Categories
ข่าวกีฬา

เปิดโผ 9 ชาติ โหวตก่อน สิงคโปร์ คว้าสิทธิ์เจ้าภาพ

เมื่อช่วงเย็น (28 ก.ย.) เพจ AFF ได้ทำการประกาศคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพ นั่นคือ ประเทศสิงคโปร์

ซึ่งมองมุมหนึ่งอาจไม่เซอร์ไพรส์ แต่หากมองอีกมุมมันก็ถือเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ เพราะพวกเขาสามารถโค่นตัวเต็งอย่าง ไทย ลงได้ จากนั้นได้มีเปิดโผออกมาออกมา ว่าในบรรดา 9 ชาติ เลือก สิงคโปร์ 6 เสียง และไทย 3 เสียง ซึ่งใครเลือกชาติไหนและมีเหตุผลอย่างไร วันนี้เราจะมาหาเหตุผลกัน

พม่า-ลาว-กัมพูชา

พม่า กับ ลาว เป็น 2 ชาติ ที่เลือกโหวตให้กับ ไทย ซึ่งเหตุผลหลักคงหนีไม่พ้นเรื่องการเดินทาง ที่ค่อนข้างสะดวกและใช้เวลาน้อย เพรามีภูมิประเทศติดกัน ส่วน กัมพูชา ทีแรกอยากเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ แต่ในแง่ของความไม่พร้อมในทุกๆด้าน ก็มีผลให้ดินแดนหมื่นปราสาทต้องอักหัก ฉะนั้นเมื่อตัวเองต้องเลือกเจ้าภาพ จึงเลือกโหวตให้กับบ้านใกล้เรือนเคียงอย่าง ไทย เป็นเสียงที่ 3

ติมอร์-บรูไน-อินโดนีเซีย-มาเลเซีย

ในส่วน ติมอร์ และ บรูไน ทั้ง 2 ทีม ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองว่าจะได้เล่นรอบแบ่งกลุ่มหรือไม่ จนกว่าจะได้จะได้เพลย์ออฟ แต่การโหวตล่วงหน้าของทั้ง 2 ชาติ ต่างเลือก สิงคโปร์ ด้วยเหตุผลในเรื่องระยะทางเป็นอันดับแรก

ส่วนคู่แค้นเดนตายอย่าง มาเลเซีย กับ อินโดนีเซีย ก่อนหน้านี้มีความต้องการที่จะเสนอตัวเองเป็นเจ้าภาพ โดยเฉพาะในรายของ เดอะการูด้า ที่อยากจะใช้ทัวร์นาเมนต์ AFF SUZUKI cup เป็นเวทีเตรียมความพร้อม แต่สุดท้าย AFF ก็ปัดตกไป เพราะพวกเขาพักเบรคการแข่งขันฟุตบอลในประเทศมานานเกิน 1 ปี ทำให้การโหวตเลือกเจ้าภาพจึงคำนึงจากระยะทางที่ใกล้ที่สุด นั่นคือ สิงคโปร์ ซึ่งใช้เวลาราวชั่วโมงเศษๆเท่านั้น ต่างจากการเดินทางไปไทย ที่ต้องบวกอีกชั่วโมง อีกทั้งหากมองเผื่อไปถึงรอบต่อไป การเล่นที่สิงคโปร์ ย่อมดีกว่า เพราะไทย มีโอกาสสูงที่จะเข้ารอบ แล้วถ้าเป็นเจ้าภาพและต้องไปเจอ จะยิ่งเป็นรองเข้าไปใหญ่

ฟิลิปปินส์-เวียดนาม

ฟิลิปปินส์ เป็นชาติที่อยู่ไกลจาก ไทย และ สิงคโปร์ แต่หากจะหาเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงเลือก สิงคโปร์ สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้ คือ พวกเขาอยู่สายเดียวกับ ไทย ฉะนั้นหากเลือกไทยเป็นเจ้าภาพ มันจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ทัพช้างศึก แต่กลับกันถ้าเลือกสิงคโปร์ ซึ่งไม่ตัวเต็ง มันอาจช่วยดึงแต้มจากไทยมาได้บ้าง กระทั่งมีผลให้ขุนพลตากาล็อคมีโอกาสลุ้นเข้ารอบต่อไป

ขณะที่ เวียดนาม ตอนนี้กำลังอยู่ในยุคเรืองรองที่สุดของชาติ อีกทั้งหากดูจากศักยภาพก็มีโอกาสมากเหลือเกินที่จะหยิบแชมป์สมัยที่ 3 ฉะนั้นหากต้องเลือกเจ้าภาพ แน่นอนว่าต้องเลือกใครก็ได้ที่ไม่ใช่ ไทย เพราะนี่จัดเป็นศัตรูหมายเลข 1 ที่ต้องตัดกำลังและความได้เปรียบ ด้วยการเลือกชาติเบอร์รองอย่าง สิงคโปร์

สำหรับการแข่งขัน AFF SUZUKI cup 2020 สิงคโปร์ จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันทั้ง 2 กลุ่ม โดยในรอบรองและชิงชนะเลิศ จะแข่งขันแบบนัดเดียวรู้ผล ไม่มีเหย้าเยือนเหมือนปกติที่เคยเป็นมา ซึ่งในนัดชิงจะแข่งในวันที่ 1 ม.ค. 2022 ฉะนั้นหากใครคว้าแชมป์ได้ ก็ย่อมเป็นขวัญปีใหม่ชิ้นโตแก่แฟนบอลชาตินั้นแบบไม่ลืมเลือนแน่นอน

ติดตามข่าวสารกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

ส่องความพร้อมของชาติแคนดิเดต ซูซูกิ คัพ 2020

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน หรือ AFF Suzuki cup ถูกเลื่อนอย่างไม่มีกำหนด

เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทั่งปลายนี้ ซีเกมส์ ก็เป็นอีกมหกรรมกีฬาที่ถูกเลื่อนออกไป กระทั่งช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา สหพันธ์ฟุตบอลแห่งอาเซียน เลือกจะเดินหน้าจัดการแข่งขัน พร้อมกับจับสลากแบ่งสายไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน อย่างไรเสีย การแข่งขันครั้งนี้จะมีเจ้าภาพประเทศเดียว แล้วต้องเป็นระบบบั้บเบิ้ล นั่นจึงทำให้หลายประเทศเริ่มแสดงความจำนงขอเป็นเจ้าภาพ ซึ่งประเทศไหนจะเป็นตัวเต็งได้รับเกียรติ วันนี้จะมาวิเคราะห์กัน

ประเทศกัมพูชา

อังกอร์วอริเออร์ พึ่งสร้างสนามกีฬาแห่งชาติมรดก เตโช เสร็จแบบสดๆร้อนๆ นั่นจึงทำให้พวกเขาอยากลองยื่นเสนอตัวเป็นเจ้าภาพสักครั้ง แต่การที่สนามกีฬาใหม่ยังไม่ถูกทดลองใช้ อีกทั้งสนามอื่นๆก็ไม่ได้มาตรฐานสากล รวมถึงประสบการณ์การจัดีฬาในช่วงโควิด-19 ก็ไม่เคยเลย ทำให้ความหวังที่จะได้เป็นเจ้าภาพคงริบหรี่สุดๆ

ประเทศมาเลเซีย

ฮารีเมามาลายา ไม่ต้องห่วงเรื่องสนามแข่งขัน เพราะนอกจากจะได้มาตรฐานแล้ว ยังมีมากมายหลายสนาม แต่ประสบการณ์ในการจัดการแข่งขันแบบบั้บเบิ้ล คือ สิ่งที่เป็นจุดอ่อน เพราะพวกเขายังไม่มีโอกาส ฉะนั้นความหวังพอมีลึกๆ แต่ยากสักหน่อย

ประเทศสิงคโปร์

เดอะเมอร์ไลออน มีสนามแข่งขันที่มีมาตรฐานเพียงพอ ส่วนการจัดระบบบั้บเบิ้ล คงไม่ต้องห่วงว่าจะทำไม่ได้ เพราะพวกเขาเคยผ่านประสบการณ์การจัดทัวร์นาเมนต์ระดับฟุตบอลระดับโลกอย่าง ICC CUP มาแล้ว แต่กระนั้นชาติเล็กๆแบบนี้ก็ต้องไต่ตรองให้ละเอียด เพราะทีมชาติชุดใหญ่ตอนนี้ไม่ใช่ทีมแกร่งและไม่ใช่ทีมเต็งลุ้นแชมป์ ทำให้การเป็นเจ้าภาพอาจไม่คุ้มค่ากับความเหนื่อยที่ลงแรงไป

ประเทศอินโดนีเซีย

ขุนพลการูด้า ได้ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก ในชุด U-20 อีกทั้งยังได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพ นั่นจึงทำให้พวกเขาต้องการยื่นขอสิทธิ์เป็นเจ้าภาพ AFF Suzuki cup เพื่อใช้เป็นเวทีทดสอบสนามทั้ง 6 แห่ง ก่อนทัวร์นาเมนต์ใหญ่ กระนั้นจุดอ่อนของพวกเขา คือ ไม่เคยมีประสบการณ์ในจัดกีฬาแบบบั้บเบิ้ลเลยสักครั้ง แต่อย่างไรเสียพวกเขาก็เป็นเต็งลำดับต้นๆแน่ หากดูจากความพร้อมและความจำเป็นที่จะต้องเป็นเจ้าภาพ

ประเทศไทย 

ทัพช้างศึก คือ ตัวเต็งลุ้นแชมป์อย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนในเรื่องสนามก็มีพร้อม เพราะพึ่งจัด U-23 ชิงแชมป์เอเชีย รวมถึงมีประสบการณ์ในการจัดการแข่งขันแบบบั้บเบิ้ลในทัวร์นาเมนต์ ACL มาแล้ว ทำให้จ้าวอาเซียน 5 สมัย จะมีจุดเด่น คือ ขอแค่มอบโอกาสมาก็จะสนองให้อย่างรวดเร็ว ประทับใจ และไม่ต้องลุ้นหน้างาน

ติดตามข่าวสารกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“สำรองพาเจ๊า”

เทโร เปิดรังเจ๊า สมุทรปราการ ที่ส่งสำรองครึ่งทีม 1-1     

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 4 ในส่วนคู่ส่งท้ายสัปดาห์นี้ โปลิศ เทโร เอฟซี ที่ยังเป็น 1 ใน 2 ที่ยังไม่ชนะใคร ได้กลับมาเปิดรังเหย้าของตัวเองเป็นนัดแรก รับ สมุทรปราการ ซิตี้ ที่ฟอร์มกำลังดีวันดีคืน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านปรับมาเป็น 4-4-2 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนก็เปลี่ยนมาเป็น 4-3-3 แต่ที่น่าแปลกใจ คือ อิชิอิ เลือกจะดรอปตัวจริงไว้ข้างสนามหลายคน ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าต้องการหมุนเวียนนักเตะ  

        เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น สมุทรปราการ พยายามต่อบอลเพื่อทำเกมบุก แต่การจ่ายเสีย จ่ายขาด และไม่รู้ตำแหน่งกัน ทำให้การพาบอลเข้าไปในแดนอันตรายไม่ปรากฏ ขณะที่ฝั่ง เทโร พวกเขาดูเป็นรองในช่วงต้น แต่เมื่อมีโอกาสก็สามารถเจาะพื้นที่ทางฝั่งขวาได้อยู่เนื่องๆ ขาดเพียงสกอร์ที่ยังยิงเข้า กระทั่งการรุมเพรสซิ่งแล้วคู่แข่งจ่ายบอลพลาดพอดี จึงมีผลให้พวกเขาแย่งบอลกลับมาและสำเร็จโทษด้วยประตูขึ้นนำ 1-0 จากนั้นในช่วงท้ายครึ่งแรก มังกรโล่เงินเริ่มยกระดับตัวเองได้เหนือกกว่า แต่น่าเสียดายที่ยิงเพิ่มไม่ได้    

ครึ่งหลัง สมุทรปราการ มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากความผิดพลาดของ กิตติภูมิ ที่พยายามจะออกมารับบอลแล้วคว้าอากาศแทน ทำให้การเดินเกมบุกสามารถมองถึงประตูนำได้ทันทีตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง ซึ่งหลังจากนั้น เขี้ยวสมุทร ก็ทยอยส่งตัวหลักลงมาช่วยจนรูปเกมดูเหนือกว่า เพราะสามารถต่อบอลและสอดประสานกันได้ดี กระทั่งมีโอกาสที่จะได้ประตู แต่บอลเจ้ากรรมดันชนเสาหรือหลุดออก ส่วนทางฝั่งเทโร 45 นาทีหลัง ออกมาเล่นในสถานะที่เป็นรองจนได้แต่รอโต้กลับ กระนั้นการโต้กลับก็มาในลักษณะนานๆทีมีสักหน เพราะบอลมักตายตั้งแต่กลางสนามแล้ว สุดท้ายเมื่อยิงเพิ่มไม่ได้ เกมนี้จึงจบลงด้วยผลเสมอ 1-1       

        ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม โปลิศ เทโร เอฟซี ครึ่งแรกสามารถเก็บกวาดเกมรุกของคู่แข่งได้ดี ส่วนในครึ่งหลังก็ดีอยู่ แต่อาจมีหลุดรั่วบ้างเล็กๆน้อยๆ ตรงข้ามกับเกมรุกที่ยังไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เพราะการเข้าแบบ open play ไม่สามารถสร้างจังหวะที่หวาดเสียวได้ ขณะที่ สมุทรปราการ ซิตี้ การส่งสำรองหลายตำแหน่งมีผลให้รูปเกมเป็นรองคู่แข่งและสกอร์ตามหลัง กระนั้นยังดีที่ครึ่งหลังมาได้ประตูตีเสมอ แต่ก็น่าเสียดายที่วันนี้ได้แค่แต้มเดียว เพราะศักยภาพของเขี้ยวสมุทร สามารถโค่นเจ้าบ้านได้สบายๆ หากจัดชุดแบบเต็มอัตราศึก  

ติดตามข่าวสารกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“ทรงไม่สวย แต่ 3 แต้ม” โคราช ประเดิมรังเหย้า

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก คู่ส่งท้ายของสัปดาห์ที่ 4 นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี

ที่ได้กลับเปิดรังเหย้าของตัวเองเป็นนัดแรก เพื่อหวังคว้าชัยชนะนักแรกของฤดูกาล แล้วต้องพบกับทีมศีลเสมอกันอย่าง โปลิศ เทโร เอฟซี ที่ก็มีความต้องการไม่ต่างกัน เพราะยังไม่ชนะใคร สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-3-3 ส่วนทีมเยือนใช้ 5-4-1 ตามเดิม

ช่วง 5 นาทีแรกของเกม ยังตั้งหลักกันไม่ได้ แต่หลังจากนั้น นครราชสีมา เริ่มปรากฏให้เห็นถึงการต่อบอลริมเส้นและเจาะพื้นที่กลางสนาม แต่ยังไม่ถึงแดนสุดท้าย กระนั้นการยิงนอกรอบแล้วบอลเช็คเสาเข้าประตู ก็ช่วยให้เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่ต้นเกม

หลังจากเสียประตูไปก่อน เทโร พยายามจะครองบอลเพื่อบุก แต่ประสิทธิภาพที่จะเกิดผล มีเพียงการขึ้นทางริมเส้นแล้วเปิดไปหน้าประตู ซึ่งมันเป็นวิธีง่ายๆไม่ซับซ้อน อีกทั้งแนวรับของโคราช ก็มีจังหวะผิดพลาดให้แล้ว แต่แนวรุกของมังกรโล่เงิน ดันทำหมูหกไปหลายหน    

ครึ่งหลัง โคราช พยายามจะต่อบอลเพื่อทำเกมบุกตอบโต้ แต่การจ่ายบอลไม่ไหลลื่น ทำให้บอลไม่สามารถไปถึงแดนสุดท้ายได้ อีกทั้งแทบไม่มีจังหวะลุ้นประตูอีกเลย ส่วนทางฝั่งเทโร พยายามจะครองบอลและทำเกมบุกด้วยอาวุธที่มีจำกัดเหมือนเดิม ซึ่งมันก็มีโอกาสที่จะได้ประตูแต่ก็พลาดไปหมด ทำให้จบเกมด้วยชัยชนะของเจ้าบ้าน        

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี วันนี้มีข้อผิดพลาดในเกมรับให้เห็นตลอด กับการยืนตำแหน่งประกบคู่แข่ง ที่ปล่อยให้โหม่ง ให้มีพื้นที่เล่นง่าย แต่โชคดีที่วันนี้คู่แข่งลงโทษไม่ได้ มิเช่นนั้นอาจได้แต้มเดียว หรือแพ้ไปแล้ว ขณะที่เกมรุกก็มีสภาพไม่ต่างกัน เพราะไม่สามารถต่อบอลไปถึงแดนอันตรายและจบสกอร์ได้ แต่วันนี้โชคดีชั้นสอง ด้วยการยิงไกลแล้วได้ประตูชัยตั้งแต่ต้นเกม

ซึ่งถ้าหากกลับกันวันนี้ยิงไกลไม่เข้า อย่างเก่งของสวาทแคท คือ ได้แค่แต้มเดียว ส่วนทางฝั่งโปลิศ เทโร เอฟซี วันนี้โชคร้ายเสียประตูแบบสุดวิสัย ทำให้แท็กติกต้องพยายามเดินเกมรุก แต่ภาพที่ปรากฏ มังกรโล่เงิน ไม่สามารถกดหัวคู่แข่งได้อย่างอยู่หมัด เพราะไอเดียในเกมรุกมีเพียงการเปิดบอลจากริมเส้นไปหน้าประตู ซึ่งหากปล่อยให้เห็นเช่นนี้ต่อไป ลูกทีมของโค้ชอ้นจะเหนื่อย หากเจอสถานการณ์ที่คู่แข่งนำไปก่อน   

ติดตามข่าวสารข่าวกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“โดนก่อน แล้วค่อยเอาคืน” สุพรรณบุรี โดนก่อน

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีกนัดที่ 3 ในส่วนของวันอาทิตย์ เพียง 2 คู่ ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ สุพรรณบุรี เอฟซี

เปิดบ้านรับ พีที ประจวบ เอฟซี ที่ต้องตระเวนเล่นเป็นทีมเยือนมา 3 นัด ติดต่อกันแล้ว สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-4-3 ส่วนทางฝั่งผู้มาเยือนใช้ 4-4-2

เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ประจวบ จะดูดีกว่านิดหน่อย เพราะสามารถต่อบอลจากหน้าบ้านสู่แดน 1-2 ของคู่แข่งได้ แต่พอต้องเจาะแดน 3-4 ต้องสาดโด่ง เพราะคู่แข่งถอยไปตั้งรับแน่น ส่วนทางฝั่งสุพรรณบุรี สามารถต่อบอลหน้าบ้านตัวเองได้ แต่เมื่อใดที่คิดจะพาบอลไปอยู่ในแดนคู่แข่ง ก็จะถูกรุมหน้ารุมหลังจนต้องจ่ายคืน หรือสาดยาวลุ้นเอา แต่ก็ไม่แม่นเสียเลย ฉะนั้นเมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ช้างศึกยุทธหัตถี ไม่ได้เป็นรองคู่แข่งมาก แต่การเสียประตู 0-1 มาจากความประมาทและชะล่าใจว่าบอลจะออก แต่ผู้เล่นประจวบ ตามไปเปิดย้อนกลับมา แล้วคนทำประตูวิ่งเข้าเสียบตรงช่องว่างและยิงทันที

หลังจาก สุพรรณบุรี โดนยิงขึ้นนำ เกมรับก็ยังไม่ดีขึ้น เพราะหลายจังหวะเล่นไม่ละเอียดจนเกือบโดนฉก หรือการทำชิ่ง 1-2 ของทีมเยือน มีโอกาสได้จบสกอร์แบบเสียวๆหลายครั้งหลายหน

ครึ่งหลัง สุพรรณบุรี พยายามจะปรับแท็กติก เพื่อต่อบอลสู้ ซึ่งก็ทำได้ดีจนสามารถทะลุเข้าไปถึงแดน 3  แต่การเข้าทำในพื้นที่สุดท้าย ถูกทีมเยือนสงวนพื้นที่ไว้ ทำให้ต้องโยนจากริมเส้นซ้าย-ขวา แต่ก็ไม่เข้าเป้าเลย ส่วนทางฝั่งประจวบ พวกเขาไม่ได้มาตั้งเกมรับลูกเดียวเหมือนนัดที่ผ่านๆมา หากแต่มีโอกาสก็จะสวนกลับ กระทั่งได้ประตูทิ้งห่าง 0-2 จากการยิงบริเวณหัวกะโหลก

สุพรรณบุรี พยายามก้มหน้าบุกต่อ แต่เริ่มเปลี่ยนวิธีการเมื่อบอลมาถึงแดน 4 กล่าวคือ จะไม่โยนยาวไปหน้าประตู แต่จะจ่ายสั้นไปหน้ากรอบเขตโทษเพื่อแทงบอลทะลุช่อง ซึ่งมันก็ช่วยเพิ่มโอกาสได้เป็นอย่างดี กระทั่งได้ประตู 1-2 ที่ยิงดี และประตู 2-2 ที่มีโชคจากบอลแฉลบ จากนั้นกลายเป็น ช้างศึกยุทธหัตถี ที่ครองบอลบุกเพื่อหวังเอา 3 แต้ม แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่สามารถเจาะแนวรับประจวบได้ ทำให้จบเจ๊าที่ 2-2

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สุพรรณบุรี เอฟซี มีรูปเกมที่อึดอัด แล้วดันมาพลาดเสียประตูง่าย อีกทั้งยังเกือบโดนมากกว่า 2 ประตู แต่สุดท้ายยังดีที่ปรับวิธีการเข้าทำ แล้วมีส่วนผสมจากดวงมาช่วย ทำให้วันนี้รอดตายด้วยการเก็บ 1 แต้ม ส่วนทางฝั่ง พีที ประจวบ เอฟซี วันนี้เล่นได้ดี  เริ่มจากกองหลังที่ยืนตำแหน่งแม่น จนคู่แข่งโจมตีลำบาก แดนกลางสามารถลำเลียงบอลจากหลังสู่หน้าได้เป็นระยะ และสุดท้าย คือ กองหน้าที่สามารถสร้างจังหวะและฉวยโอกาส จนได้นำ 0-2  แต่น่าเสียดายที่ช่วงครึ่งหลังมาโดนลูกยิงแบบสุดปัญญา ทำให้จาก 3 เหลือเพียงแต้มเดียว

ติดตามข่าวสารข่าวกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“4 ดอกเน้นๆ” บุรีรัมย์ เปิดรังถล่ม เชียงใหม่ 4-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 3 ในส่วนของคู่วันเสาร์ ณ สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้เปิดรัง

รับน้องใหม่หน้าเด็กอย่าง เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านปรับมาเล่น 3-4-3 ขณะที่ทีมเยือนรับแน่นในระบบ 3-4-1-2

        เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น เชียงใหม่ ตั้งรับลึกตามคาด ทำให้บุรีรัมย์ ต้องต่อบอลทำชิ่งเพื่อให้บริเวณริมเส้นมีพื้นที่สำหรับการวิ่งไปเปิด กระนั้นความกดดันถูกคลายออกอย่างรวดเร็ว เพราะจังหวะจากลูกเตะมุมที่ ศุภชัย ยิงไม่ค่อยดี ดันไปเข้าทางเพื่อนที่อยู่เสาไกลยิงจ่อๆเข้าไปพอดี โดยส่วนหนึ่งต้องโทษแนวรับทีมเยือนด้วย ที่เปิดพื้นที่ตรงเสาไกลไว้เยอะมาก 

        หลังจากเจ้าบ้านขึ้นนำ เชียงใหม่ สามารถทำเกมบุกและขึงได้เป็นบางช่วง อีกทั้งยังมีโอกาสได้จบสกอร์ที่หวาดเสียว แต่ความละเอียดในจังหวะสุดท้ายยังไม่มากพอ ทั้งที่แนวรับบุรีรัมย์ ก็แสดงอาการเข้าพรวดและยืนตำแหน่งป้องกันไม่ดีแล้ว อย่างไรเสียด้วยทักษะการจ่ายบอลที่ไม่ได้ดีมากของช้างศึกล้านนา มีผลให้นักเตะปราสาทสายฟ้าเอาบอลไปโต้กลับ แต่การจบสกอร์ในพื้นที่ที่เหมาะสม คือ สิ่งที่ขาดหายไป 

ครึ่งหลัง เชียงใหม่ ลงมาเล่นด้วยการเปิดเกมบุก แล้วสามารถสร้างโอกาสเพื่อจบสกอร์ได้ แต่ความละเอียดและความแม่นยำไม่มี แต่พอเป็นทางฝั่งบุรีรัมย์ สวนกลับ พวกเขาแม่นและคมกว่า ทำให้สกอร์นำ 2-0 ในช่วงต้นครึ่งหลัง มีผลให้เกมรุกของ เชียงใหม่ ลดดีกรีความอันตรายลงไป

        ประตูทิ้งห่าง 3-0 มาจากการยิงฟรีคลิกที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังเป็นการปิดเกมกลายๆ เพราะหลังจากนั้น เชียงใหม่ ก็ไม่มีความกระหายที่จะทวงประตูอีกแล้ว ส่วนลูก 4-0 เหมือนเป็นของแถมให้

        ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังมีข้อผิดพลาดในเกมรับเหมือนเคย แต่วันนี้ไม่เสียประตู เพราะคู่แข่งไม่คมพอที่จะลงโทษ ส่วนโชคชั้นที่ 2 ของวันนี้ คือ การได้ประตูเร็วจากจังหวะที่เป็นใจ ทำให้วันนี้ไม่ต้องเสียเวลานานในการเจาะแนวรับ ส่วนสิ่งดีๆที่พอมองเห็น คงจะเป็นการจบสกอร์ที่เข้าขั้นเฉียบคม ขณะที่ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด วันนี้เปิดแผลด้วยยืนป้องกันที่ผิดพลาด ทำให้การถอยรับลึกเป็นอันยกเลิกทันที โดยสถานการณ์บังคับว่าต้องทำเกมรุก ก็ทำหน้าที่ได้ดีแต่มันไม่ดีพอ แล้วการดันสูงจนแนวรับเหลือน้อย อีกทั้งตัวเองก็ไม่ได้มีเกมรับที่ดี ทำให้ยิ่งโหมยิ่งโดนและต้องแพ้ไปตามสภาพ    

ติดตามข่าวสารกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“10 ตัว ยันจนได้แต้ม” เชียงราย โหมบุก ราชบุรี

ในช่วงเย็นของวันเสาร์ ฟุตบอลรีโว่ไทยลีก ลงฟาดแข้งกันอีกเช่นเคย

ซึ่งในส่วนนี้ขอพาไปดูเกมระหว่าง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ได้เปิดรังเหย้าเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน พบกับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่ต้องออกมาออนทัวร์ทั่วไทยเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม มาในระบบชนระบบ คือ 3-5-2

ในช่วงต้นเกมกลายเป็น ราชบุรี ที่ดูด้อยกว่า เพราะไม่ทันจะโดนทดสอบอะไร ก็มีความผิดพลาดเกิดขึ้นมากมาย ไล่ตั้งแต่ การออกบอลไม่ตรงเพื่อน จ่ายออกข้าง หรือในบางทีสื่อสารไม่ดี จนเกือบโดนคู่ฉกบอล โดยทั้งหมดที่กล่าวมานี้ถือว่าโชคดีสำหรับ ราชันมังกร ที่ไม่โดนคู่แข่งลงโทษด้วยการเสียประตู กลับกันหากเป็นเกมสวนกลับ พวกเขาก็มีทีเด็ดจากความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะรายบุคคล ทำให้การโต้ตอบแบบนานๆครั้ง ช่วยเพิ่มความน่าหวาดเสียว ส่วนทางฝั่งเชียงราย มีการต่อบอลจากหลังสู่หน้าที่ดี ทำให้มีจังหวะที่จะได้โจมตีเร็ว ซึ่งความไหลลื่นที่ปรากฏนี้ ได้ทำให้แนวรับราชบุรี เลือกตัดฟาวล์ บิลล์ กระทั่งโดนใบแดงโดยตรง ในข้อหาเจตนาฟาวล์ในฐานะตัวสุดท้าย

การเหลือ 10 ตัวของ ราชบุรี ทำให้พวกเขาต้องถอยมาเล่นเกมรับเต็มสูบ ก่อนที่ให้หลังราว 10 นาที จะเปลี่ยนกลางรุกออกและใส่หลังอาชีพแทนตัวที่โดนไล่ออกไป ซึ่งการยืนได้แนบแน่นและไม่สมาธิหลุดเหมือนช่วงแรก ก็มีผลให้เชียงราย ต้องอาศัยการโยน โฉบ จ่ายยัด หรือยิงไกล เพราะพื้นที่กรอบโทษจัดว่าแน่นมาก

ครึ่งหลัง เชียงราย พยายามโหมบุกในลักษณะเดียวกับที่ปรากฏในครึ่งแรก แต่ก็ไม่สามารถเจาะพื้นที่กรอบเขตโทษได้อย่างถนัด ทำให้ต้องอาศัยการยิงไกล การโยน กระนั้นมันก็พอมีมีจังหวะยิงแบบใส่สกอร์ แต่แนวรุกกว่างโซ้งมหาภัยดันยิงไม่ห่างตัว กัมพล ที่ได้เซฟแบบสบายๆ

แม้ว่า ราชบุรี จะตัวน้อยกว่าและต้องตั้งรับ แต่พวกเขาก็รับได้อย่างมีวินัย ต่างจากช่วงที่มี 11 ซึ่งพลาดบรรลัย นอกจากนี้หากตัดบอลได้ ราชันมังกร ก็ยังอาศัยช่วงเวลานี้โต้กลับได้ แต่หากช่องไม่ดี โอกาสไม่เหมาะ ก็จะเลือกครองบอลเพื่อเผาเวลา จนมีส่วนสำคัญให้คว้า 1 แต้ม ออกมา

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ออกสตาร์ทเกมนี้ได้ดีกว่า อีกทั้งคู่แข่งยังมาเหลือ 10 คน กับเกมที่เหลือเวลาอีกราว 1 ชม. กระนั้นด้วยเกมบุกที่มีตัวพักบอล-โฉบ-โหม่ง คนเดียว (บิลล์) แล้วไม่มีตัวอื่นเข้าช่วยสอดประสาน มันก็ยิ่งทำให้เกมรุกดูตื้อตันและถูกคู่แข่งจับทางได้ง่าย อีกทั้งวันนี้ไม่มีทีเด็ดจากลูกตั้ง ทำให้ท้ายที่สุดต้องก้มหน้ารับ 1 แต้มไป  ส่วนทางฝั่ง ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เกมรับมีปัญหาจนล่อแหลมต่อการเสียประตู แต่หลังจากเหลือ 10 คน เกมรับกลับแน่นขึ้น ในชนิดที่ว่าไม่อนุญาตให้เข้าเขตโทษ กระทั่งกลายเป็นปัจจัยสำคัญให้คว้า 1 แต้ม นอกจากนี้ก็ต้องชื่นชมเกมรุกด้วย ที่แม้จะยิงประตูไม่ได้ แต่การครองบอลเหนียวและไม่เสียง่าย ก็มีส่วนช่วยชะลอเกมรุกของคู่แข่งไม่ให้ต่อเนื่อง อีกทั้งยังช่วยให้เพื่อนได้พักหายใจหายคอสำหรับการเล่นเกมรับ

ติดตามข่าวสารกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“โดนก่อน แล้วรัวคืนยับ”

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 3 ในค่ำคืนวันเสาร์ ชลบุรี เอฟซี กลับมาเปิดรังเหย้าของตัวเอง

ด้วยการรับน้องใหม่อย่าง หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่หวังจะมาเก็บแต้มออกไป สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-4-2 ส่วนทางด้านทีมเยือนใช้ 4-2-3-1

ในช่วงต้นเกม ยังไม่ทันได้ออกรสออกชาติเท่าไร หนองบัว ก็ชิงจังหวะได้ประตูนำ 0-1 จากการยิงเต็มข้อที่รุนแรงและทิศทางพอได้ แต่ผู้รักษาประตูมือรองอย่าง ทัตพิชา อักษรศรี ดันปัดไม่ออกเสียอย่างนั้น อย่างไรก็ดี ชลบุรี ไม่มีอาการแกว่งและยังคงเล่นตามแท็กติกที่วางมา นั่นคือ การขึ้นเกมจากแดนหลัง จะเน้นการแทงและพาไปข้างหน้า ไม่มีการจ่ายขวางหรือเปลี่ยนแกน ซึ่งการเล่นลักษณะนี้ช่วยให้ฉลามชลได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการโหม่งของ มูริลโล่ กระนั้นแนวรับของหนองบัว ก็ยืนตำแหน่งกันไม่ดี เพราะยืนอยู่ตรงนั้นหลายคน แต่ปล่อยให้ตัวรุกที่มีแค่คนเดียวได้เกร็งคอรอโหม่งแบบไร้การรบกวน

หลังจากได้ประตูตีเสมอ ชลบุรี สามารถครองเกมไว้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ เพระสามารถตัดการขึ้นเกมรุกของคู่แข่งได้ตั้งแต่กลางสนาม ทำให้ที่เหลือ คือ ขึ้นบอลจากหลังสู่หน้าและทำสกอร์ จนมีโอกาสเหน่งๆหลายหน แต่ทำไม่ได้เอง อีกทั้งหลายหนที่ขึ้นมานี้ ก็เริ่มเห็นได้ว่าแนวรับหนองบัว มีปัญหา เพราะไม่สามารถจัดระเบียบเกมรับให้ทันต่อการรุกเข้ามาอย่างรวดเร็ว อย่างไรเสียในช่วงทดเวลา ชลบุรี มาได้จุดโทษจาก VAR และเป็นประตูขึ้นนำ 2-1  

การเสียประตูของหนองบัว มีผลให้แท็กติกในครึ่งหลังเปลี่ยนไป เพราะโค้ชวังสั่งให้ลูกทีมเปิดเกมบุก แล้วก็ทำได้ดีจริงๆ เพราะสามารถขึงบุกใส่เจ้าบ้านได้อย่างอยู่หมัด ผ่านการขึ้นทางริมเส้นและโจมตี ซึ่งการเปิดบอลไปมาก็เกือบที่จะได้ประตูตีเสมอ แต่จังหวะไม่ลงล็อค หรือเมื่อมีโอกาสเหน่งๆ ก็ดันทำหมูหกไป กระทั่งเกมครึ่งหลังผ่านไปครึ่งทาง ดีกรีความโหดเหี้ยมก็ลดลง เพราะแนวรับฉลามชล เริ่มจะจับทางได้มากขึ้น พร้อมกับมีเกมโต้กลับแบบเสียวๆเล่นงาน แต่กว่าจะลงโทษได้สำเร็จก็ต้องรอถึงช่วงท้ายเกม จาก เสฏวุฒิ วงค์สาย ที่ยิงได้อย่างยอดเยี่ยม

        ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ชลบุรี เอฟซี เล่นได้ดีตามมาตรฐาน แม้จะเสียประตูขึ้นนำไปก่อน แต่กระนั้นก็มีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ต้องไปปรับ ได้แก่ เกมรับที่ไม่ควรเปิดพื้นที่ให้คู่แข่งเข้าฮอตบอลในเขตโทษ เกมรุกที่ไม่ควรใช้จังหวะสิ้นเปลือง ส่วนทางฝั่ง หนองบัว พิชญ เอฟซี แนวรับทำหน้าที่ได้ดี แต่พอเจอการเล่นบอลเร็ว ดันออกอาการรวน อีกทั้งยังมาผิดพลาดเสียฟาวล์และเสียจุดโทษ จึงยิ่งไปกันใหญ่ ขณะที่เกมรุกมีไอเดียไม่มาก ทำให้ไม่สามารถกดหัวคู่แข่งได้ตลอดรอดฝั่ง      

ติดตามข่าวสารกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

“นำก่อน แต่เซฟเยอะ” การท่าเรือ ยิง 2 เม็ด

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 3 ในส่วนของคู่วันเสาร์ การท่าเรือ เอฟซี ที่ต้องการปลดล็อคชัยชนะ

เปิดบ้านรับทีมน้องใหม่อย่าง ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่มาเยือนวันนี้ด้วยความหวังที่จะเอาแต้มกลับไป สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-3-3 ส่วนทางด้านทีมเยือนรับเต็มสูบในระบบ 3-4-1-2

        เกมเริ่มขึ้นมาเป็น การท่าเรือ ที่พยายามเปิดบุกใส่ตามคาด โดยเมื่อเวลาผ่านไปก็เริ่มเห็นถึงรูรั่วที่ ขอนแก่น มี ได้แก่ การยืนตำแหน่งที่ไม่ช่วยให้หน้าบ้านของตัวเองดูแน่น การยืนตำแหน่งที่ไม่มีลักษณะของการช่วยซ้อน ทำให้หลายครั้งถูกแนวรุกของเจ้าบ้านโยกหนี แล้วต้องทำฟาวล์ ซึ่งการฟาวล์เสียฟรีคลิกก็ได้เป็นที่มาของประตูนำ 1-0 ที่ยิงดีและบอลแฉลบจนเช็คเสาเข้าไป จากนั้น จงอางผยอง พยายามจะทำเกมบุกสู้ แต่มันดูเหมือนว่านักเตะยังไม่เข้าที่ ทำให้เกิดภาพของการเสียบอลกลางทาง แล้วถูกแดนกลางของสิงห์เจ้าท่า แทงบอลทันที แล้วกลายเป็นประตูนำ 2-0 ทั้งที่เกมยังไม่ผ่าน 20 นาที

        ขอนแก่น ยังคงแสดงความผิดพลาดให้เห็นอย่างต่อเนื่อง กับการเสียบอลกลางทางและโดนโต้กลับด้วยบอลแทงทะลุช่อง กระนั้นเมื่อเกมผ่านไปเรื่อยๆ การท่าเรือ ได้ผ่อนเกมลง ขณะที่ ขอนแก่น เริ่มจะเครื่องติด จนสามารถผ่านบอลมาถึงหน้า 2 ตัว แล้วได้เห็นได้สอดประสานจนแนวรับของเจ้าบ้านปั่นป่วนไปเหมือนกัน    

ครึ่งหลัง การท่าเรือ ถอยไปรับและรอโต้กลับ ส่วนทางฝั่งขอนแก่น พยายามทำเกมบุกด้วยการพาบอลมาอยู่ในพื้นที่แดน 3 แล้วเมื่อไรที่มีช่องก็จะแทงเข้ากรอบเขตโทษ เพื่อให้ เมโล่ วิ่งโฉบมาเอาบอล ซึ่งการทำแบบนี้มีสาเหตุ คือ เป็นการเข้าทำที่ง่ายและรวดเร็ว ไม่ต้องเชตบอลนาน อีกทั้งแนวรับเจ้าบ้านค่อนข้างช้าด้วย โดยการเล่นลักษณะนี้ช่วยสร้างจังหวะให้กับ จงอางผยอง ได้เป็นอย่างดี แต่มุมที่ยิงไม่เหน่งพอ หรือการได้หลุดเดี่ยวก็ถูกปิดมุมและเซฟได้แบบสุดยอด ทำให้ 45 นาทีในครึ่งหลัง เจ้าบ้านสามารถยันสกอร์และคว้า 3 แต้ม ได้ 

        ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม การท่าเรือ เอฟซี ชนะก็จริง แต่ยังไม่น่าพึงพอใจ แม้จะยิงได้ตั้งแต่ต้นเกมจากความสุดยอดของ ปกรณ์ และฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของคู่แข่ง เพราะหลังจากนั้นโดนคู่แข่งทดสอบเกมรับ แล้วออกอาการหลุดรั่วตลอด ยังดีที่วันนี้ผู้รักษาประตูองค์ลง มิเช่นนั้นวันนี้อาจได้แค่เจ๊า ส่วนทางฝั่ง ขอนแก่น ยูไนเต็ด ออกสตาร์ทไม่ดี แถมโดนยิงไปอีก 2 ซึ่งกว่าจะเครื่องจะติดและพร้อมจะสู้ เกมก็จะจบครึ่งแรกอยู่แล้ว กระนั้นในครึ่งหลังสามารถเร่งเครื่องได้ดี ขาดเพียงการจบสกอร์ที่ไม่สามารถเอาบอลไปกองก้นตาข่ายได้เท่านั้น   

ติดตามข่าวสารกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover

Categories
ข่าวกีฬา

สรุปแผนการฤดูกาลไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22

การระบาดของโควิด-19 ดูไม่มีท่าทีจะลดลง สมาคมฟุตบอลต้องเรียกสโมสรสมาชิกมาประชุม

ซึ่งก็ได้ข้อสรุปเป็นที่เรียบ ฉะนั้นในวันนี้เราจะสรุปเป็นข้อๆเพื่อให้แฟนบอลไทยเข้าใจอย่างกระจ่างชัด

แผนแรก แข่งขันแบบปกติ แต่ไม่มีผู้เข้าชม

        จากเดิมที่วางแผนไว้ว่าจะเริ่มฤดูกาลเดือนสิงหาคม แต่ตอนนี้สถานการณ์ไม่ดีขึ้น ทำให้สโมสรสมาชิกตกลงร่วมกันว่าจะเลื่อนออกไปทุกๆ 2 สัปดาห์ จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น พร้อมกับลงเตะแบบสนามปิดไม่มีผู้ชม แต่การเลื่อนโปรแกรมออกไปนี้จะทำถึงแค่เดือนตุลาคมเท่านั้น เพราะถ้าถึงตอนนั้นแล้วยังสถานการณ์ยังเลวร้าย ก็จำเป็นต้องปรับการแข่งขันเป็นรูปแบบบั้บเบิ้ล  

แผนที่สอง แข่งขันแบบบั้บเบิ้ล

        การแข่งขันแบบบั้บเบิ้ลถูกเสนอโดยสโมสรสมาชิกจาก ชลบุรี เอฟซี ซึ่งจะมี 2 รูปแบบ เริ่มจากการบั้บเบิ้ลแบบแบ่งกลุ่ม 4 สาย สายละ 4 ทีม ซึ่งในแต่ละสายจะมีสนามกลาง 1 แห่ง อีกทั้งการแข่งขันนี้จะไม่มีใครเป็นเจ้าบ้านเพื่อความยุติธรรม อาทิ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะไม่มีสิทธิ์เล่นสนามช้างอารีน่า หากแต่ต้องไปเล่นสนามกลางแห่งอื่น ส่วนรูปแบบการแข่งขัน จะแข่งแบบ 3 วัน 1 แมตช์ เมื่อวนเจอกันครบก็จะเวียนไปเตะกับทีมสายอื่นจนครบ ซึ่งการแข่งขัน 15 นัด คาดการณ์ว่าจะใช้เวลา 2 เดือน เท่านั้น

        ส่วนการบั้บเบิ้ลอีกรูปแบบ จะใช้ต่อเมื่อสถานการณ์หนักหนาสาหัสจริงๆ โดยมีรูปแบบ คือ การบั้บเบิ้ลแบบเอา 16 ทีม มาไว้ในที่เดียว ซึ่งก็ได้วางแผนเอาไว้ว่าจะเป็นที่จังหวัดภูเก็ต เพราะมีสนามฟุตบอลที่ได้มาตรฐานถึง 6 สนาม ฉะนั้นมันสามารถรันการแข่งขันให้จบเลกแรกได้แบบสบายๆและไม่ต้องเร่งมากจนเกินไป  

แผนที่สาม หลังจบเลกแรกมาประเมินกันอีกครั้ง

        หลังการแข่งขันเลกแรกจบ ถ้าสถานการณ์ดีขึ้น ก็จะกลับมาแข่งขันแบบเหย้า-เยือนเหมือนเดิม โดยดูจากโปรแกรมที่วางไว้ตั้งแต่ทีแรกเป็นหลัก แต่ถ้าหากสถานการณ์ยังเลวร้าย ก็จะจัดแบบบั้บเบิ้ลตามที่กล่าวไปก่อนหน้า

เรื่องของงบจัดการแข่งขันแบบบั้บเบิ้ล

        เรื่องนี้อาจเป็นที่กังวลใจของสโมสรสมาชิกว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะสมาคมฟุตบอลก็มีภาระค่อนข้างมาก ทำให้สโมสรสมาชิกจาก ชลบุรี เอฟซี ได้เสนอแนวทางว่าให้สมาคมฟุตบอลตัดเงินสนับสนุนสโมสรสมาชิกของทุกทีม ทีมละ 3 ล้านบาท ซึ่งนั่นจะทำให้สมาคมฟุตบอลมีเงิน 48 ล้านบาท ไว้สำหรับใช้จัดการแข่งขันแบบบั้บเบิ้ล โดยเงินในจำนวนนี้หากเหลือเอาเท่าไร ก็เอา 16 หาร แล้วคืนสโมสรสมาชิกไป

ติดตามข่าวสารกีฬาในทุกสัปดาห์ได้ที่ livethaileague.com

FB : Sport lover