เป็นได้

ราชบุรี เอฟซี พบกับ การท่าเรือ เอฟซี (19.00 น.)  

      ราชบุรี มีผลงานในช่วงหลังออกไปทางเสมอ ทำให้คะแนนเริ่มถูกทิ้งห่างจากกลุ่มผู้นำ อีกทั้งโปรแกรมนับจากนี้ พวกเขาจะต้องเจอทีมใหญ่ทั้งหมด ฉะนั้นมันจึงมีโอกาสที่พวกเขาจะถูกทำแต้มทิ้งห่างออกไปมากขึ้น ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ ผลงานยังลุ่มๆดอนๆ แถมนัดที่ผ่านมานำไปก่อน แต่ไปติดเล่นถ่วงเวลาจนโดนยิงตีเสมอ ขณะที่ แมตช์แข่งขัน เกมนัดนี้ ราชันมังกรดูมีความพร้อมและผลงานที่ดีกว่า พร้อมกันนั้นยังเชื่อว่าพวกเขาจะเฉือนผู้มาเยือนได้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

รีวิวก่อนเกมรีโว่ไทยลีก

นัดที่ 12 โปรแกรมการแข่งวันเสาร์ 

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก โปรแกรมการแข่งขัน นัดที่ 12 สัปดาห์นี้ไม่มีเกมเปิดหัวในศุกร์ ฉะนั้นในโปรแกรมวันเสาร์และอาทิตย์ จะมีเกมลงแข่งขันเท่ากัน 4 คู่ต่อวัน ส่วนในโปรแกรมวันเสาร์นั้น เกมใหญ่จะลงเตะเป็นคู่แรก จากนั้นจะตามด้วยการลงสนามของทีมใหญ่อีก 2 ทีม และปิดท้ายที่การขิงแต้มเพื่อโซนแดง ซึ่งจากโปรแกรมทั้งหมด ความพร้อมของแต่ละทีมจะเป็นอย่างไรบ้าง นับจากนี้จะไปรีวิวกัน  

ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด พบกับ ชลบุรี เอฟซี (18.00 น.)

      โปรแกรมการแข่งขัน เขียงราย เกือบเอาตัวไม่รอดในเกมกับ การท่าเรือ แต่สุดท้ายมาได้ประตูในนาทีบาป ทำให้เซฟแต้มออกมาจากบ้านการท่าเรือ ได้สำเร็จ ส่วน ชลบุรี การเจอกับเหตุการณ์นอกสนาม มันเริ่มส่งผลต่อผลงานในสนาม ไล่ตั้งแต่การถูกตีเสมอจาก สุโขทัย และพ่าย นครปฐม จนตกรอบบอลถ้วย ฉะนั้นการลงสนามที่สนามลีโอ เชียงราย กว่างโซ้งมหาภัยน่าจะไม่แพ้เป็นอย่างน้อย  

โปรแกรมการแข่งขัน ลำปาง เอฟซี พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (18.30 น.)

      สถานการณ์ของ โปรแกรมการแข่ง ลำปาง จ่อก้นอยู่ในโซนแดงมาตลอด ซึ่งการคว้า 1 แต้มมาจาก บีจี ปทุม มันก็ช่วยให้พวกเขาขยับห่างจากทีมในโซนแดงเล็กน้อย ส่วนทางฝั่ง บุรีรัมย์ ตอนนี้ฟอร์มกำลังขึ้นหม้อ แม้เกมรับจะยังไม่เหนียวแน่นก็ตาม กระนั้นการบุกเยือนของทัพปราสาทสายฟ้า พวกเขาเหนื่อยหลายขุม พร้อมกับจะบุกไปคว้า 3 แต้มออกมาอย่างไร้ปัญหา

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (19.00 น.)

      โคราช มีจุดแข็งตรงที่เก็บแต้มในบ้านได้เรื่อยๆ ตรงข้ามกับเกมเยือนที่แต้มมักหล่นตามรายทางตลอด  แต่อันดับในตารางยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ส่วนทางฝั่ง บีจี ปทุม การลงเล่นในบ้านกลายเป็นจุดแข็ง เพราะมักจะเก็บ 3 แต้ม ได้อยู่เรื่อย ตรงข้ามกับเกมเยือนที่แต้มหล่นกระจาย กระทั่งต้องมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งเฮดโค้ชแล้วดึง แมตช์ สมิธ เข้ามาคุมทีม ซึ่งมันอาจจะมีปัญหาในเรื่องประสบการณ์อยู่บ้าง ฉะนั้นเกมคู่นี้ของฟันธงว่าเจ้าบ้านจะมีแต้มไว้ก่อน  

สุโขทัย เอฟซี พบกับ โปลิศ เทโร เอฟซี (19.30 น.)

      เกมคู่สุดท้ายของวันเสาร์ สุโขทัยที่พึ่งทำแสบใส่ ชลบุรี มาเมื่อสัปดาห์ก่อน จะต้องพบกับ เทโร ที่นัดก่อนก็คว้าชัยชนะมาเหมือนกัน พร้อมกับมีอันดับในตารางที่อยู่จากโซนแดง กระนั้นหากดูจากความพร้อมและสถิติต่างๆ เมื่อจะสูสี แต่เมื่อเทียบฟอร์มและศักยภาพทีม เทโร อาจดูดีกว่าและน่าจะบุกไปแบ่งแต้มได้เป็นอย่างน้อย

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover