Categories
ข่าวกีฬา

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์ รีโว่ไทยลีก นัดที่ 10

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 10 ของฤดูกาล ลงฟาดแข้งกันอย่างเมามันส์เมื่อวันเสาร์จำนวน 4 คู่

ส่วนในวันอาทิตย์ ก็มันส์ไม่แพ้กัน อีกทั้งยังมีโคตรบิ๊กแมตช์รออยู่ กระนั้นด้วยสภาพทีมที่เปลี่ยนไปตามนโยบายของผู้บริหาร ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเรียกบิ๊กแมตช์ได้เต็มปากเต็มคำหรือไม่

สมุทรปราการ ซิตี้ พบกับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี (18.00 น.)

จากตอนแรกที่ใครๆก็กลัว แต่ตอนนี้ใครเจอ สมุทรปราการ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะฟอร์มการเล่นไม่ได้มีความน่ากลัวอะไร อีกทั้งผลงานก็เริ่มออกทะเลไปเรื่อย ๆ ส่วนทางฝั่ง ราชบุรี ก็ไม่ต่างกัน กับผลงานที่ไม่ค่อยเป็นไปตามเป้า อีกทั้งการเล่นในบ้าน 2 นัด ล่าสุด ดันพ่ายทั้งหมด ทำให้เกมที่สนาม กกท. บางพลี เสาร์นี้ จะเป็นเกมที่กดดันของทั้งคู่ ทำให้ผลที่ออกมาน่าจะเสมอกันมากที่สุด ส่วนผลชนะขอให้เจ้าบ้านและทีมเยือน ตามลำดับ  

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบกับ หนองบัว พิชญ เอฟซี (18.00 น.)

กวาดชัยชนะมาแบบรัวๆ แต่สุดท้ายต้องพ่ายความเคี้ยวของ บีจี ปทุม ทำให้จบสัปดาห์นี้ต้องตาม บุรีรัมย์ จ่าฝูง 3 แต้ม ส่วนทางฝั่ง หนองบัว เป็นทีมที่ไม่มีลูกเล่นเท่าไร แต่ก็อาศัยการเล่นในบ้านถูๆไถๆเอา 3 แต้ม มาแล้ว 3 นัดแล้ว ฉะนั้นการบุกไปเยือนทีมแกร่งอย่างนี้ โอกาสที่จะกลับบ้านมือเปล่ามีค่อนข้างสูง     

การท่าเรือ เอฟซี พบกับ ชลบุรี เอฟซี (18.00 น.)

ถึงนาทีนี้ การท่าเรือ คงหวังได้แต่การเกาะหัวตารางเท่านั้น เพราะกว่าจะชนะใครก็เหงื่อตก แล้วยิ่งเจอทีมใหญ่ด้วยกันก็ตายสลบทุกที ส่วนทางฝั่ง ชลบุรี กำลังเป็นฉลามหลงฝูง เพราะตั้งแต่ยิง 7 ดอก ใส่ขอนแก่น นับตั้งแต่นั้นก็ปืนฝืดจนทำแต้มหล่นกระจัดกระจายไปหมด ทำให้การมาเผชิญหน้ากันที่ แพท สเตเดี้ยม เจ้าบ้านมีสิทธิ์เก็บได้อย่างน้อย 1 แต้ม    

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด (19.00 น.)

ผลงานไฉไลขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับ บุรีรัมย์ ทำให้รางวัลตอบแทน คือ ตำแหน่งจ่าฝูงที่ยังอยู่กับมืออย่างเหนียวแน่น แม้ผลงานในนัดล่าสุดจะไม่น่าประทับใจนัก แต่ด้วยความที่ว่าคู่แข่งพลาดมากว่า จึงทำให้เก็บ 3 แต้ม ออกมาได้ ส่วนทางฝั่ง เมืองทอง ทรงบอลดี แต่ก็ยังเหนื่อยทุกนัดกว่าจะได้มาแต่ละแต้ม กระนั้นเกมที่ทั้งคู่จะพบกัน มันจัดได้ว่าเป็นบิ๊กแมตช์ที่อยู่นอกเหนือคำวิจารณ์ ฉะนั้นโอกาสที่จะเสมอกันมีมากที่สุด ส่วนโอกาสการคว้าชัยขอให้ เมืองทอง และ บุรีรัมย์ ตามลำดับ   

ติดตามข่าวสารกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ทั้งผ่อนทั้งแผ่ว สุดท้ายคาบ้าน”

ราชบุรี ผ่อนและแผ่ว สุดท้ายโดน บุรีรัมย์ ยิงแซง 1-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 9 ในส่วนของเย็นวันอาทิตย์ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่พึ่งแพ้มาในเกมนัดตกค้าง จะต้องเปิดบ้านรับศึกหนักกับจ่าฝูงอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้มั่นใจสุดๆ แต่ก็มีอันต้องขาดนักเตะตัวหลักอย่าง ศุภโชค สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-2-3-1 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนใช้ 3-4-3

       เกมการแข่งขันในครึ่งแรก ราชบุรี อาจดูเหนือกว่านิดๆ เพราะสามารถต่อบอลจากทางริมเส้นขึ้นมาได้ถึงแดน 3 แต่การส่งต่อลูกบอลไปให้หน้าเป้ามีน้อย เพราะมักจ่ายเสียหน้าพื้นที่กรอบเขตโทษ โดยในช่วงท้ายครึ่ง แนวรับคู่แข่งมีความผิดลาด แต่ราชันมังกรก็ไม่สามารถฉวยโอกาสตรงนั้นให้เป็นประตู ส่วนทางฝั่ง บุรีรัมย์ การขาด ศุภโชค เสมือนขาดใจ เพราะการขึ้นบอลเหลือเพียงแค่จากริมเส้น  อีกทั้งการบุกเข้าไปในแดนของเจ้าบ้านหลัง 15 นาทีผ่าน จะมาในลักษณะนานๆครั้ง  

ฝนที่ตกลงมาเพิ่ม ทำให้การจับบอลมีปัญหาเล็กน้อยในครึ่งหลัง กระนั้นไม่นาน ราชบุรี ก็มาได้ประตูนำ 1-0 จากการโยนบอลข้ามฟาก แล้วจบที่ แดร์เลย์ ยืนอยู่นอกกรอบและลากบอลหาช่อง ก่อนจะยิงเลียดเสียบมุม ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับของทีมเยือนเฉื่อยชาและผู้รักษาประตูมีปฏิกิริยาตอบสนองช้า จากนั้น บุรีรัมย์ พยายามจะเปิดเกมบุกเพื่อเอาประตูตีเสมอ ซึ่งจะเน้นการขึ้นทางริมเส้น โยน และขึงเป็นบางจังหวะ นอกจากนี้ยังมีการชิงจังหวะ เพื่อเอาบอลมาบุก หากฝั่งตรงข้ามลื่นและจับบอลลั่น

       ประตูตีเสมอ 1-1 ของบุรีรัมย์ มาจากการชิงจังหวะที่คู่แข่งจ่ายบอลพลาด โดยจังหวะการเข้าทำเกือบไม่ดีแล้ว แต่แนวรับเจ้าบ้านดันยืนห่าง ทำให้ ศุภชัย ได้โขกย้อนไปเสาแรกแบบง่ายๆแบบไร้การรบกวน จากนั้นกลายเป็นว่าทีมเยือนมีรูปเกมที่เหนือกว่าชัดเจน เพราะทาฝั่งราชบุรี เริ่มปรากฎให้เห็นการผ่อนจนกลายเป็นสมาธิแกว่งและมีความผิดพลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งปราสาทสายฟ้า มาได้ประตู 1-2 จากการแย่งบอลกลางแล้ว จากจ่ายแทงจนหลุดเดี่ยว ก่อนนำส่งเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย       

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ราชบุรี มิตรผล เอฟซี มีโอกาสดีที่จะจมคู่แข่งได้ เพราะคู่แข่งเล่นได้ไม่ได้ดีในครึ่งแรก แต่ตัวเองดันอ่อนตามคู่แข่ง แม้ในช่วงต้นครึ่งหลังจะโชคดีได้ประตูนำ แต่การผ่อนเกมแล้วพลาดเองอีก ทำให้โดนยิงแซงแบบช่วยไม่ได้ ส่วนทางฝั่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 45 นาทีแรก และในช่วงต้นครึ่งหลัง ถือว่าเป็นฟอร์มที่ย่ำแย่ แต่ยังโชคดีมากที่คู่แข่งยิงได้แค่ลูกเดียว เพราะหลังจากนั้นปราสาทสายฟ้า ก็ค่อยๆตั้งเกมของตัวเองได้ กระทั่งอาศัยความผิดพลาดของคู่แข่งมาแปรเปลี่ยนเป็นประตูถึง 2 ลูก        

ติดตามข่าวสารกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ชัยชนะวัดกันที่ความผิดพลาด”

บียู เท้าลั่น ส่งประตูชัยให้เจ้าถิ่น บีจี ปทุม เฉือนชนะ 1-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 9 ในวันอาทิตย์ ส่งท้ายสัปดาห์ด้วยเกมบิ๊กแมตช์ระหว่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้ฟอร์มการเล่นฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่หวังถึงการคว้า 3 แต้ม เพื่อทำแต้มจี้หลัง บุรีรัมย์ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม มาในระบบเดียวกัน คือ 3-5-2

เกมการแข่งขันนัดนี้จัดว่าเป็นเกมระดับคุณภาพ เพราะต่างฝ่ายต่างครองบอลด้วยเท้าสู่เท้าและพยายามพาไปข้างหน้า ส่วนฝ่ายรับก็จะบีบและเพรสซิ่ง ซึ่งหลายครั้งตามไม่ทัน ก็ต้องตัดฟาวล์และเสียใบเหลือง โดยทางฝั่ง บีจี ปทุม ดูดีกว่าในช่วง 10 นาทีแรก แต่จังหวะจบยังขาดๆเกินๆไปนิดเดียว ส่วนช่วงนาทีที่ 10-25 แบงค็อก พลิกตัวมาเป็นฝ่ายที่เหนือกว่าบ้าง แต่การจบสกอร์ยังไม่ใกล้เคียงและหวาดเสียวเท่าเจ้าบ้าน จากนั้นเมื่อเกมเข้าสู่ 15 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก วิดมาร์ เริ่มสั่งให้ลูกต่อบอลแล้วเน้นความชัวร์มากขึ้น เพราะการเร่งมากเกินไป จะมีผลให้จังหวะเข้าทำเสียขบวน กระนั้นการยืนและการจ่ายก่อนจบสกอร์ยังไม่ลงล็อค    

ครึ่งหลัง บีจี ปทุม ก็ยังดูเหนือกว่า แต่ไม่นานก็มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ มิก้า จะสกัดบอล แต่ช้ากว่าและขาไปโดนตัว สารัช ที่วิ่งเข้ามาพอดี ซึ่งจากจังหวะนี้ก็ได้เป็นประตูขึ้นนำ 1-0 พร้อมกับทำให้ บียู ต้องเน้นเกมบุกมากขึ้น แต่การต้องเจอแนวรับที่ยืนแน่น ทำให้ต้องใช้การเลี้ยงฝ่าของ เฮแบร์ตี้ และ วานเดอร์ หลุยส์ สลับกับโยน ซึ่งความพยายามอยู่นานสองนานก็ไม่เป็นผล แม้จะส่งตัวรุกลงมา กระทั่งช่วงท้ายเริ่มจ่ายเสียและผิดพลาดกันไปเอง ทำให้กลายเป็นเข้าทางเจ้าบ้านที่เอาบอลไปบุกและเผาเวลาจนหมด       

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด มีช่วงเวลาการเล่นที่ดูเหนือกว่า แต่การทำเกมรุกในวันนี้ขาดการขบสกอร์ ซึ่งถ้าหากวันนี้ไม่มีจุดโทษ ก็อาจได้แค่เสมอ ส่วนเกมรับถือว่าทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม เพราะหลังจากได้ประตู ก็ต้องรับอย่างอดทนราว 20 นาที อีกทั้งภาพที่ออกมา คือ หยุดเกมรุกของคู่แข่งได้อยู่หมัด ขณะที่ ทรู  แบงค็อก ยูไนเต็ด ศักยภาพตัวผู้เล่นในเกมรุกเหนือกว่า แต่เมื่อลงไปเล่นดันโดนแนวรับจับตายจนเล่นไม่ออกในที่สุด ส่วนในแผงเกมรับ ก็ทำหน้าที่ได้ดี แต่การชิงไหวชิงพริบด้อยกว่า สุดท้ายจุดนี้กลายเป็นตัวตัดสินเกมและ 3 แต้ม สำหรับวันนี้  

ติดตามข่าวสารกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“3 แต้ม เซฟเก้าอี้”

หนองบัว เกือบแย่ แต่สุดปาดหน้า สุพรรณบุรี 2-1 เก็บ 3 แต้มสำคัญ

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 9 ในส่วนของเย็นวันอาทิตย์ หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่ผลงานโดยรวมยังไม่ค่อยสู้ดี จนมีข่าวลือว่าจะเปลี่ยนแปลงกุนซือ หากการเปิดบ้านรับ สุพรรณบุรี เอฟซี แล้วพ่ายแพ้ กระนั้นสำหรับผู้มาเยือนก็ไม่สู้ดีเหมือนกัน เพราะในช่วงหลังออกไปทางเสมอกับแพ้ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-2-3-1 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนใช้ 3-5-2       

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทางฝั่ง หนองบัว พยายามจะต่อบอลจากแดนกลางขึ้นไป แต่การเสียบอลง่ายๆ ทำให้ทีมเยือนได้โต้กลับมา 1-2 ครั้ง กระทั่งนาทีที่ 6 แนวรับเจ้าบ้านดันไปยืนหลวมจนเสียเหลี่ยมและต้องตัดฟาวล์ แต่จุดที่เกิดเหตุดันเป็นเขตโทษ ฉะนั้นผู้ตัดสินจึงไม่มีทางเลือกนอกเสียจากให้เป็นจุดโทษและเป็นประตูขึ้นนำ 0-1 ของ สุพรรณบุรี จากนั้นกลายเป็น หนองบัว โหมบุกกระหน่ำ กระทั่งกลายเป็นมหกรรมการโยนบอลจากริมเส้นทั้งจากซ้ายและขวา ที่พุ่งตรงไปยังเป้าหมายอย่าง แฮมิลตัน ได้โขก ซึ่งการโจมตีลูกกลางบ่อยๆถี่ๆ แนวรับทีมเยือนก็มียวบและประกบไม่แนบชิดในบางจังหวะเหมือนเหมือนกัน ขณะที่เกมโต้กลับของช้างศึกยุทธหัตถี จะเป็นในลักษณะนานๆมาที ส่วนความหวาดเสียวจัดอยู่ในระดับพอใช้ 

ครึ่งหลัง หนองบัว ยังคงเล่นสไตล์เดิม คือ เปิดเกมรุกด้วยมหกรรมการเปิดลูกโด่งจากริมเส้นไปให้กองหน้าเป้า ซึ่งกี่ครั้งกี่หนก็ยังติดแนวรับของทีมเยือน ทำให้ต้องรอถึงนาทีที่ 77 ถึงได้ประตูตีเสมอ 1-1 โดยในจังหวะนั้น แฮมิลตัน โดนล้อมและจับบอลไม่ดี แต่สมองคิดเร็วแล้วจัดการกระโดดฟาดแบบตะกร้อ จนแหวกแนวรับและเสียบมุมสามเหลี่ยมบนอย่างสวยงาม

       การได้ประตูตีเสมอ 1-1 ทำให้ สุพรรณบุรี เลือกจะเปิดเกมบุกสู้เพื่อเอาประตูขึ้นนำ แต่การที่ตัวเองถอนคันเร่งไปตั้งแต่ต้นเกม ทำให้เครื่องเย็นและต่อบอลไม่ค่อยติด อีกทั้งยังเสียง่าย ทำให้ทันทีที่ หนองบัว โต้กลับก็ได้ประตูแซง 2-1 แม้จังหวะเปิดไปให้ตัวเสาไกลได้ชาร์ตจะมีดวงที่ไปแฉลบขาแนวรับก็ตาม

       ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม หนองบัว พิชญ เอฟซี เล่นพลาดแล้วโดนลงโทษ ซึ่งการเอาประตูคืนเต็มไปด้วยความกดดันและต้องรอนาน เพราะไอเดียการเข้าทำจำเจจนง่ายต่อการจับทาง กระนั้นยังดีที่คู่แข่งก็พลาดให้เหมือนกัน ทำให้วันนี้มีวาสนากับ 3 แต้ม ส่วนทางฝั่ง สุพรรณบุรี เอฟซี เริ่มต้นได้ดี แต่ก็เหมือนกับหลายนัดก่อนหน้า ที่เมื่อนำแล้วหรือสถานการณ์เป็นใจ ก็จะถอยไปรับแบบเต็มสูบ ทำให้เมื่อไรที่โดนเจาะประตูและจะเร่งเกมใหม่อีกรอบ ก็จะเร่งไม่ขึ้น สุดท้ายตอนจบ คือ ได้ผลแค่เสมอหรือแพ้ ฉะนั้นปัญหาของทีมตอนนี้ ไม่ใช่ว่าสู้ไม่ได้ แต่แท็กติกตั้งหากที่ขี้กลัวคู่แข่งเกินไป 

ติดตามข่าวสารกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ส่งท้ายโค้ชอั๋น”

ราชบุรี เปิดรังตบ เชียงใหม่ 2-0 ส่งโค้ชอั๋นเด้งเก้าอี้รายแรก

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 7 ในส่วนของคู่วันอาทิตย์ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่ในช่วงหลังผลงานออกเสมอเสียเยอะ จะเปิดรังเหย้าของตัวเองรับน้องใหม่อย่าง เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้อยู่ในสภาวะกดดันอย่างยิ่ง สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านระบบ 4-2-3-1 ส่วนทางฟากทีมเยือนใช้ 3-4-1-2

       เชียงใหม่ เป็นรองอยู่แล้วตามศักยภาพ แต่เกมที่เริ่มมาไม่กี่นาที พวกเขาได้โอกาสทองที่ได้ประตูขึ้นนำ แต่ดันพลาดไป ซึ่งถ้าหากยิงนำไปก่อนได้ วันนี้จะเล่นง่ายขึ้นเยอะ ทำให้หลังจากนั้น ราชบุรี ครองบอลและบุกใส่แนวรับที่มายืนอุดระตู จนต้องแก้ทางด้วยการแทง หยอด หรือโยนจากริมเส้นและด้านหลัง กระทั่งประตูนำ 1-0 ก็เกิดขึ้นจนได้ จากการโยนริมเส้นมาให้ เดแลร์ ได้พุ่งเข้าไปโหม่ง (ไม่โดนและเป็นเครดิตการทำประตูของ ล็องจิล) กระนั้นในจังหวะนี้ แนวรับทีมเยือนก็มีส่วนพลาดที่เปิดพื้นที่ให้ล็องจิล ได้โยกและมีเวลาเปิด ส่วนกองหลังก็ปิดไม่มิด ทั้งๆที่แนวรุกของคู่แข่งมีแค่ตัวเดียวที่ยืนอยู่ตรงนั้น โดยหลังจากที่โดนขึ้นนำ ช้างเผือกพยายามจะทำเกมรุกตอบโต้ แต่มันไม่ถึงแดนสุดท้าย อีกทั้งยังโดนราชันมังกรโต้คืนจนเกือบโดนดอกสองหลายหน 

ครึ่งหลัง ราชบุรี ยังคงบุกต่อเนื่องและไม่มีการผ่อนแบบถอนคันเร่ง แต่ทางฝั่งเชียงใหม่ ก็ออกมาสู้ตายเพื่อเอาประตูตีเสมอ ซึ่งในช่วงต้นมันก็มีจังหวะที่ใกล้เคียงจะเป็นประตูตีเสมอ แต่พอหลังจาก 10 นาที ของครึ่งหลังผ่านไป ความดุดันก็ลดลง กระทั่งลูกเปิดจากประตูแล้วเลี้ยงฝ่า ก็ได้กลายเป็นประตู 2-0 ของเจ้าถิ่น อนึ่งในจังหวะนั้น นนท์ ได้รับบาดเจ็บต้องถอยและพุ่งล้มพอดี จากนั้น ช้างเผือกพยายามจะเปิดเกมรุกสู้ต่อ แต่การเสียบอลกลางทางก็เกือบทำให้ราชันมังกรยิงเพิ่ม แต่ก็รอดตัวไปที่โดนแค่ 2 ลูก

       ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เกมรุกอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานและยิงได้ตั้งแต่ครึ่งแรก ทำให้ครึ่งหลังเล่นสบาย ขณะที่เกมรับอาจมีรูโห่วเล็กน้อย แต่เพราะด้วยทีมที่เจอเป็นทีมเล็ก ทำให้ไม่ค่อยถูกทดสอบอย่างหนักหน่วง ส่วนทางฝั่ง เชียงใหม่ ยูไนเต็ด วางแผงหลังแน่นแต่เสียประตูเร็ว ทำให้ต้องเปิดหน้าแลก แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่สามารถทำประตูตีเสมอ มิหนำซ้ำยังโดนยิงเพิ่ม ท้ายที่สุดจึงต้องพ่ายแพ้ไปอีกเกม     

ติดตามข่าวสารกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“อย่ากระตุกหางกิเลน”

เมืองทอง โดนก่อนแต่รัวแซง ขอนแก่น 3-1“อย่ากระตุกหางกิเลน”

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 7 คู่ส่งท้ายของวันเสาร์ อยู่ที่สนามธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม เมืองทอง ยูไนเต็ด ในฐานะเจ้าถิ่น เปิดบ้านรับน้องใหม่อย่าง ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่อยากจะมาหยิบแต้มออกไป สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ตามคาดและไม่พลิกโผ คือ 4-1-4-1 ของเจ้าบ้าน และ 3-5-2 ของทีมเยือน 

          ขอนแก่น เปิดฝ่ายครองบอลเข้าใส่เจ้าบ้าน แต่เมื่อถึงจังหวะเข้าทำ ก็จะฝากหรือแทงไปให้ เมโล่ ซึ่งเพียง 13 นาที ขอนแก่น ก็มาได้ประตูนำ 0-1 แบบสุดสวย จากการฝากบอลให้ดาวเตะชาวบราซิลเลี้ยงหลบหน้าหลบหลัง ก่อนตะบันจากนอกกรอบเสียบสามเหลี่ยมเข้าไป จากนั้นกลายเป็นสถานการณ์บังคับให้ เมืองทอง ต้องบุก แต่ด้วยสปีดบอลที่ช้า ทำให้เวลาที่จะได้เอาไปโหมบุกต้องเสียไปโดยเปล่าประโยชน์

          ในขณะที่ต้องเล่นเกมรุกเพื่อเอาประตูตีเสมอ แนวรับของเมืองทอง ก็เปิดพื้นที่ด้านข้างไว้ค่อนข้างเยอะและโดนโจมตีจากพื้นที่ตรงนี้แบบหวาดเสียว ซึ่งยังดีที่คู่แข่งไม่ใช่ทีมใหญ่ มิเช่นนั้นมีสิทธิ์โดนบวกประตูเพิ่มไปแล้ว กระนั้นหลังจากนาทีที่ 25 ผ่านไป การทำชิ่ง การสอดประสานเริ่ม และการวางบอลยาวจากหลังเริ่มดีขึ้น ทำให้สามารถพาบอลไปได้ถึงแดนสุดท้ายของ ขอนแก่น แต่ยังไม่ได้ประตูตีเสมอเพราะไม่คมเอง  

ครึ่งหลัง เมืองทอง พยายามเล่นเกมรุกด้วยการเจาะพื้นที่ว่าง ผ่านการวางบอลยาวจากหลังและเปลี่ยนแกนเร็ว ซึ่งสาเหตุที่ทำแบบนี้มันช่วยให้หลีกหนีการประกบของแนวรับทีมเยือนได้ กระทั่งมันกลายเป็นประตูตีเสมอ 1-1 จากนั้นประตู 2-1 แนวรับขอนแก่น ผิดพลาดที่เข้าไม่ถึงสักคน รวมถึงผู้รักษาประตูที่ชกบอลไม่โดน ทำให้ตัวรองที่ยืนรออยู่จัดการเก็บกิน ซึ่งการโดนพลิกแซงทำให้ จงอางผยอง ต้องเปิดเกมรุกตามเชิง แต่สุดท้ายก็มาโดนโต้กลับจนเสียประตูปิดกล่อง 3-1

          ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด เสียประตูการยิงประตูอย่างยอดเยี่ยมของ เมโล่ ก็จริง แต่ในจังหวะอื่น เกมรับยังคงมีช่องโห่วมากมาย ยังดีที่วันนี้คู่แข่งไม่ใช่ทีมใหญ่ มิเช่นนั้นได้คาบ้านและจอดป้ายไปตั้งแต่ครึ่งแรกแล้ว ส่วนเกมรุก จริงๆควรตีเสมอได้ตั้งแต่ครึ่งแรกแล้ว หากจบสกอร์ได้คมกว่านี้ มิใช้รอเวลาจนถึงครึ่งหลังแบบที่เป็น ขณะที่ ขอนแก่น ยูไนเต็ด การชิงความได้เปรียบด้วยการยิงนำก่อนไม่ได้ช่วยอะไร เพราะแนวรับเปิดช่องว่างไว้ตลอด อีกทั้งยังมาเจอแท็กติกที่ทำให้แนวรับต้องวิ่งประกบแบบวุ่นวาย ซึ่งหากวันนี้คู่แข่งยิงได้คม สกอร์อาจไหลเหมือนในเกมที่พบกับ ชลบุรี ก็ได้

ติดตามข่าวสารกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“เหลือ 10 คน ถึงยิงได้”

ชลบุรี ยิงท้ายเกมใส่ สุพรรณบุรี 10 ตัว 1-0 ฉลองวันเกิดโค้ชเตี้ย 

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 7 ในส่วนของคู่วันอาทิตย์ ชลบุรี เอฟซี ที่พึ่งบุกไปพ่าย เทโร มาแบบพลิกล็อคเล็กๆ จะต้องเปิด ชลบุรี สเตเดี้ยม รับ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่ตอนนี้เปิดซิงค์ความพ่ายแพ้ไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านได้ปรับมาเล่นในระบบ 3-4-2-1 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนก็ปรับมาเล่นแบบที่รัดกุมอย่าง 3-5-2

       ในช่วง 5 นาทีแรก ชลบุรี ดูดีกว่าและเกือบได้ประตูนำจากความผิดพลาดของ เนโต้ ที่เปิดบอลอัด มูริลโล่ เข้าประตู แต่โชคร้ายที่ VAR ปฏิเสธประตู จากนั้นกลายเป็น สุพรรณบุรี ที่เล่นได้ดีกับการเข้าบีบตั้งแต่แดนแรก ทำให้เจ้าบ้านไม่สามารถต่อบอลได้ในระยะเวลานาน อีกทั้งนักเตะฉลามชลเอง ก็จ่ายบอลเสียง่าย ซึ่งเมื่อไรที่ทีมเยือนดักบอลได้ ก็จะโต้เร็วด้วยการขึ้นทางริมเส้นและมี ดานิโล่ เป็นตัวเชื่อม หรือจบสกอร์เอง กระนั้นแนวรับของเจ้าบ้านยังยืนตำแหน่งได้ดี ทำให้ยังไม่โดนยิงนำไปก่อน

ครึ่งหลัง โค้ชเตี้ย ปรับแท็กติกและเปลี่ยนตัว เพราะ 45 นาทีแรก รูปเกมเป็นรอง โดยการปรับที่ว่านั้น คือ การสั่งให้ลูกทีมพาบอลไปข้างหน้าตลอดและให้มั่นใจในการเล่น ซึ่งหากเมื่อใดโดนขวางให้เลี้ยงฝ่า อย่าคืนหลังและถ่ายบอลไปมา นั่นจึงทำให้เวลาที่ผ่านไป เกมรุกของชลบุรี เริ่มหลากหลายและไหลลื่น ขาดเพียงประตูขึ้นนำที่ยังยิงไม่ได้ ส่วนในแผงเกมรับ ฉลามชลเข้าบีบคู่แข่งตั้งแต่กลางสนาม 

       การเล่นตามแผนดังกล่าวช่วยให้ ชลบุรี เหนือกว่า ตรงข้ามกับ สุพรรณบุรี ที่ฟอร์มดรอปสวนทาง แต่กระนั้นก็ยังอยู่ในเกมเพราะยังไม่เสียประตู กระทั่งท้ายมาเจอจุดเปลี่ยนจากจังหวะที่ สุวรรณภัทร โดนใบเหลืองที่ 2 กลายเป็นใบแดง ซึ่งตรงจุดนี้ทำให้แนวรับของช้างศึกยุทธหัตถีดูยวบลง จนสุดท้ายโดนทีเด็ดลูกโขกเป็น 1-0 ในช่วงท้ายเกม

       ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ชลบุรี เอฟซี ในวันนี้ เล่นดีในช่วงแรก ส่วนอีก 40 นาทีในครึ่งแรก โชคดีอย่างยิ่งที่ไม่เสียประตู เพราะรูปเกมเป็นรองค่อนข้างชัด ขณะที่เกมในครึ่งหลัง ยกระดับตัวเองขึ้นมาได้ดี แต่ไม่สามารถยิงประตูได้ กระทั่งต้องรอให้คู่แข่งเหลือ 10 คน จึงยิงประตูชัยได้ ส่วนทางฝั่ง สุพรรณบุรี เอฟซี ครึ่งแรกเล่นได้ดีและควรได้ประตู แต่จุดเปลี่ยนที่ยิงจุดโทษไม่เข้า แล้วยิ่งมาเจอการแก้เกมของเจ้าบ้าน ก็กลายเป็นผลให้ช้างศึกยุทธหัตถีกลายเป็นรอง แล้วสุดท้ายต้านไม่อยู่จนต้องกลับบ้านมือเปล่า  

ติดตามข่าวสารกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“เป้าสะอาดอยู่คู่เดียว”

ประจวบ ยังไร้ชัยในถิ่นด้วยการเจ๊า ประจวบ 0-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 7 ในส่วนของคู่วันอาทิตย์ พีที ประจวบ เอฟซี ได้เฝ้ารังสามอ่าว สเตเดี้ยม อีกครั้งด้วยการรับ สมุทรปราการ ซิตี้ ที่จากฟอร์มแรงๆ แต่อยู่ ๆ ก็เริ่มดรอปลง สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านปรับระบบมาเป็น 3-4-3 ส่วนทางฟากทีมเยือนใช้แผนเดิม คือ 4-4-2

       การเล่นของทั้ง 2 ทีม ในครึ่งแรก เป็นในลักษณะการชิงจังหวะ เพราะทั้งคู่ต่างเพรสซิ่งและเข้าหาบอลเร็ว ทำให้ไม่มีฝ่ายไหนครองเกมได้แบบเบ็ดเสร็จ อีกทั้งบอลจะอยู่บริเวณกลางสนามกับพื้นที่แดน 1-2 ทำให้การโจมตีจะเป็นในลักษณะการแทงบอลทะลุช่องไปข้าง หรือการเก็บตกบอลจังหวะ 2 ซึ่งแม้ว่าโอกาสจะน้อยนิด แต่ก็มีโอกาสได้หลุดเข้าไปยิง เพียงเสียว่าความเฉียบคมไม่มี ประตูจึงยังไม่เกิด 

       ในช่วงท้ายครึ่งแรก จุดเปลี่ยนของเกมเกิดขึ้นจากใบแดงโดยตรงแบบเสียค่าโง่ เพราะในจังหวะนั้น ประจวบ เสียบอล แล้ว เมธี พยายามจะไปแย่งบอลคืน แต่เท้าดันยกไปหวดหน้า ทั้งที่บอลออกจากเท้าของแนวรับ สมุทรปราการ ไปตั้งนานแล้ว นั่นจึงทำให้เจ้าบ้านต้องเสียเปรียบทันที

ครึ่งหลัง สมุทรปราการ กลายเป็นฝ่ายที่เหนือกว่าทันที เพราะตัวผู้เล่นมากกว่าอยู่ 1 คน นั่นจึงทำให้ขุนพลเขี้ยวสมุทร ต่อบอลขึ้นมาแบบน้อยจังหวะและรีบจบสกอร์ กระนั้นด้วยแนวรับของประจวบ ที่ถอยไปรับลึก ทำให้ต้องใช้การโยนถี่ขึ้น ซึ่งมันก็เข้าเป้ากับการได้โหม่งหรือเข้าฮอส แต่บอลเจ้ากรรมดันไปชนเสาและคาน โดยถ้าเกิดลูกทีมของ อิชิอิ สามารถยิงได้สัก 1 เม็ด เชื่อว่า 3 แต้ม จะไม่ไปไหนไกล เพราะใน 45 นาทีหลัง ประจวบ ได้แต่ตั้งรับอย่างเดียวแล้ว 

       ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม พีที ประจวบ เอฟซี ต่อกรได้ดีในครึ่งแรก เพราะสามารถโจมตีแบบแลกหมัดกับทีมที่มีขนาดใหญ่กว่า แต่การโดนใบแดงแบบเสียค่าโง่ ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปจนกลายเป็นต้องตั้งรับอย่างเดียว กระนั้นอย่างน้อยก็ดีที่แนวรับร่วมใจกันยืนป้องกันอย่างมีวินัย กระทั่งแล้วสามารถเก็บ 1 แต้ม ในบ้านได้ ส่วนทางฝั่ง สมุทรปราการ ซิตี้ ถือว่าเป็นฝ่ายที่น่าเจ็บใจ เพราะสู้ได้ดีในครึ่งแรกและมีความได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่นในครึ่งหลัง อีกทั้งยังมีโอกาสได้โจมตีเนืองๆ แต่ความเฉียบคมและโชคชะตาไม่เป็นใจ ทำให้ต้องกลับบ้านด้วยการมี 1 แต้ม เท่านั้น 

ติดตามข่าวสารกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ส่อแววจะเป็นงูเหลือมกับเชือกกล้วย”

บุรีรัมย์ ฟูลทีมบุกมาตบ การท่าเรือ ถึงถิ่นอีกหน 0-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 7 คู่ส่งท้ายของสัปดาห์ การท่าเรือ เอฟซี ที่ผลงานยังลุ่มๆดอนๆ วันนี้จะต้องพบศึกหนักที่ชี้ชะตาถึงอนาคตการลุ้นแชมป์ลีก กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มาแบบฟิตเต็มถังและพร้อมจะบดเจ้าถิ่นให้ได้อีกหน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาระบบ 4-3-3 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนใช้ 3-4-3

       เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น บุรีรัมย์ ดูดีกว่าเล็กน้อย เพราะสามารถต่อบอลมาถึงแดน 3 แล้วใช้การโจมตีทางริมเส้นฝั่งขวาเล่นงาน ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายตัดหลัง หรือโยนเข้ามา จากนั้นเมื่อเกมผ่าน 20 นาที การท่าเรือ สามารถตั้งหลักของตัวเองได้ แต่การที่ทีมเยือนรุมบีบและเข้าถึงบอลเร็ว ทำให้แนวรุกของสิงห์เจ้าท่าต้องเร่งขึ้นบอลและจบสกอร์ให้เร็ว กระนั้นมันก็มีโอกาสที่จะได้ประตู โดยเฉพาะจังหวะของ บดินทร์  ที่หากสัมผัสแรกดีกว่า ก็คงได้ยิงเหน่งๆไปแล้ว 

ครึ่งหลังเริ่มไปได้ไม่กี่นาที การท่าเรือ เปิดแผลในเกมรับด้วยการไม่สื่อสารกัน ทำให้แนวรับไม่สกัด แล้วเลือกให้บอลมาพักตรงอกเพื่อเล่นต่อ แต่ในขณะเดียวกันแนวรุกของบุรีรัมย์ วิ่งสวนขึ้นมาจนฉกบอลไป ก่อนที่ ศุภชัย จะแต่งบอลหาช่องและยิงเสยหน้า วรวุฒิ เข้าไป จากนั้นไม่กี่นาที บุรีรัมย์มาได้ประตูหนีห่าง 0-2 จากการเลี้ยงฝ่าของ ศุถโชค ตั้งแต่กลางสนาม ก่อนจะเลือกยิง ซึ่งทิศทางไม่ค่อยดี แต่ วรวุฒิ ดันซองแตกจนบอลไหลเข้าประตูไป

        หลังจากโดนนำ 0-2 รูปเกมของการท่าเรือ ก็ไม่ดีขึ้น เพราะการบุกไปถึงแค่แดน 3 แล้วจากนั้นต้องเลือกยิงไกล กระนั้นการโดนใบแดงแบบวู่วามของ ซัวเรช ก็ยิ่งทำให้สถานการณ์ทุกอย่างแทบจะจบ เพราะตัวสร้างสรรค์เกมรุกไม่อยู่แล้ว อีกทั้งหลายครั้งยังโดนโต้กลับจนเกือบโดนดอกที่ 3 แต่ก็รอดตัวไป

       ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม การท่าเรือ เอฟซี รูปเกมเป็นรองในช่วง 10-15 นาทีแรก แต่หลังจากนั้นจนจบครึ่งแรก สามารถต่อกรได้ดีและเกือบได้ประตูนำไปก่อน อย่างไรเสียพอเข้าครึ่งหลัง ดันก่อความผิดพลาดติดๆกัน จนเกมขาดลอย แถมยังมาเสียตัวผู้เล่นคนสำคัญแบบไม่สมควรอีก สุดท้ายกู่ไม่กลับจนต้องสมควรพ่ายแพ้ไป ส่วนทางฝั่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ครึ่งแรกไม่ได้เหนือกว่าคู่แข่ง ขณะที่ครึ่งหลังก็เล่นด้วยฟอร์มเดิม แต่เพิ่มเติม คือ ฉกฉวยโอกาสจากความผิพลาดของคู่แข่งเป็นประตูได้ กระทั่งสิ่งเหล่านี้กลายเป็นตัวชี้วัดผู้ชนะของเกม 

ติดตามข่าวสารกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“1 แต้ม ที่ไม่มีใครอยากได้”

สมุทรปราการ สุดเซ็ง โดน ท่าเรือ ตีเจ๊าท้ายเกม 2-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 8 คู่เปิดหัวในวันเสาร์ สมุทรปราการ ซิตี้ ที่ทั้งฟอร์มดรอปอับโชคกับการชวด 3 แต้ม จะเปิดรังทำศึกบิ๊กแมตช์กับ การท่าเรือ เอฟซี ที่มาในสภาพขาดตัวหลักแต่ต้องการผลการแข่งขันที่ดี เพื่อต่อลมหายใจการลุ้นแชมป์ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-4-2 เหมือนเดิม ส่วนทางฟากทีมเยือนปรับมาใช้ 4-2-3-1 อีกครั้ง

         การท่าเรือ มาแบบรัดกุม เพราะเลือกจะบ็อคพื้นที่กรอบเขตโทษให้แน่นหนา ซึ่งมันทำให้ สมุทรปราการ ได้ยิงจากนอกกรอบเพียงอย่างเดียว แต่พอเล่นไปเรื่อย ๆ กำแพงก็พังทลาย เพราะการประกบไม่แนบชิดของ เลเลียต ทำให้ อริส ขึ้นโหม่งแล้วขึ้นนำเป็น 1-0

         การวางหมากรัดกุม แต่เสียประตูตั้งแต่เกมยังไม่ผ่าน 20 นาที ทำให้ การท่าเรือ ต้องพยายามเปิดเกมบุก จากที่แต่เดิมวางหมากไว้ว่าจะสวนกลับ ซึ่งการทำเกมรุกอย่างเต็มตัวไม่ได้สร้างความอันตรายใดๆแก่เจ้าบ้าน เพราะเจาะไปถึงแค่แดน 3 ก็ต้องยิงไกล

ครึ่งหลัง สมุทรปราการ เน้นรับมากขึ้น แต่ข้อเสียที่เริ่มเห็น คือ การเสียลูกตั้งเตะทั้งฟรีคลิกและเตะมุมบ่อยครั้งขึ้น กระทั่งท้ายที่สุดมันเป็นลู่ทางให้ การท่าเรือ ได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่เป็นใจและลงล็อค จากนั้นเมื่อเกมผ่านไป 1 ชม. ทั้ง 2 ทีม เลือกจะแลกหมัดกัน ทำให้การขึ้นเกมบุกจะเป็นในลักษณะชิงจังหวะกลางสนาม แล้วขึ้นบอลเร็วและจบสกอร์เร็ว หรือมาจากการโต้กลับ แต่มันก็ไม่ได้นำพาให้ฝั่งไหนได้ประตูขึ้นนำ

         ประตู 1-2 ของ การท่าเรือ มาจากการเข้าไม่ถึงบอลสักคน รวมถึงผู้รักษาประตู แล้วดันมีตัวรองอยู่ไกลเสารอดเก็บตก กระนั้นให้หลังเพียง 5 นาที สมุทรปราการ ก็มาได้ลูกตีเสมอ 2-2 จากการเปิดและโหม่งที่ลงตัว ทำท้ายที่สุดจบลงด้วยการแบ่งแต้ม

         ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สมุทรปราการ ซิตี้ เริ่มต้นเกมได้ดีและใช้โอกาสไม่เปลื้อง แต่เกมรับมีข้อผิดพลาด ไล่ตั้งแต่การเสียฟาวล์ที่บ่อยเกินความจำเป็น แล้วตัวเองดันมีปัญหาในการรับมือลูกกลางอากาศ ทำให้สถานการณ์พลิกผันจนกลายเป็นว่าตัวเองต้องไล่ตามตีเสมอ ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ เอฟซี เกมรับยังคงหละหลวมและเล่นไม่ละเอียดเหมือนเคย ยังดีที่เกมรุกช่วยกันยิงถึง 2 ลูก ทำให้อย่างน้อยๆยังมีแต้มกลับบ้าน แต่มันก็ไม่เป็นที่น่าพอใจแน่ ๆ กับเป้าหมายที่ทีมวางไว้    

ติดตามข่าวสารกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover