Categories
ข่าวกีฬา

“เม็ดเดียวก็เอาอยู่”

บุรีรัมย์ ฟอร์มไม่แจ่ม แต่ก็ยังบุกเฉือน สมุทรปราการ 0-1 นำจ่าฝูงต่อ

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 21 ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนาม กกท.บางพลี สมุทรปราการ ซิตี้ พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งทั้ง 2 ทีม ใช้โค้ชญี่ปุ่นเหมือนกัน และนี่ยังเป็นการกลับบ้านเก่าของ อิชิอิ อีกทั้งยังเป็นพบกันแบบติดๆ หลังจากดวลกันในเกมบอลถ้วยเมื่อกลางสัปดาห์ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ต่างพร้อมใจกันใช้ 4-4-2

บุรีรัมย์ เหนือกว่าตามเชิงและศักยภาพผู้เล่น แต่ในวันนี้เหมือนผิดฟอร์ม เพราะแค่การต่อบอลในแดน 1-2 มีความเชื่องช้าและจ่ายผิดช่องกันบ่อย ทำให้การบุกเหลือเพียงพาบอลไปริมเส้นแล้วเปิดแบบส่งๆ กับใช้ความสามารถเฉพาะตัวของ มาซิก้า ลากลุยเข้าไป ส่วนทางฝั่ง สมุทรปราการ รับแน่นๆและรอโต้กลับ แต่ด้วยความที่คู่แข่งมาผิดฟอร์ม มันก็มีผลให้พวกเขามีจังหวะได้โต้กลับแบบไม่กี่ทีถึงหน้าประตู แล้วพวกเขาดันยิงไม่ได้เอง ซึ่งอาจไม่ได้เสียหาย แต่พวกเขาดันมาเสียประตูจากการวางยาวกลางสนามให้ โอรินกิ โขกเช็คเปลี่ยนทางเข้าแบบสุดปัญญาจะเซฟ

ครึ่งหลัง บุรีรัมย์ พยายามจะถ่ายบอลและหาช่องเหมือนครึ่งแรก แต่ผลลัพธ์ก็คล้ายๆกัน คือ โอกาสจบสกอร์ไม่ค่อยมี ส่วนสมุทรปราการ ก็ยังเน้นตั้งรับและสวนกลับอยู่ โดยการขึ้นเกมบุกมีโอกาสได้ประตู แต่ดันตายตอนจบทุกที ทำให้ 20 นาทีสุดท้ายของเกม เขี้ยวสมุทรเลือกโหมบุก ซึ่งการโหมตรงนี้ก็มีภาพของบอลที่เฉี่ยวไปจวนมาแต่ก็ไม่ได้ กลับกันการบุกแลกแบบนี้มันเป็นให้ทีมเยือนมีโอกาสฝัง อย่างไรเสียมันไม่มีฝ่ายไหนทำประตูได้ สกอร์จึงยังคงเดิมจากครึ่งแรก

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สมุทรปราการ ซิตี้ ในเกมนี้วางแท็กติกได้ดีกับการวางเกมรับเหนียวแน่น แต่มันน่าเสียดายที่พวกเขาฉกโอกาสยิงนำก่อนไม่ได้ แล้วมาเสียประตูก่อนจบครึ่งแรก กระนั้นในครึ่งหลัง พวกเขาก็มีการแก้เกมที่ดี แต่มันดูเหมือนว่าพวกเขาขาดความมั่นใจ เพราะถ้าหากพวกเขามีความเฉียบคม เขี้ยวสมุทรสามารถมองถึงชัยชนะได้เลย ขณะที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เหมือนคนพึ่งตื่นนอนแล้วต้องมาลงเล่นฟุตบอล เพราะฟอร์มการเล่นของนักเตะเกือบค่อนทีมต่ำกว่ามาตรฐาน โดยสิ่งที่เห็น คือ การเคลื่อนที่ผิดพลาด สปีดบอลช้า จ่ายบอลเสีย และโดนโต้กลับจนเกือบเสียประตู แต่ในวันนี้ทุกอย่างเป็นใจและมาได้ประตูจากการฉวยโอกาสจู่โจมเร็ว ทำให้อย่างน้อยยังเก็บ 3 แต้ม ไปแบบทุลักทุเล

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

สรุปตารางคะแนน

สรุปสถานการณ์ตารางคะแนนไทยลีก 3 โซนภาคเหนือ หลังผ่าน 19 นัด

ศึกฟุตบอลมังกรฟ้าไทยลีก 3 โซนภาคเหนือ แม้ว่า อุทัยธานี จะได้การันตีแชมป์ไปตั้งแต่ไก่โห่ แต่สถานการณ์ในการลุ้นไปรอบซุปเปอร์ลีกกับหนีตาย ยังมีอะไรให้ต้องตามถึงนัดสุดท้าย ซึ่งใครจะอยู่ตรงไหนและมีอะไรให้ลุ้น นับจากนี้จะได้ทราบกัน

กลุ่มหัวตาราง

      อุทัยธานี เอฟซี ถือว่าทำได้ตามเป้าหมาย กับการนำแบบม้วนเดียวจบ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนัก เพราะขุมกำลังประกอบไปด้วยอดีตดาวเตะระดับไทยลีกแบบฟูลทีม ทำให้นับจากนี้สามารถโฟกัสบอลถ้วยทั้ง 2 รายการ และพาตัวเองไปอยู่ในอันดับที่เลื่อนชั้น ทุกอย่างก็เป็นอันเสร็จสิ้น ส่วนทีมที่ตามมาห่างๆอย่าง แม่โจ้ ถือว่าอยู่ในจุดที่ดีที่สุดสำหรับทีม เพราะพึ่งแซงขึ้นมารั้งอันดับ 2 ได้

ฉะนั้นนับจากนี้ขอแค่ไม่พลาดเอง ก็จะได้ไปรอบซุปเปอร์ลีก แบบสมใจหวังเสียที ขณะที่ พิษณุโลก เอฟซี จากที่ตีคู่มาอยู่ดีๆกับอุทัย ก็ดันเกิดอาการแรงตกจนถูกทำแต้มทิ้งห่างและถูกปาดแซง อีกทั้งยังมีข่าวว่าจะเจ้าของคนปัจจุบันไม่ไม่ทำทีมต่อ ซึ่งตรงจุดอาจส่วนผลต่อขวัญกำลังใจแบบโดยตรง ถัดมา วัดโบสถ์ ซิตี้ ถือเป็นทีมที่ทำผลงานดีทุกปี โดยในปีนี้มีลุ้นแบบห่างๆ กระนั้นที่ผ่านมา 20 นัด แล้วเล่นได้ขนาดนี้ ก็ถือว่าน่าภูมิใจแล้ว 

กลุ่มกลางตาราง

      เชียงราย ซิตี้ ขึ้นมาถึงตรงนี้ ถือว่าภูมิใจอย่างยิ่ง เพราะที่ผ่านมาจะอยู่แค่กลางกับด้านท้ายตาราง อีกทั้งถ้าดูจากระยะห่างของคะแนน ก็ยังมีลุ้นเบียดติด 1 ใน 2 แต่ในทางปฏิบัติถือว่ายากเลยทีเดียว ตรงข้ามกับ อุตรดิตถ์ ศักดิ์สยาม เอฟซี ที่ถือว่าน่าผิดหวังเล็กๆ เพราะด้วยผลงานที่ไม่สม่ำเสมอ ทำให้แต้มหล่นและไม่มีลุ้นอะไรกับเขา ส่วน สี่แคว ซิตี้ ทำผลงานได้ตามมาตรฐานเดิม แต่ถ้าหากยังมีไฟอยู่ ก็ยังมีสิทธิ์ที่จะทำอันดับให้สูงกว่านี้ได้  

กลุ่มท้ายตาราง

      ในโซนหนีตาย แต้มยังเกาะกลุ่มกันอยู่และมีทีมอยู่ในข่ายถึง 5 ทีม เริ่มจาก นครแม่สอด กับ เชียงราย ล้านนา โดยจากคะแนนที่มีอาจมีเสียวเล็กๆ แต่ถ้าอีก 2 นัด เก็บได้สักแต้ม ก็จะรอดแบบใสๆ ถัดมาที่ น่าน กับ กำแพงเพชร จะมีเสียวมาขึ้น ทำให้ 2 นัดสุดท้าย ควรมีแต้ม ไม่งั้นจะต้องลุ้นผลคู่อื่น ส่วนทีมที่อยู่ในโซนตกชั้น คือ นอร์ทเทิรน์ ตาก ซึ่งปีที่แล้วก็หนีตาย แต่ในปีนี้ส่อแววจะไม่รอด เพราะ 2 นัดสุดท้าย ต้องเจอกับทีมหัวตารางเสียด้วย ฉะนั้นหากหวังที่จะรอด ก็จำเป็นต้องฮึดสู้และเก็บชัยให้ได้ทั้ง 2 นัด  

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี

ภาพรวม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ในเลกที่ 1 ฤดูกาล 2021/22

ในเลกที่ 2 ของฤดูกาลก่อน นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ได้รับการยกย่องว่าเป็นทีมที่มีฟอร์มแรงที่สุด เพราะจากกำลังหนีโซนแดง อยู่ๆก็กระโดดขึ้นมารั้งอันดับกลางตารางแบบหน้าตาเฉย ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ผลงานไฉไลขนาดนี้ คงหนีไม่พ้นการเสริม จีดี้ คานยุบ ที่เมื่อเข้ามาแล้วสามารถเชื่อมเกมจากหลังสู่หน้าให้ใกล้เหมือนปากซอยได้อย่างแนบเนียน รวมถึงนักเตะรายอื่นๆที่ผลงานโดดเด่นขึ้นมา ทำให้ทันทีที่ฤดูกาลจบลง ทีมคู่แข่งต่างเข้ามารุมและแย่งตัวเก่งของพวกเขาออกไป

      นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ต้องเสีย ชิดชนก ไปให้กับ บีจี ปทุม พร้อมกับ คานยุบ และ มูริลโล่ ให้ ชลบุรี ซึ่งใน 2 รายหลัง ถือเป็นความเสียหายขั้นรุนแรง พร้อมกับงานที่ท้าท้ายว่าจะเอาใครมาแทน โดยสุดท้ายบอร์ดบริหารได้จิ้มไปที่ของนอกอย่าง คาเม่ คาริคารี่ กับ มาร์โค ซาฮาเน็ค และ ควาเบนา อัปเปียห์-คูบี แต่กระนั้น ความหวาดหวั่นถึงการตกชั้นก็ยังมีอยู่ เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าตัวต่างชาติที่เข้ามาใหม่ จะเป็นของจริงและเล่นได้หรือเปล่า

คำกล่าวของโค้ชโจ ที่นิยามทีมของตัวเองว่าเป็นดีเซลเครื่องร้อนช้า ถือเป็นเรื่องจริงตามเนื้อผ้า เพราะในช่วงต้น แม้ผลงานจะไม่แย่ แต่ทรงบอลและฟอร์มการเล่นยังไม่น่าประทับใจ โดยเฉพาะ คาริคารี่ ที่ดูปรับตัวไม่ได้ และส่อแววจะไปไม่รอดกับทีม กระนั้นเมื่อผ่านไปครึ่งทาง ดาวยิงชาวกาน่า ก็เริ่มระเบิดฟอร์มด้วยการถล่มประตูในทุกๆนัดที่ลงสนาม กระทั่งกลายเป็นขวัญใจคนใหม่และช่วยทีมเก็บแต้มแบบรัวๆ อย่างไรเสียปัญหาในเกมรับ ก็เริ่มจะเห็นได้ว่าการใช้แบ็คโฟร์แบบไทยล้วน ไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของแนวรุกต่างชาติได้ แล้วมันได้กลายเป็นปัจจัยให้ทีมเสียประตูเยอะ ส่วนผลงานแบบภาพรวม โคราชเป็นทีมที่ไม่ได้จุดแข็งในบ้าน แต่จะเป็นทีมที่เผด็จศึกคู่แข่งที่วรรณะต่ำกว่าได้ตลอด ตรงกันข้ามหากเป็นทีมใหญ่ สวาทแคทมักตาเรียบแบบไม่เหลือซาก  

      หากเทียบผลงานเลกแรกของฤดูกาลนี้ กับฤดูกาลก่อน ยังไงเสียผลงานของฤดูกาลนี้ย่อมกินขาด แต่หากไปเทียบกับครึ่งปีหลังของฤดูกาลก่อน อาจจะไม่โหดเหี้ยมเท่า กระนั้นบอร์ดบริหารก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะเราได้เห็นถึงการเสริมนักเตะต่างชาติในแผงกองหลัง พร้อมกับโละตัวต่างชาติที่ไม่เข้ากับระบบออก อีกทั้งยังเสริมโควตาเอเชียอย่าง ชินทาโระ ที่คาดหวังว่าจะมาสร้างตำนานบทใหม่ เหมือนที่ คานยุบ เคยทำไว้ กระนั้นสิ่งที่ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ต้องภูมิใจ คือ นับจากนี้ไม่ต้องมองหลังถึงการหนีตาย อีกทั้งยังสามารถมีลุ้นทำอันดับให้สูงกว่าฤดูกาลที่แล้วได้   

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“มังกรอ้นแสบไม่เบา”

เทโร ทำเซอร์ไพรส์ บุกเฉือน ชลบุรี ท้ายเกม 1-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 21 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามชลบุรี สเตเดี้ยม ชลบุรี เอฟซี ที่สถานการณ์ลุ้นแชมป์เลืองลาง หลังจากสะดุดพ่ายอีกแล้วในเมื่อสัปดาห์ ทำให้การพบกับ โปลิศ เทโร เอฟซี ต้องเก็บชัยชนะ แต่มังกรโล่เงินก็แสบไม่เบา หากสืบจากประวัติก่อนหน้า สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านและทีมเยือนต่างพร้อมใจกันใช้ระบบ 4-3-3

เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ชลบุรี พยายามจะทำเกมให้เหนือกว่า แต่การต่อบอลดูฝืดเคือง จนต้องอาศัยการความเร็วของปีกทางฝั่งขวา หรือวางบอลไปให้กองหน้าโดยตรง จนเวลาผ่านไป เกมรุกของเจ้าบ้านเริ่มดีขึ้น ผ่านการต่อบอลในแดน 1-2 แล้วจัดการวางบอลยาวเข้าแดนอันตรายแบบจบสกอร์ได้เลย แต่ความเฉียบคมดันขาดหายไป ทั้งๆที่แนวรับเทโรพลาดแล้ว อีกทั้งยังไม่มีเกมโต้กลับขึ้นมาให้รบกวนใจ

ครึ่งหลัง ชลบุรี ยังคงเดินหน้าบุกแบบเดิมและมีโอกาสให้เห็นแบบเดิม ขาดเพียงการเอาบอลไปส่งก้นตาข่าย กลับกัน เทโร ที่แทบจะไม่ได้บุกเลย พอมีโอกาสและใช้บอลยาววางเข้าไปในแดนอันตรายบ้าง ดันสามารถยิงขึ้นนำ 0-1 ได้ทันที กระนั้นพอฉลามชลเสียประตู พวกเขาจัดการยิงคืนได้ในทันทีจากลูกฟรีคลิก ที่ยิงได้อย่างเฉียบคม ทำให้ช่วงโค้งสุดท้ายของเกม ทั้ง 2 ฝ่ายต่างบุกแลกกัน แล้วทางฝั่งของมังกรโล่เงินดันคมกว่า กับการเปิดไปหน้าประตู แล้วดันแม่นกับหัวคนโหม่ง แม้แนวรับและผู้รักษาประตูของเจ้าถิ่นจะประกบชิดแล้วก็ตาม  

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ชลบุรี เอฟซี ใช้เวลาอยู่สักพักกว่าจะตั้งเกมได้ โดยรูปแบบการบุกในวันนี้ถือเป็นการแก้ลำของทีมที่มาตั้งรับได้ดี แต่แนวรุกของฉลามชลดันไม่เฉียบคม ซึ่งหากเฉียบคมแบบที่ควรจะเป็น อย่างน้อยๆต้องมี 1-2 ลูกในครึ่งแรก อีกทั้งมันอาจเป็นจุดเปลี่ยนให้ไม่แพ้เป็นอย่างน้อยด้วย ขณะที่ โปลิศ เทโร เอฟซี เกมรับที่วางหมากมาไม่ได้ผล แต่มันได้ผลเพราะคู่แข่งทำไม่ได้เอง เช่นกันกับเกมรุกที่ครึ่งแรกไม่มีอะไรเลย แต่ครึ่งหลังดันมาทำได้ถึง 2 ประตู ฉะนั้นแม้ว่ารูปเกมจะไม่สวย แต่พวกเขาพลาดน้อยกว่า คมกว่า และจังหวะของเกมก็ดีกว่า ซึ่งปัจจัยเหล่านี้หนุนนำให้พวกเขาคว้าชัยชนะ

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ดีคนละครึ่ง แต่ราชบุรีดีกว่า”

ราชบุรี ดีครึ่งหลัง รัวแซงชนะ สุพรรณบุรี 2-1

ศึกรีโว่ไทยลีก นัดที่ 21 ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามมิตรผล สเตเดี้ยม ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่ผลงานเริ่มดีขึ้นมาหลังเปลี่ยนโค้ช จะต้องพบกับ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่ทำไปทำมายังไม่รอดตายเสียเดียว หากดูจากแต้มที่ทีมด้านท้ายขยับขึ้นมา สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-4-3 ส่วนทีมเยือนเป็น 3-5-2

เกมการแข่งขันเริ่มไปได้แค่ 4 นาที สุพรรณบุรี มาได้ประตูออกนำ 0-1 จากการต่อบอลและทำชิ่ง 1-2 ก่อน วิลเลี่ยม จะลากเข้าเขตโทษทางมุมแคบ แล้วจัดการยิงเสาแรกแบบคมกริบ นั่นจึงทำให้ ราชบุรี พยายามเร่งเกมตั้งแต่ต้น แต่มันก็ไม่สามารถทำได้และต้องรอเก็บกินความผิดพลาดของคู่แข่ง กระทั่งเกมผ่านไปราว 20 นาที ราชันมังกรเริ่มจะต่อบอลติดและบุกได้เป็นชิ้นเป็นอัน แต่มันก็ไม่ได้ดีมาก เพราะการยืนตำแหน่งและให้บอลมันไม่สอดคล้อง จนภาพของการจ่ายติดแนวรับเกิดขึ้นบ่อย นอกจากนี้การสวนกลับของทีมเยือนก็เกือบได้เรื่อง เนื่องจากแนวรับของเจ้าถิ่นมักยืนต่ำและปล่อยให้แนวรุกยืนโล่งๆ ซึ่งยังดีที่ไม่เสียประตูเพิ่ม

ครึ่งหลัง ราชบุรี ใช้เวลาราว 10 กว่านาที ถึงจะตั้งเกมรุกได้อีกครั้ง โดยรูปแบบที่มีการปรับมา คือ การเปิดบอลจากริมเส้นไปหน้าประตู ซึ่งการเปิดบอลจะเป็นในลักษณะเปิดพุ่ง แล้วกองหน้าต้องหาพื้นที่และวิ่งเข้าหาบอลจนได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากนั้นราชันมังกรยังโหมบุกต่อ แล้วมาได้ประตูแซงนำ 2-1 ในลักษณะที่คล้ายๆกัน แต่ยิงยากกว่า ส่วนทางฝั่ง สุพรรณบุรี ครึ่งหลังเน้นรับ จนเกมรุกขาดการติดต่อ นั่นจึงทำให้พวกเขาได้แต่ยื้อ แล้วไม่รอดกับการเสียประตู

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ราชบุรี มิตรผล เอฟซี โดนยิงแบบสุดปัญญา ทำให้นับจากนั้นต้องโหมบุก ซึ่งในครึ่งแรกยังทำได้ไม่ลงตัวนัก จนในครึ่งหลังมีการปรับแก้ แล้วมันก็เป็นผลตรงที่คนรับ-ส่งบอล รู้จังหวะฟุตบอล โดยจะเห็นชัดในลูกที่ 2 เพราะถ้าหากเป็นเมื่อก่อน แนวรับทีมเยือนจะสกัดลูกนี้ได้แน่ ส่วนเกมรับก็ยังต้องปรับต่อไป เพราะมันยังมีภาพของการปล่อยให้คู่แข่งยืนว่างๆอยู่ ขณะที่ สุพรรณบุรี เอฟซี การได้ประตูนำแบบรวดเร็ว มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่สำหรับพวกเขาอาจเป็นข้อเสียมากกว่า เพราะอเดบาโย่ เลือกจะผ่อนเกมรุก จนในครึ่งหลังกลายเป็นตัดวงจรเกมบุกไปเลย ทำให้ที่เหลือต้องลุ้นว่าจะโดนยิงหรือไม่ แล้วสุดท้ายโดน เพิ่มเติมคือโดน 2 ลูก

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ต่อฟื้นแข้งทรุด”

ประจวบ จังหวะเป็นใจ เฉือน บียู 1-0 โอกาสรอดตายเปิดกว้าง

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 21 ในโปรแกรมของวันอาทิตย์ ณ สนามสามอ่าว สเตเดี้ยม พีที ประจวบ เอฟซี ที่ผลงานกำลังพุ่งขึ้นมา จนการหนีตายเริ่มเปิดกว้าง แล้วในวันนี้จะต้องพบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ผลงานดิ่งสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง ฉะนั้นหากใครเก็บชัยได้ ก็จะช่วยเสริมความมั่นใจอย่างแน่นอน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-5-2 ส่วนทีมเยือนเป็น 4-3-3

ในช่วงต้นเกม พีที ประจวบ ดูดีกว่าตรงการขึ้นบอลจากข้างหลัง ซึ่งมันอาจจะช้า แต่การขยับหาพื้นที่และให้บอลดี อีกทั้งยังมีลุ้นจากลูกตั้งเตะ ตรงข้ามกัน ทรู แบงค็อก พยายามใช้บอลทางลึก เพราะอาจเข้าใจได้ว่าการเซตบอลหน้าบ้านคู่แข่งจะไม่มีช่อง กระนั้นจากภาพที่ปรากฏ แค่การเข้าแดน 1-2 ของคู่แข่งก็เสียแล้ว จากนั้นเมื่อเกมผ่าน 20 นาที รูปเกมของบียูเริ่มดีขึ้น กับการยิงไกลและเคาะหาช่องก่อนเปิด แต่มันก็ยังห่างไกลจากโอกาสได้ประตู ส่วนเกมรับสามารถทำลายการขึ้นบอลของเจ้าบ้านได้แบบเบ็ดเสร็จ

ครึ่งหลัง บียู พยายามใช้บอลวางยาวให้ถึงกองหน้า ซึ่งมันกดดันได้ แต่ทำไม่ได้ต่อเนื่อง กระนั้นการบุกแบบนี้ก็มีหลายจังหวะที่เสียบอลให้ ประจวบ โต้กลับด้วยบอลยาว แต่ไม่ค่อยแม่นเหมือนต่อบอลสั้นขึ้นไป กระทั่งจุดเปลี่ยนของเกมมาเกิดขึ้น กับการได้ประตูนำ 1-0 ของเจ้าบ้าน ที่มาจากการเปิดข้างแบบบังคับ แล้วเกิดการชิงโหม่ง ก่อนที่บอลจะชนเสาและเด้งมาเข้าทาง โมต้า ได้ยิงซ้ำ ซึ่งการขึ้นนำก่อนของ ประจวบ ทำให้บียูต้องเร่ง แต่พอยิ่งเร่งก็เสียบอล จนเกือบโดนเพิ่ม กลับกันพอค่อยๆต่อขึ้นไป ช่องก็แน่นจนทำอะไรไม่ได้ นอกจากให้แนวรุกเลี้ยงฝ่าเข้าไป

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม พีที ประจวบ เอฟซี ศักยภาพเป็นรอง แต่เล่นด้วยความรัดกุมและไม่มีข้อผิดพลาด ซึ่งผลการแข่งขันที่ยุติธรรมแบบต่ำสุด คือ เสมอ แต่ในวันนี้มีจังหวะเป็นใจ จึงได้ 3 แต้มไป ขณะที่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เกมรับไม่ใช่ต้นตอของฟอร์มสุดบู่ หากแต่เป็นเกมรุก ที่ยิ่งเล่นยิ่งเหมือนไร้ความมั่นใจจะต่อบอล จนภาพที่เห็นในตอนนี้ คือ สาดบอลไปให้แนวรุกต่างชาติ แล้วลากเลี้ยงเข้าไป ซึ่งหากดูจากตรงนี้ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่แข้งเทพจะกลับมาเป็นทีมคั่วแชมป์กับจ่าฝูง

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

คู่รักข้างสนามบอลไทย   

หากพูดถึงเรื่องความรักแล้ว มันยากยิ่งที่จะจำกัดรูปแบบของมัน

เพราะมันไม่อาจกั้นเพศ เชื้อชาติ หรืออายุได้ โดยพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้าที่เรียกว่าสนามฟุตบอล ก็ได้เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เพาะบ่มความรัก จนในวันวานเลนไทน์ปีนี้ มีคู่รักของวงการฟุตบอลไทยถึง 2 คู่ ที่ตกลงจะใช้ชีวิตร่วมกัน ซึ่งเขาจะเป็นใครและมาพบกันตอนไหน ต้องไปตามกันต่อด้านล่างนี้

จตุรพัช สัทธรรม – ปรียาพร โพธิรินทร์

จตุรพัช คือ นักฟุตบอลดาวรุ่งจากขอนแก่น แล้วได้มาอยู่กับ รร. กรุงเทพคริสเตียน ก่อนจะออกไปริเริ่มการเล่นฟุตบอลอาชีพกับ ชัยนาท ฮอนท์บิล เมื่อปี 2016 ส่วน ปรียาพร มีอาชีพหลักเป็นข้าราชการครู และมีอาชีพเสริมเป็นช่างภาพริมสนามฟุตบอล

ซึ่งนั่นทำให้เจ้าแม็กช์ ได้เห็นฝ่ายหญิงอยู่บ่อยๆเพราะตำแหน่งที่เล่น คือ แบ็คซ้าย ต่อมาดาวเตะผู้นี้ได้เริ่มหว่านเสน่ห์ด้วยการทัก Facebook เพื่อขอรูป โดยฝ่ายครูปอนก็ไม่ได้คิดว่าจะจริงจังอะไร เพราะตัวนักเตะกับตัวเองมีอายุห่างกันถึง 18 ปี (ปัจจุบันผู้ชาย 23 ผู้หญิง 41)

กระนั้นด้วยความจริงใจของดาวเตะรุ่นหลาน มันก็มีผลให้ทั้งคู่เลือกจะทำความรู้จักกันหลังจากนั้น ซึ่งจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ฝ่ายชายได้ย้ายไปเล่นยังทีมอื่น ไม่ต่างกับฝ่ายหญิงที่ต้องย้ายที่ทำงานไปตามจังหวัดต่างๆ แต่สุดท้ายความรักของทั้งคู่ก็ยังเหมือนเดิม จนถึงจุดหนึ่งที่ทั้ง 2 ตัดสินใจจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน กระทั่งจดทะเบียนสมรสกันเมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา

ศิวกร ภูอุดม – ณัฐรดา ก่อสุวรรณ

ศิวกร หรือที่เรียกกันว่า เปาโค้ช คือ ผู้ตัดสินมือ 1 ของประเทศไทย ในยุคปัจจุบัน โดยก่อนจะมาถึงวันนี้ เปาโค้ชได้ทำหน้าที่ในลีกสูงมานานเกือบ 10 ปี อีกทั้งยังเคยเจอมรสุมชีวิต กับการถูกแบนเชิงกลั่นแกล้งในยุคที่บังยีเป็นนายกสมาคมฟุตบอล ซึ่งตรงจุดนั้นเกือบทำให้เปาโค้ชหันหลังจากวงการผู้ตัดสิน แต่สุดท้ายเจ้าตัวไม่ถอดใจและกลับมาทำหน้าที่เหมือนเดิม

ส่วน ณัฐรดา หรือแนน ทรูสปอร์ต เป็นนักข่าวจากทรูวิชั่น ซึ่งจะทำหน้าที่รายสดก่อน ระหว่าง และหลังเกม บริเวณจุดกึ่งกลางสนาม นั่นจึงทำให้เปาโค้ชและแนน มีโอกาสได้พบกัน เพราะกรรมการต้องเดินผ่านไปในบริเวณ

อีกทั้งด้วยฝีมือของทั้งคู่ที่อยู่ในแถวหน้าของสายงานตัวเอง ก็ได้เป็นผลให้ต้นสังกัดมักส่งไปทำหน้าที่ในเกมใหญ่ ณ สนามเดียวกันบ่อยๆ แล้วนั่นก็เป็นผลให้ทั้งคู่เริ่มพูดคุยและคบหาดูใจกัน จนสุดท้ายตกลงที่จะแต่งงานกันตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ด้วยปัญหาจากโควิด-19 จึงทำให้งานต้องเลื่อนมาจัดในปีนี้

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

สถานการณ์คะแนนไทยลีก

สรุปสถานการณ์ตารางคะแนนไทยลีก 3 โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (โค้งสุดท้าย)

ศึกฟุตบอลมังกรฟ้าไทยลีก 3 โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นับเป็นอีกโซนที่โหดหินและมีทีมเข้าร่วมค่อนข้างมาก ทำให้เกมการแข่งขันล้วนแต่สนุกเข้มข้น แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อสู่โค้งสุดท้าย สถานการณ์ต่างๆกลับเห็นชัดแล้วว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร ซึ่งตรงจุดนี้นับว่าแตกต่างจากโซนอื่นที่ต้องลุ้นระทึกกันจนถึงนัดสุดท้าย  

กลุ่มหัวตาราง

      ขาใหญ่แห่งลีกภูมิภาคอย่าง เมืองเลย ยูไนเต็ด บรรลุเป้าหมายกับการคว้าโควตารอบซุปเปอร์ลีก ซึ่งตรงจุดนี้นับเป็นกำแพงใหญ่ที่นักรบเซไลยังก้าวไม่ผ่านเสียที ฉะนั้นปีนี้พวกเขาจึงหมายมั่นว่าจะได้ขึ้นสู่ลีกรองจริงๆเสียที ถัดมาเป็น ศรีสะเกษ เอฟซี ที่ร่วงลงมาจากลีกรองเมื่อปีก่อนแบบเจ็บใจ แล้วตอนนี้สามารถอยู่ในพื้นที่ที่จะได้ไปซุปเปอร์ลีก

กระนั้นก็ต้องไม่ประมาทในอีก 1 นัด เพราะถ้าหากเกิดไม่ชนะขึ้นมา ที่ทำมาตลอดฤดูกาลก็สูญเปล่า ขณะที่ นครราชสีมา ยูไนเต็ด จากทีมกลางตาราง ปีนี้พัฒนาทีมจนมีลุ้นจะไปรอบระดับประเทศ ทำให้นับจากนี้อีก 2 นัด ต้องเก็บ 6 แต้มเต็ม แล้วลุ้นทีมอันดับ 2 ให้พลาด กระนั้นเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล ไม่ว่ารถจักรสีส้มจะสมหวังหรือไม่ แต่อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็มาได้ไกลเกินกว่าเป้าหมายแล้ว  

กลุ่มกลางตาราง

      ในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล อุบล ครัวนภัส เอฟซี ทำผลงานเด็ดดวงด้วยการขึ้นรั้งจ่าฝูง แต่อยู่ๆก็แผ่วแบบรุนแรงจนลงไปรั้งกลางตารางและหมดลุ้นติด 1 ใน 2 แบบรวดเร็ว ยังดีที่เลกสองผลงานดีขึ้น ทำให้กลับขึ้นมารั้งอันดับ 4 ถัดมาเป็น ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด และ สุรินทร์ ซิตี้ ที่ทำผลงานตามเป้าและเกาะกลุ่มตามกันมา ส่วน มหาสารคาม สามใบเถา การเปลี่ยนเจ้าของใหม่ยังไม่แผลงฤทธิ์อะไรนัก เช่นเดียวกับ ยโสธร ที่หลังจากประธานหม่ำวางมือไป ผลงานก็ดูจะซบเซาลงเหมือนกัน ต่างกับ สกลนคร และ ขอนแก่นมอดินแดง ที่ถีบตัวเองขึ้นมาเป็นทีมกลางและไม่ต้องดิ้นร้นหนีตาย ขณะที่ อุดร ยูไนเต็ด การลงมารั้งอันดับค่อนท้ายของตารางแบบนี้ ถือว่าน่าตกใจ เพราะเมื่อปีที่แล้วไปไกลถึงการเพลย์ออฟอันดับ 3 เพื่อชิงตั๋วเลื่อนชั้น กระนั้นก็ต้องเข้าใจถึงเรื่องการเตรียมทีมและกลุ่มทุนที่ถอนตัวไป ซึ่งมันก็เป็นผลให้ทีมมีสภาพที่อ่อนลงไป  

กลุ่มท้ายตาราง

      ในโซนท้ายตารางของภาคอีสาน ไม่มีอะไรต้องมาลุ้นอีกแล้ว โดย มาแชร์ ชัยภูมิ เอฟซี จองสัมปทานตรงนี้มานานหลายเดือน เพราะตลอดฤดูกาลไม่ชนะใครและเสมอเพียง 2 นัดเท่านั้น ซึ่งนั่นจะเป็นผลให้ทีมเก่าแก่ของโซนต้องลงไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ในลีกสมัครเล่น ส่วนทีมรองบ๊วยอย่าง สุรินทร์ โขงชีมูล มีเปอร์เซ็นรอดตายสูง แต่มันก็น่าผิดหวัง เพราะผลงานที่ผ่านๆมามักอยู่กลางตาราง แต่ในปีนี้ผลงานดรอปจนเกือบต้องหนีตาย

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
Uncategorized

“เล่นดีคนละครึ่ง”

บีจี ผ่อนเยอะแต่เฉือน เมืองทอง 2-1 ในเกมนัดตกค้าง

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดตกค้าง ลงเตะกันวันพุธกลางสัปดาห์ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้สถานการณ์ไม่สู้ดี เพราะพ่ายคาบ้านมา 2 นัดติดแล้ว ต้องพบกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ทรงบอลสวยแต่ผลการแข่งขันไม่ค่อยเป็นใจ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม มาในระบบเดิม คือ 3-5-2 ของเจ้าบ้าน และ 4-1-4-1 ของทีมเยือน

       เกมเริ่มต้นขึ้นมา บีจี ดูดีกว่า เพราะสามารถเดินเกมรุกด้วยวิธีที่หลากหลายใส่ แล้วแนวรับของทีมมีอาการยวบทุกครั้งเมื่อโดนกด ซึ่งมันก็มีจังหวะที่เกือบเป็นประตู แต่แนวรุกของจ้าบ้านดันทำหมูหกไปเอง ส่วนทางฝั่ง เมืองทอง เกมรุกมีให้เห็นบาง แต่ไปไม่ถึงแดนสุดท้ายเพราะสปีดบอลช้าและตัวรุกขึ้นมาน้อย อีกทั้งยังต้องมาเจอกับ 3 แนวรับ ที่ยืนขวางอยู่

       แนวรับที่หละหลวมของ เมืองทอง มีผลต่อการเสียประตูทั้ง 2 ลูก ในครึ่งแรก โดยประตู 1-0 มาจากฟรีคลิก แล้วแนวรับกิเลนผยองปล่อยให้ จักรพันธ์ ที่ยืนอยู่เสาแรกได้โขกแบบไร้การรบกวน ส่วนลูก 2-0 เป็นการโดนสวนกลับ แล้วมีถึง 3 คน แต่ไม่เข้าประชิด ธีรศิลป์ เลยสักคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาติชาย ที่ผิดพลาดอีกแล้ว   

ครึ่งหลัง โค้ชโอ้ถอดกองหลังจอมเอ๋ออย่าง ชาติชาย ออก ซึ่งเป็นสิ่งที่สมควรมานานแล้ว ส่วนแท็กติกได้เน้นการต่อบอลเท้าสู่เท้าเพื่อโจมตีใส่เจ้าบ้าน โดยในช่วงแรกสปีดบอลช้าจนไม่สามารถเจาะพื้นที่แดนสุดท้ายได้ กระนั้นกว่าสปีดบอลจะเร็วพอจนสามารถกดหัว บีจี ได้ ก็ต้องรอถึงนาทีที่ 70 กว่า แต่อย่างไรเสียในจังวะสุดท้ายยังขาดๆเกินๆ

       ความผิดพลาดในแนวรับของ บีจี ในครั้งแรกๆ ก็ได้กลายเป็นช่องว่างให้ เมืองทอง ได้ยิงตีตื้นมา 2-1 แต่อย่างไรเสียหลังจากได้ประตูไล่มา แนวรุกของเมืองทอง ไม่สามารถคงความน่ากลัวเหมือนก่อนหน้านี้ราว 10 กว่านาทีได้ ทำให้เวลาที่เหลืออีกไม่มาก ไม่สามารถกดหัวคู่แข่งเพื่อเอาประตูตีเสมอได้

       ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด วันนี้เล่นได้ดีขึ้นกว่านัดที่ผ่านมาเล็กน้อย โดยการเปิดแผลในเกมรับของคู่แข่ง ก็มีส่วนสำคัญให้ทีมยิงประตูนำและเล่นง่าย กระนั้นในครึ่งหลังอาจจะรับเยอะเกินไป แต่ก็ยังดีที่ยันอยู่ ส่วนทางฝั่ง เมืองทอง ยูไนเต็ด ครึ่งแรกเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ขณะที่ในครึ่งหลังเล่นดีขึ้น แต่ต้องใช้เวลานานกว่าจะเครื่องจะติด ซึ่งตรงจุดนี้นับเป็นการบ้านที่แก้ยากตรงที่จะทำอย่างไรให้เข้าสู่เกมได้โดยเร็วและอยู่ในฟอร์มที่ดีให้นานที่สุดสำหรับ 90 นาที     

ติดตามข่าวสารกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

สถานการณ์คะแนนไทยลีก

สรุปสถานการณ์ตารางคะแนนไทยลีก 3 โซนภาคตะวันตก (โค้งสุดท้าย)

ศึกฟุตบอลมังกรฟ้าไทยลีก 3 โซนภาคตะวันตก ปีนี้มีทีมเข้าร่วมการแข่งเพียง 11 ทีม เพราะมีทีมเลื่อนชั้นขึ้นไป กระนั้นการแข่งขันในโซนนี้ค่อนข้างเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา จนโค้งสุดท้ายนี้บทสรุปทุกอย่างน่าจะชัดแล้ว แต่สำหรับทีมฟุตบอลจากจังหวัดกาญจนบุรี ปีนี้อาจเข้าขั้นดวงซวย เพราะต่างทำผลงานได้น่าผิดหวังเหลือเกิน ทั้งๆที่ก่อนออสตารท์ถูกมองว่าเป็นทีมเงินถุงและน่าจะมีผลงานที่ดี

กลุ่มทีมหัวตาราง

      การก้าวขึ้นมาสู่จ่าฝูงของ สระบุรี ยูไนเต็ด ถือเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเขา เพราะนี่คือทีมที่ไต่ระดับจากทีมท้าย กลาง และขึ้นมาสู่หัวตาราง อีกทั้งก่อนเปิดฤดูกาลนี้ ก็ไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะเด็ดดวงถึงเพียงนี้ ฉะนั้นทั้งหมดทั้งมวลคงต้องให้เครดิตกับ โค้ชชู ชูศักดิ์ ที่เข้ามายกระดับทีม เช่นกันกับรองจ่าฝูงอย่าง มหาวิทยาลัยปทุมธานี ที่จัดเป็นทีมกลางตารางของลีกรากหญ้า แต่การใช้เด็กหนุ่มเข้ามาคุมและลงเล่น มันก็ได้ช่วยให้พวกเขามีความห้าว

จนก้าวขึ้นมาติดโควตาไปซุปเปอร์ลีก ส่วน สิงห์ระฆังทอง กาญจนบุรี นี่คือเต็งจ๋าของโซน อีกทั้งผลงานในเลกแรกก็ไฉไล แต่อยู่ๆกลางฤดูกาลก็เกิดการเปลี่ยนแปลงบอร์ดบริหาร จนนักเตะและโค้ชได้ย้ายออกจากทีม กระทั่งมันมีผลให้ในเลกที่ 2 ผลงานดรอปลงจนการลุ้นติด 2 อันดับ เข้าขั้นลำบาก ถัดมาเป็น หัวหิน ซิตี้ ที่ทำผลงานดี หากเทียบจากหลายปีหลัง โดยการใช้เด็กท้องถิ่นถือว่าตอบโจทย์ในเรื่องความกระหาย จนมีลุ้นติด 2 อันดับแรกแบบห่างๆ กระนั้นหากไม่สมหวัง สุดท้ายก็ต้องภูมิใจที่ก้าวขึ้นมาได้ถึงขนาดนี้

กลุ่มทีมกลางตาราง

     ทวีวัฒนา สมุทรสาคร เป็นอีกทีมที่ทำผลงานดีแบบเข้าขั้นเซอร์ไพรส์ เพราะได้ถีบตัวเองจากทีมท้ายตาราง ขึ้นมาเป็นทีมหัวตาราง ต่างจาก อ่างทอง เอฟซี ที่ตั้งเป้าว่าอยากเลื่อนชั้น แต่ผลงานที่ผ่านมามีแต่ดรอปลง แล้วในปีนี้ก็ไม่มีลุ้นอะไรแม้แต่น้อย ขณะที่ อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ถือว่ารักษามาตรฐานเดิมไว้ได้ กับการคงสถานะที่กลางตาราง

กลุ่มทีมท้ายตาราง

      ในกลุ่มหนีตาย มีทีมเข้าข่ายถึง 4 ทีม เริ่มจาก บางปะอิน อยุธยา ที่ตอนแรกๆผลงานดี แต่ด้วยความสับสนว่าสิทธิ์เป็นของใคร ระหว่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด กับกลุ่มทุนบางปะอิน มันก็มีผลให้ในหลายๆนัดต้องแพ้บาย ถัดลงมาเป็น กาญจนพัฒน์ เอฟซี ที่ผลงานทรงๆและไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ขณะที่ สมุทรสงคราม เอฟซี ในปีนี้ต้องลงมาลุ้นเสียวกับการหนีตาย ทำให้ในอีก 2 นัดนับจากนี้ ต้องพยายามเก็บแต้มให้ได้ ส่วน ชัยนาท ยูไนเต็ด ปีที่แล้วใช้สิทธิ์พักทีม แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น ซึ่งการมีผลออกเสมอมากเกินไป กำลังจะมีความเสี่ยงให้พวกเขาต้องลงไปอยู่ในลีกสมัครเล่น ฉะนั้นทางเลือกสุดท้าย คือ เก็บ 3 แต้ม จากเกมที่เหลืออีก 2 นัด ให้ได้สถานเดียว

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover