Categories
ข่าวกีฬา

“ตาม 2 ที ไม่หวั่น นำทีเดียวชนะเลย”

หนองบัว ตาม 2 หน ก่อนรัวแซง ประจวบ ท้ายเกม 2-3

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 27 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามสามอ่าว สเตเดี้ยม พีที ประจวบ เอฟซี ที่ผลงายช่วงหลังย่ำแย่จนต้องกลับมาหนีตาย จะต้องพบกับ พญาไก่ชน หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่สถานการณ์ลอยลำและไร้ความกดดันใดๆ ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-5-2 ขณะที่ทีมเยือนวาง 5-3-2 เพื่อรับลึกแบบเต็มสูบ

ในช่วง 20 นาทีแรกของเกม ต่างฝ่ายต่างระวังและต่างฝ่ายต่างเล่นเกมรุกได้ไม่ดีทั้งคู่ ทำให้รูปเกมที่ออกมาค่อนข้างน่าเบื่อ กระนั้นในนาทีที่ 23 พีที ประจวบ ชิงนำ 1-0 จากการต่อบอลขึ้นมาและไหลมากรอบเขตโทษให้ วันเฉลิม ยิงเสียบเสา ซึ่งการป้องกันของทีมเยือนทำได้ดีแล้ว ยกเว้น กิตติคุณ ที่ควรจะเซฟได้ มิใช่ยืนขาตาจเสมือนสุดปัญญาแบบนั้น จากนั้นในอีก 20 นาทีกว่าๆ ทั้งประจวบและหนองบัว ต่างมีความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆจนไม่สามารถครองบอลให้ปะติดปะต่อได้

ครึ่งหลัง หนองบัว มาตีเสมอ 1-1 จากฟรีคลิกที่ไม่ควรได้ เพราะมันไม่มีการผลักและปะทะแม้แต่น้อย ทำให้ผลพวงจากฟรีคลิกลูกนี้ คือ การเปิดไปให้ แฮร์มิลตัน ได้โฉบโหม่งเข้าไป กระนั้นไล่หลังเพียงนาทีกว่าๆ แนวรับทีมเยือนไหจ่ายบอลติด โมต้า ทำให้ได้บอลและลากเข้าไปยิงให้ ประจวบ ขึ้นนำ 2-1 อย่างไรก็ดี หนองบัว ไม่แกว่งและพยายามหาช่องโจมตี กระทั่งมาได้ประตีเสมอ 2-2 จากการเปิดของ เลอสันต์ ที่ไม่แม่นนัก แต่ แฮร์มิลตัน โชว์ความเหนือชั้นด้วยการโหนโหม่งให้เสียบเสาไกล ซึ่งจากสกอร์ที่ออกมาเช่นนี้ ประจวบ ไม่ต้องการ 1 แต้ม เพราะมันจะส่งผลต่อการหนีตาย ฉะนั้นจึงต้องบุก แต่การโดนสวนกลับในนาที 83 มันได้พราก 3 แต้ม ไปจากต่อพิฆาต จากการสวนกลับของ ทัพ พญาไก่ชน โดย ทาร์เดลี่ สุดท้ายเมื่อจบเกม ทีมเยือนได้ปาดหน้าชนะไป 2-3  

      บทสรุปจากเกม พีที ประจวบ เอฟซี ได้ขึ้นนำถึง 2 ครั้งในเกมนี้ แต่ดันปิดเกมไม่ได้ ซึ่งหากมองที่แผงเกมรับ มันไม่ถึงขั้นผิดพลาด แต่มันไม่ดีมากพอที่จะสยบแนวรุกคู่แข่งที่มีความอันตราย ส่วนทางฝั่ง หนองบัว พิชญ เอฟซี ต้องเล่นเกมรับเป็นหลัก แถมมีความผิดพลาดส่วนบุคคลเกิดขึ้นทั้ง 2 ลูก ขณะที่เกมโต้กลับและเกมรุกแทบจะไม่ได้ทำงาน แต่ที่วันนี้ได้ 3 แต้ม ต้องชม 2 แนวรุกที่ใช้โอกาสไม่สิ้นเปลื้อง เพราะขอแค่ป้อนบอลถึง โอกาสเป็นประตูก็สูงตาม ฉะนั้นจึงต้องกล่าวว่าพวกเขาเล่นไม่ดี แต่ที่ชนะเพราะยิงได้มากกว่าเท่านั้น

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“สุพรรณอเดน่าห่วง”

สุพรรณกำลังจะแบ่งแต้ม แต่พลาดโดน เทโร ยิงนาทีท้าย 1-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 27 ในโปรแกรมคืนวันเสาร์ ณ สนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรี สุพรรณบุรี เอฟซี ที่กลับมาสุ่มเสี่ยงต่อการหนีตายแบบเต็มตัวอีกครั้ง จะต้องพบกับ โปลิศ เทโร เอฟซี ที่สถานการณ์ผ่อนคลายกว่า  แต่ถ้าเก็บแต้มออกไปได้ก็แทบจะการันตีรอดตาย ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-5-2 ขณะที่ทีมเยือนวาง 3-4-3 มาต่อกร

ด้วยความที่ทั้ง 2 ทีม นิยมเล่นแบบระวังตัวและไม่กล้าเสี่ยง ทำให้โอกาสบุกและจบสกอร์ไม่ค่อยมี แต่เมื่อถึงคราวที่ต้องบุก สุพรรณบุรี จะอาศัยการโยนบอลจากริมเส้นทั้ง 2 ฝั่ง จนมีโอกาสเหน่งๆจาก วีระวุฒิ ที่ได้โหม่งแบบเต็มๆและโล่งๆ แต่เจ้าตัวดันโขกไปติดขา สินทวีชัย ทั้งๆที่มีมุมเสาไกลว่างอยู่ ส่วนทางฝั่ง โปลิศ เทโร จะค่อยๆต่อบอลขึ้นมา แต่เมื่อถึงแดน 3 ก็จะเคาะแบบแนวระนาบหน้ากระดานและยิงไกลเป็นหลัก ซึ่งแทบจะไม่เข้าเป้าเลย

ครึ่งหลัง สุพรรณบุรี ถูกแก้ลำ ทำให้การเปิดจากด้านข้างหายไป กระทั่งต้องอาศัยการเคาะบอลแล้วยิวไกล ส่วน โปลิศ เทโร พยายามเล่นในเร็วในแดน 3-4 ทำให้มีช่องได้ลากทั้งทางตรงและริมเส้น รวมถึงการเปิดบอลมาหน้าประตู กระนั้นจุดเปลี่ยนของเกมมาเกิดขึ้นในนาทีที่ 69 จากการเข้าพรวดของ วีระวุฒิ ที่ตั้งใจจะสกัดบอล แต่ดันเตะไปโดนท้องน้อยของคู่แข่งแบบเต็มๆ ทำให้เสียจุดโทษและเป็นประตูขึ้นนำ 0-1 ของมังกรโล่เงิน

สุพรรณบุรี พยายามแก้เกมทันที แต่เมื่อต้องเจอคู่แข่งที่เล่นเกมรับใส่ ทำให้ต้องดันนักเตะตัวสูงขึ้นมา เพื่อโจมตีด้วยลูกกลางอากาศ กระทั่งมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการเลี้ยงวนไปมาของ วิลเลี่ยม ก่อนเปิดมาให้ จอง ฮัน ซอล โขกแบบเต็มหัว ทำให้จากสถานการณ์เช่นนี้ โอกาสแบ่งแต้มน่าจะมีสูง แต่อย่างไรเสียแนวรับของสุพรรณบุรีดันออกอาการประมาท ซึ่งก็มีสัญญาณเตือนแล้ว แต่ VAR ช่วยไว้ กระนั้นในนาทีที่ 90+2 ฟรีคลิกที่โยนเข้ามา มันถึงนักเตะเทโรที่วิ่งคู่ 2 คน โดยจังหวะแรกโหม่งไม่ดี แต่ สหวิช ปัดไม่พ้นจึงโดนยิงซ้ำจ่อๆ

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สุพรรณบุรี เอฟซี เล่นตามสไตล์และมาตรฐานของตัวเอง แต่พอมีความผิดพลาดส่วนบุคคล ทำให้ต้องเล่นเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งยังดีที่ตีคืนกลับมาได้ กระนั้นสิ่งที่น่าเสียดาย คือ เกมรับที่สมาธิแกว่งในช่วงสำคัญ แล้วมันส่งผลให้พวกเขาถึงขั้นพ่ายคาบ้าน ขณะที่ โปลิศ เทโร เอฟซี แทบจะไม่มีความผิดพลาดให้คู่แข่ง โดยประตูที่เสียไม่ถึงขั้นผิดพลาด  แต่มันเป็นเพราะเล่นไม่ละเอียดพอ อย่างไรเสียก็ต้องกล่าวว่าพวกเขามีโชคและจังหวะที่เป็นใจช่วยทั้ง 2 ประตู ทำให้ได้ 3 แต้มสำคัญกลับบ้าน

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“แชมป์สักที จากที่เกร็งมานาน” 

บุรีรัมย์  ฝ่าความเกร็ง ถล่ม หนองบัว 0-3 ปิดจ็อบแชมป์ลีก 

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามพิชญ สเตเดี้ยม หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่มีผลงานโดดเด่นยามเล่นในบ้าน จะต้องทำดาร์บี้แมตช์อีสานกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ชะตาการคว้าแชมป์อยู่ในตัวเอง โดยหากชนะจะเป็นแชมป์ทันที แต่ถ้าเผด็จศึกไม่ลงก็ต้องไปลุ้นนัดสุดท้าย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านเปลี่ยนมาใช้ 4-4-2 ส่วนทีมเยือนก็เปลี่ยนเช่นกันเป็น 4-3-3      

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น บุรีรัมย์ เป็นฝ่ายบุกใส่ตามคาด แต่การบุกที่ปรากฏยังเกร็งๆเหมือนหลายนัดที่ผ่านมา ทำให้เมื่อเจอแนวรับที่เหนียวแน่นของเจ้าถิ่น จึงเจาะเข้าไปไม่ได้ กระนั้นผู้เล่นของฝั่งปราสาทสายฟ้า ก็ได้แสดงให้เห็นการเล่นให้ชัวร์ให้นิ่งที่สุด แล้วค่อยจ่ายหรือยิง อย่างไรก็ดีโชคและจังหวะได้เข้ามาช่วยปลดล็อคให้ บุรีรัมย์ ในนาทีที่ 39 ด้วยประตู 0-1 จากการไปฉกบอลของ ศุภโชค แล้วลากไปถึงสุดเส้นหลัง ก่อนจะจ่ายกลับมาหน้าประตู ซึ่งกองหลังเจ้าถิ่นสกัดไม่ถึง และผู้น้องอย่าง ศุภณัฏฐ์ ได้วิ่งเข้าชาร์ตพอดี ส่วนทางฝั่ง หนองบัว พิชญ วันนี้ได้แต่เล่นเกมรับ เพราะการสวิตช์บอลจากรับเป็นรุกมักเสียกลางทาง ทำให้กองหน้าทั้ง 2 คน แทบหายไปจากเกม จนต้องอาศัยการยิงไกลเพียงอย่างเดียว  

ครึ่งหลัง หนองบัว พยายามจะครองบอลเพื่อทำเกมบุก แต่การครองบอลในทุกครั้งมักเสียคืนไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องเสียแรงกลับไปตั้งรับ กระทั่งโดนยิงทิ้งห่าง 0-2 จากการเล่นที่ไม่ละเอียด อีกทั้งการปั๊มบอลที่ไม่ได้เปรียบ ดันไม่ตามต่อให้สุดทาง และแนวรับด้านในก็ไม่มองตัวที่วิ่งขึ้น ทำให้ ธีราทร ได้ขึ้นมายิงโล่งๆ ส่วนในช่วงท้ายเกม บุรีรัมย์ มาได้ประตู 0-3 ปิดกล่อง จากการทำชิ่งและหลุดข้าไปยิง

      บทสรุปจากเกม หนองบัว พิชญ เอฟซี ในวันนี้ ถือว่าเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ไล่ตั้งแต่เกมรับที่เหนียวแน่นในช่วง 0-0 แต่พอเสียประตูอาการรั่วมาทันที ส่วนเกมรุกไม่สามารถลำเลียงบอลไปขึ้นหน้าเป้าได้ ทำให้เกมนี้เป็นต้องหมดพลังงานไปกับการตั้งรับ ขณะที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อาการเกร็งแบบที่ผ่านยังมีอยู่ แต่พอได้ประตูเหมือนทุกอย่างถูกปลดล็อค จากนั้นขอแค่เล่นไปตามเกม ซึ่งเมื่อมีโอกาสก็ยิงทิ้งห่างได้ ทำให้เกมนี้เล่นง่ายในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายและปิดจ็อบแชมป์ไทยลีกได้สำเร็จเสียที

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ฉลามฟื้น เมื่อตัวจัดเต็ม”

ชลบุรี ตัวหลักเกือบครบ ย้ำแค้น ประจวบ สกอร์เดิม 2-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีกนัดที่ 26 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามชลบุรี สเตเดี้ยม ชลบุรี เอฟซี ที่ผลงานลุ่มๆดอนๆเพราะตัวต่างชาติมีอาการบาดเจ็บแบบยกชุด จะต้องพบกับ พีที ประจวบ เอฟซี ที่ตั้งแต่แพ้ บีจี ปุทม ด้วยสกอร์มโหฬาร ผลงานก็ดูจะดรอปๆไป สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-4-2 พร้อมกับตัวต่างชาติที่กลับมาเกือบครบ ส่วนทีมเยือนใช้ระบบที่คุ้นเคยอย่าง 3-5-2

      สไตล์บอลของทั้ง 2 ทีม มีลักษณะคล้ายๆกัน คือ เน้นการจ่ายบอลตามช่อง แต่ทางฝั่ง ชลบุรี จะดูดีกว่าตรงที่เมื่อเข้าแดน 3 จะใช้ความเร็วของ โบเกียห์ โจมตีทางริมเส้นทั้งซ้าย-ขวา ซึ่งเจ้าตัวจะสลับฝั่งไปมาอยู่เรื่อยๆ นอกจากนี้ยังมีจังหวะที่เลือกจะเลี้ยงตัดแล้วยิง จนเกือบได้อยู่หลายหน ขณะที่ พีที ประจวบ ดูด้อยกว่าตรงที่พวกเขาเคาะบอลจนถึงแดนสุดท้าย แล้วไม่สามารถจ่ายแทงหรือวางบอลเพื่อทำเข้าได้ ทำให้จังหวะจบสกอร์ล้วนมาจากยิงจากในระยะหัวกะโหลก

ครึ่งหลังเริ่มไปได้ 6 นาที ชลบุรี ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ยู บยอง ซู กำลังจะโดนรุม 2  แต่เจ้าตัวเลือกจะไม่จ่ายออกข้างและเสี่ยงปั๊มบอล แล้วบอลดันเป็นใจก่อนจะยิงเช็คเสาเข้าไป จากนั้นรูปเกมยังไม่เปิดหน้าแลก แต่ พีที ประจวบ มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการเปิดด้านข้างแล้วโหม่ง ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับเจ้าบ้านผิดพลาดที่ไปยืนทับซ้อนกัน ทำให้หน้าประตูมีแนวรุกคู่แข่งยืนว่างถึง 2 คน

การกลับมาเริ่มต้นกันใหม่ ทั้ง 2 ทีมยังไม่แลก กระทั่งนาทีที่ 70 ชลบุรี มาขึ้น 2-1 อีกครั้งจากจังหวะต่อเนื่องที่ได้เตะมุม ซึ่งเป็นการเปิดที่แม่นหัว เคลิช ทำให้การโหม่งรุนแรงและเข้าไป กระนั้นหาก ขวัญชัย อยากเป็นยอดนายทวาร การปัดลูกนี้ไม่ถึงกับสุดปัญหา เพราะวิถีของมันอยู่กลางศีรษะของตัวเอง จากนั้นในอีก 20 นาทีที่เหลือ ประจวบ พยายามจะเคาะบอลไปให้ถึงแดนหน้า ซึ่งมันถึงแดนสุดท้ายแต่ไม่มีโอกาสได้ยิง อีกทั้งการลุ้นประตูที่ใกล้เคียงที่สุดก็มาจากฟรีคลิกเท่านั้น

บทสรุปจากเกม ชลบุรี เอฟซี พอได้ตัวต่างขาติกลับมา รูปเกมสามารถคอนโทรลได้ดีขึ้น อีกทั้งการโจมตีก็ดูอันตราย แต่จังหวะการเข้าทำยังไม่มากพอ นอกจากนี้ในแผงเกมรับก็ต้องกลับไปคุยในเรื่องการแบ่งหน้าที่ประกบคู่แข่ง เพื่อไม่ให้มีภาพของการเสียประตูแบบง่ายๆเช่นนี้ ขณะที่ พีที ประจวบ เอฟซี การต่อบอลเป็นการครอบครองที่ไร้ประโยชน์ เพราะมันเป็นการเคาะไปเรื่อยๆจนไม่มีจังหวะเข้าทำ แล้วในขณะเดียวกัน โค้ชหระอาจต้องกลับไปดูในแผงเกมรับ ว่าทำไม 2-3 นัดหลัง ถึงเสียประตูเยอะขึ้น เพราะมิเช่นนั้นมันอาจส่งผลให้พวกเขาต้องมาหนีตายในช่วงท้ายฤดูกาลก็เป็นได้  

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“แค้นนี้ต้องย้ำต้องสางให้เกลี้ยง”

บียู สางแค้น รัว เทโร ยับเยิน 1-4

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามบุญยะจินดา โปลิศ เทโร เอฟซี ที่ยังมีแต้มล่อแหลมต่อการหนีตายอยู่ จะต้องพบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ของ วิดมาร์ โดยจากสถิติที่ทั้งคู่พบกันในฤดูกาลนี้ แข้งเทพจัดการถล่มในลีก 5-0 แต่มังกรโล่เงินมาทำแสบด้วยการเขี่ยตกรอบบอลถ้วย ฉะนั้นเกมนัดนี้มีการล้างแค้นแน่นอน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-4-3 ส่วนทีมเยือนยึด 4-3-3

      ในช่วงต้นเกมเป็นการช่วงชิงบอลกลางสนาม จากนั้นพอเกมเริ่มเข้าที่ ทรู แบงค็อก เริ่มเจาะทางฝั่งขวาแล้วจ่ายบอลมาหน้าประตูหรือเสาไกล จนแค่นาทีที่ 8 ก็ขึ้นนำ 0-1 จากลักษณะการเล่นที่กล่าวไป ก่อนจบด้วยการตบมาให้ ฐิติพันธ์ ที่เติมขึ้นมาและได้ยิงแบบไม่มีใครขวาง จากนั้นกลายเป็น เทโร ที่ตั้งเกมไม่ติด ครองบอลไม่ได้ แถมยังโดนตัดกลางสนามอยู่เรื่อยๆ กระทั่งมาเสียประตู 0-2 ซึ่งในจังหวะนี้ตัดได้และต่อบอล 3 จังหวะ ขณะที่อีก 20 นาทีกว่าๆ เทโร เริ่มจะเร่งเกมบุกและมีโอกาสจบสกอร์ แต่มันยังอยู่วิสัยป้องกัน อีกทั้งแนวรับแข้งเทพก็มีความผิดพลาดเล็กน้อยๆ อย่างไรเสียพวกเขายังไม่ถูกลงโทษก็เท่านั้น

ครึ่งหลัง แนวรับบียูยังมีจังหวะเคลียร์บอลที่ผิดพลาดอยู่ แล้วเพียงแค่ 3 นาที โปลิศ เทโร มาตีตื้น 1-2 จากจังหวะบอลชุลมุนแล้ว อาทิตย์ จัดการยิงตีลังกาสวนเข้าไป กระนั้นแทนที่โมเมนตัมจะเหวี่ยงมาหาเจ้าบ้าน มันกลายเป็นว่า บียู มายิงทิ้งห่างจากการยิงแบบเต็มแรงของ เฮแบร์ตี้ พร้อมทั้งเป็นตำนานบทใหม่ที่ 145 ประตู จากนั้นสถานการณ์ของเจ้าถิ่นเริ่มเลวร้ายลง กับการโดนใบแดงเหลือ 10 คน นั่นจึงทำให้ทีมเยือนเริ่มผ่อนคันเร่ง แล้วมาได้ประตูปิดท้ายจากจุดโทษ ซึ่งการให้ คาร์เตอร์ ถือเป็นการเรียกความมั่นใจหลังจากที่ไม่มีชื่อทำประตูมาหลายเกม

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม โปลิศ เทโร เอฟซี เริ่มต้นเกมด้วยฟอร์มที่ไม่ดี แล้วยิ่งมาเสีย 2 ประตู จึงทำให้การเล่นหลังจากนั้นค่อนข้างยาก ซึ่งการตีตื้นเร็วตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง เหมือนจะเป็นโมเมนตัมที่ดี แต่การมาเสียประตูจากลูกยิงแบบจับยัด มันก็ส่งผลให้ความคึกคะนองหายไปและสุดท้ายกลายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ส่วนทางฝั่ง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เกมรุกทำงานตั้งแต่ต้นและได้ประตูเร็ว ทำให้เกมนี้เล่นง่าย กระนั้นเกมรับต้องชัวร์กว่านี้ เพราะหากเป็นทีมระดับใกล้เคียงกัน มีสิทธิ์โดนลงโทษมากกว่าที่เห็นในเกมนี้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ความประมาท นำไปสู่การแบ่งแต้ม”

เชียงราย กุมชะตา แต่ปล่อยให้สุพรรณบุรี มาแบ่งแต้ม 2-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามลีโอ เชียงราย สเตเดี้ยม ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นติดท็อปโฟร์ จะต้องเปิดบ้านรับ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่ทำไปทำมายังต้องการแต้มเพื่อหนีตาย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-4-3 โดยขยับ เก็ทเดอร์สัน ไปยืนฝั่งขวาและให้ อัครวินทร์ ยืนเป็นหน้าเป้า ส่วนทางฝั่งทีมเยือนใช้ 3-5-2 เพื่อมาตั้งและรอโต้

      การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทั้ง 2 ทีม ต่างขึ้นบอลทางริมเส้นเพื่อสร้างโอกาส แต่หากเทียบกันแล้วจะเป็นทางฝั่ง ลีโอ เชียงราย ที่ดูดีกว่า เพราะสามารถประสานงานทำชิ่งและได้จบสกอร์ ส่วนทางฝั่ง สุพรรณบุรี จะเป็นในลักษณะโยนบอลเข้าไปแบบโดยตรง อย่างไรเสียประตูแรกของเกมเป็นทาง สุพรรณบุรี ที่เปิดบอลจากเตะมุม แล้วแนวรับเจ้าถิ่นดันประมาทปล่อยตัวเสาไกลให้ยืนว่าง ทำให้เมื่อบอลมาถึงหัวคนโหม่งจึงได้โขกแบบเต็มๆ จากนั้น เชียงราย ยังคงเดินหน้าต่อแบบไม่เสียทรง จนกระทั่งมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการประสานทางริมเส้นฝั่งซ้าย แล้วตบเข้ามาตรงวงกลมยิงจุดโทษให้ อัครวินทร์ ยิงแบบไม่เหลือ และในอีก 7-8 นาทีที่เหลือ ก็ยังมีโอกาสอยู่เรื่อยๆ แต่ไม่ได้ประตูเพราะไม่เฉียบคม  

ครึ่งหลัง เชียงราย เดินหน้าต่อ แล้วเพียง 2 นาที ก็ได้ประตูนำ 2-1 จากการโหม่งแบบมีแฉลบ กระนั้น 10 นาทีให้หลัง สุพรรณบุรี มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากการลากขึ้นมาแบบฉายเดี่ยวของ วิลเลี่ยม ซึ่งตอนแรกก็ยังมีตัวประกบอยู่ แต่พอเข้าแดน 3 ดันไปปล่อยให้เลี้ยงโล่งๆ ทำให้เจ้าตัวซัดไกลและเสียบเสาแบบหมดจด จากนั้นกลายเป็นเจ้าถิ่นต้องโหม โดยมีโอกาสเรื่อยๆ กระทั่งใกล้เคียงสุด คือ จุดโทษ แต่ ศิวกร ดันยิงเบาและติดเซฟ ทำให้จบเกมด้วยการเจ๊า  

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด การได้เพียงแต้มเดียวถือว่าเสียหาย แต่หากมองให้ลึกมันก็สมควรที่จะเป็นแบบนี้ เพราะในแผงเกมรับมีความผิดพลาดจากการปล่อยให้คู่ยืนเล่นง่ายๆทั้ง 2 ลูก ส่วนเกมรุกเห็นถึงรูปแบบการขึ้นบอลทางริมเส้นทั้ง 2 ฝั่ง แต่พอเจอสถานการณ์ที่กดดัน ก็มีขาสั่นและไปไม่เป็นเหมือนกัน ขณะที่ สุพรรณบุรี เอฟซี เป็นรองทุกอย่าง ไล่ตั้งแต่เกมรับที่เอาไม่ค่อยอยู่ เกมรุกที่ได้แต่พึ่งพาความสามารถเฉพาะตัว กระนั้นมันก็เห็นว่าพวกเขามักสบโอกาสและจู่โจมเมื่อคู่แข่งเผลอเปิดช่องว่างไว้ให้ แล้วสุดท้ายมันได้ผลถึงขั้นได้แต้มกลับบ้าน

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“เชียงใหม่สู้ แต่ขอนแก่นสู้กลับ”

บิลล์ โขกนำให้ เชียงใหม่ ก่อนเจอ มู-ฮิบ ขอนแก่น ยิงแซง 2-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 คู่วันเสาร์ ณ สนามกีฬากลางจังหวัดขอนแก่น ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่สถานการณ์ลอยลำต่อการหนีตาย วันนี้จะเล่นสั่งลานัดสุดท้ายในบ้านกับ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่หากวันนี้ไม่มี 3 แต้ม การตกชั้นลงไปไทยลีก 2 ก็แทบจะ 100% สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-5-2 ส่วนทีมเยือนก็มาในระบบ 3-5-2 เช่นเดียวกัน   

      เชียงใหม่ ใช้หน้าคู่เป็น บิลล์ ยืนคู่กับ เอกนิษฐ์ แล้วเริ่มต้นเกมด้วยความมุ่งมั่นกว่า ซึ่งแม้ว่าโอกาสจะไม่ชัดแจ้ง แต่เพียงแค่ 10 นาที พวกเขาก็บุกมานำ 0-1 จากจังหวะเปิดด้านข้างระยะ 30 หลา ไปที่เสาไกล โดยบอลที่พุ่งเข้าไปหา บิลล์ เป็นการโหม่งที่ยากเพราะมันทั้งเหินและมาแบบวิถีพุ่ง แต่แนวรุกชาวบราซิลผู้นี้ก็ยังสามารถโหนตัวและโหม่งยัดเข้าเสาใกล้แบบสุดสวย ส่วนทางฝั่ง ขอนแก่น รูปเกมดูเฉื่อยชาไปสักหน่อย โดยจังหวะเสียประตูก็มาจากความผิดพลาดของพวกเขาด้วย ที่สกัดบอลไม่ดีจนโดนบอลโยนเข้ามาแล้วเสียประตู กระนั้นเวลาผ่านไปไม่นาน จงอางผยองก็มาตีเสมอ 1-1 จากเตะมุมที่มีการโหม่งเช็คไปเสาไกลแล้ว เมโล่ วิ่งแซง ศาสนพงษ์ มาจิ้มบอลเข้าไป จากนั้นพอเกมมาเริ่มกันใหม่ เจ้าถิ่นสามารถครองเกมไว้ได้ ขาดเสียเพียงประตูเท่านั้น ขณะที่ทีมเยือนมีโต้กลับนานๆครั้ง อีกทั้งการจบสกอร์ต้องมาจากการยิงนอกกรอบ เพราะแนวรับเจ้าบ้านยืนกันได้แนบแน่น

ครึ่งหลัง ขอนแก่น บิ้วเกมของตัวเองด้วยบุกและมีจังหวะจบ แต่ไม่อันตราย ส่วน เชียงใหม่ แน่นอนว่าพวกเขาต้องพยายามบุกแม้จะขึ้นมาแบบนานๆที แต่ในเรื่องความหวาดเสียวพวกเขาเกือบได้ประตู ซึ่งมันน่าเสียดายที่บอลชนคาน เฉียดเสา และเสียจังหวะเพราะการตัดสินช็อตสุดท้ายของ เอกนิษฐ์ กลับกันพอเป็นโอกาสของ ขอนแก่น พวกเขาสามารถยิงแซงนำ 2-1 จากเตะมุมที่ โรจน์ ปัด แล้วไม่มีคนตามประกบ โรมูโล่ ที่เข้ามายิงง่ายๆ  

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ขอนแก่น ยูไนเต็ด ศักยภาพเหนือกว่า แต่การออกสตาร์ทดูเฉื่อยชาไป ซึ่งมันส่งผลให้เสียประตู กระนั้นแม้ว่าพวกเขาจะยิงตีเสมอได้เร็วและยิงประตูแซงได้ แต่ตลอดเกมนี้พวกเขาเล่นด้วยฟอร์มแบบปานกลางเท่านั้น ขณะที่ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด เกมรุกเล่นด้วยนักเตะเพียงไม่กี่คน แต่ก็พยายามจะยิงประตูเพื่อคว้าชัย ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม อย่างไรเสียในแผงเกมรับ พวกเขาไม่มีความเหนียวแน่นมากพอ ทำให้โดนฉกยิงแบบง่ายๆ แล้วสุดท้ายกลายเป็นความพ่ายแพ้อีกนัด

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ตองพลาด วิลเลี่ยมพาล”

ท่าเรือ เจอมรสุม พ่าย ราชบุรี แบบสุดต้าน 3-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 ในโปรแกรมคือวันเสาร์ ณ สนามมิตรผล สเตเดี้ยม ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่แต้มยังไม่ขาดจากโซนแดง จะต้องพบกับ การท่าเรือ เอฟซี ของโค้ชจเด็จ ที่ขอแค่ทำผลงานให้ดีที่สุดเพื่อประธานสโมสรได้ภาคภูมิใจ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-3-3 ส่วนทีมเยือนก็ 4-3-3 เช่นเดียวกัน

      ในช่วงต้นเกมต่างฝ่ายต่างช่วงชิงจังหวะกันกลางสนาม จากนั้นเมื่อ 5 นาทีผ่าน การท่าเรือ มีการต่อบอลและเชื่อมตัวไกลได้ดี อีกทั้งยังมีการทำชิ่งริมเส้นจนได้เปิดอยู่เรื่อยๆ ส่วนทางฝั่ง ราชบุรี มิตรผล การทำเกมบุกไม่มีปรากฏ การลุ้นประตูมักมาจากการเล่นเร็วแบบฉาบฉวย กระนั้นความผิดพลาดของผู้รักษาประตูฝั่งทีมเยือนอย่าง กวินทร์ ก็ได้เปลี่ยนเกมครั้งใหญ่ด้วยการเตะบอลผิดเหลี่ยมเข้าประตูเป็น 1-0 ของเจ้าถิ่นเสียอย่างนั้น

      สถานการณ์ของ การท่าเรือ เลวร้ายขึ้นเมื่อ สตูเบิ้ล ไปสกัดไม่โดนและเสียจุดโทษเป็น 2-0 กระนั้นสิงห์เจ้าท่า เหมือนจะมีช่องทางกลับมาสู่เกมกับการได้จุดโทษ แต่ วิลเลี่ยม ดันหัวร้อนและเอาศีรษะไปดันหน้า ซาโตะ ทำให้ประตูตีตื้น 2-1 ไม่ค่อยมีความได้เปรียบ เพราะลูกทีมของน้าเด็จเหลือ 10 คน แล้วสกอร์ตามหลังและต้องเล่นแบบนี้ไปอีก 45 นาที เป็นอย่างน้อย

ครึ่งหลัง การท่าเรือ พยายามจะเปิดเกมบุกสู้ แต่การจ่ายบอลที่ไม่แม่นพอ ทำให้โดนตัดและถูกล่อเป้าเป็น 3-1 ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับทีมเยือนยืนหลวมและผู้รักษาประตูควรป้องกันได้ดีกว่านี้ จากนั้นในอีก 20 นาทีที่เหลือ เจ้าถิ่นถอนคันเร่งและมีความประมาท กระทั่งมาโดนยิงตีตื้น 3-2 ในนาทีที่ 88 แต่สุดท้ายก็เท่านั้นเพราะ สิงห์เจ้าท่าไม่สามารถทำอะไรได้กับช่วงเวลาอันน้อยนิด

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ฟอร์มการเล่นในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก เป็นรองคู่แข่งแบบเห็นได้ชัด แต่พอได้ประตูแบบส้มหล่นทั้งสวน พวกเขาเล่นดีขึ้นและไม่ทิ้งโอกาสที่จะได้ประตูทิ้งห่าง มิหนำซ้ำการดักบอลและโต้กลับ ยังมาได้ประตูทิ้งห่างอีก กระนั้นเกมรับต้องปรับปรุง โดยเฉพาะในช่วงที่สกอร์นำขาด ซึ่งไม่ควรประมาทง่ายๆแบบนั้น ขณะที่ การท่าเรือ เอฟซี รูปเกมกำลังได้โชว์ของ แต่พอเสียประตู เสียจุดโทษ และเหลือ 10 ตัว สถานการณ์ก็กลับตาลปัตรไปหมด อย่างไรก็ตามต้องชมในความใจสู้ในช่วง 20 นาทีแรกของครึ่งหลัง ซึ่งเป็นสิ่งที่หาดูได้ยากจากสิงห์เจ้าท่า ในช่วงหลังๆ แม้ในท้ายที่สุดจะยิงไม่ได้และเสียประตูเพิ่มอีกก็ตามที   

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ลิเวอร์พูล ซ้อมอะไรกันบ้าง

เดอะแมตช์ แบงค็อก เซนจูรี่คัพ 2022 ลิเวอร์พูล ซ้อมอะไรกันบ้าง

การพรีซีซั่นใหม่ของ ลิเวอร์พูล เริ่มต้นหลังจากคู่แข่งอย่าง แมนยู เข้าแคมป์ฝึกซ้อมไปแล้ว 2 วัน โดย เยอร์เก้น คล็อปป์ ได้เรียกนักเตะมาทดสอบความฟิตและซ้อมเบาๆ ก่อนจะยกพลนักเตะมาประเทศไทยถึง 37 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ประกอบด้วย นักเตะชุดใหญ่  นักเตะรายใหม่ นักเตะที่กลับมาจากการยืมตัว และตัวเยาวชนที่ได้รับโอกาสให้ขึ้นมาฝึกซ้อม ซึ่งมันเห็นได้ชัดว่ากุนซือชาวเยอรมันเลือกที่จะทดลองนักเตะสำหรับการมาเยือนในครั้งนี้  

รูปแบบการซ้อมยังเป็นระบบ

      ในแง่ของระบบการฝึกซ้อม ยังเป็นในลักษณะเดิมที่เห็นในช่องยูทูปของสโมสร ซึ่งจะเน้นทักษะพื้นฐานต่างๆให้มีความรวดเร็ว มีการเล่น small side ที่รวดเร็ว โดยสำหรับนักเตะชุดใหญ่ที่อยู่กับทีมมานานเกิน 1 ปี ไม่ค่อยมีปัญหา เว้นเสียแต่นักเตะใหม่อย่าง คาร์วัลโญ่ และ นูเญช ที่ต้องปรับตัว รวมถึงนักเตะที่กลับมาจากยืมตัว ที่ต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองให้มากแบบคูณสอง   

ลงอุ่นเครื่อง โดยแบ่งทีมเป็น 3 ชุด

      ในเกมอุ่นเครื่องหนนี้ เยอร์เก้น คล็อปป์ ใช้ระบบ 4-3-3 โดยแบ่งทีมออกเป็น 3 ชุด ชุดละ 30 นาที ซึ่งในทีมชุดแรก แนวรับเป็น โกเมช ที่ไม่ค่อยได้ลงสนาม ยืนจับคู่กับ แนท ที่กลับมาจากการยืมตัว พร้อมกับขนาบข้างด้วยแบ็คตัวเยาวชน ส่วนแดนกลางและหน้าเกือบจะฟูลทีม นั่นจึงทำให้เกมรุกดูอันตรายและสร้างโอกาสได้หลายครั้ง กระนั้นเกมรับค่อนข้างหลุดง่ายและพลาดเอง กระทั่งเสียประตูแบบไม่สมควรถึง 2 ลูก

      นับตั้งแต่นาทีที่ 30 ลิเวอร์พูล จัดการส่งทีมชุดที่ 2 ลงมา ซึ่งเป็นการผสมระหว่างทีมชุดใหญ่ ตัวสำรอง และตัวเยาวชน แต่ไม่ทันไรแบ็คซ้ายตัวเด็กก็มาพลาดจนเสียประตูที่ 3 ส่วนรูปเกมที่เห็นโดยทั่วไป เกมรุกไม่วูบวาบเท่าทีมชุดแรก จากนั้นในครึ่งหลังราวนาทีที่ 60 เยอร์เก้น คล็อปป์ ส่งทีมชุดที่ 3 ลงมา โดยแนวรับและแนวรุกเป็นตัวชุดใหญ่ เว้นเสียแดนกลางที่เป็นสำรองและเยาวชนผสม กระนั้นรูปเกมก็ได้เปลี่ยนเป็นการพับสนามบุก แต่จังหวะการจบสกอร์ไม่เฉียบคม มิหนำการสวนกลับยังเสียประตูที่ 4

สิ่งที่ต้องตามต่อนับจากนี้

การมาพรีซีซั่นในหนนี้ของ ลิเวอร์พูล เราได้เห็นถึงระบบการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์เหมือนเคย แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดจากฤดูกาลก่อนจนถึงตอนนี้ คือ การจบสกอร์ที่ยังใช้โอกาสเปลื้องอยู่ ส่วนการจัดตัวแบบไม่ฟูลทีมเลยสักชุด อาจมีเหตุผลในเรื่องการทดลองตัวผู้เล่นเป็นหลัก ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าพัฒนาของผู้เล่นใหม่ ผู้เล่นสำรอง และตัวที่กลับมาจากการยืมตัว ใครจะเข้าตาและใครต้องถูกผ่อนถ่ายออกไป

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

เจ้าบุญทุ่มหน้าใหม่

เจ้าบุญทุ่มหน้าใหม่ คือ สิ่งที่นักเตะไทยต้องระวัง

ปัญหาเรื่องเงินๆทองๆกับวงการฟุตบอลไทย ถือเป็นเรื่องที่วงการนี้ชินชาไปแล้ว โดยเฉพาะการค้างเงินเดือนนักเตะ แต่สำหรับรอบปีนี้มันเกิดเหตุการณ์แปลกๆตรงที่เจ้าบุญทุ่มหน้าใหม่ เข้ามาด้วยภาพลักษณ์ของผู้มั่งมี แต่สุดท้ายดันกลายเป็นเศรษฐีเก๊ที่ไม่มีแม้แต่เงินจะจ่ายค่าเช่าสนาม ฉะนั้นนี่จึงเป็นอุทาหรณ์ย้ำเตือน หากมีเจ้าบุญทุ่มหน้าใหม่ใช้เงินเดือนสูงๆมาล่อให้นักเตะ โค้ช และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ย้ายไปร่วมงาน

หากย้อนกลับไปเกินกว่า 20 ปี สโมสรฟุตบอลมักจำกัดอยู่ในวงรัฐวิสากิจ หรือองค์กร ซึ่งล้วนเป็นทีมที่งบประมาณน้อย แล้วถ้าการเงินขัดสนหรือถูกตัดงบประมาณลงเรื่อยๆ การหาผู้มาเทกโอเวอร์ คือ ทางเลือกแรก แต่ถ้าไม่มีใครสนใจ ปลายทางที่เกิดขึ้น คือ ยุบทีม กระนั้นในช่วงหลังตั้งแต่บอลไทยเริ่มบูม

เราก็มักเห็นนักการเมือง เศรษฐี และกลุ่มทุนหน้าใหม่ๆ เข้ามาเป็นเจ้าของทีม แต่พอเวลาผ่านไป นักการเมืองหลายคนได้กลับสู่ถนนการเมือง หลังจากใช้วงการฟุตบอลชุบตัวและสร้างชื่อเสียง เหลือเพียงไม่กี่รายที่รักฟุตบอลจริงๆ ขณะที่เศรษฐกิจผู้มั่งก็มีทั้งรักฟุตบอลจริงๆ จนถึงการเข้ามาในวงการนี้เพื่อฟอกเงิน ซึ่งในเคสของ เพื่อนตำรวจ ถือเป็นเคสใหญ่ครั้งหนึ่งของวงการฟุตบอลไทย

ในช่วง 1-2 ปีมานี้ ในฟุตบอลลีกรากหญ้าอย่างไทยลีก 3 ได้เริ่มปรากฏให้เห็นถึงเจ้าบุญหน้าใหม่เข้ามาซื้อทีมธรรมดาๆที่ไม่เคยมีประวัติศาสตร์ใดๆกับเขา ซึ่งมันจะเห็นได้ว่าพวกเขาเหล่านี้มักเลือกทีมเล็ก แล้วดัดแปลกสภาพด้วยการอัดเม็ดเงินลงไป ขณะที่นักเตะที่ถูกว่าจ้าง ก็มักเป็นนักเตะเกรด A แต่อยู่ในวัยใกล้แขวนสตั๊ด ทำให้การถูกจ้างในราคาสูง ได้กลายเป็นยาหอมให้พวกเขาตกลงย้ายมาร่วมทีม แล้วสุดท้ายทีมที่ซื้อมาก็ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว

หลายทีมที่ประสบความสำเร็จในระยะเวลาอันสั้น อยู่ๆก็เริ่มจะมีปัญหาด้านการเงิน ซึ่งมันหนักถึงขั้นไม่มีเงินจ่ายค่าแรงนักฟุตบอล แถมไม่ใช่แค่ 1-2 เดือน แต่ค้างนานแรมเดือนจนถึงปี นั่นจึงทำให้หลายคนเริ่มหาสาเหตุว่าเพราะอะไรพวกเขาเหล่านี้ถึงมีเงินมากมายในเวลาหนึ่ง แต่ก็กลายเป็นยาจกได้ในเวลาใกล้ๆกัน คำตอบที่พอจะพบได้ คือ บางทีมได้เข้ามาด้วยการมีหุ้นส่วนหลายขา

ปัญหาจึงเกิดทันทีเมื่อขาดเงินจากหุ้นส่วน นอกจากนี้มันก็เป็นไปได้ที่เจ้าบุญทุ่มหน้าใหม่ พยายามใช้สโมสรฟุตบอลเป็นที่ฟอกเงิน โดยเรามิอาจรู้ได้ว่าเงินนั้นมาจากไหน ฉะนั้นนับจากนี้ สมาคมฟุตบอลควรเพิ่มการสอดส่องและตรวจสอบการซื้อขายสิทธิ์สโมสรฟุตบอล เพื่อให้เงินที่ไหลเข้ามาสู่วงการฟุตบอลเป็นเงินบริสุทธิ์ มิใช่หวังแต่เพียงเม็ดเงินให้เข้ามาสะพัด มิเช่นนั้นปัญหาอย่างที่กล่าวจะลุกลามและหนักกว่านี้ แล้วในขณะเดียวกันนักฟุตบอลก็จะต้องพิจารณาอยากรอบคอบ มิใช่เห็นแก่ตัวเงินและหลวมตัวเข้าไปทันที

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover